Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - บทที่ 127 ถาวหยีสติแตก
บทที่ 127 ถาวหยีสติแตก
“เสี้ยวเสี้ยว!” เสียงร้องเรียกอย่างตกใจยังไม่ทันขาดคำ ยินเสี้ยวเสี้ยวก็เป็นลมล้มลงต่อหน้าพวกเขาเลย ถาวหยีรีบรับร่างเพื่อนไว้ ต๋งไขรีบอุ้มเธอเข้าห้อง ถาวหยีปิดประตูแล้วตามเข้ามา
“เสี้ยวเสี้ยว เธอเป็นไข้หรอ?” ถาวหยีดึงมือตัวเองกลับอย่างไว หน้าผากของยินเสี้ยวเสี้ยวร้อนจนน่าตกใจ!
ต๋งไขก็ร้อนใจ แต่ยินเสี้ยวเสี้ยวยืนกรานไม่เข้าห้องนอนท่าเดียว ทั้งคู่เลยได้แต่พยุงเสี้ยวเสี้ยวไปนอนบนโซฟา ทั้งช่วยเทน้ำ ช่วยหายา พอมาถึงก็วุ่นวายไปตามๆกัน!
ยินเสี้ยวเสี้ยวกลับไม่รู้เรื่องเอาซะเลย ได้แต่นั่งมองเหม่อดูพวกนักข่าวที่ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ดูหมดอาลัยตายอยากมาก
พอทานยาเสร็จ ถาวหยีเข้าไปทำอาหารให้เสี้ยวเสี้ยวในห้องครัว เธอปรายตาหันไปเห็นอาหารเย็นที่วางบนโต๊ะนิ่งไม่มีร่องรอยการทานเลย ก็อดถอนหายใจไม่ได้ ดูท่าเมื่อวานจิ๋นลี่ยวนจะรีบไปมาก อย่าว่าแต่อาหารเย็น แม้แต่ไวน์ก็ไม่ได้ดื่มซักคำ
ทั้งคู่อยู่เป็นเพื่อนยินเสี้ยวเสี้ยว จวบจนเย็น ทั้งที่ทานยาและโจ๊กแล้ว แต่ยินเสี้ยวเสี้ยวกลับไข้ไม่ลดลงเลย ทำถาวหยีและต๋งไขตกใจกันมาก
ถาวหยีโทรหาจิ๋นลี่ยวนทันที ยินเสี้ยวเสี้ยวแววตากระตุกเล็กน้อย เธอยิ้มมุมปากตอนเพื่อนโทรหาสามี ไม่ได้พูดอะไร
“คุณชายสาม เสี้ยวเสี้ยวไข้ขึ้นสูงมาก ทำยังไงก็ไม่ลดซักที พวกเราควรทำไงดีคะ?” ถาวหยีร้อนใจมาก เธอคิดว่า จิ๋นลี่ยวนไม่เพียงเป็นสามีของยินเสี้ยวเสี้ยวเท่านั้น ยังเป็นหมออีกด้วย ภายในห้องที่เงียบงันนี้ ถาวหยียังคงพูดดังไม่ลดละ “เธอกินยาลดไข้แล้ว แต่ว่า…”
“ลี่ยวน คุณคุยโทรศัพท์กับใครน่ะ? คุณย่าให้พวกเราเข้าไปแล้วนะ” เสียงอ่อนโยนของผู้หญิงดังมา อย่าว่าแต่ยินเสี้ยวเสี้ยว แม้แต่ถาวหยีและต๋งไขก็อึ้งเหมือนกัน
ยินเสี้ยวเสี้ยวอึ้งไปเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไร แค่เพียงหลับตาลงช้าๆ
“ไข้ขึ้น? วัดอุณหภูมิหรือยัง? ถ้าไม่ดีขึ้นจริงๆก็ไปโรงพยาบาลเถอะ” น้ำเสียงจิ๋นลี่ยวนดูร้อนรนขึ้น แต่พอมันมาหลังเสียงผู้หญิงคนนั้นแล้ว เลยดูเหมือนไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่
“หา?” ถาวหยีอึ้ง ยังมึนงงอยู่
“เอาโทรศัพท์มาให้ฉันเถอะ” ยินเสี้ยวเสี้ยวเอ่ยปากขึ้น วินาทีที่รับมือถือมาก็ได้ยินอีกฝ่ายบอกว่า “ทางนี้ผมมีเรื่องด่วนนิดหน่อย รอผมก่อนนะ เดี๋ยวผมโทรกลับ” แล้ววางสายไป
เธอกำมือที่ถือมือถือแน่น และยิ้มออกมา
ในเมื่อรับปากว่าจะเชื่อใจเขาแล้ว งั้นเธอก็ควรทำให้ได้สิ?
ยินเสี้ยวเสี้ยวพยายามเกลี้ยกล่อมตัวเอง เขาจำเป็นต้องไป เธอเข้าใจ พอเขาไปแล้วก็ยุ่งมากจนไม่ว่างโทรมาเลย เธอเข้าใจ เวลานี้เขากลับอยู่กับผู้หญิงคนอื่น…
เธอแทบหายใจไม่ออก ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดเสียงเบาว่า “ถาวหยี พาฉันไปโรงพยาบาลเถอะ”
ยินเสี้ยวเสี้ยวในเวลานี้กลับรู้สึกเหมือนคนเป็นโรคร้าย แค่พูดคำเดียวก็แทบหมดเรี่ยวหมดแรง
“แต่นักข่าวข้างนอก…” ถาวหยีกังวลใจเล็กน้อย แต่เห็นยินเสี้ยวเสี้ยวป่วยหนักมาก ก็กัดฟันพยักหน้า
ต๋งไขไปขับรถมาที่ด้านหลัง ซึ่งก็มีนักข่าว แต่น้อยกว่าประตูหน้ามากอยู่ ยินเสี้ยวเสี้ยวป่วยจนเดินยังไม่ไหว ถาวหยีพยุงเธอลงมาคนเดียวอย่างยากลำบาก ต๋งไขรีบเข้ามาช่วย ในที่สุดนักข่าวเห็นความเคลื่อนไหวทางนี้เลยกรูกันเข้ามา
ไม่นานก็มีคนสังเกตเห็นยินเสี้ยวเสี้ยว นักข่าวเลยกรูเข้ามาเหมือนผึ้งแตกรังทันที
—คุณนายน้อยสาม คุณคิดเห็นยังไงกับเรื่องคลิปครับ?
—คุณนายน้อยสาม คนบ้านจิ๋นไปจากเมืองTกันหมดแล้ว คุณคิดยังไงครับ?
—คุณนายน้อยสาม ได้ยินว่าคุณชายสามกับคุณหนูใหญ่บ้านมู่ไปเดินช็อปปิ้งกัน คุณรู้ไหมครับเรื่องนี้?
—คุณนายน้อยสาม คุณรู้เรื่องที่บ้านจิ๋นและบ้านมู่มีสัญญาการแต่งงานกันไหมครับ?
…
โลกของเธอกำลังหมุน ถาวหยีกับต๋งไขพยายามประคับประคองเธอไม่ให้โดนนักข่าวเบียดได้ ถ้าเป็นปกติ ยินเสี้ยวเสี้ยวคงขึ้นรถไปแล้ว แต่ตอนนี้เรี่ยวแรงจะขัดขืนเธอยังไม่มีเลย
คุณหนูใหญ่บ้านมู่?
ใครกันน่ะ? พี่สาวมู่ซว?
สัญญาการแต่งงาน?
ของบ้านจิ๋นกับบ้านมู่หรอ?
ในสมองของยินเสี้ยวเสี้ยววุ่นวายไปหมด แม้แต่กำลังคิดอะไรอยู่ก็ไม่แน่ใจ แสงแฟลชด้านหน้าวูบไปวูบมา คนรอบข้างพูดอะไรไม่รู้รัวเร็ว แต่เธอกลับรู้สึกแค่เธอปวดหัวมาก และเจ็บไปหมดทั้งตัว…
ทันใดนั้น มีคนหนึ่งล้มลง ในจังหวะชุลมุนเขาดึงยินเสี้ยวเสี้ยวด้วย จนเธอล้มลงพื้นอย่างจัง คนรอบข้างยังไม่รู้เรื่อง เลยเหยียบมือและเท้าของเธอเข้าอย่างจัง…
สถานการณ์วุ่นวายมาก ถาวหยีรีบเข้าไปช่วย แม้แต่ต๋งไขก็พยุงเธอด้วย กลัวจะเหยียบจนเธอบาดเจ็บหนักขึ้น นักข่าวรอบข้างไม่มีใครช่วยพยุงเลย มีแต่แสงแฟลชรัวยิบๆ และถามคำถามไม่หยุด
—คุณนายน้อยสาม ตอนนี้มีคนหาว่าคุณเป็นมือที่สาม คุณคิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้ครับ?
—คุณนายน้อยสาม คุณแต่งเข้าบ้านจิ๋นด้วยชื่อเสียงแบบนี้มันดีแล้วหรือครับ?
—คุณนายน้อยสาม คุณจะหย่าไหม? แล้วหลีกทางให้คุณชายสามกับคุณหนูมู่?
…
ถาวหยีเห็นยินเสี้ยวเสี้ยวสลบไปแล้วก็สติแตก เธอไม่เคยเห็นเสี้ยวเสี้ยวโหมดแย่แบบนี้มาก่อนเลย!
มือเล็กกวัดแกว่งอย่างบ้าคลั่ง ถาวหยีตอนนี้ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งนั้น เธอร้องไห้ตะโกนว่า “หลีกไปเลยนะ พวกคุณไม่เห็นหรือไงว่าเสี้ยวเสี้ยวไข้ขึ้นเป็นลมไปแล้ว? พวกคุณเป็นนักข่าวประสาอะไร ไม่มีความเห็นใจกันบ้างเลยหรอ? ถ้าวันนี้เสี้ยวเสี้ยวเป็นอะไร อย่าว่าบ้านจิ๋นเลย ต่อให้เป็นฉันก็ไม่ปล่อยพวกคุณแน่! หลีกไปเลย!”
ถาวหยีตีหน้ายักษ์อย่างโกรธจัด น้ำตาไหลอย่างไม่แคร์ เธอเป็นเพื่อนรักกับยินเสี้ยวเสี้ยวมาตั้งแต่ม.ต้น แม้แต่ตอนที่ยินจื่อเจิ้นจากบ้านไปห้าปี เสี้ยวเสี้ยวยังไม่เคยทุกข์ขนาดนี้ เหมือนการเจอจิ๋นลี่ยวนเป็นการเริ่มต้นของโชคร้ายของยินเสี้ยวเสี้ยว เวลาสั้นๆแค่สามเดือน เธอกลับลืมไปแล้วว่าจะหัวเราะยังไง…
เสี้ยวเสี้ยว เสี้ยวเสี้ยว…
เสี้ยวเสี้ยวเคยบอกเธอว่า การที่เธอชื่อเสี้ยวเสี้ยว เพราะชื่อนี้แม่เธอเป็นคนตั้งให้ หวังว่าเสี้ยวเสี้ยวจะยิ้มแย้มตลอดไป แต่ตอนนี้เสี้ยวเสี้ยวพึ่งอายุแค่ยี่สิบสามปีกลับเจอเรื่องร้ายๆมากมายขนาดนี้…
“หลีกไปเลยนะ !” ถาวหยีตอนนี้กล่าวโทษจิ๋นลี่ยวนในใจ ถ้าตอนนั้นคนที่เสี้ยวเสี้ยวแต่งงานด้วยไม่ใช่เขา ถ้าเขาไม่จากไปในตอนที่เสี้ยวเสี้ยวต้องการเขามากที่สุด วันนี้เสี้ยวเสี้ยวคงไม่เป็นแบบนี้หรอก! “หลีกไปให้พ้นเลยนะ!”
ยามที่อยู่ห่างไปไม่ไกลมาช้าอีกตามเคย พอเห็นยินเสี้ยวเสี้ยวเป็นลมสลบไปแล้วก็ตกใจมาก พวกเขารีบกันนักข่าวให้แหวกเป็นทาง พวกเขาช่วยถาวหยีกับต๋งไขพายินเสี้ยวเสี้ยวขึ้นรถ และมองรถแล่นออกไปอย่างรวดเร็ว…
โรงพยาบาลหนันหยู
ตอนยินเสี้ยวเสี้ยวถูกนำตัวส่งเข้ามา ที่นี่ก็มีนักข่าว แต่เพราะจิ๋นลี่ยวน ทำให้พวกนักข่าวไม่กล้าเข้าไป ได้แต่รออยู่ด้านนอกอย่างเงียบๆ เธอถึงได้เข้ามาได้อย่างสงบ
ตอนเคุณหมอหยางเห็นต๋งไขอุ้มยินเสี้ยวเสี้ยวเข้ามายังอดขมวดคิ้วไม่ได้ รีบสั่งการพยาบาลไปเข็นรถคนป่วยมาพาเสี้ยวเสี้ยวไปห้องพักคนไข้ทันที
ทั้งลดไข้ กินยา ฉีดยา ให้น้ำเกลือมาเป็นชุด เรียกว่าอะไรที่ทำได้พวกเขาลองหมดแล้ว ยินเสี้ยวเสี้ยวฟื้นขึ้นในเช้าวันต่อมา
ตอนถาวหยีเห็นยินเสี้ยวเสี้ยวฟื้น ก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ต๋งไขเองยังตาแดงเลย
เวลาแค่สองวันทำเมืองTเปลี่ยนแปลงไปมาก ความเปลี่ยนแปลงนี้อย่าว่าแต่ผู้หญิงธรรมดาอย่างยินเสี้ยวเสี้ยวเลย ต่อให้เป็นผู้ชายที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากยังรับไม่ไหวเลย…
“ตอนนี้ดีขึ้นหรือยัง? ยังเจ็บตรงไหนอีกไหม?” คุณหมอหยางถามเสียงเบา ในใจกลับรู้สึกเห็นใจยินเสี้ยวเสี้ยวมาก พึ่งแต่งงานกับจิ๋นลี่ยวนได้ไม่เท่าไหร่เอง? เข้าโรงพยาบาลกี่ครั้งแล้วเนี่ย…
ยินเสี้ยวเสี้ยวส่ายหน้าเบาๆ บอกว่าตัวเองตอนนี้ดีมากแล้ว คุณหมอหยางยังไม่วางใจทำการเช็คโดยละเอียดอีกครั้งถึงออกไป ต๋งไขออกไปซื้อของกินมาให้สองสาว เหลือถาวหยีอยู่เป็นเพื่อนเธอ
“เสี้ยวเสี้ยว…” หลังจากเงียบอยู่นาน ถาวหยีอดเอ่ยปากไม่ได้ ถามเสียงสั่นว่า “เสี้ยวเสี้ยว หย่าเลยดีไหม?”
คำพูดเดียว ทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวที่เงียบอยู่น้ำตาไหลออกมา
“เสี้ยวเสี้ยว เธอดูเองสิ เธอทำตัวเองจนกลายเป็นอะไรไปแล้ว? ตอนแรกเพื่อหนีจากผู้จัดการจาง เธอต้องแต่งงานหนี ฉันเข้าใจ ถ้าเธอแต่งงานกับผู้ชายธรรมดา ฉันคงไม่พูดอะไร แต่เธอดันแต่งงานกับจิ๋นลี่ยวน! ฐานะคุณชายสามบ้านจิ๋นน่ะใครๆก็อิจฉา แต่เพราะฐานะนี้ เธอกลายเป็นเป้าสายตาให้ใครตั้งเท่าไหร่?” ถาวหยีถามอย่างสุดกลั้น ยินเสี้ยวเสี้ยวเกิดเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน ทำให้เธอคิดว่าการแต่งงานครั้งนี้มันควรสิ้นสุดได้แล้ว “เสี้ยวเสี้ยว เธอยังไม่เข้าใจอีกหรอ? คนพวกนั้นเขาไม่ได้พุ่งเป้ามาที่เธอ แต่เป็นจิ๋นลี่ยวน! พวกเขาอยากเห็นบ้านจิ๋นขายหน้า อยากเห็นจิ๋นลี่ยวนขายหน้า! แต่ไม่มีใครกล้าทำ เลยได้แต่เบนเข็มมาใส่ที่เธอแทน!”
มีหรือที่ยินเสี้ยวเสี้ยวจะไม่เข้าใจเหตุผลพวกนี้ แต่เธอไม่เคยคิดเรื่องหย่าเลยจริงๆ
ถาวหยียังอยากจะพูดต่อ แต่ยินเสี้ยวเสี้ยวขัดขึ้นมาว่า “ถาวหยี เธอเรียนรู้การประชดของฉันมาด้วยหรอ? ต่อให้วันนี้ฉันไม่ใช่ภรรยาของจิ๋นลี่ยวน วันหนึ่งฉันอาจจะต้องเจอเรื่องพวกนี้อยู่ดี ในโลกนี้ใครๆก็ชอบเรื่องซุบซิบกันทั้งนั้นแหละ ฉันเป็นตัวอย่างที่ดีเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนี้ทั้งเธอและฉันต่างรู้ดีนะว่า ไม่ใช่ความผิดจิ๋นลี่ยวน ผิดที่ฉันเอง ผิดที่เรื่องเมื่อตอนนั้น…”
จะว่าไปจิ๋นลี่ยวนน่ะไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วยเลย ทั้งคู่ต่างได้รับการทำร้ายเพราะเรื่องตอนนั้น เพียงแต่ตอนนี้เรื่องมันทำร้ายบ้านจิ๋น เลยโดนทำเป็นข่าวใหญ่ก็เท่านั้น!
ถาวหยีอ้าปากพะงาบๆ สุดท้ายพูดได้แค่ว่า “ถ้ารู้แต่แรก ฉันยอมให้เธอแต่งงานกับหมออายุรแพทย์ธรรมดาคนหนึ่งดีกว่า…”
ตอนนั้นเพราะเธอไม่ได้แต่งงานดีๆ ถาวหยียังไม่พอใจ บ่นว่าน่าจะแต่งงานกับคุณชายใหญ่บ้านจิ๋นมากกว่า ตอนนี้เธอแต่งงานกับคนดีๆแล้ว และยังได้แต่งเข้าบ้านจิ๋นตามที่ถาวหยีหวังด้วย แต่ถาวหยียังไม่พอใจอีก เพราะบ้านนี้มันไม่ธรรมดามากจนเกินไป…
ยินเสี้ยวเสี้ยวยิ้มอย่างอ่อนล้า สายตาจับจ้องที่มือถือ
ผู้ชายคนนั้นบอกว่า จะโทรมา โทรมาหรือยังนะ? หรือว่าโทรมาตอนที่เธอสลบอยู่เลยพลาดไป?
ถาวหยีเห็นอาการทั้งหมด เธอเม้มปากไม่พูดอะไร