Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 878
บทที่ 878 ไม่อยากตื่น
ลู่เซิ่นหัวเราะเยาะ“อืม”
“ถ้าอย่างงั้น……แม่ของคุณให้เธอมาอยู่ข้างๆ คุณ ก็เพื่อมาคอยดูคุณ?”ฉินซีมองไปที่ลู่เซิ่น ด้วยความประหลาดใจ
ลู่เซิ่นไม่ผิดคาดอะไรเท่าไหร่ แต่มีความเหน็บแนมภายในรอยยิ้ม“มันยากที่จะจินตนาการใช่ไหมล่ะ และคาดไม่ถึงว่าเธอต้องการที่จะตามดูความคิดของผม?”
ฉินซีต้องการที่จะพยักหน้า แต่ก็ต้องหยุดลงกลางคัน
สูหยิงต้องการที่จะตามดูลู่เซิ่น อันที่จริงแล้ว……มันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่จะเข้าใจ
เมื่อดูจากภูมิหลังการเติบโตของลู่เซิ่นแล้ว เขาเติบโตมาอย่างราบรื่นไม่มีอุปสรรคใดๆ มาโดยตลอด การเรียนดี นอกจากนี้เขายังรับช่วงต่อบริษัทลู่ซื่อ ตามความปรารถนาของครอบครัว และยังทำได้ดีอีกด้วย
ดังนั้นแม้แต่สูหยิง ผู้ที่มีอำนาจในการควบคุมคน ก็ค่อยๆ ปล่อยมือ ให้ลู่เซิ่นได้มีอิสระ
ตามแผนการของเธอแล้ว ลู่เซิ่นต้องได้แต่งานกับผู้หญิงที่เหมาะสม การแต่งงานทางธุรกิจที่มั่นคง ก็เพื่อพัฒนาบริษัทลู่ซื่อให้มีเสถียรภาพมากขึ้น และยังทำให้ชีวิตของลู่เซิ่นดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น
ด้วยวิธีการนี้ เธอถึงสามารถจะยอมปล่อยมือ และลู่เหวยก็จะถอนตัวออกจากการบริหารของบริษัทลู่ซื่อ แล้วไปใช้ชีวิตในวัยหลังเกษียณได้
อย่างไรก็ตาม ชีวิตของลู่เซิ่นที่ทุกอย่างกำลังดำเนินไปนั้น ก็ปรากฏฉินซีขึ้น อย่างไม่คาดคิดคาดฝัน
ฉินซีทำให้แผนการของสูหยิงเปลี่ยนไป และทำให้เธอรู้ว่าลูกชายของเธอ ไม่ได้มีชีวิตตามความคิดคิดของเธอ เธอจะทนต่อเหตุการณ์แบบนี้ได้ยังไง?
ดังนั้นเธอจึงพยายาม ที่จะกลับไปในโลกของลู่เซิ่นใหม่อีกครั้ง เพื่อวางคนของตัวเองไว้ข้างๆ เขา ทำให้ชีวิตที่คลาดเคลื่อนของลู่เซิ่น กลับมาสู่สภาวะปกติเหมือนเดิม
ลู่เซิ่นไม่ทันได้สังเกตเห็น ถึงปฏิกิริยาการลังเลของฉินซี และยังคงพูดกับตัวเองว่า“ไม่ว่าสูหวั่นจะคิดยังไง แม่ของผมก็แค่ใช้เธอ ถึงแม้ว่าแทบจะไม่มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด แต่นามสกุลของเธอคือสู แม่ของผมเป็นบ้าไปแล้ว ที่ให้ผมกับเธอต้องมาอยู่ด้วยกัน”
ฉินซีกระโดดออกมาจากความคิดของตัวเอง เมื่อได้ฟังคำพูดของลู่เซิ่น ก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย“ถ้างั้น……ทำไมเธอต้องทำให้สูหวั่นแสดงออกว่าชอบคุณด้วยล่ะ?ถ้าหากว่าคุณสองคนอยู่ด้วยกันจริงๆ เธอจะทำยังไง?”
ลู่เซิ่นยิ้มอย่างเย็นชา“เธอมีความเชื่อมันในตัวของสูหวั่นมากพอ เธอเชื่อว่าตัวเองสามารถบีบบังคับสูหวั่นได้”
ฉินซีแค่พยักหน้า ไม่มีอะไรที่จะพูดอีก
ครั้งหนึ่งเธอเคยรู้สึกสงสารตัวเอง และไม่เคยคิดว่ายังจะมีคนแบบสูหวั่นด้วย
โชคชะตาทั้งหมดถูกคนอื่นบีบบังคับ มันจะรู้สึกยังไงนะ?
ลู่เซิ่นหันหน้ามามองเธอ“สรุปสั้นๆ ก็คือ แม่ของผมให้เธอมา เพื่อให้คนที่คอยเฝ้าดูอยู่ใกล้ตัวผม และถือโอกาสทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราด้วย ให้ผมกับคุณหย่ากันให้เร็วที่สุด เพื่อไปแต่งงานกับคนที่อยู่ในอุดมคติของเธอ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ก็ยังถือว่ามีกลอุบายที่ดี”
“น่าเสียดาย”ฉินซีพยายามอย่างมาก ที่จะกำจัดความคิดที่ฟุ้งซ่านภายในใจของเธอ แล้วเงยหน้าขึ้นยิ้มให้เขา“ฉันจะไม่ให้เธอสมปรารถนา”
“หืม?”ลู่เซิ่นยกริมฝีปากของเขาขึ้น“การแสดงออกของคุณในคืนวันนี้ ผมกลับมองไม่เห็นถึงความตั้งใจของคุณเลย”
ฉินซีย่นจมูก“ฉันไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องทำ”
ลู่เซิ่นขยับเข้ามาใกล้เธออีกครั้ง“ถ้าอย่างงั้นตอนนี้ ก็ไม่มีทางเลือกอื่นใช่ไหม?”
ฉินซีหลับตาลง
ช่วงเวลาที่ริมฝีปากสัมผัสกัน ความคิดแวบแรกในหัวของฉินซีคือ ริมฝีปากของลู่เซิ่นค่อนข้างแห้ง ถ้ารู้แต่แรกจะให้เอาแก้วนมที่สูหวั่นเอามาให้ ให้ทิ้งเอาไว้ที่นี่ก่อน
แต่ลู่เซิ่นก็รู้ได้ทันทีถึงความไม่มีสมาธิของเธอ จึงกัดริมฝีปากล่างของเธอเบาๆ เพื่อเป็นการลงโทษ
ฉินซีตกใจ ถึงเรียกสติกลับคืนมาได้
ทั้งสองคนคุยกันนานมากเป็นประวัติการณ์ พูดไม่ได้ว่ามีความคิดที่ตรงกัน แต่เป็นความรู้สึกที่ขุ่นเคืองมานานมาก ไม่ใช่ฝั่งไหนกำลังระบายความอัดอั้นใจออกมา
ดังนั้นทั้งสองคน จึงรู้สึกไร้ข้อกังขามากกว่าปกติเล็กน้อย
หลังจากจบลงไปหนึ่งครั้ง ลู่เซิ่นกอดเอวของฉินซีจากทางด้านหลัง แล้วกัดหูของเธอเบาๆ“มาต่ออีกครั้ง?”
เอวของฉินซีรู้สึกอ่อนแรง สติก็ฟุ้งซ่านเล็กน้อย
คาดไม่ถึงว่าเธอจะมีภาพลวงตา ว่าเธอได้รับความรัก
ฉินซียิ้มอย่างขมขื่นอยู่ภายในใจ ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะรู้สึกหวั่นไหวกับภาพลวงตานี้
ความอ่อนโยนที่หาได้ยากจากลู่เซิ่น ทุกครั้งจะเจอบนเตียงตลอด
บางทีเขาคนนี้เมื่อกอดกับคนอื่น ก็อาจจะอ่อนโยนเช่นกัน
เมื่อเห็นเธอไม่ตอบสักที ลู่เซิ่นไม่อดทนแล้ว พลิกตัวกดร่างเธอไว้ โดยไม่ต้องรอให้ได้รับอนุญาต ก็จูบลงไป
ฉินซีบังคับตัวเองให้เคลียร์เรื่องอื้อฉาวของลู่เซิ่น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่จู่ๆ ก็เข้ามาในหัวของเธอ ยื่นมือไปกอดหลังของลู่เซิ่น และตอบรับจูบของเขา
เมื่อไม่อยากตื่น ก็ไม่ต้องตื่นแล้ว
……
เมื่อคืนทั้งสองคนอาละวาดกันจนถึงเที่ยงคืน เป็นปกติในตอนเช้า เป็นไปไม่ได้ที่จะตื่นแต่เช้าไหว
แสงแดดส่งเข้ามาจากช่องว่างระหว่างผ้าม่าน และส่องไปที่คนทั้งสองคนที่กำลังกอดกัน และนอนหลับอยู่
สุดท้ายโทรศัพท์มือถือของลู่เซิ่นก็ดังขึ้น ถึงได้ปลุกทั้งสองคนขึ้นมา
“อืม คุณมารับผมที่ตระกูลลู่ก็ได้”ลู่เซิ่นสั่งกำชับปลายสายอีกสองสามประโยค จากนั้นก็วางสาย ลุกขึ้นไปสวมเสื้อผ้า
ฉินซีลืมตาขึ้นมาด้วยความงุนงง แต่สิ่งที่เห็นคือ หลังของลู่เซิ่นที่ได้สัดส่วนอย่างสมบูรณ์แบบ
ลู่เซิ่นมีระเบียบวินัยในตัวเองมาโดยตลอด และไปออกกำลังกายที่โรงยิมเป็นประจำ ดังนั้นถึงแม้ว่าเมื่อตอนสวมเสื้อผ้า จะไม่สามารถมองเห็น แต่เมื่อถอดเสื้อผ้าออก กล้ามเนื้อด้านหลังมันชัดเจนมาก ด้านบนยังมีรอยแดงจางๆ อยู่ นั่นเป็นสิ่งที่เมื่อคืนวาน ฉินซีอดไม่ได้ที่จะข่วนเอาไว้
เห็นได้ชัดว่า เมื่อคืนพวกเขาสองคนได้ทำทุกอย่าง เมื่อฉินซีมองไปที่ร่องรอยพวกนั้น ก็รู้สึกร้อนที่แก้มทันที เมื่อรู้สึกว่าลู่เซิ่นจะหันหน้ากลับมา ก็รีบหลับตาลงอย่างรวดเร็ว
เธอแกล้งทำเป็นหลับไม่ค่อยเก่ง อาจจะถูกลู่เซิ่นมองผ่านๆ ก็ดูออกแล้ว ไม่อย่างนั้นลู่เซิ่นจะไม่แต่งตัวให้เสร็จ แล้วมายืนอยู่ข้างเตียง พูดช้าๆ ไม่รีบร้อนว่า“ตื่นแล้วก็รีบๆ ลุกสิ จะให้คนขับรถส่งคุณกลับระหว่างทาง หรือว่าคุณอยากอยู่ที่นี่อยู่กับแม่ของผม?เธออาจจะเหลืออาหารกลางวัน……”
ฉินซีลืมตาขึ้นในทันที“งั้นคุณรอฉันก่อน”
ลู่เซิ่นมองดูเธอรีบร้อนวิ่งขึ้นมาสวมเสื้อผ้า และเนื่องจากการเคลื่อนไหวที่มากเกินไป กล้ามเนื้อที่เจ็บจึงโค้งงอ มุมปากอดไม่ได้ที่จะกระตุกส่วนโค้งที่ไม่ชัดเจนออกมา
โชคดีที่ฉินซีไม่ได้เห็นมัน ไม่อย่างนั้นอาจจะเป็น“ลมฉาวโฉ่กับฝนเลือด”ได้อีกครั้ง
ทั้งสองคนเก็บข้าวเก็บของ เมื่อเปิดประตูก็พบเข้ากับสูหวั่น ที่กำลังจะมาเคาะประตูเพื่อปลุกพวกเขา
สูหวั่นดูเหมือนจะลืมสิ่งที่ลู่เซิ่นพูดเมื่อคืน และยิ้มหวานให้เขา“พวกคุณตื่นแล้วเหรอคะ?คุณป้าให้ฉันมาตามพวกคุณไปทานอาหารค่ะ”
แต่ลู่เซิ่นกลับเก็บสีหน้าที่ดีเมื่อกี้ไว้ หันไปแสดงอีกสีหน้า เพื่อให้คนอื่นไม่สามารถรับรู้ได้ พยักหน้าอย่างเย็นชา แล้วดึงฉินซีลงไปชั้นล่าง
ฉินซีหันหน้ากลับไปมองทางเดิม ที่สูหวั่นยืนอยู่ แล้วหันหน้ากลับคิดราวกับคิดอะไรบางอย่าง
ในตอนแรกฉินซีคิดว่าแค่อาหารเช้า แล้วจะสามารถออกจากตระกูลลู่ได้ ไม่คิดว่าเมื่อเดินไปถึงห้องอาหาร กลับพบว่า มีคนนั่งอยู่ที่โต๊ะมากกว่าเมื่อคืนถึงสองคน
เธอมองอย่างระมัดระวัง
ผู้ชายกับผู้หญิงที่เพิ่มมา ทั้งคู่ยังดูอายุน้อยมาก ผู้หญิงดูเหมือนจะโตพอๆ กับสูหวั่น คิ้วของเธอค่อนข้างจะคล้ายกับลู่เซิ่น หรือว่านี่……จะเป็นน้องสาวของลู่เซิ่น ลู่โยวโยวเหรอ
และอีกอย่างหนึ่ง ที่มีอาการเอ้อระเหยลอยชายอยู่เล็กน้อย เธอกลับคิดว่ามันดูค้นๆ แต่กลับจำชื่อไม่ได้