Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 653
บทที่ 653 ไม่รู้อะไรเลย
หยูจิ่งห้วนยืนยันเวลากลับมาประเทศของเวินจิ้ง เขากับเธอพูดคุยกันเป็นเวลานาน เธอพูด“เรื่องนี้ทำให้ลำบากใจรึเปล่า?”
เขาหัวเราะอย่างไม่แยแสก่อนพูด “ก็แค่ช่วยเพื่อน เรื่องเล็กน่า”
เขาหยุดไปพักนึง ก่อนพูด “เขากำลังมองหาข้อเสนอที่เหมาะสม ถ้ามันโอเคเขาก็เลือก”
เวินจิ้งยิ้มเบาๆ ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “คืนนี้งานเลี้ยงของสมาคมแพทย์ประเทศ F จะไปหรือเปล่า? ”
“เธออยากจะไปไหมหละ?” หยูจิ่งห้วนย้อนถาม
“ยังคิดอยู่เลย”
“ไปสิ จะได้ไปด้วยกัน”
หลังจากวางสาย เวินจิ้งมองเอกสารตรงหน้าเธออย่างเหนื่อยล้า ไม่นานก็ได้ยินเสียงเลขาของเธอเคาะห้องก่อนผลักประตูจะเข้ามา “ประธานเวินคะ คุณหลิงมาพบค่ะ”
“คุณหลิง?” เวินจิ้งขมวดคิ้วมุ่น ในเวลานั้นเธอนึกถึงหลิงเหยาขึ้นมา
แต่ หลิงเหยามาหาเธอทำไมกันล่ะ?
“เวินจิ้ง เราต้องคุยกัน” หลิงเหยาจิกรองเท้าส้นสูงเดินย่ำเข้ามา
ภายในออฟฟิศ หญิงสาวสวยสองคนกำลังนั่งประจันหน้ากัน
“ไม่คิดเลยว่าเธอจะละมือจากโรงพยาบาลเพื่อจะมารับช่วงต่อที่บริษัทหลินซื่อ” คำพูดของหลิงเหยาเจือเสียงถากถาง
สีหน้าของเวินจิ้งยังคงเงียบสงบอ่อนโยนเช่นเดิม “มีอะไรก็พูดมา”
หลิงเหยามุ่นคิ้ว หรี่ตาลงเล็กน้อย “ฉันรู้ความสัมพันธ์ของเธอกับวี่สิงตอนนี้”
“แล้วยังไง?” ใจของเวินจิ้งยังคงสงบนิ่ง
ช่วงนี้เธอไม่รู้ว่าทำไมมู่วี่สิงเหมือนสาบสูญหายไปจากวงจรชีวิตและไม่มาหาเธออีก หรือว่าจะเปลี่ยนใจกลับไปใส่ใจกับหลิงเหยาแล้ว
หรือบางที เขาอาจจะเบื่อเธอแล้ว
ไม่ว่ามันจะเป็นแบบนั้นหรือไม่ก็ตาม มันก็ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย
“ฉันไม่ต้องการให้เธอทำร้ายเขา ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่แต่งงานกัน แต่คนเขาก็รู้กันหมดแล้ว ว่ายังไงฉันก็คือภรรยาของเขาในอนาคต”
“สามปีแล้ว แต่เธอก็ยังไม่ได้แต่ง” เวินจิ้งพูดสวนกลับไปอย่างไม่คิด
“เวินจิ้ง ถึงยังไงฉันก็ต้องได้แต่งงานกับเขา”
“โอ้ ฉันไม่คิดจะสนเรื่องของพวกเธอหรอกนะ”
“’งั้น เธอมาที่นี่เพื่อที่จะบอกฉันว่ายังไงเธอก็จะแต่งงานกับมู่วี่สิง แล้วก็หวังให้ฉันไม่เข้าไปแทรกกลางระหว่างเธอกับเขาใช่ไหมล่ะ?”
หลิงเหยามองไปยังเวินจิ้ง ท่าทีไม่แยแสของเธอทำให้หลิงเหยาหงุดหงิดใจ
เธอแค่คิดที่จะยั่วโมโห แต่อารมณ์ของเธอมันทำให้หล่อนแปลกใจเป็นอย่างมาก
“เธอควรพูดกับมู่วี่สิง เขาต่างหากที่มาตอแยกับฉัน พูดให้ถูก ฉันคือผู้ถูกกระทำนะ”เวินจิ้งยิ้มอย่างเยือกเย็น
หลิงเหยาคุมผู้ชายตัวเองไม่อยู่ จนต้องตามมาจิกเธอเลยหรือนี่
เธอพยายามทุกวิถีทางที่จะหนีไปให้พ้นเขา แต่ก็ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาอยู่ดี
“เวินจิ้ง มู่วี่สิงเขาเกลียดเธอ เขาอยู่ข้างๆเธอก็เพื่อที่จะทรมานเธอเท่านั้น ไม่ใช่รึไง?” หลิงเหยาจิบน้ำ น้ำเสียงเธออ่อนลง
“เธอรู้ไหมว่าทำไมเขาถึงเกลียดฉัน?” เวินจิ้งถาม
เธออยากรู้นัก ว่าจริงๆแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เหตุผลที่มู่วี่สิงเลิกกับเธอเมื่อสามปีก่อน จนกระทั่งไปแต่งงานกับโจวหย่าน
ถึงจะไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น แต่ตอนนั้นเธอเองก็กลับไปยังเมืองหนานไม่ได้
ราวกับโชคชะตาได้หมุนให้เธอกับเขาแยกกันมาตั้งแต่แรก
“เพราะตอนเธอไป มู่ซือซือเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิต” หลิงเหยาพูดช้าๆชัดๆ เธอมองเห็นสีหน้าที่เริ่มเปลี่ยนไปของเวินจิ้ง
เวินจิ้งเบิกตากว้างขึ้น เรื่องการตายของมู่ซือซือ เรื่องนี้มู่วี่สิงเคยบอกเธอ
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ?
“เธออย่าคิดที่จะปัดความรับผิดชอบ เธอไม่รู้เหรอว่าการตายของซือซือมันโหดร้ายแค่ไหน เธอนั่นแหละที่เป็นคนทำให้เธอตาย”
เวินจิ้งตัวสั่นเทา ดวงตาเบิกโพลง
หลังจากหลิงเหยาออกไป ภายในออฟฟิศที่ว่างเปล่านั้นมีเพียงแค่เธอ
เธอใช้นิ้วนวดระหว่างคิ้ว ในหัวเต็มไปด้วยเรื่องที่พึ่งฟังจบ คิดไม่ตกกับสิ่งที่ได้ยิน
แต่ปีนั้น ทำไมเกิดอุบัติเหตุกับมู่ซือซือกันนะ เธอไม่รู้เรื่องอะไรจริงๆ
… …
ตอนเย็น
เวินจิ้งสวมชุดราตรีสีชมพูอ่อน บนคอระหงประดับด้วยสร้อยไข่มุกแวววาว
ช่างทำผมกำลังเป่าผมให้เธอ พลางพูดเสียงต่ำ “คุณเวิน ผมคุณหนามากจนน่าอิจฉาเลยค่ะ ”
เวินจิ้งแค่ยิ้มตอบ สายตาทอดไปยังรองเท้าส้นสูงข้างๆ “เปลี่ยนเป็นรองเท้าส้นแบนให้หน่อยนะคะ”
“คู่นี้ …… ” ช่างแต่งตัวมีท่าทีลังเล เพราะรองเท้าคู่นี้สั่งทำมาเพื่อให้เข้ากับชุดราตรีของเวินจิ้ง
แต่เมื่อเห็นท่าทีที่เริ่มไม่พอใจของเธอ ในท้ายที่สุดจึงจัดการเปลี่ยนคู่ใหม่ให้แต่เป็นสีเดิม เวินจิ้งยืนขึ้นอย่างพึงพอใจ
หยูจิ่งห้วนกำลังรอเธออยู่ข้างนอก
วันนี้หยูจิ่งห้วนสวมสูทสีดำดูหล่อเหลา เขาเปิดประตูให้เวินจิ้งด้วยท่าทีสง่างาม พลางผิวปากใส่เวินจิ้ง
เธอหันไปมอง เขาหันมาพูดกับเธออย่างยิ้มๆ “สวยที่สุด!”
เวินจิ้งยิ้มจาง ดึงคอเสื้อเขาอย่างไม่รู้ตัว
“ไม่ใช่ทางนี้” หยูจิ่งห้วนมองไปยังดวงตาเธอ ก่อนจะแสร้งว่าช่วย “ต้องดึงลงไปอีกหน่อย”
เวินจิ้งมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์นัก วันนี้รถไม่ติด จึงใช้เวลาไม่นานในการมาถึงโรงแรมที่จัดงาน
งานนี้จัดขึ้นเฉพาะเพื่อการแลกเปลี่ยนทางการแพทย์ เวินจิ้งลาออกจากโรงพยาบาลเหรินหมินแล้ว และอานเวยได้รับคำเชิญเหล่านี้ จึงได้ส่งมาให้เธอ
“เธอรู้ไหมว่างานนี้ใครรับผิดชอบ?” หยูจิ่งห้วนพูดขึ้นมา
“ใคร?” เวินจิ้งส่ายหัว เธอแค่รู้ว่ามีโรงพยาบาลดังมากมายเข้าร่วมในงานนี้ แต่จริงๆแล้วใครคือคนจัด เธอไม่อาจทราบ
“บริษัทมู่ซื่อกรุ้ป”
“โอ้” ใบหน้าเธอเรียบนิ่ง ซึ่งผิดกับการคาดการณ์ของหยูจิ่งห้วน“งั้นเขาก็มา?”
หยูจิ่งห้วนมองตรงไปยังดวงตาเธอ “เขามาแน่ แต่เดาแล้วคงอยู่ไม่นาน”
ในห้องโถงจัดงานใหญ่ แขกทั้งหลายกำลังพูดคุยกันอย่างออกรส ส่วนเวินจิ้งกำลังคุยกับเพื่อนร่วมงาน ส่วนหยูจิ่งห้วนกำลังโดนหมู่มวลชนล้อมหน้าหลัง ตอนนี้เขาค่อนข้างมีชื่อเสียงในวงการแพทย์ บัดนี้เขาโดนคนรอบข้างกลืนกินไปเสียแล้ว
เวินจิ้งละสายตา ก่อนจะล้วงไปหยิบโทรศัพท์ในจากกระเป๋าขึ้นมา
เธอพิมพ์ข้อความไปสองสามประโยค ก่อนจะกดส่งออกไป เธอจัดแจงรูปลักษณ์ท่าทางของตัวเองผ่านกระจกที่ติดอยู่ข้างๆ
ในกระจกมีหญิงสาวหน้าตาหมดจด ปากอิ่มแดงสวย ฟันขาวราวกับไข่มุก และผิวที่เนียนละเอียดสะท้อนอยู่บนนั้น เวินจิ้งถลกชายกระโปรงเพื่อที่จะทำให้เดินสะดวก ก่อนที่จะออกจากห้องโถงไปอย่างเร็ว
อีกด้านหนึ่งของโรงแรมนี้เป็น Spa ตอนนี้อีกฝั่งกำลังจัดงานเลี้ยง ตรงนี้เลยดูท่าจะเงียบเป็นพิเศษ
ม่านน้ำตกไหลลงจากกระจกแก้วลงมา และเมื่อแสงตกกระทบลงบนน้ำจึงทำให้ดูแวววาวสวยกระจ่างใส
“คุณออกมาเถอะ” เธอพูดเบาๆ ในห้องที่เงียบกริบ เธอมองตรงไปยังนอกหน้าต่าง
ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างหลัง ก่อนที่ประตูจะถูกเปิดออก
เธอหันกลับมาดู ชายหนุ่มยืนห่างจากเธอไม่ใกล้ไม่ไกล แต่ก็ยังไม่เข้ามาชิดจนเกินไป
“หาฉันอยู่เหรอ? หือ?” น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนไป ริมฝีปากเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มจางๆ เพียงวินาทีเดียว เวินจิ้งกลับหมุนตัวอย่างรวดเร็ว เธอเขย่งปลายเท้าจุมพิตที่ริมฝีปากของเขา มู่วี่สิงกลับไร้ซึ่งคำพูดทันใด