Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 848
บทที่ 848 กินเผือกอิ่มแล้ว
ฉินซีไม่รู้ว่าภายในจิตใจของฉินซึ่งเทียนสับสนมาก เธอครุ่นคิด รอบข้างไม่มีคนนั่ง เธอจึงนั่งโดดเด่นตรงแถวแรกที่ว่างเปล่า
ตอนนี้ทุกความเคลื่อนไหวของเธอเป็นจุดเด่นภายใต้แสงสปอตไลท์มองเห็นเธอลุกขึ้นไปนั่งแถวหน้า ทุกคนมองหน้ากัน สายตามีความหมายสับสน
ทุกคนในที่นั้นต่างมีลับลมคมใน เลขากระแอม แล้วเปิดไมโครโฟน “ขอต้อนรับทุกท่าน ดิฉันขอเริ่มการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นครั้งนี้ เราเริ่มหัวข้อแรกกันก่อน…”
ฉินซีกวาดตามองแถวที่นั่งประธานปราดหนึ่งก็ยกมือขึ้น “ขอโทษค่ะขอขัดจังหวะหน่อย”
เธอนั่งแถวแรก มองเห็นความเคลื่อนไหวของเธอได้ชัด เลขาจะแกล้งทำเป็นไม่เห็นก็ไม่ได้ จึงหันไปมองขอความเห็นจากฉินซึ่งเทียน
ฉินซึ่งเทียนทำมือ แสดงว่าให้ฉินซีพูดได้ เลขาจึงสอบถาม “คุณฉิน มีเรื่องอะไรคะ”
ฉินซีชี้ไปที่หลี่เหวยที่นั่งบนเวที “ถ้าฉันจำไม่ผิด ที่นี่เป็นการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นไม่ใช่หรือคะ คนที่ไม่มีสักหุ้นเข้าร่วมได้หรือคะ”
“เอ่อ…” เลขาเหงื่อผุดเต็มหน้าผากไม่รู้ว่าควรจะพูดต่ออย่างไรดี
หลี่เหวยที่นั่งอยู่บนเวทีประธานการประชุมทำหน้าไม่ถูก
ที่จริงฉินซีไม่ได้มีเจตนาสร้างความยุ่งยากในเวลานี้ เพียงแต่เมื่อครู่ที่ห้องรับรอง ตอนที่ฉินซึ่งเทียนเข้าห้องมานั้น เธอไม่ทันสังเกตเห็นหลี่เหวยที่มากับเขาแม้แต่น้อย แต่เมื่อเพิ่งเข้ามาในห้องประชุมนี้ ตอนแรกเธอนั่งด้านหลังไม่ได้สังเกตคนที่นั่งบนเวทีมีใครบ้าง ตอนนี้เพิ่งจะเห็นหลี่เหวยถึงได้พูดขึ้นก็เท่านั้น
เลขาไม่รู้จริงๆ ว่าจะพูดอย่างไรต่อดี ถ้าจะพูดว่าที่ฉินซีทักท้วงนั้นไม่ถูกต้อง ระเบียบการประชุมก็กำหนดเช่นนี้จริงๆ หรือจะพูดว่าฉินซีพูดถูกแล้ว หรือว่าจะให้เธอไล่หลี่เหวยออกไปอย่างนั้นหรือ
ให้ความกล้าเธอมาอีกร้อยเท่าก็ไม่กล้า
พนักงานทุกระดับในบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปรู้ดี นับแต่คุณนายหญิงฉินคนนี้เข้าบริษัทหนึ่งปีมานี้ แน่นอนว่าเป็นคนโปรดของฉินซึ่งเทียนการประชุมใหญ่เล็กของบริษัท ฉินซึ่งเทียนพาเธอเข้าร่วมด้วยทุกครั้ง
ก่อนหน้านี้เคยมีคนถามหาเหตุผล แต่ต่อมาก็เคยชินขึ้นเรื่อยๆ
คนที่ตั้งคำถาม คือคนเก่าแก่ของบริษัทที่ทำงานมาตั้งแต่สมัยคุณปู่ของฉินซี
เขาทุ่มเททำงานกับคุณปู่มาตลอดชีวิต มีตำแหน่งระดับสูงในบริษัท จึงมีสิทธิ์ออกความเห็นไม่น้อย
การประชุมใหญ่บริษัทครั้งนั้นหลี่เหวยติดตามฉินซึ่งเทียนเข้าประชุมเช่นเคย ทั้งสองคนขึ้นเวทีแล้ว แต่ถูกคนเก่าแก่ขวางไว้
“ประธานฉิน” น้ำเสียงของเขาเหมาะสมไม่เย่อหยิ่งและไม่ถ่อมตัวเกินไป “นี่เป็นการประชุมภายในบริษัทไม่ใช่งานเลี้ยงประจำปี คุณพาญาติมาร่วมประชุมด้วยไม่เหมาะกระมังครับ”
ฉินซึ่งเทียนกวาดตามองคนเก่าแก่ปราดหนึ่ง ปัดแขนเขาออก “คุณไปได้ยินมาตอนไหน หลี่เหวยเป็นแค่ญาติอย่างนั้นหรือ”
คืนวันนั้นนั่นเอง ตำแหน่งเดิมของคนเก่าแก่ถูกยกเลิก เขาถูกส่งไปทำงานในบริษัทที่ห่างไกลแห่งหนึ่ง
ส่วนตำแหน่งเดิมของเขา แน่นอนว่ายกให้หลี่เหวย
“ต่อจากนี้ผมไม่อยากได้ยินว่ามีคนสงสัยในตัวเธออีก หลี่เหวยคือภรรยาของผม และเป็นพนักงานคนสำคัญของบริษัท ขอให้ทุกคนจำไว้ให้ดี”
ภายหลังที่ฉินซีได้ยินเรื่องนี้ รู้สึกขยะแขยงจนอยากจะอาเจียน
ละครที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ขนาดนี้ ถ้าหากเป็นพระนาง เธอคงซาบซึ้ง
น่าเสียดาย ที่จำเพาะเจาะจงเป็นฉินซึ่งเทียนกับหลี่เหวย
……
เมื่อดูในขณะนั้น ทุกคนในบริษัทเคยชินแล้ว แต่ผู้ถือหุ้นที่ไม่ได้ใกล้ชิดเหตุการณ์ไม่รู้เรื่อง มีแต่เธอที่รู้ และยังกล้าชี้ตัวหลี่เหวย
หลังจากนั้นทุกคนมองไปที่ฉินซึ่งเทียนแล้วมองฉินซีจากนั้นก็มองหลี่เหวยบางคนก็ไม่รู้ความสัมพันธ์ของคนทั้งสาม และยังมีบางคนที่กระซิบ “หลี่เหวยคนนี้ถือเป็นแม่เลี้ยงของฉินซีแต่บางคนก็บอกว่าฉินซีไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของฉินซึ่งเทียนเฮ้อ เรื่องวุ่นวายนี่…”
น้ำเสียงแทบจะรังเกียจ แต่สายตาของคนที่พูดซุบซิบกลับเป็นประกายมาก
ด้านล่างเวทีมีแต่เสียงซุบซิบนินทาฉินซึ่งเทียนที่นั่งบนเวทีประธานโกรธจนถลึงตาหน้าดำหน้าแดง เขาบีบมือ หลี่เหวยแน่นเป็นสัญญาณว่าไม่ต้องกังวล ตัวเองเปิดไมโครโฟนพูด “หลี่เหวยเป็นพนักงานที่มีความสำคัญในบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป คณะกรรมการบริหารอนุมัติให้เธอเข้าร่วมประชุมได้”
ฉินซึ่งเทียนพูดเช่นนี้ไม่เรียกว่าโกหกถึงอย่างไรคณะกรรมการบริหารอยู่ในกำมือของเขา เขาพูดอย่างไรคณะกรรมการก็ต้องทำตามอยู่แล้ว
หลี่เหวยเพียงแต่ก้มหน้า แสดงท่าทางอ่อนแอ
ฉินซีเห็นลักษณะท่าทางของเธอก็รู้สึกว่าขัดตา แต่ก็ขี้เกียจจะคิดเล็กคิดน้อยกับเธอ “ในเมื่อท่านพูดเช่นนั้นก็ตามนั้นค่ะ”
ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือไม่ที่ เธอเรียก “ท่าน”ไม่ใช่ “คณะกรรมการ”เป็นการประกาศกลายๆ หรือไม่ว่าฉินซึ่งเทียน ควบคุมคณะกรรมการ
ผู้คนในที่นั้นต่างส่งสายตามองกันเพิ่มนัยว่าจะได้ดูละครเรื่องเด็ด
การประชุมยังไม่ทันเริ่มก็กินเผือกอิ่มแล้ว
เลขากระแอมพูดขึ้นอีกครั้ง “ค่ะ อย่างนั้นเราเริ่มวาระการประชุมเลยค่ะ ข้อแรก…”
การประชุมครั้งนี้ไม่ได้จัดขึ้นเพื่อเรื่องของฉินซีโดยเฉพาะ ดังนั้น ในตอนแรกยังเป็นรายละเอียดยาวเหยียด อภิปรายเรื่องต่างๆ
ก่อนหน้านี้ฉินซีไม่เคยทำงานที่บริษัทไม่ค่อยเข้าใจธุรกิจของบริษัทนัก จึงไม่ได้แสดงความเห็นอะไร เพียงก้มหน้าตั้งใจฟังคนอื่น
แต่การแสดงออกที่เรียบเฉยของเธอ ในสายตาของคนอื่นตีความไม่เหมือนกัน
บางคนรู้สึกว่ายั่วยุ บางคนก็รู้สึกว่าไม่แยแส สายตาคนในที่ประชุมมองไปมา ไฟของการซุบซิบนินทาลุกโชน อยากจะเร่งความเร็วเต็มแก่ รีบไปถึงหัวข้อที่พวกเขาสนใจมากที่สุด
ดูเหมือนจะไม่อยากให้พวกเขาสมหวัง เพราะวาระการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนผู้ถือหุ้นถูกจัดอยู่ในลำดับสุดท้าย เรื่องที่ทุกคนรอคอยมาตลอดช่วงเช้า ในที่สุดก็ได้ฟังรายละเอียดที่พวกเขารอคอยมานานเสียที
“ขณะนี้เราจะเข้าสู่หัวข้อสุดท้าย เกี่ยวกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนผู้ถือหุ้นของบริษัทค่ะ”
เมื่อเลขาพูดประโยคนี้ สายตาผู้คนที่อยู่ด้านล่างเวทีก็เป็นประกาย
ฉินซีรู้สึกว่าสายตารายรอบที่ประเมินเธอเริ่มปิดไม่มิด
ฉินซึ่งเทียนเปิดไมโครโฟน “เรื่องการรับมรดกหุ้นของฉินซีหลังจากรวบรวมความเห็นแล้ว ทุกคนมีคำถามหลักๆ สามข้อ ข้อแรก ขั้นตอนการแต่งงานของฉินซีเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ข้อสอง ตรงตามข้อกำหนดการรับหุ้นแล้วหรือไม่ และข้อสามขั้นตอนการรับมรดกจะปฏิบัติอย่างไร เราจะตอบคำถามทั้งหมดกันทีละข้อครับ”
ฉินซึ่งเทียนหยุดพูด หันไปมองฉินซี“คำถามแรก ผมคิดว่าให้ฉินซีเป็นคนตอบเองจะดีกว่า”
ใบหน้าของเธอเปื้อนยิ้ม ทำไมฉินซีจะดูไม่ออกว่าเขาไม่ได้มีเจตนาดีที่ถามคำถามพวกนี้ แต่เธอไม่เกรงกลัว รับไมโครโฟนที่ส่งมาให้“ทุกท่านคะ ดิฉันรู้ว่าวันนี้ทุกคนประหลาดใจเรื่องที่ฉันรับโอนหุ้น เช่นนั้นให้ดิฉันเป็นคนอธิบายก็สมควรแล้วค่ะ ข้อแรก ดิฉันแต่งงานแล้วจริง รายละเอียดการแต่งงานเป็นเรื่องส่วนตัวไม่มีข้อกำหนดต้องประกาศ ถ้าหากทุกท่านมีข้อสงสัย ดิฉันสามารถแสดงเอกสารทางการที่มีผลทางกฎหมายค่ะ”
แต่แรกฉินซึ่งเทียนอยากจะให้เธอตอบแค่คำถามแรก ประการแรกอยากจะทำให้เธอลำบากใจ และอีกประการคือบีบให้เธอพูดว่าแต่งงานกับใคร แต่คิดไม่ถึงว่าเธอเตรียมตัวมาดี ทำให้เขาไม่สามารถเค้นความจริงได้