Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 664
บทที่ 664 คนต่อไปที่จะเกิดเรื่อง
ครึ่งเดือนต่อมา ชีวิตของเวินจิ้งนั้นคือโรงพยาบาลและคฤหาสน์โจวสองที่
งานยุ่งทุกวันทำให้เธอไม่มีเวลานึกถึงอย่างอื่น ถึงแม้สุดสัปดาห์จะมีเวลาว่าง ก็ไปช่วยแม่จัดการธุระของบริษัทหลินซื่อ
แค่ ชีวิตสงบอยู่ได้ไม่นาน รับโทรศัพท์ของแม่นั้น เวินจิ้งพึ่งผ่าตัดเสร็จ
โจวเซิ่งเกิดอุบัติเหตุตกบันไดได้รับบาดเจ็บหนัก ทันใดนั้นหลินเวยก็จองตั๋วเครื่องบินไปอังกฤษ
เวินจิ้งขมวดคิ้ว ตอนนี้โจวเซินฮึกเหิมทะเยอทะยาน เธอไม่วางใจให้แม่ไปคนเดียวอย่างแน่นอน
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้ว?” หยูจิ่งห้วนพึ่งตรวจโรคเสร็จ เห็นสีหน้าซีดของเวินจิ้ง ถามด้วยความกังวลใจ
“ฉันจะต้องลากงานแล้ว”เวินจิ้งพูดเสียงต่ำ
“อืม คนป่วยในมือเธอฉันช่วยรับช่วงต่อเธอเอง วางใจเถอะ” หยูจิ่งห้วนพูดอย่างอ่อนโยน
เวินจิ้งมองชายตรงหน้า เขาดูแลเธออยู่เสมอ
แต่เธอไม่มีวิธีตอบกลับน้ำใจเขา
“คุณหมอหยู ขอบคุณนะคะ”
“ระหว่างพวกเราไม่ต้องเกรงใจอะไร ตอนนี้คุณจะกลับบ้านเลยไหม? ผมไปส่งคุณ”
พูดจบ หยูจิ่งห้วนมอบหมายงานวันนี้แล้ว
เวินจิ้งพยักหน้าช้าๆ กลับบ้านไปเก็บของ รีบไปสนามบินพร้อมกับหลินเวย
หยูจิ่งห้วนยังคงขับรถ เวินจิ้งถามแม่ด้วยความตื่นเต้น“ทำไมถึงได้เกิดเรื่องกับพ่อแล้ว?”
“น่าจะขัดแย้งกับโจวเซิน ตอนนี้ยังอยู่ในห้องผ่าตัด แม่ก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร”หลินเวยสีหน้าหนักใจ
เธอไม่ควรอยู่เมืองหนาน เธอควรไปประเทศอังกฤษตั้งนานแล้ว
ตอนนี้เธอหงุดหงิดกังวลใจ สั่นไปหมดทั้งตัว
“แม่ แม่ไม่ต้องหนักใจ ไม่เป็นไร”เวินจิ้งไม่รู้สถานการณ์ แต่ก็ทำได้แค่ปลอบใจแม่แบบนี้
“เสี่ยวจิ้ง ลูกทิ้งไว้เถอะ แม่ไปครั้งนี้ คงไม่ได้กลับมาเร็ว…..”
“แม่ ฉันไปดูเป็นเพื่อนแม่ โรงพยาบาลนั้นยังมีหมอหยู ฉันไม่รีบร้อน”
“ใช่แล้ว คุณน้าหยู คุณไปกับเวินจิ้งอย่างสบายใจเอะ” หยูจิ่งห้วนพูดอย่างอ่อนโยน
หลินเวยมองหยูจิ่งห้วน แล้วมองเวินจิ้ง สีหน้ากลับไม่ค่อยหน้าดู
ถึงสนามบินแล้ว หยูจิ่งห้วนช่วยทั้งสองคนถือกระเป๋าเดินทาง ส่งทั้งสองถึงทางตรวจเช็ค
“เวินจิ้ง เรื่องทางนี้จัดการเสร็จคุณยังไม่กลับมา ผมจะไปหาคุณดีไหม?”ทันใดนั้นหยูจิ่งห้วนเรียกให้เวินจิ้งหยุด สายตาเขาทิ้งไม่ลง
เวินจิ้งตกตะลึง สบสายตากับหยูจิ่งห้วน ในเวลานี้ไม่ได้พูดอะไร
“จิ่งห้วน ฉัน…..”
“คุณไม่ต้องดีกับฉันขนาดนั้นก็ได้”สักพัก เวินจิ้งถึงถอนหายใจแล้วพูด
หยูจิ่งห้วนสีหน้ายังคงแน่วแน่ “ผมดีกับคุณ ก็เพราะผมคิดอย่างนี้ คุณไม่ต้องกดดันนะ เวินจิ้ง”
“แต่ว่า ตอนนี้ฉันยังไม่คิดอยากมีความรัก”
วินาทีต่อมา นิ้วมือของหยูจิ่งห้วนยกขึ้น แตะที่ริมฝีปากเวินจิ้ง หยุดคำพูดของเขาทั้งหมด
“ผมรู้หมด แต่ว่า ผมรอ”
ขึ้นเครื่องบิน คำพูดนั้นของหยูจิ่งห้วนวนเวียนข้างหูเวินจิ้ง เธอหลับตาด้วยความเหนื่อยล้า เสียงแม่ดังขึ้นข้างหู
“เสี่ยวจิ้ง ลองยอมรับจิ่งห้วนเด็กคนนั้นดู แม่และคุณนายหยูหวังอยากให้พวกลูกอยู่ด้วยกัน”หลินเวยจับมือลูกสาว
เวินจิ้งลืมตา พูดอย่างเฉียบขาด“แม่ พวกเราเป็นไปไม่ได้”
“ทำไม?หรือว่าลูกยังคิดถึงมู่วี่สิง?”หลินเวยพูดด้วยสีหน้าเย็นชา
“หนูยังไม่อยากแต่งงาน”เวินจิ้งพูดเสียงต่ำ
“เสี่ยวจิ้ง ลูกจะเป็นแบบนี้ไม่ได้ นอกจากมู่วี่สิงแล้ว ใครลูกก็ไม่อยากแต่งงานด้วยใช่ไหม?”หลินเวยถามด้วยความโกรธ
เวินจิ้งเม้มปาก เวลานั้นไม่พูดอะไร
ได้ยินชื่อมู่วี่สิง เธอไม่สามารถทำให้จิตใจสงบลงได้
“รอหลังจากแม่กับโจวเซิ่งกลับประเทศก่อน แม่พูดกับคุณนายหยูเรื่องเตรียมงานแต่งพวกลูก”หลินเวยพูดอย่างไม่ยอม
“แม่ หนูไม่แต่งงาน”เวินจิ้งตีหน้าขรึม ต่อต้านอย่างมาก
“เสี่ยวจิ้ง แม่หวังดีกับลูก”
“เรื่องนี้ไม่รีบ”เวินจิ้งหันหน้า
เธอหลับตาลึก จริงๆแล้วเธอไม่มีแรงพอที่จะไปจัดการกับความรู้สึกนี้อีก การแต่งงาน
มู่วี่สิงกลายเป็นสิ่งที่เธอก้าวผ่านไปไม่ได้
แต่เธอไม่ได้จะก้าวผ่าน
ถึงประเทศอังกฤษนั้นเป็นเวลาสองทุ่มพอดี เวินจิ้งนอนหลับบนเครื่องบินนาน ลงจากเครื่องบินนั้นก็เลยไม่รู้สึกเหนื่อยมาก
ทั้งสองคนตรงไปที่โรงพยาบาล โจวเซิ่งถูกย้ายออกมาจากห้องผ่าตัดแล้ว ตอนนี้อยู่ที่นี่ผู้ป่วยเฝ้าดูอาการ
เวินจิ้งไปเป็นเพื่อนแม่ หนึ่งเดือนที่ไม่ได้เจอ โจวเซิ่งแก่ขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่กระฉับกระเฉงเหมือนแต่ก่อนแล้ว
ตอนนี้ตระกูลโจวเหมือนอยู่ในการดูแลของโจวเซิน อำนาจของโจวเซิ่งค่อยๆเสื่อมลงแล้ว
เธออยู่ห้องผู้ป่วยสักพักก็ออกมา ให้พื้นที่หลินเวยกับโจวเซิ่ง
นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ระเบียง จิตใจเธอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จนกระทั่งเสียงฝีเท้าแต่ไกลเข้ามา เธอเงยหน้าขึ้นอย่างลุกลี้ลุกลน
หน้าตาผู้ชายยังคงหล่อเหลา เพียงแค่ทั้งตัวมีกลิ่นความมืดมน
“เวินจิ้ง ในที่สุดเธอก็มาแล้ว”น้ำเสียงของเขา ดูเหมือนว่าเวินจิ้งจะเป็นเหยื่อที่เขารอคอยมานาน
เวินจิ้งเม้มฝีปาก หันหน้าอย่างรวดเร็ว
เพียงแต่โจวเซินกลับนั่งอยู่ข้างเธอ เวินจิ้งถามด้วยเสียงเยือกเย็น“คุณตั้งใจผลักพ่อลงมาใช่ไหม?”
“ฉันจะทำแบบนั้นไปทำไม?”
“มีเรื่องอะไรบ้างที่นายทำไมได้”เวินจิ้งพึมพำ
“จุ๊ๆ เรื่องที่ทำให้เธอเจ็บปวดฉันทำไมลง”น้ำเสียงของโจวเซินจริงจัง
เวินจิ้งเสียงต่ำเยือกเย็น ไม่เชื่อโจวเซิน
“เขาเป็นพ่อเธอนะ โจวเซิน”
“เวินจิ้ง ฉันออกแล้วไง ฉันไม่ได้ผลักเขา ”
เวินจิ้งเม้มปาก ไม่ได้พูดอะไรอีก
แต่โจวเซินกลับดึงเธอลุกขึ้น“แม่เธออีกนานก็ไม่ไป ฉันไปกินข้าวเป็นเพื่อนเธอ”
“ไม่ต้อง”เวินจิ้งใช้แรงสะบัดออกจากโจวเซิน
แต่แรงเขาเธอก็ไม่สามารถต่อสู้ได้ จนกระทั่งถูกพาเข้าไปในลิฟต์
“โจวเซิน!”
“เวินจิ้ง ทำไมเธอไม่รู้จักฟังคำพูดบ้าง”น้ำเสียงของโจวเซินค่อนข้างหลงรักเอ็นดู
แต่เวินจิ้งรู้สึกรังเกียจมาก
“ทำไมฉันต้องฟังคำพูดนายด้วย”
“หรือว่า เธอหวังคนต่อไปที่จะเกิดเรื่อง คือแม่เธอ”
น้ำเสียงโจวเซินเงียบสงบ เพียงแต่เวินจิ้งตกใจจนหน้าซีด
เธอเงยหน้ามอง สายตาปิดบังความหวาดกลัวไม่อยู่
เธอรู้โจวเซินนั้นทำได้ เขาทำได้
“โจวเซิน คุณ….คุณมันบ้าไปแล้ว”เวินจิ้งใช้แรงผลักเขาออก
ผู้ชายเม้มปากยิ้มเล็กน้อย “ดังนั้น เธอต้องเชื่อฟังสักหน่อย ไม่อย่างนั้นฉันจะเป็นบ้ายิ่งกว่านี้”
ประตูลิฟต์เปิดออกนั้น เวินจิ้งวิ่งออกสุดฝีเท้า เพียงแต่โจวเซินสองสามก้าวก็ตามถึงแล้ว เธอจ้องเขาอย่างเยือกเย็น
นึกถึงคำพูดเขาเมื่อกี้ เธอยังรู้สึกกลัว
เธอไม่มีทางทำให้แม่เกิดเรื่อง ไม่มีทาง…..
“เธอคิดยังไง?”สงบลง เวินจิ้งเงยหน้ามองเขา
ฝ่ามือผู้ชายยกขึ้นมาอย่างช้าๆ จับเขาที่ผิวที่เย็นของเวินจิ้ง เขาลูบเบาๆที่แก้มขาวของเธอ สายตาหลงใหลแพร่เข้ามา
“เวินจิ้ง แต่งงานกับฉันนะ”
คำพูดโรแมนติก ออกจากปากผู้ชายคนนี้ เวินจิ้งโกรธอดไม่ได้ยกมือขึ้นตบเข้าที่หน้าหล่อของเขา
เพียงแต่ โจวเซินจับข้อมือเธอไว้อย่างรวดเร็ว จับเธอเข้ามาในอ้อมกอด
“เธอกล้าตีฉันเหรอ?”เขาพูดด้วยเสียงเยือกเย็น