Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 676
บทที่ 676 ตัวตนไม่ธรรมดา
ลมหายใจของมู่วี่สิงเป่ารดไปทุกที่ มือของเขาค่อยๆลดลง และเวินจิ้งก็รู้ในทันทีว่าเขากำลังจะทำอะไร แต่ก็ไม่ได้ขัดขืน เมื่อร่างกายของเธอค่อยๆผ่อนคลายลง เธอก็พูดอย่างเย็นชาว่า “หมอบอกฉันว่า ถ้าฉันงดมีเพศสัมพันธ์เวลานี้ดีที่สุด”
จากตอนแรกที่อารมณ์ของเขากำลังได้ที่ เมื่อได้ยินอย่างนี้เขาก็หลุดออกจากอารมณ์หวามไหวในทันที
เขาไม่ได้พูดอะไรสักคำ เขายังไล้วนเวียนอยู่กับคนในอ้อมแขนของเขา ริมฝีปากบางของเขาค่อยๆเลื่อนไปทั่วใบหน้าของเธอ และในที่สุดก็มาถึงคิ้วของเธอ
ลมหายใจอุ่นๆของเขาเป่ารดหน้าเธอจนต้องกลั้นหายใจ และในที่สุดเขาก็ปล่อยเธอไป ลุกขึ้น และไปที่ห้องน้ำ
เธอลูบผิวหนังทุกส่วนที่เขาจูบโดยไม่รู้ตัว ดูเหมือนว่าเขาจะมีร่องรอยของความคิดถึง
เมื่อเธอตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น ข้างๆเธอก็ไม่มีร่างของเขาแล้ว เวินจิ้งลุกขึ้นนั่งทันที ปกติแล้วเธอเป็นคนนอนหลับยาก แต่เมื่อมีมู่วี่สิง ก็เหมือนการอาการนี้จะเบาลง
หลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอก็ลงไปชั้นล่าง ซึ่งตอนนี้พ่อครัวได้เตรียมอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว และเธอก็รู้สึกมีความสุขมากขึ้นเมื่อมู่วี่สิงไม่อยู่
ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น และมันเป็นสายจากหลินเวย
ใบหน้าของเวินจิ้งค่อยๆซีดลง หลังจากที่เธอฟังเสียงของแม่ของเธอในโทรศัพท์ เธอรีบวางแซนด์วิชที่เพิ่งอบเสร็จ แล้วหยิบกระเป๋าออกไปทันที
มู่วี่สิงไม่ได้จำกัดเสรีภาพในการเข้าออกของเธอ เมื่อยามที่เฝ้าบ้านเก่าเห็นเวินจิ้งออกไป เขาจึงไม่กล้ารั้ง และรีบแจ้งมู่วี่สิงทันที
ครึ่งชั่วโมงต่อมาที่สนามบิน เวินจิ้งซื้อเที่ยวบินที่เร็วที่สุดไปลอนดอน ซึ่งเครื่องจะออกในอีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้านี้
มู่วี่สิงอยู่ในห้องผ่าตัด กว่าจะรู้ว่าเวินจิ้งออกไปจากเมืองหนานเฉิง เวลาก็ผ่านไปสามชั่วโมงแล้ว
วันรุ่งขึ้น วันที่อากาศดีๆ ณ.ลอนดอน
โจวเซินจัดให้คนขับรถมารับเวินจิ้ง โทรศัพท์มือถือของเธอแบตหมดไปนานแล้ว และเธอไม่ได้นอนบนเครื่องบิน เธอจึงรู้สึกเหนื่อย แต่ก็ยังมองออกไปนอกหน้าต่าง โดยไม่กะพริบตา
เวินจิ้งไม่ขยับ จนกระทั่งรถขับเข้าไปในบริเวณบ้านในที่สุด
เมื่อเธอลงจากรถ ก็รู้สึกประหม่าเล็กน้อย และเธอจนถึงตอนนี้ก็ยังตั้งสติไม่ได้
คำพูดของหลินเวยดังก้องอยู่ในหูของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า “จิ้งจิ้งมีสิ่งหนึ่งที่แม่ไม่เคยบอกลูก ลูกยังมีพี่ชาย ลูกอยากเจอเขามั้ย”
เธอคิดว่าครอบครัวของเธอมีแต่หลินเวย คิดไม่ถึงว่าจะมีพี่ชายอีกคน พี่ชายแท้ๆแม่เดียวกัน
แน่นอน เธอ … ต้องการพบ
แต่สำหรับพี่ชายคนนี้นับว่าเป็นคนแปลกหน้ากันมาก เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาหน้าตาเป็นอย่างไร
เวินจิ้งเกือบจะร้องไห้ด้วยความดีใจ แต่เมื่อเธอเห็นหลินเวย เธอกลับบอกข่าวร้ายแก่เธอ
“จิ้งจิ้งเขาหายไป”
“อะไรนะ”
“เด็กคนนั้น หลินยี่… แม่ก็เพิ่งจะพบได้ไม่นาน แต่เขากลับปิดบังอะไรต่างๆกับพวกเรามากมาย ครั้งนี้ที่หายตัวไป แม่ยังหาไม่เจอว่าเขาไปอยู่ที่ไหน” เพราะเหตุนี้หลินเวยจึงดูเหมือนอ่อนแรงไม่น้อย
หลินยี่ หายตัวไปในเช้าวันนี้ หลินเวยไม่ได้จำกัดอิสรภาพของเขา แต่เธอก็รู้สึกกระวนกระวายมาก เมื่อหาเขาไม่พบ
“เขา… เขาหน้าตาเป็นยังไง” เวินจิ้งถามอย่างประหม่า
“นี่คือรูปของเขา แม่ได้โทรแจ้งตำรวจแล้ว แต่เด็กคนนั้นมีความสามารถพอสมควร แม่ตามหาเขามาหลายปีก่อนจะพบ และสามารถพาเขากลับมาได้เมื่อสองวันก่อน” หลินเวยถอนหายใจ
เด็กหลินยี่ถูกพรากไปหลังจากที่เขาเกิด แต่เดิมหลินยี่เป็นลูกชายของเธอ และเขาสามารถรวมตำแหน่งของเธอในตระกูลหลินได้
แต่เพราะฝ่ายอื่นในตระกูลโจมตี และทำให้หลินยี่หายตัวไปกว่ายี่สิบปี เธอจึงต้องรับฉีเซินมาแทน
แม้แต่หลินเจิ้นก็ไม่รู้ว่า หลินยี่ ยังมีชีวิตอยู่
ครั้งนี้ในที่สุดเธอก็พาหลินยี่กลับมาได้แล้ว และเธอกลัวว่าเวลาของตัวเองจะมีไม่มากนัก เธอหวังว่าหลินยี่และเวินจิ้งจะรู้จักกันไว้ แต่เธอคิดไม่ถึงว่าเขาจะหายไปอีกครั้ง ในเวลาอันสั้นเช่นนี้
“แม่เราจะตามหาเขาเจอแน่นอน”
หลินเวยถอนหายใจ และกอดลูกสาว“ แม่ไม่รู้ว่า … เรายังจะสามารถ … สามารถ…”
ทันใดนั้นคนรับใช้ก็รีบเข้ามา “คุณผู้หญิง คุณหนูคะ มีคนจากตระกูลมู่มาค่ะ”
เวินจิ้งเงยหน้าขึ้น เมื่อได้ยินใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป
คาดไม่ถึงว่ามู่วี่สิงจะเดินทางเร็วมาก เพียงครึ่งวันหลังจากที่เธอมาถึงลอนดอนเขาก็ตามมาแล้ว
หลินเวยปกป้องลูกสาวของเธอทันที “เสี่ยวจิ้ง อย่าบอกนะว่าตอนอยู่หนานเฉิง หนูอยู่กับมู่วี่สิงตลอด”
เวินจิ้งริมฝีปากของเธอ และพยักหน้าช้าๆ
“ชอบทำให้แม่โกรธจริงๆ” หลินเวยเริ่มโกรธขึ้นมา
“แม่ หนูรู้ว่าหนูกำลังทำอะไรอยู่”
หลินเวยมองไปที่ลูกสาวของเธออย่างต้องการที่จะดุเธอ แต่เมื่อเธอมองไปที่ใบหน้าที่อ่อนลงของลูกแล้วก็ทำไม่ลง
“ตอนนี้ลูกตั้งใจจะทำอะไร”
เวินจิ้งขมวดคิ้ว เธอไม่ได้วางแผนเธอ เธอมักจะทำทีละขั้นเสมอ
“แม่ไม่ต้องการให้ลูกคบกับเขา แม่ไม่ยอมรับเขา” ท่าทีของหลินเวยแข็งกร้าวมาก
เมื่อเวินจิ้งออกมา ก็เห็นมู่วี่สิงก็ยืนอยู่ข้างรถ ใบหน้าของเขาเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
“ทำไมมาที่นี่กะทันหัน” น้ำเสียงของมู่วี่สิงกดต่ำและนุ่มลึก
“คุณหาคนให้ฉันได้ไหม” เวินจิ้งถามแทนโดยไม่ตอบ
“ใคร”
“พี่ชายของฉัน”
“ตอนนี้ คุณกลับบ้านกับผมได้ไหม” มู่วี่สิงกอดเธอ แล้วเอานิ้วยาวๆจับไปที่คางเธอ
เวินจิ้งส่ายหัว “ฉันอยากอยู่ที่นี่อีกสองสามวัน ไม่ต้องกังวล ฉันจะกลับไป”
“ผมจะรอคุณกลับไปด้วยกัน”
“ฉันจะอยู่ที่นี่ คุณอยู่ในโรงแรมก่อนแล้วกัน” เวินจิ้งพูดเบาๆ
“ไม่อยู่กับผมหรอ หืม” มู่วี่สิงไม่ปล่อย
“ฉันอยากอยู่เป็นเพื่อนแม่และพ่อมากกว่า เดี๋ยวที่หนานเฉิงเราจะได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น” เวินจิ้งเงยหน้าขึ้น และพูดอย่างจริงจัง
“โอเค ผมจะฟังคุณ” มู่วี่สิงตอบอย่างยากลำบาก
เวินจิ้งยิ้ม แต่เมื่อเธอหันกลับไปรอยยิ้มของเธอก็หายไปอย่างรวดเร็ว
ในลอนดอน เวินจิ้งใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับหลินเวย และเธอได้ตามหาที่อยู่ของหลินยี่ แต่มันก็ยังไร้ผล
มีความเป็นไปได้สูงที่เขาอาจจะออกจากลอนดอนไปแล้ว
บ่ายวันนี้หลินเวยไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนโจวเซินเพื่อติดตามอาการ และเวินจิ้งก็ได้รับโทรศัพท์จากมู่วี่สิง จึงมาที่โรงแรมของเขา
หลายวันมานี้เธอไม่ได้มาหาเขา แต่เธอคิดว่า เขาน่าจะอยากกลับหนานเฉิงแล้ว
แต่ตอนนี้สภาพจิตใจของแม่แย่มาก และเธอไม่อยากจากไปแบบนี้
หลังจากมาที่ห้อง เมื่อพบกับมู่วี่สิง เวินจิ้งก็ถูกกอดไว้ในอ้อมแขนของเขาทันที เธอถามเขาว่า “มีข่าวเกี่ยวกับหลินยี่ หรือยัง”
ตอนนี้เธอจับแขนของเขาด้วยมือทั้งสองข้าง ราวกับว่าความบาดหมางระหว่างทั้งสองไม่เคยเกิดขึ้น
เวินจิ้งด้วยความรีบร้อน จึงไม่ได้ใส่รองเท้า ตอนนี้เท้าที่ขาวและนุ่มของเธอโค้งงอและเหยียบลงบนพื้นอย่างน่ารัก มู่วี่สิงขมวดคิ้ว และรีบอุ้มเธอขึ้นมาทันที “ใส่รองเท้าในห้องซะ”
เวินจิ้งปล่อยให้เขาอุ้มอย่างนั้น “หลินยี่อยู่ที่ไหน
เขาวางเธอลงบนโซฟา แล้วก้มศีรษะและจูบเธอที่แก้มของเธอ “ไม่ต้องรีบ”
ดวงตาของเขามืดสนิท เขาค้นหาที่อยู่ของหลินยี่ หลายวันแล้ว แต่ไม่มีร่องรอยใดๆเลย นั่นแสดงให้เห็นว่าตัวตนของเขาไม่ธรรมดา