Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 752
บทที่ 752 เพราะชอบเธอ ก็เลยชอบที่จะกอดเธอ
ลู่โยวโยวเบิกตากว้าง เขามองไปยังชายหนุ่มบนเตียงอย่างไม่เชื่อหู “คุณพูดอะไรน่ะ? มู่วี่สิงที่คุณพูดถึง… …คือไอ้ชั่วที่ทำร้ายหลินยี่ นะหรือ? ”
อู๋ชิงพยักหน้าอย่างตรงไปตรงมา มันเป็นแบบนั้นจริงๆ
เขาก็รู้ ถ้าเรื่องนี้คุณลู่ทราบแล้ว แน่นอนว่าต้องอารมณ์เสียอย่างแน่นอน ไม่แน่อาจจะไปเมืองหนานด้วยตัวเองเพื่อที่จะสะสางเรื่องนี้กับเวินจิ้ง
เด็กสาวตื่นเต้นจนแทบจะกระโดดโลดเต้น “ผู้หญิงคนนั้นถูกลาเตะสมองหรือไง? ผู้ชายคนนั้นฆ่าพี่ชายของนางนะ ยังจะอยู่ด้วยกันอีก! นี่ฉันโกรธจริงๆแล้วนะ”?
ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด ลู่โยวโยว พูดด้วยน้ำเสียงเคืองๆว่า “ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่ไหน ฉันจะไปตีเธอให้รู้สำนึกเสียที”
ลู่เซิ่นเหลือบมองอย่างเฉยเมย เขายังคงไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ไม่ได้จากไปไหน
อู๋ชิงพอจะมองออกว่า คุณชายลู่ชายผู้ที่สูงศักดิ์เงียบขรึมคนนี้ ก็โกรธอย่างชัดเจน
หน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ เนื้อตัวเขาเย็นเฉียบ “เรื่องระหว่างพวกเขาสองคนค่อนข้างที่จะซับซ้อน ไม่ใช่เรื่องที่คนนอกอย่างเราจะเข้าใจ… …คุณเวินเพื่อที่จะออกมาจากบ้าน ก็ทำให้มู่วี่สิงบาดเจ็บสาหัส ผลสุดท้ายเขาก็บาดเจ็บและยังขับรถไปตามด้วยตัวเอง จนเกิดอุบัติเหตุ ส่วนคุณเวินถูกตระกูลลี่นำตัวกลับไปที่สนามบิน”
ลู่โยวโยวย่นหน้า ที่ฟังเมื่อกี้มันดูซับซ้อนจริงๆนั่นแหละ ก่อนพึมพำอย่างไม่พอใจว่า “พวกเขานี่ทั้งรักทั้งทำลายกันจริงๆ”
เธอโต้กลับมาอย่างรวดเร็ว “แล้วผู้ชายคนนั้นเกิดอะไรขึ้น? ไม่สนชีวิตตัวเองแล้วไปตามผู้หญิงเนี่ยนะ แล้วทำไมต้องไปทำร้ายพี่ชายของเธอด้วย… …”
ถึงเธอจะชอบหลินยี่ มาก แต่ถ้าหากวันไหนเขากล้าที่จะทำร้ายพี่ชายเธอขึ้นมา เธอก็ไม่มีวันที่จะอภัยให้เขาได้!
ลู่เซิ่นเหลือบตามองไปยังเธอ “จีบผู้ชายไม่ติดก็อย่าเที่ยวพูดไร้สาระ ไม่เช่นนั้นคนอื่นจะคิดว่าเธอยังมีโอกาส”
อู๋ชิง:… …
ลู่โยวโยว หน้าตึง ก่อนจะพูดอย่างไม่พอใจว่า “นั้นก็เพราะตาเขาไม่ถึง ฉันดีขนาดนี้ เขาก็… …”
เธอกลอกตาหนึ่งรอบ สีหน้ากลับมามืดมนลง พลางมองไปยังแผ่นหลังของอู๋ชิง“ช่วงนี้นายไม่ใช่ว่าอยู่ข้างเขาหรือ? เคยเห็นแฟนคนก่อนเขาไหม?”
อู๋ชิงก้มหน้า เขาไม่กล้าที่จะพูดอะไร เขารู้ว่าเขายิ่งพูดก็ยิ่งผิด รอยยิ้มของลู่โยวโยวยิ่งมืดมนขึ้นเรื่อยๆ “รีบบอกมาสิ”
อู๋ชิงเงียบไปสักพัก รู้ว่าปิดบังอะไรต่อไม่ได้แล้ว เงยหน้าขึ้นอย่างยอมจำนน “เคยเห็นครับ”
“ดูดีไหม?”
“ดูดีครับ”
“มากกว่าฉันอีกเหรอ?”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณอายุน้อยกว่าเธอ”
“เหลวไหล! เขายังกล้าที่จะไปพัวพันกับนางผู้หญิงคนนั้นอีก” ลู่โยวโยวโกรธจัด
ลู่เซิ่นมองไปยังอู๋ชิงก่อนถามอย่างเย็นชาว่า “ทำไมเขาถึงถูกเล่นงาน?”
มองไปยังร่างของหลินยี่ ที่เขาประเมินว่าคงไม่ตื่นขึ้นมาสักพัก
“ตอนนั้นพี่ใหญ่วางแผนที่จะออกไปแล้วครับ แต่ที่ทะเลตอนนั้นเขาหาวิธีที่จะออกไปไม่ได้ ถ้าหากว่าเขากับมู่วี่สิงลงมือทำต้องบาดเจ็บด้วยกันทั้งคู่อย่างแน่นอน แต่ทว่าในตอนที่โม่ถิงเซินยิง ก็คงระวังในข้อนี้เหมือนกัน”
อู๋ชิงยักไหล่ก่อนที่จะพูดต่อว่า “ดังนั้นพี่ใหญ่จึงเลือกวิธีที่ง่ายแล้วก็เร็วที่สุด ถึงแม้ว่าจะเสี่ยงต่อการโดนกระสุน แต่มันก็เป็นวิธีที่สบายที่สุด เมื่อมู่วี่สิงจัดการเก็บโม่ถิงเซินได้แล้ว นี่ก็คือผลลัพธ์ที่เขาต้องการ”
ตอนนั้นเขาแน่ใจว่ามู่วี่สิงจะไม่ปล่อยให้เขาตาย
ระหว่างพวกเขามีเวินจิ้งคั่นกลาง ถึงแม้ว่ามู่วี่สิงจะเกลียดเขามากแค่ไหน แต่เขาก็ยังคงเกรงใจเวินจิ้ง
สีหน้าของลู่เซิ่นมืดครึ้ม “เขาก็ยังกล้าที่จะเสี่ยง ถ้าตายขึ้นมาจริงๆล่ะ?”
อู๋ชิงกลับตอบอย่างสงบนิ่งต่อ “มู่วี่สิงเพื่อที่จะตามคุณเวินกลับมา ได้รับบาดแผลจากคมมีดหรือเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ บางทีถึงท้ายที่สุดจะไม่มีหวัง เมื่อดูแล้ว ก็นับได้ว่าแฟร์ดี ”
ตอนนี้หลินยี่ก็นอนรอพวกเขาที่จะมาช่วยเขาให้ตื่นทุกวิถีทาง ก็ดูเหมือนว่าจะมีความสุขมากแล้วไม่ใช่เหรอ?
… …
“จิ้งจิ้ง แม่ของฉันจะมารับฉันแล้ว ขอโทษนะ ที่โกหกเธอมาตลอด”
“นายโกหกฉันเรื่องอะไร? เด็กในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่จำเป็นต้องเป็นเด็กกำพร้าจริงๆใช่ไหม?” ดวงตากลมโตของเด็กสาวฉายแววไร้เดียงสา
ถึงแม้ว่าอายุของเด็กชายจะน้อย ทว่าเขาก็คุ้นเคยกับการเก็บซ่อนอารมณ์ของตัวเองมานาน เขาเม้มปาก มองไปยังเวินจิ้ง ด้วยแววตาลึกซึ้งที่ฉายชัด
“แม่ของนายมาหรือยัง? เธอจะต้องสวยมากแน่ๆเลยใช่ไหม? แต่ทำไมเธอปล่อยให้นายมาอยู่ที่นี่คนเดียวล่ะ?” เด็กสาวถามอย่างไม่เข้าใจ
“ใช่แล้วละ แม่เป็นคนสวยมาก สวยมากจนมีคนมากมายต้องการที่จะทำร้ายเธอ” เขายังคงยิ้ม แต่รอยยิ้มที่ซ่อนซ่อนความขมขื่นไว้นั้นเวินจิ้งสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
เธอก้าวไปข้างหน้าก่อนที่จะกอดเขาไว้แน่น พยายามที่จะนำมือที่ไม่อบอุ่นนั้นให้ความอบอุ่นแก่เขา
“นายโตพอที่จะปกป้องแม่ของนายได้แล้ว” เธอพูด
เด็กชายยิ้ม เขาเงยหน้ามองเวินจิ้ง “ใช่ ฉันจะรีบโต จะรีบเข้มแข็ง รีบเป็นผู้ใหญ่ แล้วหลังจากนั้นฉันจะมารับเธอ โอเคไหม?”
รอยยิ้มของเวินจิ้งใสสะอาดและบริสุทธิ์ “โอเค ว่าแต่นายชื่ออะไร? พวกคุณพ่อเรียกนายว่าเสี่ยวสิง?”
“อืม จำชื่อของฉันไว้นะ ——มู่วี่สิง”
มู่วี่สิงกลับมาถึงการ์เด้นมูเจียวานเมื่อใกล้จะถึงเวลาโพล้เพล้ เวินจิ้งไม่ได้อ่านหนังสืออยู่ในห้องหนังสือ และก็ไม่ได้ย้ายดอกเดซี่ที่เธอปลูกอยู่ในสวนดอกไม้ แต่เธอกลับมาหลับใหลอยู่บนโซฟา
มุมปากของเขายกยิ้มอ่อนโยนขึ้นโดยไม่รู้ตัว และค่อยๆเดินเข้าไปใกล้เธออย่างเบาฝีเท้าที่สุด สิ่งที่เขาเห็นอย่างชัดเจนคือคราบน้ำตาจางๆบนใบหน้าของเธอ
ขนตาเธอชื้น เพิ่งผ่านการร้องไห้มา?
เขามุ่นคิ้ว คิดอยากจะอุ้มเธอขึ้นมา แต่เธอกลับตื่นขึ้นมาเสียก่อน เธอเหล่มองใบหน้าที่หล่อเหลาที่อยู่ใกล้ของเขา ก่อนพูดขึ้นมาด้วยท่าทีเกียจคร้าน “กลับมาแล้วเหรอ?”
เสียงของเธอทำให้จิตใจที่ยุ่งเหยิงของเขาอ่อนยวบลงอย่างง่ายดาย เขาอุ้มเธอมานั่งบนตัก ปากบางกดจูบลงไปบนใบหน้างดงามของเธอ
“ทำไมเพิ่งตื่นเอาป่านนี้ หลับสบายไหม?”
มือหยาบกร้านของเขาไล้ไปตามผิวของเธอ ก่อนจะใช้นิ้วปัดผ่านขนตาของเธอเบาๆ “ฝันร้ายเหรอ?”
ใบหน้าของเธอซบอยู่บนอกแกร่งของเขา เธอเอนตัวไปพิงเขาอย่างสบาย ท่านี้ทำให้เธอได้ยินเสียงหัวใจของเขาอย่างชัดเจนราวกับว่าหัวใจของเขาเชื่อมติดกับของเธอ
นิ้วเรียวเชิดคางของเธอให้สบตาเขา ก่อนจะบีบบังคับไว้ไม่ให้หนี “บอกผมมา ทำไมคุณร้องไห้?”
เธอโอบแขนรอบลำคอเขาอย่างเชื่องช้า กระซิบเบาๆว่า “หนังที่เพิ่งดูจบไปน่ากลัวมาก ครั้งหน้าฉันจะไม่ดูแล้ว”
เขาขมวดคิ้ว ความสงสัยปรากฏออกมาแวบหนึ่งทางสายตา
เขาไม่ถามอะไรต่อ เพียงพูด “ผมจะพาไปล้างหน้า ป้าหลี่เตรียมข้าวเย็นไว้เรียบร้อยแล้ว”
พูดพลางอุ้มเธอขึ้นมา ก่อนพาเข้าไปทางห้องนอนใหญ่
เธอซบอยู่บนไหล่เขา “ทำไมเดี๋ยวนี้ชอบกอดฉันจัง”
ตอนนี้เขากอดเธอบ่อยกว่าเมื่อสามปีที่แล้วเสียอีก
ชายหนุ่มก้มไปมองเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง “เพราะว่าผมชอบคุณ ผมเลยชอบที่จะกอดคุณ”
เขารู้สึกอยู่เสมอ ถ้าหากว่าเธออยากจะไปภายในหนึ่งหรือสองปีนี้ เขาก็ไม่รู้จริงๆว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป
เขาวางเธอไว้บนอ่างล้างหน้าในห้องนอน เวินจิ้งยื่นมือไปเปิดก๊อกน้ำ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบผ้าขนหนู แต่ทว่าชายหนุ่มได้ถือมันไว้ก่อนแล้ว
มือใหญ่ถือผ้าขนหนูไว้ จากนั้นจึงบรรจงเช็ดน้ำบนใบหน้าเธอ น้ำเสียงแหบต่ำเซ็กซี่พูดขึ้นมาว่า “อย่าขยับนะ หืม?”