Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - บทที่ 1563 วิธีการ
“……ก็ได้” หลังจากนั้นไม่นาน โจวเอ้อถึงได้ใจเย็นลง แล้วก็ตอบรับ
พวกเขาไม่ถือว่าเป็นคนดีร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะมีชีวิตรอดมาจากสนามที่นองเลือดนี้ได้อย่างไร
แต่พวกเขาแตกต่างจากองค์กรที่เลือดเย็นไร้มนุษยธรรม ก็คือพวกเขาไม่เคยเป็นคนที่ไม่มีบรรทัดฐาน จะไม่ลงมือกับผู้คนโดยไม่มีเหตุผล
เพียงแต่ตอนนี้ทำตามวิธีของฉินซี เธอกับลู่เซิ่นมาถึงจุดที่พวกเขาจำเป็นต้องทำเช่นนี้
ในเมื่อเป็นเช่นนี้…….โจวเอ้อก็ไม่ได้มีท่าทีหลีกเลี่ยงหรือขัดขวางอะไร
ใบหน้าของฉินซีส่องประกายความสุขออกมา
เธอก็ไม่ค่อยมั่นใจว่าจะเกลี้ยกล่อมโจวเอ้อได้มากแค่ไหน ในสถานการณ์นี้ ก็ถือว่าไม่ได้พยายามมากเท่าไหร่
คนอย่างโจวเอ้อถ้ารับปากแล้ว ก็จะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย และเวลาต่อไปก็จะเริ่มพิจารณาขั้นตอนอย่างจริงจังแล้ว “เวินจิ้งมาบาร์ของฉันค่อนข้างบ่อย ถือว่าโอกาสเยอะพอสมควร พวกคุณคิดที่จะ……..ใช้ยา หรือใช้วิธีอื่น?”
ฉินซีกับลู่เซิ่นมองหน้ากัน เธอกำลังจะพูด แต่กลับถูกลู่เซิ่นห้ามไว้ แย่งพูดก่อน “ยาดีกว่า”
ฉินซีขมวดคิ้วเล็กน้อย หันไปมองลู่เซิ่น
ด้วยความเข้าใจโดยปริยายระหว่างคนทั้งสอง เธอจึงรู้จุดประสงค์ของการกระทำของลู่เซิ่นอย่างแน่นอน
หรือบางทีลู่เซิ่นอาจจะรู้สึกว่าเรื่องแบบนี้ไม่ควรจะออกหน้า ดังนั้นจึงพูดประโยคแบบนี้ด้วยตัวเอง
ฉินซียิ้มจาง ๆ ในใจ เธอสามารถเข้าใจความคิดของลู่เซิ่น
นั่นคือ….ไม่เวลาอยู่ข้างนอกเธอจะเป็นคนแบบไหนก็ตาม แต่ในใจของลู่เซิ่น หวังว่าเธอจะเป็นคนที่สะอาดและไร้ที่ติเสมอ และอย่าเปื้อนโคลนและทรายเพราะเขา
…….ถ้าให้คนในองค์กรรู้ ว่าเธอถูกยกให้เป็นตุ๊กตาแก้วเช่นนี้ เกรงว่าคนพวกนั้นจะตกตะลึงจนลูกตาหล่นลงมา
แน่นอนว่าลู่เซิ่นสัมผัสได้ถึงการจ้องมองของฉินซี เขาก็ไม่รู้สึกละอาย หันมายิ้มให้ฉินซี แล้วหันไปมองโจวเอ้อ
โจวเอ้อไม่เห็นท่าทางเล็กๆน้อยๆของทั้งสองคน กำลังคิดวางแผนอย่างรอบครอบ “ถ้าใช่ยา…….จริงๆแล้วก็ง่ายมาก เวินจิ้งเป็นคนไม่ค่อยระแวดระวัง และรู้จักบาร์เทนเดอร์ของเราเป็นอย่างดี เมื่อถึงเวลาก็ให้บาร์จัดการ ไม่ยาก——“
ความสนใจของฉินซีถูกคำพูดของเขาเบี่ยงเบนไป แต่ยิ่งฟังคิ้วก็ยิ่งขมวดมากขึ้น ไม่รอโจวเอ้อพูดจบ ก็ขัดจังหวะเขาทันที “ไม่ได้”
โจวเอ้อฟังน้ำเสียงของเธอแข็งแกร่ง นึกว่าแผนการของตัวเองมีข้อบกพร่อง เงยหน้าขึ้นมองเธอ “ทำไม?มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?”
ฉินซีเม้มปาก “พวกเราจะลากคุณลงไปในน้ำอีกไม่ได้แล้ว”
โจวเอ้อเป็นใบ้ไปครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ลากฉันลงไปในน้ำหมายความว่าอย่างไร……..”
น้ำเสียงของฉินซีแน่วแน่ “แผนการของพวกเราไม่มีทางพลาดอย่างเด็ดขาด ฉันมั่นใจว่าวินจิ้งกับมู่วี่สิงตอนนี้ต่างรู้สึกในใจ ฉันไม่ค่อยรู้นิสัยของมู่วี่สิงเท่าไหร่ แม้ว่าจะได้เวินจิ้งคืนกลับมาใหม่ เขาอาจจะหงุดหงิดเพราะพวกเราวางยาเวินจิ้ง ถ้าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวโยงไปถึงคุณ พวกเราก็จะเจรจากับเขาโดยตรง บอกว่าเรื่องนี้พวกเราเป็นคนทำ ยังมีเหตุผลที่จะอธิบายได้ แต่ถ้าคุณถูกจับบีบไว้ตรงกลาง…….คุณไม่ได้มีเหตุผลอะไรที่จะต้องลงมือทำ สิ่งที่คุณพูดได้ก็คือเพื่อช่วยพวกเรา และเมื่อมู่วี่สิงใจเย็นลงแล้ว แล้วถ้าเขาคิดจะเล่นงานคุณ ก็จะทำให้คุณลำบากไปด้วย”
โจวเอ้อเกลี้ยกล่อมไม่สำเร็จ “แต่ในเมื่อเวินจิ้งเกิดเรื่องในที่ของฉัน มู่วี่สิงก็รู้ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับลู่เซิ่นดี เขาไม่มีทางที่จะไม่สงสัยฉันไปด้วย”
ฉินซีพยักหน้าเล็กน้อย “แต่เขาก็ทำได้แค่สงสัย แต่ไม่มีหลักฐานอะไร บาร์ของคุณมีกล้องวงจรปิดใช่ไหม หากคุณปิดกล้องวงจรหรือตัดคลิปวิดีโอนี้ทิ้งเพื่อปกป้องบาร์เทนเดอร์ที่วางยา ก็จะชัดเจนเกินไป ถ้าคุณไม่กำจัดหลักฐานนี้ เรื่องบาร์เทนเดอร์ของคุณวางยาถ้าให้มู่วี่สิงรู้แล้วเผยแพร่ออกไป ก็จะมีผลกระทบอย่างมากต่อบาร์ของคุณ”
ฉินซีพูดเช่นนี้ โจวเอ้อไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ
เขาเห็นลู่เซิ่นเป็นพี่น้อง แต่บาร์ของเขาก็คือชีวิตของเขา ถ้าหากเขาคิดที่จะช่วยลู่เซิ่นแต่ไม่ได้คำนึกถึงจุดนี้ เมื่อพิจารณาคำพูดที่ละเอียดถี่ถ้วนของฉินซีแล้ว โจวเอ้อก็คิดว่าการที่บาร์เทนเดอร์วางยามีความเสี่ยงมากจริงๆ
ฉินซีเห็นดวงตาของโจวเอ้อที่หลบตา ก็รู้ว่าเขาใจเย็นลงแล้ว
แน่นอนว่าฉินซีรู้ดีว่าช่วงนี้โจวเอ้อช่วยพวกเขามาไม่น้อย แต่เธอไม่เคยคิดว่าการช่วยเหลือจากผู้อื่นเป็นเรื่องธรรมชาติที่ควรทำ
เนื่องจากลู่เซิ่นกับโจวเอ้อมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก ดังนั้นเป็นความเคยชินที่อีกฝ่ายจะละเลยและคิดเผื่ออีกฝ่าย นี่ไม่ใช่ความผิดของลู่เซิ่น ฉินซีเชื่อแบบนั้น ถ้าวันนี้ลู่เซิ่นกับโจวเอ้อสลับจุดยืนกัน โจวเอ้อก็จะไม่รู้สึกว่ามันผิดปกติอะไร
แต่ฉินซีจำเป็นต้องคิดเผื่อเขาให้มากๆ
ไม่ว่าเพื่อนจะสนิทสนมกันแค่ไหน ก็ไม่สามารถเรียกร้องอะไรโดยปราศจากเงื่อนไขได้
ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้โจวเอ้อมาทำคนเดียว สิ่งที่สามารถเลี่ยงได้ ก็จะไม่จำเป็นต้องลากเขาลงไปในน้ำด้วย
และลู่เซิ่นที่นั่งอยู่ข้างๆ ไม่พูดอะไร ในเวลานี้ก็เริ่มพูดขึ้น
เขามองไปที่โจวเอ้อและพยักหน้าเล็กน้อย “…… สิ่งที่ฉินซีพูดนั้นสมเหตุสมผล โจวเอ้อฉันมีวิธีที่ดีกว่านี้ คุณไม่จำเป็นต้องเสี่ยงด้วย”
โจวเอ้อเงยหน้าขึ้นและมองเขา “วิธีอะไร?”
ลู่เซิ่นหัวเราะ “มันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยแค่ขยับนิ้วมือก็ได้แล้ว ในเมืองหนานฉันยังมีคนอยู่ จะหาคนที่สามารถทำงานแบบนี้และยังไม่โดนจับได้ ก็หาตัวไม่ยาก”
โจวเอ้อยังไม่ได้พูด ฉินซีก็พูดขัดจังหวะลู่เซิ่นแล้ว “ไม่ได้”
ใบหน้าของโจวเอ้อและลู่เซิ่นแสดงท่าทางงงงวยพร้อมกัน
ฉินซีแสดงท่าทีที่แย่ออกมา และเหยียดนิ้วชี้ไปที่หน้าอกของลู่เซิ่น “ฉันถามคุณ หากคุณคือมู่วี่สิง ฉันคือเวินจิ้ง และมู่วี่สิงคือคุณพวกเราเปลี่ยนบทบาทกัน มู่วี่สิงวางยาโป๊ให้ฉัน เธอจะคิดยังไง?”
ลู่เซิ่นตกตะลึง สีหน้าดูไม่สบายใจ เม้มปากไม่พูดอะไร
โจวเอ้อพยักหน้าอย่างชัดเจน “จริงสิ…….ถ้าเป็นฉัน ฉันก็จะคิดว่าคุณคิดอะไรกับเวินจิ้ง ถึงได้วางยา”
ฉินซีพยักหน้า “เป็นเช่นนี้ล่ะ”
โจวเอ้อไม่ใช่คนโง่ เมื่อพูดขนาดนี้แล้ว เขากลอกตาและมองไปที่ลู่เซิ่นที่เงียบ และเข้าใจในทันที
……ลู่เซิ่นอาจจะไม่เข้าใจว่ามู่วี่สิงจะมีปฏิกิริยาอย่างไร แต่ถ้าพวกเขาไม่ใช้คนของโจวเอ้อ และไม่ใช้คนของเขาที่เมืองหนาน เช่นนั้นก็มีแค่ทางเลือกเดียวเท่านั้น
ลู่เซิ่นตั้งใจจะหลีกเลี่ยงตัวเลือกนี้ จึงได้แย่งพูดใช่ไหม
เพียงแค่……ดูเหมือนตอนนี้พวกเขาจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงตัวเลือกนี้ได้แล้ว
แต่ตัวเลือกนี้ โจวเอ้อก็ลำบากใจที่จะเอ่ยออกมา จึงทำได้เพียงหุบปาก และอยู่เงียบๆเหมือนลู่เซิ่น
สุดท้ายคนที่พูดก็คือฉินซี
เธอมองดูคนเงียบสองคน ไม่รู้ว่าอ่านความหมายของพวกเขาสองคนออกไหม แต่น้ำเสียงก็ยังพูดอย่างเรียบง่าย
“ดังนั้น ทางเลือกที่ดีที่สุดคือ ให้ฉันไป”