Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 742
บทที่ 742 เมื่อคืนเรียกชื่อของฉันตลอด
ผู้ชายยืนอยู่ไม่ไกล มองประตูที่ปิดอยู่ … ในเวลาสองปี
ถ้าหลังจากสองปีเธอก็ยังอยากจากไป เขาจะทำยังไงดี
ตอนห้าทุ่ม เวินจิ้งยังไม่ออกจากห้องหนังสือ มู่วี่สิงมองเวลา ลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดประตู เขายังไม่ได้เปิดปาก ก็เห็นเวินจิ้งนอนอยู่ใต้แสงไฟโดย หน้าทับอยู่บนมือข้อศอก แสงไฟทำให้ขนตาดูยาวมาก
เขาเดินเข้าไปและเรียกเบาๆ”จิ้งจิ้ง”
เธอไม่ได้ขยับตัว ไม่ได้ลืมตาด้วยซ้ำ ตาของมู่วี่สิงเต็มไปด้วยความเอือมระอา เพราะไม่อยากเห็นหน้าเขาก็เลยอยู่ในห้องหนังสือตลอดเหรอ
เอาแขนโอบรอบเอวเรียวของเธอ เขาอุ้มเธอขึ้นมาอย่างง่ายๆ หลังจากออกจากห้องหนังสือ เขาอุ้มเธอกลับไปที่ห้องนอน เปิดผ้าห่มแล้ววางลงบนเตียง
เขาก็นอนอยู่ข้างๆเธอ ลมเย็นโชยเข้ามาจากหน้าต่าง เขาหรี่ตาและกำลังคิดจะดึงผ้าม่าน แต่จู่ๆแขนของเขาก็ถูกกอดไว้
เขาตกตะลึง ก้มหัวลงและเห็นผู้หญิงขยับหน้าเข้าใกล้มา เธอขมวดคิ้วและร่างกายที่อ่อนนุ่มก็ขยับเข้ามาด้วย เธอขยับเบาๆ ดูเหมือนอยากจะหาท่าที่สบายและนอนต่อ ปากก็พึมพำเรื่อยๆว่า”ฉันหนาวมาก … มู่วี่สิงปิดแอร์ด้วย … ”
เรียกชื่อของเขาด้วยเสียงอ่อนโยนแบบนี้อย่างเป็นธรรมชาติราวกับว่าเธอได้เรียกนับครั้งไม่ถ้วนในฝัง รู้สึกมีความสุขอย่างมากในใจทันที ปากก็ยกขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เขาเคยกอดเธอนอนบ่อยๆหรอ เพราะฉะนั้นเธอจึงเรียกเขาในฝังอย่างเคยชิน
เขาถอดเสื้อออกและเข้าไปนอนในผ้าห่มเหมือนกัน คิ้วที่ขมวดอยู่ของเธอก็ยื่นออกมาเล็กน้อยสักที เขายังไม่ทันเข้าไปกอดเธอ เธอก็เอนตัวพิงเข้าไปในอ้อมแขนของเขาแล้ว
เขาตะลึงอีกครั้งและกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาอย่างระมัดระวัง จูบคิ้วของเธอและพึมพำว่า”ฝันดีนะ จิ้งจิ้งของฉัน”
…
เช้าวันรุ่งขึ้น เวินจิ้งรู้สึกว่ามีบางอย่างกดทับที่เอวของเธอ เธอขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจและค่อยๆลืมตาขึ้น
ใบหน้าที่หล่อเหลาก็อยู่ที่ที่ใกล้มากจนลมหายใจของเธอสัมผัสได้ถึง
เธอตกตะลึงและฟื้นสติกลับมาอย่างรอดเร็ว ถอยออกจากอ้อมแขนของผู้ชายโดยไม่ต้องคิดทันที แม้แต่ยังอยู่ในฝัง การกระทำและปฏิกิริยาของผู้ชายคนก็รวดเร็วมาก เธอยังไม่ทันขยับก็ถูกแขนของเขากอดอยู่ในอ้อมแขนอีกครั้ง
ใบหน้าที่หล่อๆของเขาลูบคางของเธอ”นอนเป็นเพื่อนฉันอีกหน่อยนะ จิ้งจิ้ง”
ลมหายใจแผดเผาจนมึน”ฉันง่วงมาก…”
สีฟ้าใต้ตาของมู่วี่สิงไม่ได้ชัดเจนนัก แต่เธอก็มองเห็นในระยะใกล้ขนาดนั้น
ช่วงนี้เขาไม่ได้พักผ่อนดีๆเหรอ
เธอไม่อยากขาดใจ แต่ก็ยังพูดอย่างเย็นชาว่า”คุณนอนคนเดียวเถอะ ฉันจะลุกขึ้นแล้ว”
แต่ถูกเขากอดแน่นขึ้น”ให้ฉันกอดอีกสักพักนะ … ”
เขาไม่เคยลืมตาเลย แต่กอดเธออยู่ตลอด”ฉันไม่ได้กอดเธอนอนมานานแล้ว”
เวินจิ้งเบิกตากว้างทันทีและพยายามขยับตัวออกจากอ้อมแขนของเขา”มู่วี่สิง คุณโกหกฉัน คุณควรตื่นมาตั้งนานแล้ว”
อีกอย่าง เขาจะรู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ได้กอดเธอนอนนานแล้ว
เขารู้ได้ยังไงว่าตัวเองเคยกอดเธอนอนก่อนหน้านี้
เมื่อก่อนเขาเป็นคนมีวินัยในตัวเองมาก เขาจะตื่นขึ้นโดยอัตโนมัติทันทีที่ถึงเวลา ตอนนี้เขายังนอนอยู่บนเตียงทั้งๆที่เธอก็ตื่นขึ้นแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขากำลังโกหกเธออยู่
มู่วี่สิงลืมตาขึ้นอย่างเอือมระอาและพูดด้วยเสียงต่ำว่า”เมื่อคืนฉันดึกมาก”
ปฏิกิริยาของเวินจิ้งทำให้เขารู้สึกแปลกๆเล็กน้อย เพราะสิ่งแรกที่เธอทำคือก้มหัวลดตรวจดูเสื้อผ้าของตัวเอง แม้ว่าเสื้อจะดูยุ่งเหยิง แต่ก็ยังใส่อยู่ในตัว เธอถึงโล่งใจ
เขาอดหัวเราะไม่ได้ แสงยามเช้าตกกระทบบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ดูเหมือนถูกเคลือบด้วยขอบทองที่สวยงาม เขายิ้มอย่างเกียจคร้าน”คุณแค่นอนหลับไป ไม่ได้เมาหรือถูกวางยาสักหน่อย ถ้าฉันจะทำอะไรคุณ คุณคิดว่าจะนอนได้ถึงตอนนี้เหรอ”
อย่างมากเขาก็แค่แอบจูบเธอเฉยๆ
ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความอึดอัด มู่วี่สิงโอบร่างของตัวเองเข้าใกล้เธอ เสียงแหบๆของเขาฟังดูยั่วยวนมาก”ปฏิกิริยาของคุณ ดูเหมือนว่าฉันจะทำอะไรคุณเมื่อคุณนอนหลับบ่อยๆ …”
เวินจิ้งตบหัวของเขาและถามอย่างไม่มีการแสดงออกใดๆว่า”มู่วี่สิง ทำไมคุณนอนอยู่บนเตียงของฉัน”
เขาทำท่าน่าสงสาร”ฉันอุ้มคุณกลับที่เตียงมาจากห้องหนังสือ คุณก็กอดฉันไม่ยอมปล่อย บอกว่าคุณหนาวให้ฉันอยู่กับคุณ…เพราะฉะนั้นฉันจึงนอนอยู่ข้างๆคุณไงล่ะ”
เวินจิ้งโกรธมาก ทั้งๆที่ดวงตาของผู้ชายคนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่…ช่วงนี้อากาศค่อนข้างเย็นก็จริง และเธอชอบเปิดหน้าต่างไว้ด้วย
เธอทำท่าโกรธและลุกจากเตียง เสียงของเธอเย็นชามาก”อยู่บ้านของฉัน คุณจะไม่มีข้าวกิน อย่าหวังว่าฉันจะให้คุณของกิน”
ผู้ชายค่อยๆใส่เสื้อผ้าอยู่ข้างหลังเธอ”ฉันนอนกับคุณทั้งคืน อุ่นเตียงให้เธอทั้งคืน แม้แต่ขนมปังก็ไม่มีเลยเหรอ”
เวินจิ้งหัวมามองเขาอย่างทำท่าโกรธ “มู่วี่สิง ทำไมคุณหน้าด้านขนาดนี้ล่ะ”
เธอนึกขึ้นความสงสัยของเมื่อกี้ ไม่ทันใส่เสื้อโค้ท เธอรีบเดินเข้าไปและเงยหน้าถามว่า”เมื่อกี้คุณพูดว่าไม่ได้กอดฉันนอนมานานแล้ว คุณจำเรื่องของเมื่อก่อนได้ใช่ไหม”
เขาโกหกเธอแม้กระทั่งความจำเสื่อมด้วยเหรอ
เขาขยับตาเบาๆ เสียงต่ำมาก”แสดงว่าเมื่อก่อนฉันกอดคุณนอนบ่อยๆเหรอ เรานอนด้วยกันมาโดยตลอดเหรอ”
เขาก้มหัวลงและเข้าใกล้เธอ ลูบผิวของเธอ”เมื่อคืนคุณเรียกชื่อฉันตลอด”
เธอกระพริบตา หลบสายตาของเขา”เป็นเรื่องปกติ ฉันต้องด่าคุณแน่”
ผู้ชายไม่สนใจเลย ยิ้มอย่างมีเสน่ห์”ด่าฉันในฝันด้วยเหรอ”
เขาเข้าใกล้หน้าของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ”ฉันรังแกคุณ หรือว่าฉันทำอะไรกับเธอมากกว่านี้เหรอ”
เมื่อคืนเขากดเธอไว้ใต้ตัวเขา อยากได้เธอใจจะขาด แต่สุดท้ายเขาเพราะสงสารเธอก็เลยไม่ได้ทำ
เธอกัดปากและหันตัวกำลังจะออกไป แต่จู่ๆเอวก็ถูกรัดอย่างแน่น ทั้งตัวก็ถูกโอบกอดไว้แล้วเข้าไปในอ้อมกอดที่แข็งขืนที่อยู่ข้างหลังเธอ ปากนุ่มๆของเขาก็จูบแก้มของเธอ”อรุณสวัสดิ์”
เขาหยุดไปสักพัก และรอยยิ้มสดใสว่า”อย่าอารมณ์เสียแต่เช้าเลยนะ จิ้งจิ้ง”
เขาเรียกชื่อเธอ ราวกับว่าสองคำนี้เอ่อล้นออกมาจากหัวของเขา อู้อี้และอ้อยอิ่ง
เวินจิ้งโกรธที่จะตบหน้าทันที แต่ผู้ชายแค่มองเธอด้วยรอยยิ้มโดยไม่หลบมือของเลย มือของเธอก็แข็งไปทันที สุดท้ายก็วางลงไป
มู่วี่สิงเลิกคิ้ว ลูบคางบนไหล่ของเธอแล้วยิ้มด้วยความรัก”ทำไมไม่ตบล่ะ ตบหนึ่งครั้งแปลกเป็นจูบหนึ่งที
ฟังดูก็ยุติธรรมมากนะ”
เขาถือโอกาสจูบแก้มเธออีกครั้ง เสียงยิ้มของเขาเซ็กซี่ขึ้น”คุณควรตบฉันอีกครั้งนะ เพราะว่าเมื่อคืนฉันแอบจูบเธอตั้งหลายที่”