Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 670
บทที่ 670 พวกเราไม่แต่งงานกันก็ได้
เห็นโจวเซินไม่พูด ทันใดนั้นเวินจิ้งรู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดี
เธอเงยหน้าขึ้น สายตาของโจวเซินเหมือนจะกลืนกินเธอเข้ามาในท้อง
สีหน้าเธอซีดขาว ใช้แรงทั้งหมดถึงผลักเขาออก
“เวินจิ้ง อย่าให้ฉันรอนาน”เขาไม่ได้เข้าใกล้อีก เพียงแต่น้ำเสียงหนาวเย็นทำให้น่ากลัว
เวินจิ้งสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เบ้าตาเปลี่ยนเป็นชุ่มฉ่ำ กัดริมฝีปากถึงควบคุมอารมณ์ตัวเองได้
หลังจากหนึ่งอาทิตย์เป็นวันที่โจวเซิ่งออกจากโรงพยาบาล เวินจิ้งและโจวเซินไปด้วยกัน
เห็นโจวเซิน สายตาโจวเซิ่งนั้นตกใจมาก
โจวเซินนั้นชินแล้ว เอ่ยปากถาม“พ่อ พ่อกับแม่จะอยู่ลอนดอน หรือว่ายังไงครับ?”
“อยู่ลอนดอนก่อน!” โจวเซิ่งพูดหน้านิ่ง
“เสี่ยวจิ้ง ลูกตามแม่มาก่อนเถอะ”หลินเวยจับมือลูกสาว
ช่วงเวลานี้เวินจิ้งอยู่ทางนั้นกับโจวเซิน เธอไม่ค่อยวางใจ
เวินจิ้งกลับส่ายหัว“แม่ หนูไม่ไป”
หลินเวยขมวดคิ้ว หน้าไม่เห็นด้วย
“ผมดูแลเวินจิ้งเป็นอย่างดี”โจวเซินขวางทางเท้าหลินเวยด้วยท่าทางดื้อรั้น
“เสี่ยวจิ้ง……”
เวินจิ้งยังคงส่ายหัวอย่าดื้อรั้น
มองโจวเซินและเวินจิ้งขึ้นรถ รอยยิ้มของเวินจิ้งค่อยๆหายไป
ด้านหลัง โจวเซินเดินมาใกล้“ไม่ดื้อแบบนี้สิ ว่าที่ภรรยาของฉัน”
สีหน้าเวินจิ้งยังคงเย็นชา ก้าวขึ้นรถไปก่อน ไม่ได้พูดกับโจวเซิน
หลังจากส่งเวินจิ้งกลับบ้าน โจวเซินยังต้องกลับไปบริษัท เวินจิ้งอยู่ห้องสมุด หลังจากมองรถโจวเซินจากไปจากหน้าต่างด้านนอก เธอถึงยืนขึ้นทันที
คอมพิวเตอร์ของโจวเซินนั้นมีรหัส เธอเสียงUSBอย่างรวดเร็ว คัดลอกเอกสารออกมา
ผ่านไปไม่ถึงห้านาที แต่เธอเหงื่อออกเกือบทั้งตัว
สักพัก เธอกลับมาที่ห้องนอนตัวเอง เอาเอกสารส่งให้อั้ยเถียน จนกระทั่งดึก เวินจิ้งยังคงดูเอกสารในคอมพิวเตอร์ จนกระทั่งโจวเซินกลับมา
“คนใช้บอกว่า ตอนเย็นเธอไม่ได้กินข้าว”น้ำเสียงของผู้ชายเยือกเย็นเล็กน้อย
หลังจากที่ตัวเองเข้ามาที่นี่ การกินของเธอไม่ตรงเวลามาก
“ฉันลืมแล้ว”เวินจิ้งเรียกสติกลับมา
ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าค่ำแล้ว
“พอดีเลยฉันยังไม่ได้กิน”
ทั้งสองนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารยาวสามเมตร อาหารดีๆมากมาย เวินจิ้งก้มหัวกินข้าวเปล่า
“ฉันได้ยินผู้ช่วยพูด งานแต่งงานเธอไม่ได้เชิญแขกมาเหรอ?”โจวเซินเอ่ยปากถาม
“อืม ไม่มี”
“เพื่อนที่อยู่เมืองหนาน เธอสามารถเชิญได้หมดเลยนะ”โจวเซินสีหน้าเย็นชา
เวินจิ้งขมวดคิ้ว คำพูดของโจวเซินดังขึ้น“อย่างน้อย เธอต้องมีเพื่อนเจ้าสาวหนึ่งคน”
“โอเค”เธอลดตาลง พยักหน้าช้าๆ
กลับมาที่ห้อง เวินจิ้งพูดถึงเรื่องนี้กับอั้ยเถียน อั้ยเถียนยินดีเข้ามา
“ฉันหวังว่าฉันคงไม่มีโอกาสได้ไปร่วมงานแต่งงานนี้ เอกสารที่เธอส่งมาฉันดูเกือบหมดแล้ว หาเจอรูรั่วอยู่บ้าง เธอดูในอีเมล”
“โอเค ฉันดูเดี๋ยวนี้”
เวินจิ้งพูด เปิดอีเมล
เพียงแต่หน้าแรกเป็นข่าวอัตโนมัติ เห็นชื่อที่คุ้นเคยนั้น เธอกดเข้าไปอย่าไม่รู้ตัว
มู่วี่สิงและหลิงเหยากำลังจะจัดพิธีแต่งงาน
แถมวันที่นั่น คาดไม่ถึงจะเป็นวันเดียวกับงานแต่งงานของเธอ
สายตาเวินจิ้งแข็งทื่อ นานแล้วไม่เห็นรูปมู่วี่สิง
จนกระทั่งอั้ยเถียนตะโกนเรียกเธอ เวินจิ้งถึงได้สติกลับมา ปิดหน้าเว็บไซต์อย่างรวดเร็ว
เพียงแค่ ยากที่จะรวบรวมสติ
เช้ามืดเวินจิ้งถึงได้ปิดคอม เธอนอนอยู่บนเตียง พลิกไปพลิกมาไม่สามารถนอนหลับได้
ตัดสินใจปล่อยวางผู้ชายคนนี้ แต่เหมือนจะฝ่าฝืนอยู่บ่อยๆ
วันถัดมา เวินจิ้งรับโทรศัพท์ของหลินเวย เกี่ยวกับการขายบริษัทหลินซื่อ เวินจิ้งต้องกลับไปเซ็นสัญญาที่เมืองหนาน
เธอไม่อยากอยู่ลอนดอนพอดี เก็บข้าวของอย่างง่ายๆลงไปชั้นล่าง
โจวเซินเห็นเธอถือกระเป๋าถือ หน้าตาหล่อเคร่งขรึม
“ฉันต้องกลับไปเมืองหนานหน่อย”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงเย็นชา
เรื่องบริษัทหลินซื่อโจวเซินรู้ ร่างสูงยาวของเขาขวางหน้าเวินจิ้ง
“บริษัทหลินซื่อ ส่งมาให้ฉัน”เป็นคำสั่งของโจวเซิน
เวินจิ้งยิ้มอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าได้เหรอ?”
“จะบอกคุณให้ ตอนนี้เธอมันทึ่ม คิดว่าสามารถกลับไปอยู่ข้างกายมู่วี่สิง”โจวเซินพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
เวินจิ้งเงยหน้าขึ้นมองเขา“ถ้าฉันทึ่มอย่างนั้นล่ะ?”
คำพูดนี้พูดโพล่งออกมา ทั้งหมดแค่เพื่อยั่วยุโจวเซิน
เธอก็แค่ไม่อยากให้เขาผ่านไปได้ด้วยดี
วินาทีต่อมาเป็นไปตามที่คิด สีหน้าผู้ชายเปลี่ยนทันที ทันใดนั้นมือใหญ่จับที่คอของเวินจิ้งอย่างรุนแรง
เธอไม่ได้ขัดขืน ถึงแม้จะเจ็บ สีหน้าซีดขาวมาก กลับไม่ผลักโจวเซินออก เขาเพิ่มแรงหนักขึ้น……หนักขึ้นอีก……
จนกระทั่งคนใช้ข้างๆอดไม่ได้ที่จะเตือน“คุณผู้ชาย……”
โจวเซินถึงได้เรียกสติกลับมาได้ ค่อยๆปล่อย
เวินจิ้งยังคงจ้องมองเขาอย่างเยือกเย็น แม้กระทั่งมุมปากยังคงยิ้มแย้ม
เขาเม้มริมฝีปาก ในที่สุดก็ปล่อยมือ
เวินจิ้งหน้าซีดขาวอย่างน่าตกใจ ในที่สุดหายใจเข้าออกลึกๆ เธอจับที่โซฟาข้างๆ ทั้งตัวนั้นยืนไม่ไหว ล้มลงนั่ง
“บริษัทหลินซื่อรวมตัวภายใต้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ไม่เกี่ยวกับมู่วี่สิงแม้แต่นิดเดียว โจวเซิน ความอดทนของคุณนั้นต่ำเกินไปแล้ว”
“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น”
โจวเซินพูดด้วยเสียงเยือกเย็น แล้วเดินไปที่ชั้นสอง
เวินจิ้งดูเวลา เกือบจะสายแล้ว ทันใดนั้นก็รีบไปที่สนามบิน
เครื่องบินลงจอดเมืองหนานนั้นเย็นพอดี เวินจิ้งคิดไม่ถึงจะเจอหลิงเหยาที่นี่
เธอพึ่งจะลงจากเครื่อง ชุดเดรสสีขาวบริสุทธิ์เผยให้เห็นรูปร่างที่มีเสน่ห์ของเธอ ผมยาวสลวย
เห็นเวินจิ้งนั้น เธอเดินไปทางเธอ เวินจิ้งจำเป็นต้องหยุดเท้า
“เวินจิ้ง ฉันนึกว่าเธอจะไม่กลับมาเมืองหนานอีกแล้ว”
“ฉันก็คิดว่า ฉันไม่กลับมาแล้ว”เวินจิ้งยิ้มอย่างเยือกเย็น
“พรุ่งนี้มีเวลาไหม? พวกเรามาคุยกันหน่อย”
“พวกเราสองคนเหมือนไม่มีอะไรให้น่าพูดคุยกัน”
“เกี่ยวกับมู่วี่สิง เกี่ยวกับเรื่องเมื่อสามปีก่อน เธอแน่ใจ ไม่มีอะไรน่าพูดคุยจริงๆเหรอ?”
เวินจิ้งสีหน้าเปลี่ยน เตือนตัวเองว่าไม่ต้องไปสนใจอีก แต่ความเป็นจริง ยังอยากรู้เรื่องราวทั้งหมด
รวมถึง ลูกคนนั้นของมู่วี่สิงและหลิงเหยา
“โอเค”เวินจิ้งตอบกลับ ทั้งหมดเป็นไปดั่งใจ
ข้างนอก หลิงเหยาคิดไม่ถึงว่ามู่วี่สิงจะมารับเธอด้วยตัวเอง
แถมเธอเดาได้อย่างรวดเร็ว
“รู้ว่าเธอมาแล้ว? ดังนั้นถึงได้มาเหรอ?”
มู่วี่สิงเคร่งขรึม ไม่ได้ปฏิเสธ
ถึงแม้หลิงเหยาจะตกใจ แต่เหมือนจะชินแล้ว
“วี่สิง พวกเราไม่แต่งงานกันก็ได้”ทันใดนั้นหลิงเหยาเอ่ยปากขึ้น
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว เก็บสายตาจากนอกหน้าต่าง พูดกับหลิงเหยา“นี่คือสิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่เหรอ?”
“สิ่งที่ฉันต้องการคือคุณรักฉัน แต่คุณนั้นให้ฉันได้ไหม?”