Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - ตอนที่30 การแต่งงานของพวกเราเป็นเรื่องจริงหรือเป็นเรื่องหลอกลวงกัน?
- Home
- Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา
- ตอนที่30 การแต่งงานของพวกเราเป็นเรื่องจริงหรือเป็นเรื่องหลอกลวงกัน?
ตอนที่30 การแต่งงานของพวกเราเป็นเรื่องจริงหรือเป็นการแสดงกัน?
ยินเสี้ยวเสี้ยวเงยหน้า ล้างมือไปพลางมองไปที่คุณหมอฉิง…………
เป็นอย่างที่พยาบาลนั้นพูด ครั้งแรกที่คุณหมอฉิงมาก็ตกหลุมรักจิ๋นลี่ยวนตั้งแต่แรกเห็น
เลิกงานแล้ว คุณหมอฉิงสวมชุกระโปงลูกไม้รัดรูป รูปร่างที่ดูสมบูรณ์แบบ ใบหน้าที่มีการแต่งบางๆ มองดูแล้วรู้สึกดูเย็นชาอยู่บ้างทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวมองไปอย่างไม่รู้ตัว
ผู้หญิงที่ดูสวยแบบนี้ จิ๋นลี่ยวนกลับไม่ใจเต้น?
อย่างนั้นคนแปลกๆแบบเขาชอบผู้หญิงแบบไหนกันล่ะ?
ไม่นานคุณหมอฉิงก็เดินมาล้างมือ จัดทรงผมของตัวเอง พูดกับหมอที่กำลังแต่งหน้าอยู่ข้างๆว่า “คุณหมอจู เธอไม่ใช่ว่าดูถูกฉันไปหน่อย ก็แค่คู่หมั้นคนหนึ่งแค่นั้น ยังไม่ได้แต่งงาน รีบร้อนอะไรกัน”
ใบหน้าที่ไม่น่ามองของยินเสี้ยวเสี้ยว รสนิยมของจิ๋นลี่ยวนถือว่าใช้ได้ ไม่ได้สนใจผู้หญิงที่หลงตัวเองขนาดนั้นช่างดีจริง!
คุณหมอจูหัวเราะเบาๆ มองคุณหมอฉิงผ่านทางกระจก พูดเยาะเย้ย “คุณหมอฉิง เธอทำแบบนี้ดีหรือไง? เธอมาถึงก็หลงคุณหมอจิ๋นหัวปักหัวปำ หน้าแบบนั้นไม่ใช่คนทั่วไปจะสู้ได้นะ! ตอนนี้เขาก็มีคู่หมั้นแล้ว เธอยังคิดจะเข้าไปอีกหรือว่าอยากให้คนอื่น………..มองเห็นกันแน่”
คำพูดตอนท้ายไม่กี่คำ คุณหมอจูกำลังพูดประชดสายตามองใบหน้าที่ดำขึ้นของคุณหมอฉิง แต่กลับถามกลับไปโดยไม่แสดงความอ่อนแอ “คุณหมอจู พวกเราพูดครึ่งโลก็อย่าเปลี่ยนเป็นแปดกรัม เธอก็ไม่ใช่ว่ามีใจให้คุณหมอจิ๋นหรือไง? ตอนนี้มาแสร้งทำเป็นถือโทษ ไม่ใช้ว่าแรงไปหน่อยหรือไง?”
ในพริบตา คนสามคนที่อยู่ในห้องน้ำต่างมีใบหน้าหมองคล่ำ แต่ว่าคุณหมอฉิงกับคุณหมอจูกลับไม่ได้สนใจปฏิกิริยาของยินเสี้ยวเสี้ยว เธอล้างมือเสร็จก็ออกไป เหมือนกับว่าฟังที่พวกเขาพูดกันไม่เข้าใจแบบนั้น
จิ๋นลี่ยวนตรวจห้องสุดท้ายแล้ว รอจนไม่มีปัญหาอะไรก็สามารถไปได้แล้ว คุณย่าจิ๋นก็นั่งพักดื่มชาอยู่ที่ห้องทำงานของจิ๋นลี่ยวน ตอนที่ยินเสี้ยวเสี้ยวกลับมาหน้าก็ค่อยๆมุ่ยลงอย่างไม่รู้ตัว เดินไปนั่งที่โซฟาอย่างใจลอยและหลุดเข้าไปในโลกของตัวเองแบบนั้น
ไม่ว่าจะเทียบกับคุณหมอฉิงหรือเทียบกับคุณหมอจูเธอก็เหมือนห่างจากคนอื่นมาก
เธอเป็นเพียงนักออกแบบตัวเล็กๆที่เพิ่งจบมา ถึงแม้เธอจะมีชื่อเสียงในการออกแบบโฆษณา แต่ว่าชื่อเสียงที่เธอเป็นคุณหนูใหญ่บ้านยินก็แพร่ออกไป แค่ตรงนี้ก็เหมือนว่าไม่ได้ดีเท่าพวกเธอทั้งสองคน แถมจิ๋นลี่ยวนอายุยี่สิบเจ็ดส่วนเธอก็ยี่สิบสาม สองคนอายุต่างกันตั้งสี่ปี จะมีช่องว่างระหว่างรุ่นระหว่างเธอกับจิ๋นลี่ยวนไหม…….
คิดได้แบบนั้น ยินเสี้ยวเสี้ยวอยู่ดีก็รู้สึกว่าตอนที่ตัวเองหาคนบนถนนมาแต่งงานด้วยไม่ใช่ว่าทำเกินไป?
ทำไมถึงได้ทำให้จิ๋นลี่ยวนที่ดูดีแบบนี้มาอยู่ในมือได้นะ?
คุณย่าจิ๋นมองดูยินเสี้ยวเสี้ยวที่ใบหน้าเสียใจแบบนั้น สายตาก็หรี่ลง!
วันนี้เธอมาเพื่อช่วยเลือกดอกไม้ให้หลานชาย เธอรู้ว่าในโรงพยาบาลนี้เธอตรวจสอบมาไม่น้อย ไม่มีใครที่คู่ควรกับหลายชายของเธอ ยังสู้ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้เลย! วันนี้พายินเสี้ยวเสี้ยวมา เธอจะดูว่ามีใครหน้าหนาพอที่จะจับจิ๋นลี่ยวน!
เดิมที่คิดไว้ว่าไม่มีใครที่จะหน้าหนาขนาดนั้น แต่ว่าคุณย่าจิ๋นคงจะมองคนพวกนั้นผิดไป………….
จิ๋นลี่ยวนตรวจคนไข้ยังไม่เสร็จ ก็มีคนมาเคาะประตูเบาๆที่ประตูห้องทำงงานของจิ๋นลี่ยวน ไม่มีการตอบรับก็ยังจะเข้ามา สายตาคุณย่าจิ๋นเผยความไม่ชอบใจ คนที่เข้ามาก็ไม่ได้ทันสังเกต
“ที่นี่ใช่ห้องทำงานของคุณหมอจิ๋นไหม?” ทุกครั้งที่คุณหมอฉิงมาก็เป็นแบบนี้ เคาะเป็นสัญญาณและเดินเข้ามาแทบไม่ได้สนใจ เมื่อมองไม่เห็นจิ๋นลี่ยวน ก็เข้าใจว่าเป็นครอบครัวของคนไข้มาถามปัญหา เดินเข้ามาอย่างถือวิสาสะ “พวกคุณมาหาคุณหมอจิ๋นใช่ไหม? ตอนนี้เขาไม่อยู่ ในห้องทำงานไม่อนุญาตให้มีคน”
เธอนั้นจำยินเสี้ยวเสี้ยวได้ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าเด็กผู้หญิงที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนนี้จะเป็นคู่หมั้นของจิ๋นลี่ยวนได้ ในใจของเธอคิดว่าอย่างน้อยก็ต้องเซ็กซี่ ยั่วยวน เป็นผู้ใหญ่……..
มองดูคุณหมอฉิงเดินเข้ามาเหมือนเป็นเจ้าของห้องแบบนั้นมองที่คุณย่าจิ๋นกับยินเสี้ยวเสี้ยว น้ำเสียงพูดด้วยความเย็นชา “ตอนนี้ถึงเวลาเลิกงานแล้ว วันนี้พวกคุณก็กลับไปก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่”
ยินเสี้ยวเสี้ยวขมวดคิ้วเล็กน้อย ตอนนี้ได้ลืมไปแล้วว่าคุณย่าจิ๋นก็นั่งอยู่ตรงนี้ รีบพูดขึ้น “คุณหมอฉิง ในเมื่อคุณบอกว่าตอนที่คุณหมอจิ๋นไม่อยู่ไม่อนุญาตให้ใครอยู่ในห้องทำงาน อย่างนั้นทำไมคุณยังเดินเข้ามา?”
เธอเป็นเพียงผู้หญิงอายุยี่สิบสาม นิสัยไม่ได้นิ่งลึกขนาดนั้น แต่ไหนแต่ไรใจอยากจะพูดอะไรก็พูดออกไป คำพูดที่ออกไปคิดไม่ถึงว่าจะทำให้คุณหมอฉิงยื่นทำตัวไม่ถูกอยู่ตรงนั้น ครึ่งวันก็ยังพูดไม่ออก
“เธอเด็กครอบครัวนี้ช่างกล้านัก!” ยังไงซะคุณหมอฉิงก็อยู่โลกภายนอกมาต้องหลายปี ยังไงก็มีวิธีจัดการกับเด็กอย่างยินเสี้ยวเสี้ยว คุมอารมณ์และรีบพูดต่อ “พวกคุณมาอยู่ในห้องทำงานของคุณหมอจิ๋นตอนที่เขาไม่อยู่ หากมีของอะไรหายไป พวกคุณรับผิดชอบไหม? ฉันไม่เข้ามาอย่างนั้นก็ปล่อยให้คุณทำตามใจอย่างอิสระหรือไง? ฉันเข้ามาก็เพื่อทุกคน เป็นครอบครัวคนไข้พวกคุณก็อย่าได้มั่นใจไป!”
ยังไงก็ไม่ใช่คนไข้ของเธอแล้วก็ไม่ได้กระทบกับการรักษา คุณหมอฉิงจึงไม่กลัว น้ำเสียงก็ดูใจจืดใจดำอยู่บ้าง แต่ปากของยินเสี้ยวเสี้ยวไม่มีทางที่จะอยู่เฉย! ค่อยๆเพิ่มขึ้นอีกประโยคของเพียงไม่เจอจิ๋นลี่ยวน……….
“ฮาฮา…………” อยู่ดีๆยินเสี้ยวเสี้ยวก็หัวเราะออกมา มองตาของคุณหมอฉิงที่ดูขี้เล่นพูดเบาๆ “คุณหมอฉิงพูดเล่นอยู่ไหมคุณก็เคาะประตูอยู่ข้างนอก พวกเรายังไม่อนุญาตคุณก็เปิดประตูเข้ามา มารยาทแบบนี้ทำให้ฉันพูดไม่ออกจริงๆ อีกอย่างฉันยังแปลกใจฉันอยู่ในห้องทำงานของคู่หมั้น คุณหมอฉิงมีสิทธิ์อะไรบอกให้ฉันออกไป? ถึงแม้ให้ฉันออกไปก็ได้ แต่แม้แต่ย่าของคุณหมอจิ๋นยังจะไล่ออกไป นิสัยแบบนี้ช่างไม่ธรรมดาจริงๆ!”
คุณย่าจิ๋นนั่งอยู่อีกข้าง สายตาเผยรอยยิ้ม! ที่มีความสุขแบบนั้น ร่างกายบิดไปบิดมา
ฮาฮา! หลายสะใภ้ของเธอบ้านจิ๋นต้องกล้าแบบนี้! อะไรไม่มีก็ไม่เป็นไร ขอเพียงไม่ขาดความกล้า!
ณ ตอนนี้เวลานี้ คุณย่าจิ๋นพอใจในตัวของยินเสี้ยวเสี้ยวเป็นพิเศษ! แต่ไหนแต่ไรเธอไม่เคยชอบเด็กผู้หญิงที่อ่อนแอชอบร้องไห้ มีอะไรน่าอ่อนแอ่? บนโลกใบนี้ไม่ใช่ผู้ชายก็ผู้หญิง ไม่มีผู้ชายก็อยู่ไม่ได้แล้วหรือไง? จะเหมือนถูกทำร้ายตลอดทั้งฤดูร้อนหรือไงก็ไม่รู้ว่าทำให้ใครดู!
คุณหมอฉิงแค่ฟังคำพูดของยินเสี้ยวเสี้ยว หน้าเล็กก็ซีดลง มองดูยินเสี้ยวเสี้ยวอย่างไม่อยากเชื่อ! เหมือนกับว่ายังไงก็ไม่มีทางเชื่อ จิ๋นลี่ยวนจะชอบผู้หญิงแบบนี้?
สวยก็สวยอยู่ แต่พูดถึงอายุดูน้อยไปหน่อย………….
ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้สนใจว่าคุณหมอฉิงจะคิดไง ลุกขึ้นเดินไปหยิบชามาดื่มอย่างสบายๆ หันกลับไปมองคุณหมอฉิงเพิ่มอีกคมดาบหนึ่ง “คุณหมอฉิง คุณมาหาคู่หมั้นฉันมีเรื่องอะไรไหม? หรือว่าดื่มชารอสักหน่อยเถอะ ฉันก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะตรวจอีกนานไหม…………”
ประโยคเดียว ทำให้คุณหมอฉิงโกรธอย่างมาก เมื่อกี้เห็นได้ชัดว่าเธอยังเป็นตัวหลัก แต่ตอนนี้กลายเป็นยินเสี้ยวเสี้ยวที่กลายเป็นนางเอกกำลังเยาะเย้ยเธอแบบนั้นจะให้ดีใจหรือไง?
ยังไม่ทันได้พูดอะไร คุณหมอฉิงมองดูด้านหลังของยินเสี้ยวเสี้ยวก็แข็งทื่อไป ใบหน้าดูดีขึ้นไม่น้อย จากนั้นก็มองดูสายตาที่เยาะเย้ยของยินเสี้ยวเสี้ยวอยู่ไม่น้อย
“ไอ๊โย่ว หลานชาย ในที่สุดหลานก็กลับมาแล้ว” ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่รู้ว่าด้านหลังเธอเกิดอะไรขึ้น แต่ว่าคุณย่าจิ๋นรู้ไงจึงรีบเอ่ยปากบอกยินเสี้ยวเสี้ยว ท่าทางดูเหมือนว่ารู้ต้องนานแล้วแต่ก็ยังไม่ได้เปิดปากพูดแบบนั้น………
ร่างกายของยินเสี้ยวเสี้ยวค่อยๆแข็งทื่อและคิดถึงเมื่อกี้ที่ตัวเองเพิ่งพูดไป……………
คู่หมั้น………………
ทำไม่เธอถึงได้ปากไวแบบนี้นะ? ทำเหมือนตัวเองอยากแต่งงานกับเขาแบบนั้น?
แต่ว่าเทียบกับการขายหน้า สิ่งที่ยินเสี้ยวเสี้ยวแคร์มากกว่าก็คือ ตัวเองทำเสียงครึกโคมอยู่ในที่ทำงานของเขา เขาจะโกรธหรือเปล่า?
จิ๋นลี่ยวนก็ไม่รู้ว่ามาตอนไหนแต่ก็ทันได้ยินประโยคสุดท้ายของยินเสี้ยวเสี้ยวอย่างชัดเจน มองคุณหมอฉิงครั้งหนึ่งและเดินยิ้มเข้ามา กลับไม่ได้เดินไปใกล้พวกเขาแต่เดินไปถอดเสื้อกาวน์ที่ชั้น หยิบกุญแจรถบนโต๊ะเหมือนเตรียมพร้อมที่จะจากไป
“คุณหมอจิ๋น……….” คุณหมอฉิงพูดอย่างกล้าๆกลัวๆ แต่ก็มองไปที่จิ๋นลี่ยวนเหมือนไม่รู้ควรจะพูดอะไรดี
จิ๋นลี่ยวนค่อยๆยิ้ม เดินไปนั่งข้างยินเสี้ยวเสี้ยว ยื่นมือไปนวดที่หัวของเธอถามคุณหมอฉิงเสียงเบา “คุณหมอฉิงมีอะไรไหม?”
การเคลื่อนไหวที่คุ้นเคย ท่าทางที่สนิทสนม หากคุณหมอฉิงยังไม่รู้ว่าคืออะไรก็คงโง่แล้ว ใบหน้าซีดพูดแบบไม่คิดไปไม่กี่คำก็หันตัวเดินออกไป ในห้องทำงานเหลือเพียงสามคน
ยินเสี้ยวเสี้ยวยังคงใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จิ๋นลี่ยวนดึงมือเล็กพาเดินออกไปข้างนอก ตอนคุณย่าจิ๋นเดินไปข้างหน้า เขาค่อยๆเข้าไปใกล้หูของยินเสี้ยวเสี้ยวพูดหนึ่งประโยค “ที่แท้คู่หมั้นของฉันก็เป็นแม่เสือสาวตัวเล็ก”
ใบหน้าของยินเสี้ยวเสี้ยวแดง จ้องอย่างโกรธเคืองไปที่จิ๋นลี่ยวน จิ๋นลี่ยวนกลับยิ้มอย่างมีความสุข พูดเสียงสูงขึ้นเรื่อยๆ “ไปเถอะคู่หมั้น ว่าที่สามีพาเธอไปกินข้าว”
ณ ตอนนี้ หน้าของยินเสี้ยวเสี้ยวยิ่งนานยิ่งแดงแถมไม่มีแรงที่จะโต้กลับ
คุณย่าจิ๋นไม่ได้ไปกินข้าวกับทั้งสองคน เพียงแค่กำชับยินเสี้ยวเสี้ยวไม่กี่ประโยคก็กลับบ้านไปกับคนขับรถบ้านจิ๋น เป็นอีกครั้งที่จิ๋นลี่ยวนกับยินเสี้ยวเสี้ยวอยู่ด้วยกันสองต่อสอง
เพียงแต่อาหารเย็นยังไม่ทันได้กิน บ้านยินก็โทรศัพท์มาหาให้ยินเสี้ยวเสี้ยวกับจิ๋นลี่ยวนกลับบ้านไปสักรอบ พูดว่าต้องการหารือเกี่ยวกับเรื่องการแต่งงานของยินรั่วอวิ๋นกับเซี่ยงเฉิง ยินเสี้ยวเสี้ยวเงียบไปสองวินาทีก่อนที่จะปฏิเสธแล้ววางสายลง
จิ๋นลี่ยวนมองดูการกระทำของยินเสี้ยวเสี้ยว ก็ไม่ได้พูดอะไร ตั้งแต่ตอนที่เจอคุณหมอฉิงในโรงพยาบาลตอนนั้น จิ๋นลี่ยวนก็รู้แล้วว่ายินเสี้ยวเสี้ยวต้องมีเรื่องอยากคุยกับตัวเองแถมยังเป็นเรื่องที่สำคัญ!
ภายใน“ร้านอาหารเทาถี้” พวกเขายังคงนั่งอยู่ที่หน้าต่าง ยินเสี้ยวเสี้ยวมองจิ๋นลี่ยวนที่อยู่ฝั่งตรงข้าม หายใจลึกไปหลายครั้ง ในที่สุดก็รวบรวมความกล้าพูดออกไป “จิ๋นลี่ยวนการแต่งงานของพวกเราเป็นเรื่องจริงหรือเป็นการแสดง? ฉันต้องการคำพูดของนายประโยคเดียว ให้ฉันได้เข้าใจว่าที่จริงแล้วฉันควรต้องทำยังไง?”
ใช่แล้ว เวลาสั้นๆที่ได้รู้จักกัน ตอนนี้ทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวเริ่มสั่นคลอนไปบ้างแล้ว……….