Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 532
บทที่ 532 คุณเป็นห่วงมาก
เวินจิ้งขมวดคิ้ว ผลการเรียนของเจียงฉีค่อนข้างดีในวิชาเอกมาโดยตลอด และนี่แค่อยู่ในภาคการศึกษาที่ 2 เท่านั้น เขาจะถูกสั่งออกจากมหาวิทยาลัยโดยไม่มีเหตุผลได้ยังไง
“คุณก็คิดว่ามันน่าแปลกใจมากใช่มั้ย ” เจียงฉีถามอย่างเจ็บปวด
เวินจิ้งพยักหน้าช้าๆ
“เมื่อฉันเพิ่งรู้ข่าวว่าถูกสั่งออกจากมหาวิทยาลัย หลังจากสอบถามถึงรู้ว่าเพราะพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและทำให้นักศึกษาหญิงท้อง ฉันยอมรับว่า เรื่องที่หลิงเหยาตั้งครรภ์เป็นความผิดของฉันด้วย ฉันยอมรับมัน แต่ต่อจากนั้นฉันก็ถูกแก้แค้นมาตลอด ดูเหมือนว่าฉันคิดได้แค่ตระกูลหลิงเท่านั้น ตอนที่ฉันอยู่กับเหยาเหยา ตระกูลหลิงก็ไม่เห็นด้วยตลอดเลย”
เวินจิ้งเงียบ เธอไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับตระกูลหลิง
หลิงเหยาเคยบอกเธอว่าตระกูลหลิงไม่เห็นด้วย เพราะฐานะของเจียงฉีไม่คู่ควรกับหลิงเหยา
แต่ถ้าเป็นตระกูลหลิงแก้แค้นจริงๆ…ความสำคัญของการศึกษาระดับปริญญาสำหรับคนธรรมดา ไม่ต้องพูดก็รู้เลยว่ามันสำคัญแค่ไหน
การสอบเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยหลินไห่มันยากลำบากแค่ไหน เธอก็เคยผ่านมา ดังนั้นเธอจึงรู้สึกเสียใจและเห็นใจมากในขณะนี้
“เป็นตระกูลหลิงจริงๆเหรอ”
เจียงฉีหลับตาและไม่พูดอะไร
เมื่อมาถึงโรงพยาบาล เจียงฉีถูกส่งเข้าไปที่ห้องรักษา เวินจิ้งดูเวลาและโทรหามู่วี่สิง
แต่ไม่มีคนรับสายเลย โดยปกติสถานการณ์แบบนี้ เขาต้องทำการผ่าตัดอยู่
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป เจียงฉีถูกย้ายออกจากหอผู้ป่วย หมอสั่งให้อยู่โรงพยาบาลดูอาการประมาณสามวันก่อน
“ต้องแจ้งญาติของคุณมั้ย” เวินจิ้งเดินเข้ามา
“คนในครอบครัวของฉันไม่ได้อยู่ในหนานเฉิง อย่าบอกพวกเขาเลย ฉันไม่อยากให้พวกเขาต้องเป็นห่วง” เจียงฉีส่ายหัว
“คุณกลับไปเถอะ ตอนนี้ก็สายแล้ว”
เวินจิ้งพยักหน้าช้าๆ แต่พอหันกลับมา ก็มีผู้ชายตัวใหญ่หลายคนรวมตัวกันอยู่นอกห้องผู้ป่วย ท่าทางจะตีใคร
เวินจิ้งตกใจ ในขณะที่พวกเขากั้นอยู่ประตูห้องผู้ป่วย เธอออกไปไม่ได้
“พวกคุณเป็นใคร” เวินจิ้งถามอย่างเสียงดังด้วยความกล้าหาญ
“พวกเราเป็นคนของนายมู่ เจียงฉีกล้าแตะต้องผู้หญิงของเจ้านายของเรา ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่หรือเปล่า” น้ำเสียงของคนนำหน้าดูหยิ่งมาก
เวินจิ้งอึ้งไป นายมู่ …
มู่วี่สิงเหรอ
ไม่ใช่ ไม่ใช่มู่วี่สิงแน่นอน
หรือว่าเป็นมู่เหิง แต่ตอนนี้มู่เหิงอยู่ในคุก และไม่มีทางว่าจะเป็นคุณปู่มู่เด็ดขาด
“นี่คือโรงพยาบาล ถ้าคุณกล้าบุกเข้าไป ฉันจะเรียกรปภ” เวินจิ้งกั้นอยู่หน้าประตู ร่างเล็กๆของเธอดูมีพลังมาก
“โรงพยาบาลเป็นของเจ้านายพวกเราเหมือนกัน รปภ. ก็ต้องฟังเราด้วย” ผู้ชายไม่เห็นหัวใครเลย
เวินจิ้งหน้าซีดทันที เธอจำได้.. มู่วี่สิงมีหุ้นส่วนอยู่ในโรงพยาบาลจงซินจริงๆ
“กลัวแล้วใช่ไหม ไม่อยากเจ็บตัวก็หลบไป คนสารเลวอย่างเจียงฉี เราต้องจัดการแน่”
“ถ้าคุณกล้าเข้ามา ฉันจะตะโกนว่าข่มขืน” เวินจิ้งจับคอเสื้อของเธอแน่นๆ ราวกับว่าจะฉีกออกจากกันในวินาทีถัดไป
ผู้ชายอึ้งไปสักพัก ดวงตาของเขาเปลี่ยนไปทันที
“อารมณ์รุนแรงพอสมควร คราวนี้ฉันจะปล่อยเจียงฉี”
เมื่อเห็นพวกเขา เวินจิ้งถึงโล่งอกเบาๆ แล้วจับประตูไว้ เธอกลัวจนก็เหงื่อเต็มตั้งนานแล้ว
หลังจากผู้ชายพาลูกน้องออกจากโรงพยาบาล ก็รีบกดโทรศัพท์และพูดว่า”พูดตามคำสั่งแล้วครับ”
เมื่อเห็นไม่มีใครอยู่ในทางเดิน เวินจิ้งค่อยรู้สึกโล่งใจ
แต่ว่าคนเหล่านี้อาจมาหาเรื่องเจียงฉีอีก
และนายมู่ที่บอก …ตกลงคือมู่วี่สิงหรือเปล่า
“เวินจิ้ง คนพวกนั้นบอกว่า เป็นคนของมู่วี่สิงใช่หรือเปล่า”เจียงฉีถามอย่างลังเล
เวินจิ้งขมวดคิ้ว ไม่ได้พยักหน้า
เธอเชื่อในใจว่า มู่วี่สิงจะต้องไม่ทำเรื่องแบบนี้แน่นอน
“ไม่ใช่มู่วี่สิง “เวินจิ้งมั่นใจ
“คุณแน่ใจเหรอ ฉันจำได้ว่าในวันที่หลิงเหยาตัดสินใจจะไปทำแท้ง เธอพูดถึงมู่วี่สิงด้วย”
ตอนแรกเจียงฉีไม่ได้คิดอะไรมาก มู่วี่สิงกับหลิงเหยาไม่เคยมีความเกี่ยวข้องกันเลย
แต่คำพูดของผู้ชายคนเมื่อกี้ ทำให้เจียงฉีสงสัยขึ้นมา
“เจียงฉี แจ้งความกันเถอะ”เวินจิ้งพูดเบาๆ
“สถานีตำรวจไม่รับคดนี้”เจียงฉีหลับตา
เขาแจ้งความตั้งนานแล้ว แต่นายที่อยู่เบื้องหลังคนเหล่านี้ฐานะสูงมาก โกรธเคืองได้ไม่ได้
เพราะฉะนั้นตอนนี้เขาไม่มีทางที่จะไปได้แล้ว
คนที่อยู่เบื้องหลัง คงอยากจะทำเขาถึงตาย
“ฉันอยากเจอเหยาเหยา”เจียงฉีพูดเบาๆ
ในช่วงเวลาที่สิ้นหวัง แม้จะได้เจอเธอแค่สิบห้านาที เขาก็สามารถอยู่ต่อได้
“เธออยู่มหาวิทยาลัยหลินไห่”
“จริงเหรอ”ดวงตาของเจียงฉีสว่างขึ้น
“ตอนนี้คุณยังออกจากโรงพยาบาลไม่ได้ เดี๋ยวรอหายก่อนค่อยไปโรงเรียนนะ”
“จริงด้วย… คุณกลับบ้านเถอะ วันนี้ต้องขอบคุณจริงๆ รบกวนคุณตั้งนานแล้ว”เจียงฉีพูดอย่างสุภาพ
“ไม่เป็นไร” เวินจิ้งยิ้ม
เพิ่งออกจากห้องผู้ป่วย มีเงาหลายตัวตกลงที่มุมทางเดิน คนพวกนั้นคงยังไม่ได้ออกไป
หันไปมองเจียงฉี คืนนี้เขาคงยังมีอันตรายอยู่
เธอโทรหามู่วี่สิงอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีคนรับสาย ตอนแรกเธออยากให้มู่วี่สิงส่งคนมาเฝ้า แต่ตอนนี้เธออยู่ต่อก่อนแล้วกัน
เมื่อเห็นเวินจิ้งกลับมา เจียงฉีก็เงยหน้าขึ้น”เวินจิ้ง … ”
“เดี๋ยวฉันค่อยกลับไป”
“คนพวกนั้นยังอยู่ที่นี่เหรอ”เจียงฉีเข้าใจอย่างรวดเร็ว”เวินจิ้ง ฉันขอโทษ รบกวนคุณมากจริงๆ”
“ในเมื่อมู่วี่สิงยังทำการผ่าตัดอยู่ ฉันรอโทรศัพท์ของเขาแล้วกัน”
แต่เพราะว่ามันดึกมากแล้ว เวินจิ้งนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ข้างๆ ก็ไม่รู้ว่าเธอหลับไปตอนไหน เมื่อเธอตื่นมาก็เกือบรุ่งสางแล้ว
เวินจิ้งขยี้ตา เจียงฉีที่อยู่บนเตียงที่ไม่ไกลตื่นแล้ว เวินจิ้งดูเวลาและออกจากห้องผู้ป่วย
คนพวกนั้นดูเหมือนไม่อยู่แล้ว
แต่เธอเพิ่งเดินไปที่หน้าลิฟต์ ก็อึ้งไปสักพักเมื่อเห็นร่างที่คุ้นเคยอยู่ข้างใน
มู่วี่สิง…
ในตอนนี้ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาตึงอยู่ ออร่าของเขาน่ากลัวเบาๆ
“มู่วี่สิง”เธออยากจับแขนเขา แต่มู่วี่สิงไม่ให้ความร่วมมือ
“ทำไมอยู่โรงพยาบาล”
“ฉันเจอเจียงฉี เขาเกิดเรื่อง”
“คุณสนิทกับเขามากเหรอ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงเย็นชามาก
เมื่อออกมาจากห้องผ่าตัด เขาเห็นสายโทรมาจากเวินจิ้งก็เลยโทรกลับ แต่โทรไม่ติด
เช็ดเจอตำแหน่งของเธอก็รีบมาทันที
แต่เธออยู่ห้องผู้ป่วยของผู้ชายคนอื่น
“ไม่สนิท”เวินจิ้งพูดตามตรง ไม่เข้าใจความโกรธที่ไม่มีเหตุผลของมู่วี่สิงมาจากไหน
“ถ้าไม่สนิทคุณอยู่กับเขาทำไม”กอดเอวเล็กของเธอ แรงของมู่วี่สิงหนักเหมือนอยากจะขย้ำเธอเข้าไปในกระดูกเลย
เวินจิ้งขมวดคิ้ว
“เราเป็นเพื่อนร่วมห้อง เขาเกิดเรื่อง ฉันก็เลยส่งเขามาโรงพยาบาลแค่นั้นเอง”
“ตอนนี้เกือบจะรุ่งสางแล้วนี่”ใบหน้าของมู่วี่สิงตึงเครียด
“ฉันเผลอหลับไป”
ในวินาทีต่อไป ความโกรธของมู่วี่สิงยิ่งมากขึ้นไปอีก
“จิ้งจิ้ง คุณรู้ไหมว่าฉันจะเป็นห่วงมาก”
“มู่วี่สิง ฉันไม่เป็นไร แต่ว่าเจียงฉี…”เวินจิ้งหยุดพูด ดูการแสดงออกของมู่วี่สิง แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ
แต่สมองเต็มไปด้วยคำพูดของผู้ชายคนนั้นในเมื่อกี้ …นายมู่ คือมู่วี่สิงไหม
“เจียงฉีเป็นอะไร”มู่วี่สิงถามอย่างเย็นชา
“เขาเกือบถูกตีจนตาย”เวินจิ้งพูดเบาๆ
“คุณเป็นห่วงมากหรอ”วินาทีต่อมา คางถูกบีบอย่างแรง เธอเลยต้องมองสายตาที่โกรธของมู่วี่สิง