Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 988
บทที่ 988 อยู่ในสายตา
การเปลี่ยนสีหน้าของเขาอยู่ในสายตาของฉินซี
แต่เธอทำเป็นเพิกเฉยและหันไปพูดต่อหน้าคนอื่นๆ “ตามกฎบัตรบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปแล้ว หากฉันต้องการขายหุ้นบริษัท ทุกท่านใน ณ ที่นี้มีสิทธิ์ซื้อเป็นอันดับแรก ดังนั้นดิฉันขอใช้โอกาสนี้ถามทุกท่านว่ามีความเต็มใจที่จะซื้อใช่หรือไม่คะ ”
“ฉินซี” มีคนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “การจะซื้อหุ้นต่อจากเธอนั้นต้องใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งมันยากมากที่จะมีใครสักคนจ่ายไหว เธอได้คิดถึงปัญหาตรงนี้ไว้หรือเปล่า”
ฉินซีพยักหน้าให้กับคนที่ถาม “แต่ดิฉันไม่ได้จะขายหุ้นทั้งหมดภายในครั้งเดียว หุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์นี้ ดิฉันสามารถแบ่งขายได้ค่ะ”
เมื่อเธอพูดเช่นนี้ ดวงตาของทุกคนก็เป็นประกายขึ้นมาทันที
เนื่องจากหุ้นของทุกคนในบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปต่างกระจัดกระจายกันไป ดังนั้นฉินซึ่งเทียนจึงมีสิทธิ์ในการบริหารได้อย่างสมบูรณ์ หากสามารถซื้อหุ้นบางส่วนจากฉินซีได้ สิทธิ์ในการออกเสียงของทุกคนในบริษัทจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
เพียงชั่วครู่ จิตใจของทุกคนก็ล่องลอยออกไป
แต่กลับมีเพียงฉินซึ่งเทียนที่ดูจะกำลังโมโห
และต้องโทษเขาที่ทำรายงานผลประกอบการในระยะเวลานี้ออกมาได้ดี เนื่องจากทุกคนไม่จำเป็นต้องรู้ว่าสถานการณ์บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปในตอนนี้เป็นอย่างไร จึงไม่มีใครคิดว่าราคาเสนอของนั้นสูงเกินไปและการประเมินราคานั้นไม่สมเหตุสมผล
ระหว่างที่การประชุมกำลังเกิดคลื่นใต้น้ำ จู่ๆเสียงโทรศัพท์ของฉินซึ่งเทียนก็ดังขึ้น
ฉินซีที่ยืนอยู่ข้างๆเขาลดศีรษะลงก็เห็นสิ่งที่ปรากฏบนหน้าจอ
ในที่สุดหลี่เหวยก็ทนไม่ไหวจนต้องส่งข้อความหาฉินซึ่งเทียน
ฉินซีแอบยิ้มเยาะในใจ
ฉินซึ่งเทียนรีบยกโทรศัพท์ขึ้นมาโดยไม่ให้เธอเห็นข้อความที่หลี่เหวยส่งเข้ามา
แต่ฉินซีก็พอจะเดาได้ ไม่มีอะไรมากไปกว่า หลี่เหวยไม่อยากยอมแพ้ในส่วนผู้ถือหุ้นก็เท่านั้น
เธอเดาไม่ผิด ข้อความสั้นๆของฉินซึ่งเทียนคือข้อความที่หลี่เหวยส่งมาเพื่อกระตุ้น
เธอนั่งอยู่ในห้องรับรองเล็กๆและฟังคำอธิบายทั้งหมดของฉินซี จนตอนนี้เธอนั่งไม่ติดเก้าอี้แล้ว
สำหรับหลี่เหวยแล้ว เธอไม่ได้มีความคิดทางธุรกิจมากนัก แต่มีความทะเยอทะยานไม่น้อย มิฉะนั้น ฉินซึ่งเทียนคงไม่ปล่อยให้เธออยู่ในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป
เธอเก่งเรื่องการเอาเปรียบ แต่ไม่เก่งเรื่องธุรกิจ
ดังนั้นในความคิดของเธอ การที่ฉินซื่อกรุ๊ปมาถึงจุดนี้ได้ก็เป็นเพราะการแก้แค้นของลู่เซิ่น
ตอนนี้ฉินซีกำลังจะลาออก อย่างนั้นแล้วการแก้แค้นของลู่เซิ่นก็จะไม่เกิดขึ้นอีก และบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปก็จะกลับมารุ่งเรืองดังเดิม
แต่ฉินซียังปล่อยหุ้นที่เธอปรารถนามาตลอด!
อย่างที่รู้กัน ตอนที่เหยาหมิ่นและฉินซึ่งเทียนแต่งงานกัน เธอได้รับหุ้นของไปด้วย แม้ปากจะบอกว่าไม่สนใจ และในใจกลับจำไม่เคยลืม
ในความคิดของเธอ ถึงแม้จะให้เธอและฉินหว่านจะได้เข้ามามีตำแหน่งในฉินซื่อกรุ๊ปก็ตาม แต่พวกเธอก็ไม่มีหุ้นอยู่ในมือ สถานะเช่นนี้ก็เท่ากับว่าว่างเปล่า หากวันใดที่ฉินซึ่งเทียนเปลี่ยนความคิดขึ้นมา พวกเธอจะเป็นคนที่ถูกกำจัดออกเร็วที่สุด
แต่ถ้ามีหุ้นก็จะแตกต่างออกไป เพราะพวกเธอจะเป็นผู้นำในบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ฉินซึ่งเทียนจะทำอย่างไรก็ได้
เธอคิดถึงสิ่งนี้มาเป็นเวลาเนิ่นนาน และในที่สุดโอกาสก็มาถึง เธอจะยอมแพ้ได้อย่างไร!
ดังนั้นเธอจึงส่งข้อความถึง ฉินซึ่งเทียนเป็นพิเศษ
“ดิฉันคิดว่าสิ่งที่ฉินซีพูดมานั้นไม่ใช่ไม่มีเหตุผล เธอตระหนักได้ว่าการที่เธออยู่ในบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปต่อไปจะทำให้ต้องตกเป็นเป้าหมาย ซึ่งต้นทุนและราคาที่ต้องจ่ายก็สูงมากจึงตัดสินใจที่จะขายหุ้น โดยแรงจูงใจนี้ค่อนข้างสมเหตุสมผล สำหรับเรื่องการเสนอราคาของเธอ ดิฉันคิดว่าไม่สูงมากนัก ท้ายที่สุดแล้วฉินซื่อกรุ๊ปมีศักยภาพในการพัฒนา ถึงแม้จะต้องประสบกับความยากลำบาก แต่หากฉินซีลาออก ไม่มีการแทรกแซงจากซิ่น การพัฒนาในภายภาคหน้าจะต้องดำเนินไปได้ด้วยดีอย่างแน่นอน เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว ราคาที่เสนอไม่นับว่าสูงค่ะ”
ฉินซึ่งเทียนมองไปที่ข้อความขนาดใหญ่ในโทรศัพท์พลางลดสายตาลง
เขาละอายใจมาตลอดที่ไม่สามารถให้สิ่งตอบแทนกับหลี่เหวยเหมือนอย่างที่เหยาหมิ่นเคยได้รับ และตอนนี้…ก็เป็นโอกาสอันดีที่จะชดเชย
เพียงแต่การเสนอราคาของฉินซีนั้น…
เขายังคงก้มหน้าลงด้วยความลังเล เวลานี้มีกรรมการคนอื่นๆเริ่มยกมือขึ้น “ฉินซี หากจะซื้อหุ้น ต้องทำตามข้อตกลงอะไรบ้าง”
ฉินซีเหลือบมองฉินซึ่งเทียนพลางตอบกลับอย่างสุภาพ “เรื่องรายละเอียด ดิฉันจำเป็นต้องปรึกษาทนายความก่อน หากทุกท่านยินดีที่จะซื้อสามารถติดต่อกับดิฉันได้เลย หากหุ้นนี้ยังขายไม่หมด ดิฉันจะนำเสนอต่อผู้ถือหุ้นในเช้าวันนี้เพื่อให้มีโอกาสซื้อกันทุกคนค่ะ
ด้านหนึ่งกลัวว่าอำนาจในการบริหารจะน้อยลง อีกด้านหนึ่งคือความรู้สึกที่อยากจะชดเชยต่อลูกสาวและหลี่เหวย จากแรงกดดันทั้งสองอย่างทำให้ในที่สุดฉินซึ่งเทียนก็ตัดสินใจได้ เขาจึงเงยหน้าขึ้น
“ฉินซี” เขาพูดอย่างใจเย็น “ฉันตกลงที่จะซื้อหุ้นทั้งหมดของเธอ”
เมื่อฉินซึ่งเทียนเอ่ยปาก ทุกคนก็ต่างพากันเงียบ
หุ้นทั้งหมด…เมื่อแปลงเป็นราคาแล้ว เป็นเหมือนตัวเลขทางดาราศาสตร์
ฉินซึ่งเทียน…มีเงินมากมายขนาดนั้นเชียวหรือ
การแสดงออกถึงความประหลาดใจของฉินซีไม่ชัดเจนเท่าคนอื่นๆ เธอหันกลับมาและมองฉินซึ่งเทียนและพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ประธานฉินคะ ดิฉันเข้าใจต่อความรู้สึกที่คุณมีต่อบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ที่คุณไม่เต็มใจจะปล่อยให้หุ้นของบริษัทต้องตกอยู่ในมือของผู้อื่น แต่…การโอนหุ้นของดิฉันในครั้งนี้ รับเฉพาะเงินสดเท่านั้นคะ”
คำพูดของฉินซีทำให้ทุกคนเบิกตากว้าง
รับเงินสดเท่านั้น!
ทุกคนรู้ดีว่าการซื้อขายหุ้นแบ่งออกเป็นการซื้อด้วยเงินสดกับการซื้อด้วยหุ้น อย่างแรกนั้นเข้าใจได้ แต่อย่างหลังนั่นหมายถึงการนำหุ้นจากบริษัทอื่นมาแลก
อย่างไรก็ตามการซื้อขายหุ้นที่มียอดเงินเข้ามาเกี่ยวข้องนั้นมีไม่มาก ดังนั้นธุรกรรมโดยส่วนใหญ่ล้วนเป็นการซื้อขายหุ้น
แต่ฉินซีกลับต้องการเงินสด…
ไม่กี่คนก่อนหน้านี้ที่พร้อมจะซื้อ ต่างพากันถอนตัวกันหมด
มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถหาเงินมากขนาดนี้ได้ในคราวเดียว
เมื่อนำหุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปมาแปลงเป็นเงินสด นับเป็นตัวเลขที่ไม่น้อยเลยทีเดียว…
ในขณะที่เขากำลังลังเล โทรศัพท์ในมือสั่นไม่หยุด
ฉินซีไม่จำเป็นต้องมองมันก็รู้ว่าหลี่เหวยกำลังเร่งเร้าให้ฉินซึ่งเทียนตอบตกลง
เธอเดาถูก ข้อความสองสามข้อความที่หลี่เหวยส่งติดต่อกันหมายความว่าเธอกำลังอดรนทนรอไม่ไหวแล้ว
“ไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงินสดเหรอคะ”
“ผมขอคำนวณสักครู่ ตามเงินสดที่มีอยู่ในบ้านตอนนี้บวกกับกัดฟันไปยืมมาอีกหน่อยก็น่าจะพอ”
“ที่รักคะ นี่เป็นเล่ห์เหลี่ยมสุดท้ายของฉินซีแล้ว คุณห้ามกลัวเธอเด็ดขาด”
ข้อความสุดท้ายของหลี่เหวยเหมือนเป็นคำเตือนให้กับฉินซึ่งเทียน จากนั้นเขาเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่เธอจะบอกก็คือ ทำไมฉินซีถึงยอมจากไปอย่างง่ายดายเช่นนี้!
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการสร้างความอับอายให้กับทุกคน ใช้การซื้อขายเงินสดมาทำให้ทุกคนตกใจ หลังจากนั้นก็ทำทีเป็นเสียใจเพราะไม่มีใครสามารถซื้อหุ้นในมือเธอได้ ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถลาออกได้
ฉินซึ่งเทียนกำหมัดแน่น
เขาไม่มีวันปล่อยให้ฉินซีชนะเด็ดขาด