Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - ตอนที่ 41 ฉันจะแต่งงานเข้าไปในครอบครัวตระกูลจิ๋นตามกำหนด!
- Home
- Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา
- ตอนที่ 41 ฉันจะแต่งงานเข้าไปในครอบครัวตระกูลจิ๋นตามกำหนด!
ตอนที่ 41 ฉันจะแต่งงานเข้าไปในครอบครัวตระกูลจิ๋นตามกำหนด!
ตระกูลจิ๋นในเวลานี้ คุณหญิงย่าจิ๋นกำลังนั่งขมวดคิ้วเป็นปมอยู่บนโซฟา ทางด้านหยูเจียห้วยและจิ๋นหยวนเฟิง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นไม่หยุดหย่อน ส่วนมากล้วนโทรมาถามว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
การแต่งงานระหว่างจิ๋นลี่ยวนและยินเสี้ยวเสี้ยว ในกลุ่มชนชั้นสูงไปที่รู้กันโดยทั่ว แต่ดันมาเกิดเรื่องวันนี้ขึ้นมา
หลังจากวางสายไปแล้วนั้น เห็นได้ชัดว่าหยูเจียห้วยไม่พอใจเป็นอย่างมาก ความรู้สึกดีเล็กๆน้อยๆที่มีต่อยินเสี้ยวเสี้ยวก็หายไปจนหมด
“เสี้ยวเสี้ยว ครั้งนี้เธอทำเกินไปหรือเปล่า” คุณหญิงย่าจิ๋นพูดขึ้น โทรศัพท์เลือกโหมดเปิดลำโพงตั้งแต่ตอนที่ยินเสี้ยวเสี้ยวโทรมา คำพูดของคุณหญิงย่าจิ๋น เคล้าไปด้วยความไม่พอใจ :“ตระกูลจิ๋นของฉันคงไม่อาจเก็บเธอเอาไว้ได้”
ตั้งแต่ต้นจนจบ คุณหญิงย่าจิ๋นพูดด้วยความประชดประชัน น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
ยินเสี้ยวเสี้ยวระงับอารมณ์ของตนเองเอาไว้ แล้วพูดขึ้น:“คุณย่าคะ ฉันขอโทษ ครั้งนี้ฉันเป็นคนประมาทเอง จึงทำให้เกิดเรื่องคล้ายหน้ากับตระกูลจิ๋น แต่ว่า ก่อนที่หนูจะแต่งงานกับจิ๋นลี่ยวน หนูจะล้างมลทินให้กับตนเอง และจะล้างมลทินเรื่องที่ทำให้ตระกูลจิ๋นต้องอับอายขายหน้าค่ะ”
กัดฟันกรอด ยินเสี้ยวเสี้ยวจึงจะสามารถพูดคำนี้ออกไป แต่ว่าสำหรับการตัดสินใจในครั้งนี้ของเธอแล้วนั้น เธอไม่ได้รู้สึกเสียใจ
“หืม? แล้วเธอคิดจะทำยังไง?” คุณหญิงย่าจิ๋นขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าเธอไม่เชื่อว่ายินเสี้ยวเสี้ยวจะทำได้ “เธอต้องรู้ก่อน ครั้งนี้เธอยืนอยู่ท่ามกลางการวิพากย์วิจารณ์ของผู้คนในสังคม ห้าปีที่ผ่านมาเธอยังไม่สามารถล้างมลทินให้กับชื่อเสียงของตนเองได้ ตอนนี้เกิดเรื่องนี้ขึ้น แล้วเธอจะล้างมลทินยังไง? ใช้อะไรไปล้างมลทิน?”
ยินเสี้ยวเสี้ยวเงียบไปสองวินาที จากนั้นรวบรวมความกล้าทั้งหมดแล้วพูดขึ้น “คุณย่าคะ ฉันจะใช้ตัวเองล้างมลทินให้กับตัวเองค่ะ ใช้เรือนร่างของตนเองล้างมลทิน ฉันจะทำให้ทุกคนรู้ว่า ฉันยินเสี้ยวเสี้ยวเป็นผู้หญิงบริสุทธิ์ แต่งงานกับจิ๋นลี่ยวน เขาคือผู้ชายคนแรกของฉันยินเสี้ยวเสี้ยว!”
กลุ่มคนในปลายสายถึงกับนิ่งค้าง วันที่จิ๋นลี่ยวนพายินเสี้ยวเสี้ยวมาที่บ้านคนตระกูลจิ๋นก็เห็นผลการตรวจสอบของจิ๋นลี่ยวนแล้ว ยินเสี้ยวเสี้ยวเป็นผู้หญิงบริสุทธิ์ แต่ความบริสุทธิ์ของผู้หญิงนั้นไม่สามารถพูดได้เพียงแค่ลมปาก เหมือนกับเรื่องของยินเสี้ยวเสี้ยว ห้าปีที่ผ่านมานั้น เธอไม่สามารถบอกกับทุกคนได้ว่าตนเองบริสุทธิ์ เพราะอย่างนั้นจะทำให้กลายเป็นเรื่องตลกก็เท่านั้น
อดทนมาห้าปี ยินเสี้ยวเสี้ยวคิดมาตลอด ว่าสุดท้ายแล้วเธอต้องพบเจอกับคนที่เข้าใจเธอ ทว่ากลับคิดไม่ถึง ท้ายที่สุดแล้ว เพื่อที่จะปกป้องตนเอง ปกป้องจิ๋นลี่ยวน รักษาการแต่งงานของพวกเขา ท้ายที่สุดเธอก็ต้องเดินมาถึงขั้นนี้
หลังจากที่เงียบอยู่นาน คุณหญิงย่าจิ๋นจึงเอ่ยปากพูดขึ้น :“ได้ ขอเพียงแค่เธอรับรองได้ เช่นนั้นตระกูลจิ๋นของฉันก็จะเปิดประตูต้อนรับ ในทางกลับกัน ถ้าเธอไม่สามารถรับรองได้ ถ้าอย่างนั้นเธอก็ต้องหย่าขาดกับจิ๋นลี่ยวน”
ไม่ได้ตกใจกับคำพูดของคุณหญิงย่าจิ๋น ยินเสี้ยวเสี้ยวตอบตกลงเบาๆ แล้วค่อยวางสาย
เช้าตรู่วันถัดมา ตระกูลยินพึ่งรู้ว่ายินเสี้ยวเสี้ยวเข้าโรงพยาบาล คนแรกที่ไปถึงโรงพยาบาลคือยินจื่อเจิ้น
มองดูพี่ชายเดินเข้ามา มุมปากของยินเสี้ยวเสี้ยวคลายยิ้ม ร้องเรียกเสียงเบา :“พี่คะ”
คำพูดแรกของยินจื่อเจิ้นกลับเป็นคำว่า :“เสี้ยวเสี้ยว บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า? ไอ้สารเลวนั่นอยู่ที่ไหน พี่จะไปแก้แค้นให้เธอเอง?”
นี่คือพี่ชายของยินเสี้ยวเสี้ยว คำพูดแรกล้วนเป็นคำพูดเป็นห่วงเธอ คำพูดที่สองล้วนเป็นคำพูดที่บอกว่าจะแก้แค้นให้เธอ ส่ายหน้าเบาๆ ยินเสี้ยวเสี้ยวหมายความว่าไม่ต้อง เพราะว่าจิ๋นลี่ยวนได้จัดการผู้จัดการจางเรียบร้อยแล้ว โชคดีที่เธอไม่ได้เป็นอะไรมาก พูดคุยกับยินจื่อเจิ้นได้ไม่นาน คนในตระกูลยินก็มาถึง
ยินเสี้ยวเสี้ยวนั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วย ยินจื่อเจิ้นยืนอยู่ข้างๆเธอ บนพื้นนั้นมีคนอื่นๆของตระกูลยินยืนเอาไว้อีกสามคน แสดงจุดยืนของทุกคนอย่างชัดเจน
“เสี้ยวเสี้ยวอ๊า หนูไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ได้รับบาดเจ็บที่ไหนรึเปล่า?” หลี่หมึ้งเมื่อเดินเข้ามาถึงก็พุ่งตัวมาบนเตียงของยินเสี้ยวเสี้ยว ใบหน้าของเธอแต้มไปด้วยความเป็นห่วงจอมปลอม จากนั้นก็ด่าทอผู้จัดการจาง:“ผู้จัดการจางนั่นไม่ใช่คน ถึงกล้าคิดที่จะรังแกลูกสาวสุดที่รักของฉัน หน้าเนื้อใจเสือจริงๆ!”
ยินเสี้ยวเสี้ยวคลายยิ้มบางๆมองดูการแสดงละครของหลี่หมึ้ง เธอรู้ดี ว่าถ้ายินจื่อเจิ้นไม่อยู่ที่นี่ หลี่หมึ้งไม่มีวันแสดงท่าที‘เป็นห่วง’เธอขนาดนี้ ไม่แน่ว่าคำพูดแรกอาจจะพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือก่อนพายุใหญ่จะมาคลื่นลมมักเงียบสงบชัดๆ
“พี่คะ พี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ? ตอนที่ฉันรู้เรื่องตกใจแทบแย่”ยินรั่วอวิ๋นเดินขึ้นหน้า ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด:“ทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเอง ถ้าฉันไม่ไปหาเซี่ยงเฉิงกลางคัน ก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับแม่ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเอง ความผิดของฉัน……”
ขณะที่พูดนั้น ยินรั่วอวิ๋นทำหน้าจะร้องไห้ หลี่หมึ้งที่ยืนอยู่ข้างๆรีบเข้าไปปลอบโยน:“รั่วอวิ๋นอ๊า เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของลูก ลุงจางคิดไม่ซื่อกับพี่สาวลูกมาโดยตลอด ต่อให้ไม่ใช่ครั้งนี้ ครั้งหน้าก็ต้องหลอกพี่สาวลูกไป เรื่องนี้จะโทษลูกได้ยังไง?”
คำพูดเรียบเพียงไม่กี่คำ ก็ดึงตัวออกจากเรื่องนี้ไปในทันที เพียงครู่หนึ่งก็กลายเป็นว่าผู้จัดการจางคิดไม่ซื่อกับยินเสี้ยวเสี้ยว เรื่องนี้กลายเป็นว่าควรจะกล่าวโทษในความลามกของผู้จัดการจาง รวมถึงความสวยของยินเสี้ยวเสี้ยว……
หลี่หมึ้งและยินรั่วอวิ๋นคนหนึ่งร้องคนหนึ่งรับ ในเมื่อไม่มีคนพูดต่อประโยคเขา จึงหันไปทางยินไป่ฝันที่ยืนอยู่ข้างๆ คำพูดนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกเสียใจ:“ไป่ฝัน คุณต้องทวงคืนความยุติธรรมให้กับรั่วอวิ๋นของเรานะคะ ตอนนี้เสี้ยวเสี้ยวกลายเป็นแบบนี้แล้ว จะทำลายรั่วอวิ๋นไปด้วยไม่ได้ เธอต้องแต่งงานกับเซี่ยงเฉิงนะคะ”
เมื่อคำพูดนี้ถูกพูดออกมา ยินไป่ฝันจึงมีโอกาสพูดขึ้น คำพูดแรกของเขาจี้แทงใจยินเสี้ยวเสี้ยว แววตาคู่นั้นเคล้าไปด้วยความไม่พอใจ:“เสี้ยวเสี้ยว เรื่องนี้แกคิดจะทำยังไงต่อ? จิ๋นลี่ยวนจะยอมแต่งงานกับแกอยู่ไหม?”
ภายในใจของยินเสี้ยวเสี้ยวมีความไม่พอใจยินไป่ฝันอยู่แล้ว ตอนนี้เขากลับพูดจี้จุดเธอแบบนี้ ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่มีเวลาที่จะเสียใจอีกแล้ว มองนิ่งๆไปที่ยินไป่ฝัน จากนั้นพูดขึ้นเสียงเรียบ:“พ่อคะ แล้วพ่อคิดจะทำยังไงต่อไปคะ?”
ไม่ได้ตอบคำถามยินไป่ฝัน ยินเสี้ยวเสี้ยวเพียงแต่ถามคำถามเขา ยินจื่อเจิ้นที่ยืนอยู่ข้างๆหรี่ตาลง มองดูหลี่หมึ้งและยินรั่วอวิ๋น ทันใดนั้นเองก็เข้าใจบางอย่างขึ้นมา แววตาของเขายิ่งอยู่ก็ยิ่งเย็นยะเยือก
ตั้งแต่เริ่มต้นเขาก็รู้ว่าบางทีอาจจะเป็นหลี่หมึ้งต้องการที่จะจัดการยินเสี้ยวเสี้ยว เพียงแต่ตอนนี้ดูท่าแล้วบางทีคนในตระกูลยินทั้งสามคนล้วนไม่อยากให้เธอได้ดี ไม่อย่างนั้นจะเกิดเรื่องทุเรศๆแบบนี้ขึ้นได้ยังไงทั้งๆที่พึ่งประกาศเรื่องงานแต่งงานออกไป?
หัวใจ ยิ่งอยู่ก็ยิ่งเย็นวาบ แววตาที่มองดูยินเสี้ยวเสี้ยว ก็มีความทะนุถนอมมากขึ้น
น้องสาวของเขา ตลอดห้าปีที่ผ่านมาต้องใช้ชีวิตยังไง?
ยินไป่ฝันเมื่อได้ยินยินเสี้ยวเสี้ยวพูดขึ้น แววตาของเขาเผยความดีใจแวบออกมาครู่หนึ่ง พยายามที่จะเก็บซ่อนมันเอาไว้แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาของยินเสี้ยวเสี้ยว ขมวดคิ้วเป็นปม คล้ายว่ายินยอมเสียอย่างนั้น ยินไป่ฝันพูดขึ้น:“เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ฉันว่าจิ๋นลี่ยวนก็ไม่ยอมที่จะแต่งงานกับแกอีก ตอนนี้ชื่อเสียงของแกก็ถูกทำลายจนป่นปี้ ฉันว่า แกแต่งงานกับผู้จัดการจางเถอะ”
“พ่อ!” เขาที่พึ่งพูดจบ ยินจื่อเจิ้นเป็นคนแรกที่ไม่เห็นด้วย น้ำเสียงของเขาเคล้าไปด้วยความเย็นชา “เสี้ยวเสี้ยวพึ่งหนีรอดออกมาจากน้ำมือผู้จัดการจาง ตอนนี้พ่อกลับจะส่งเธอกลับไปอีก? พ่อคิดที่จะทำลายชีวิตเธอหรือไง?”
ยินจื่อเจิ้นพูดด้วยความชัดเจน คำว่า‘อีก’เพียงคำเดียว เป็นการแสดงออกที่ชัดเจนว่าเขารู้นิสัยและพฤติกรรมของคนทั้งสาม แต่เพราะเขาเป็นลูกของพ่อ ดังนั้นจึงพูดอะไรมากเกินไปก็คงไม่ดี แต่ไม่ว่าอย่างไรเสี้ยวเสี้ยวก็เป็นน้องสาวของเขา เขาไม่ต้องการเห็นชีวิตของยินเสี้ยวเสี้ยวต้องถูกทำลายไปทั้งชีวิต!
สีหน้าของยินไป่ฝันประหม่าขึ้นมา มองไปทางยินเสี้ยวเสี้ยวด้วยความรวดเร็ว แต่กลับพบว่ายินเสี้ยวเสี้ยวไม่มีปฎิกิริยาใดๆ ตอนนั้นเขารู้เลยว่ายินเสี้ยวเสี้ยวรับรู้แล้วว่าเรื่องนี้เป็นยังไงกันแน่ ความกระอักกระอ่วนแผ่ซ่าน เหยียดตัวตรง ทำหน้านิ่ง ทำทีเป็นผู้ที่อำนาจในตระกูลยินขึ้นมาในทันที เขาพูดเสียงดัง:“ทำลายชีวิตของมัน? คนที่ทำลายชีวิตของมันคือฉันหรอ? เป็นตัวมันเองไม่ใช่หรือไง!ถ้ามันรู้จักหวงเนื้อหวงตัวรักตัวเอง หลายปีที่ผ่านมานี้จะเกิดข่าวลือน่ารังเกียจพวกนั้นได้ยังไง พูดถึงคุณหนูใหญ่ตระกูยิน จะมีใครไม่รู้บ้างว่ามัน ‘จิตใจโหดร้าย พฤติกรรมไม่ดี’’!เมื่อวานมันทำให้เกิดเรื่องใหญ่แบบนั้นขึ้น แกคิดว่าจิ๋นลี่ยวนจะยอมแต่งงานกับมันอยู่หรือไง? มันในตอนนี้ ชื่อเสียงป่นปี้ ต่อให้ฉันยกสินสอดในการแต่งงานให้มันมากเท่าไหร่ ก็คงไม่มีใครยอมแต่งงานกับผู้หญิงแบบนี้!”
ยินไป่ฝันโมโหมาก ที่ผ่านมานั้นยินจื่อเจิ้นคือความภูมิใจของครอบครัว เป็นคนหนุ่มที่มีความสามารถ อีกทั้งยังเป็นเพื่อนที่ดีกับคุณชายตระกูลจิ๋น ขอเพียงแค่มียินจื่อเจิ้นอยู่ การที่ตระกูลยินอยากเข้าไปอยู่ในสังคมชั้นสูงนั้นไม่เป็นปัญหา แต่ว่าสองพ่อลูกกับมีปัญหากันเพราะยินเสี้ยวเสี้ยวมาโดยตลอด สิ่งนี้จึงทำให้ยินไป่ฝันอยากจะให้ยินเสี้ยวเสี้ยวรีบแต่งงานแล้วออกไปจากตระกูลยิน!เหตุผลที่ลึกซึ้งไปกว่านั้น เขาไม่ต้องการที่จะพูด ความลับนี้มีแค่คนในตระกูลยินเท่านั้นที่รู้ ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่รู้ก็พอแล้ว!
ยินเสี้ยวเสี้ยวฟังคำพูดของยินไป่ฝัน มือน้อยของเธอกำหมัดแน่นใต้ผ้าห่ม เธอก้มหน้าลงโดยไม่พูดอะไร
ยินไป่ฝันก้มหน้ามองดูท่าทางของยินเสี้ยวเสี้ยว ก็ยิ่งโมโห เขาชี้ไปที่เธอแล้วพูดขึ้น:“แกดูสิ แกดูน้องสาวที่แกรักนักรักหนาตั้งแต่ดี ตอนนี้กลายเป็นคนยังไงไปแล้ว? ไม่เชื่อฟังแม้แต่น้อย ตอนนั้นฉันก็บอกให้มันแต่งงานกับผู้จัดการจาง ไม่อย่างนั้นก็คงไม่เกิดเรื่องเหมือนทุกวันนี้ขึ้นมาหรอก? น้องสาวแกมันดื้อด้าน!ไม่ยอมรับในโชคชะตา!ถ้าตอนนั้นแต่งงานไปแล้ว ตอนนี้เธอก็จะกลายเป็นคุณผู้หญิงจาง ไม่ต้องห่วงเรื่องกินเรื่องใช้!ไปคบกับหมอจนๆแบบนั้น ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่!ฉันว่า น้องสาวแกมันหัวหมูชัดๆ!ถ้ามันเชื่อฟังเหมือนกับรั่วอวิ๋น ก็คงไม่เกิดเรื่องจนถึงทุกวันนี้!”
ทุกคำพูด ล้วนทิ่งแทงเข้าไปในหัวใจของยินเสี้ยวเสี้ยว แท้ที่จริงแล้วเธอเป็นแบบนี้ในสายตาทุกคน
พ่อที่แสนดี แม่เลี้ยงที่แสนดี น้องสาวที่แสนดี ทุกคนล้วนรอดูวันที่เธอจะมีชีวิตแย่ๆ!
หลังจากพูดจบแล้วนั้น ยินเสี้ยวเสี้ยวคว้าจับไปที่มือของยินจื่อเจิ้น ส่ายหน้าไปมาเพื่อบอกให้เขาไม่ต้องพูดแล้ว ตั้งแต่เล็กจนโต มีแต่ยินจื่อเจิ้นพี่ชายต่างแม่พ่อเดียวกันคนนี้ที่รักและทะนุถนอมเธอ เธอเองก็ไม่อยากที่จะเห็นพี่ชายต้องมาทะเลาะกับยินไป่ฝันเพราะตนเอง เพราะได้ข่าวว่าตั้งแต่เล็ก ยินจื่อเจิ้นต้องใช้ชีวิตอย่างลูกนอกสมรส จนกระทั่งแม่ของเธอตายไป ยินไป่ฝันถึงจะไปรับเขากลับมา เธอไม่มีวันยอมให้ความรู้สึกผิดเอือมละอาแก่ใจของยินไป่ฝันที่มีต่อยินจื่อเจิ้นต้องหายไปเพราะตนเอง……
“พ่อคะ หนูไม่มีวันแต่งงานกับผู้จัดการจาง” ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดขึ้นเสียงเรียบ สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความยืนหยัด ไม่ให้ยินไป่ฝันมีโอกาสได้พูด แล้วพูดขึ้น “หนูรู้ว่าควรจะจัดการยังไง พวกพ่อไม่ต้องเป็นห่วง หนูจะแต่งงานกับตระกูลจิ๋นตามกำหนด แต่งงานกับจิ๋นลี่ยวน แต่งงานกับ……คนที่พ่อบอกว่าเป็นหมอจนๆ”
ยินไป่ฝันโมโหเดือดดาล ไม่ว่ายังไงก็คิดไม่ถึง ถึงเวลานี้แล้ว ยินเสี้ยวเสี้ยวยังคงดึงดันที่จะแต่งงานกับจิ๋นลี่ยวน จึงอดไม่ได้ที่จะพูดประชดประชัน:“ สภาพของแกในตอนนี้ แกคิดว่าจะมีผู้ชายคนไหนเอาแกอีกหรอ? ชื่อเสียงของแกป่นปี้มาจนถึงขั้นนี้ ต่อให้ฉันยกทุกอย่างของตระกูลยินไปเป็นสินสอดให้แก ก็ไม่มีใครยอมแต่งงานกับแก!แกอย่าทำให้น้องสาวแกต้องเดือดร้อนจนไม่ได้แต่งงาน!”
ยินเสี้ยวเสี้ยวได้ฟังคำพูดของยินไป่ฝัน เธอไม่ได้รู้สึกโกรธแต่กลับรู้สึกตลกมากกว่า หันไปมองเขาหน้านิ่งๆ