Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - บทที่ 156 หล่อนอยากบีบให้เธอตาย!
บทที่ 156 หล่อนอยากบีบให้เธอตาย!
หลายปีผ่านไป ขณะที่จิ๋นลี่ยวนกำลังกลับเมืองไห่เมียวคนเดียว มีคนนึกถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่สาปแช่งชายตัวคนเดียว อย่างโหดเหี้ยมในคืนนั้นเป็นบางครั้ง
แต่จิ๋นลี่ยวนในตอนนี้ไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย เขาเพียงมองเธออย่างเย็นชาแวบหนึ่งแล้วเดินจากไป
มู่ซูวมองดูร่างของจิ๋นลี่ยวน ดวงตาทั้งสองเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
จนถึงวันนี้เธอถึงจะรู้ว่า คนที่ตนเสียเวลาไปด้วยตั้งสองปี เป็นเพียงแค่ปีศาจชั่วร้ายคนหนึ่งก็เท่านั้น!
บางทีจิ๋นลี่ยวนอาจรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเธอไม่ใช่คนคนนั้น แต่กลับทำให้เธอค่อยๆเดินมาถึงจุดจุดนี้!ความเป็นปีศาจร้ายของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าคุณย่าของบ้านจิ๋นท่านนั้นเลย!
มู่ซูวเดินจากไปอย่างไม่อาลัยอาวรณ์
เวลา2ปีที่อยู่ข้างกายจิ๋นลี่ยวน เธอสับสนไปชั่วขณะจริงๆ และเคยคิดว่าตอนที่เธออยู่ข้างกายจิ๋นลี่ยวนเป็นเพียงหมอจนๆแค่นั้น แต่ทุกครั้งมู่เยียนหรานมักจะมายั่วยุเธอ มีสิทธิ์อะไร ทุกคนล้วนเป็นคุณหนูตระกูลมู่ ในอนาคตมู่เยียนหรานสามารถแต่งงานกับตระกูลรวยๆได้ แต่เธอกลับแต่งได้กับแค่หมอจนๆ?
เพราะการหวังสูงแบบนี้ เธอจึงปฏิเสธที่จิ๋นลี่ยวนขอแต่งงานในตอนนั้น แต่เธอคิดไม่ถึงว่าเพราะการปฏิเสธการขอแต่งงานในครั้งนั้น จะทำให้จิ๋นลี่ยวนแน่ใจว่าเธอไม่ใช่คนคนนั้น และมันยังทำให้เธอเสียโอกาสที่จะแต่งกับครอบครัวรวยๆไป!
บนโลกนี้ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบและแน่นอน
หลายสิ่งหลายอย่าง ต้องต่อสู้ด้วยตัวเองถึงจะได้มา !
มู่ซูวขึ้นรถตนเองและออกจากเมืองไห่เมียว นั่งฟุบร้องไห้ในรถเสียงดัง รปภ.ที่อยู่ไม่ไกลเห็นเธอเป็นเพียงแค่คนเสียสติ ไม่รู้สึกสงสารใดๆแม้แต่น้อย
มู่ซูวร้องไห้จนพอแล้วจึงค่อยๆขับรถออกไป
……
เวลากลางคืน ณ ถนนอันเงียบสงัด
มู่ซูวกำลังขับรถแต่ในสมองยุ่งเหยิงไปหมด วันนี้สะเทือนอารมณ์เธอมาก ตอนนี้พอมาคิดๆดูแล้วที่มู่เยียนหรานกล่าวหาว่าตนขโมยของของหล่อนไป เพียงเพราะจะเพิ่มความผิดปกติให้เธอก็เท่านั้น เมื่อพยายามคิดอย่างหนักและพอเข้าใจได้ มู่ซูวก็ตรงไปยังบ้านของตน
เธอเป็นคุณหนูของตระกูลมู่ แม้ตระกูลมู่ไม่อยากเห็นหน้าเธอ แต่เธอก็ไม่ได้ขาดเหลืออะไร เธอหาเงินเองได้ จะไปขโมยของมู่เยียนหรานได้ยังไง?แต่เพราะทุกคนมีอคติกับเธอ พอเกิดเรื่องขึ้นเลยกลายเป็นแบบนี้ ไม่มีแม้แต่โอกาสอธิบาย
ณ สี่แยก มู่ซูวเห็นไฟแดงข้างหน้าจึงหยุดรถ ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้น คนที่โทรมาคือมู่เยียนหราน
ลังเลอยู่ครู่หนึ่งมู่ซูวก็เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ด้วยมือข้างเดียว ไฟแดงด้านหน้าโชว์ว่ายังเหลืออีก23วินาที……
จู่ๆทางด้านซ้ายของทางแยกก็มีรถบรรทุกขับออกมาคันหนึ่ง และบีบแตรดังลั่น มู่ซูวเงยหน้าขึ้นไปมองแต่กลับโดนแสงไฟหน้ารถส่องมาจนลืมตาไม่ขึ้น พอเธอเริ่มเห็นชัดรถบรรทุกคันนั้นก็พุ่งตรงมาชนเธอด้วยความเร็ว……
ทันใดนั้น มู่ซูวสมองโล่งไปหมด ก็ไม่รู้สึกอะไรอีก
เสียงโทรศัพท์ที่ดังก่อนหน้านี้ก็เงียบลง ราวกับโลกทั้งใบเงียบสงัด
โครม!
เสียงดังกึกก้อง
บนถนนอันเงียบสงัดกลางดึก รถบรรทุกขนาดใหญ่ประสานงากับรถเก๋ง ด้วยแรงมหาศาลของรถบรรทุกอัดเข้ากับรถเก๋งอย่างจัง และลากรถเก๋งออกไปไกลพอสมควร คนตั้งแผงลอยขายของตอนกลางคืนที่อยู่ไม่ไกลต่างพากันตกใจ หยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่ในมือและหันมามอง……
ณ ที่เกิดเหตุ มีเพียงประโยคนี้ที่บรรยายได้——น่ากลัวจนทนดูไม่ได้
เพียงแต่ความน่ากลัวนี้ เป็นเพียงแค่ด้านเดียว
รถของมู่ซูวเละมาก กระจกรถแตกละเอียด มู่ซูวที่อยู่ในรถก็สลบไปชั่วขณะ
ไม่นานนักก็มีคนใจกล้าเข้ามาดู พอเห็นว่ามีคนอยู่ในรถก็รีบแจ้งตำรวจทันที จากนั้นคนอื่นๆก็พยายามจะลากมู่ซูออกจากรถ……
แต่ทว่าขาทั้งสองข้างของมู่ซูวติดอยู่ระหว่างเบาะกับพวงมาลัย และเศษแก้วปักอยู่บนขาเธอจำนวนมาก
เป็นวันที่อากาศร้อนแท้ๆ แต่จู่ๆก็เกิดฝนตกลงมา และมีทีท่าว่าจะตกหนักขึ้นเรื่อยๆ
มู่ซูวฟื้นขึ้นมาท่ามกลางความวุ่นวาย สิ่งที่ดึงดูดสายตาเธอคือไฟสีแดงน้ำเงินที่กะพริบสลับกัน นั่นคือไฟของตำรวจ จากนั้นคนคนข้างเธอตะโกนขึ้นเสียงดัง
ความรู้สึกเจ็บแล่นเข้ามาหลังจากที่ฟื้นขึ้น เธอเจ็บไปทั้งคอ มือ และเอว มีแต่ที่ขาที่เดียวที่ไม่รู้สึกเจ็บ พลางครุ่นคิด มู่ซูวก็มองไปยังขาของตัวเองโดยสัญชาตญาณ บริเวณนั้นเต็มไปด้วยเลือด อีกทั้งยังมีเศษแก้ว2-3ชิ้นปักลงไป แต่เธอกลับไม่รู้สึกอะไรเลย!
รูม่านตาขยายออกเล็กน้อย มู่ซูวมองไปยังสิ่งที่อยู่ตรงหน้าด้วยความตื่นกลัว
ราวกับหยุดหายใจไปชั่วขณะ!
ขาของเธอ ขาของเธอ ขาของเธอไร้ความรู้สึกไปแล้ว!
โทรศัพท์ที่อยู่ข้างๆก็ดังขึ้นอีกครั้ง เป็นสายของมู่เยียนหรานเช่นเคย มู่ซูวรับโทรศัทพ์ด้วยมือสั่นเทา
——มู่ซูว นี่คือราคาที่คุณยึดใช้ตำแหน่งของฉันไป2ปี
แค่ประโยคเดียว ใบหน้าของมู่ซูวเต็มไปด้วยความตื่นกลัว น้ำตา และความสับสน ทำอะไรไม่ถูก จะขึ้นแสดงยังไง
เพราะความ‘โลภ’ของเธอ จึงได้รับการชดเชยเช่นนี้
กรี๊ด!
มู่ซูวกรี๊ดออกมาเสียงดัง พลางเขวี้ยงโทรศัพท์ออกไปอย่างแรง!
มู่เยียนหราน มู่เยียนหราน มู่เยียนหราน!หล่อนทำลายเธอ ทำลายเธอจนย่อยยับ!
เธอที่เสียทั้งสองข้างไป จะยืนหมุนตัว กระโดด เต้นรำบนเวทียังไง
หล่อนอยากบีบให้ฉันตาย!
คืนนี้ข่าว‘บัลเล่ต์เอลฟ์’เกิดอุบัติเหตุจนเข้าโรงพยาบาลกระจายไปทั่วเมืองT เหมือนทุกคนจะตกใจตื่นกันในคืนนี้
นักบัลเล่ต์ที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘ดาวรุ่งแห่งอนาคต’ การเต้นของเธอเพิ่งจะผลิบานแต่กลับต้องเหี่ยวเฉาลง เหมือนกิ่งไม้อันว่างเปล่าในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงนี้อย่างไรอย่างนั้น ไม่มีโอกาสได้เติบโต
……
เพิ่งหลับไปได้ไม่นาน จิ๋นลี่ยวนก็โทรเข้ามา
เธอเปิดโคมไฟหัวเตียง ยินเสี้ยวเสี้ยวได้ยินคำเกี่ยวกับ‘อุบัติเหตุ’ด้วยความงัวเงีย แต่จิ๋นลี่ยวนก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงบอกว่ารู้แล้วแล้วก็ผ่านไป
กลางคืนก็เป็นกลางคืน
ยินเสี้ยวเสี้ยวในตอนนี้ ยังคงไม่รู้ว่าผู้ชายที่นอนอยู่ข้างๆเธอนั้นเป็นคนยังไง
นักศึกษาป.โทเปิดเทอมแล้ว แต่เพราะคณะออกแบบโฆษณาให้ความสำคัญกับประสบกาณ์ และโอกาสเป็นอย่างมาก เปิดเทอมวันแรกอาจารย์ที่ปรึกษาจึงให้พวกเขาหาที่ฝึกงาน ยังไงคาบที่เรียนในมหาลัยคงไม่แน่นมาก ส่วนที่ที่ยินเสี้ยวเสี้ยวเลือกคือ‘บริษัทจื่อยิน’
พอใกล้จะหมดคาบ นักศึกษาในห้องก็เริ่มส่งเสียงดังเบาๆ กระซิบกันไปมา ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้สนใจ หันกลับไปมองโฆษณาที่อยู่ในมือของตนต่อ สีหน้าไม่พอใจ
——นั่นมู่เยียนหรานจากคณะบริหารใช่ไหม ฉันได้ยินมาว่าเธอเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลมู่?
——เธอไม่ใช่แค่คุณหนูใหญ่ของตระกูลมู่นะ เธอยังเป็นพี่สาวของ‘บัลเล่ต์เอลฟ์’ที่เกิดอุบัติเหตุเมื่อคืนนี้ด้วย
——เธอมาห้องเราทำไม มีคนที่รู้จักงั้นเหรอ?
……
พอเงยหน้าขึ้นก็สบตากัน ยินเสี้ยวเสี้ยวรีบเก็บสัมภาระของตัวเองเพื่อจะออกไปอย่างไม่ลังเล
ในมหาลัยเธอไม่อยากเกี่ยวข้องกับมู่เยียนหรานมากนัก ผู้หญิงคนนี้อันตรายเกินไป!
“ยินเสี้ยวเสี้ยว”เสียงเรียกนั้นไม่เพียงทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวหยุดชะงัก รวมไปถึงเพื่อนนักศึกษารอบๆด้วย
เมื่อเห็นว่ามู่เยียนหรานค่อยๆเดินมาหาตน ยินเสี้ยวเสี้ยวยังคงควบคุมจิตใจได้ แต่เมื่อได้ยินคำที่มู่เยียนหรานพูดออกมา ทั้งตัวก็สั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้
มู่เยียนหรานมองเธอด้วยตาแดงเล็กน้อยพลางพูด:“ยินเสี้ยวเสี้ยว เธอรู้ไหมเพราะความอิจฉาของเธอ ทำให้น้องสาวฉันเกิดอุบัติเหตุเมื่อคืน?เธอรู้ไหมว่าตั้งแต่วันนี้ไปหล่อนไม่อาจเต้นบนเวทีได้อีก?ยินเสี้ยวเสี้ยว จิตใจเธอมันโหดเหี้ยมจริงๆ!”
คำพูดดังเป็นคลื่นระลอกใหญ่ จนทั้งมหาวิทยาลัยTแทบจะระเบิด ส่วนยินเสี้ยวเสี้ยวโดนคำพูดเหล่านี้ทำเอางุนงงไปหมด
ฉันอิจฉาอะไร?อะไรคือมู่ซูวไม่อาจเต้นบนเวทีได้อีกต่อไป?
ยินเสี้ยวเสี้ยวอ้าปากยังไม่ทันได้พูด มู่เยียนหรานก็ยื่นมือมาดึงมือเธอไว้พลางพูด:“ยินเสี้ยวเสี้ยว ในเมื่อเธอทำได้ถึงขนาดนี้ ฉันสาบานฉันไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆแน่!”
พูดจบมู่เยียนหรานก็ไม่ได้พูดอะไรกับยินเสี้ยวเสี้ยวอีก แล้วเดินจากไป ทิ้งให้พวกนักศึกษากลุ่มใหญ่ยืนซุบซิบชี้ยินเสี้ยวเสี้ยว ความกังวลเช่นนั้นทำราวกับยินเสี้ยวเสี้ยวเป็นความหายนะร้ายแรงอย่างไรอย่างนั้น
มู่ซูวประสบอุบัติเหตุงั้นเหรอ?
เต้นไม่ได้อีกต่อไป?
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
ยินเสี้ยวเสี้ยวหายใจอย่างไม่เป็นสุข พลางเดินไปยังหอพักของตน เพื่อไปเอาของแล้วไป‘บริษัทจื่อยิน’
เรื่องวุ่นวายพวกนี้ไม่อยากสนใจเลยจริงๆ!
……
ในหอพัก พอยินเสี้ยวเสี้ยวเปิดประตูก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ
เฉิงฉิง!
ตอนเรียนป.ตรีในมหาวิทยาลัยT พวกเธอสองคนไม่ค่อยถูกกันนัก ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องตอนใกล้จะจบแล้วพบว่าจางหมืงขโมยงานโฆษณาของเธอ เพราะเรื่องนี้ตอนนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองจึงไม่อาจดีขึ้นได้
“ฮ่า ฉันคิดว่าแค่ชื่อนามสกุลเดียวกันเฉย คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเธอจริงๆ”พูดอย่างถากถาง สีหน้าเฉิงฉิงเย่อหยิ่งเล็กน้อย “ยินเสี้ยวเสี้ยว เธอนี่มันร้ายจริงๆ”
พอพูดออกมา รูมเมทอีกสองคนก็หันมามองเธอ
คนที่หน้ากลมๆชื่อกั๋วกั๋ว น่ารักมากๆ ส่วนคนที่ดูโตหน่อยชื่อเฉียนเสว่ วันนี้เจอกันตอนเรียนแล้ว มีเพียงเฉิงฉิงที่ตอนเช้าไม่ได้เข้าเรียน เปิดเรียนวันแรกก็โดดเรียนไปโต้งๆเลย
เธอไม่ได้สนใจหล่อน วันนี้ยินเสี้ยวเสี้ยวอารมณ์ไม่ดีเอามากๆ เธอเดินไปยังโต๊ะของตนพลางเก็บของเตรียมตัวออกไปข้างนอก แต่ไม่คิดว่าขณะที่เธอกำลังเปิดประตูจะออกไปนั้น เฉิงฉิงก็พูดมาจากด้านหลัง:“ยินเสี้ยวเสี้ยว ได้ยินมาว่าเธอทำให้มู่ซูวประสบอุบัติเหตุ ใช่ไหม ?เธอนี่มันตัวซวยจริงๆ ไม่ว่าใครที่ข้องเกี่ยวกับเธอล้วนจบไม่สวยทั้งนั้น!”
คำพูดนี้ทำเอาบรรยากาศทั้งห้องอึมครึมขึ้นมาทันที
ยินเสี้ยวเสี้ยวหันไปอย่างช้าๆ มองเธอพลางพูด:“เฉิงฉิง เธอไม่รู้ว่าอะไรที่เรียกว่า‘ใส่ร้าย’ใช่ไหม?มาทำลายชื่อเสียงของฉัน เธอเชื่อไหมว่าฉันทำให้เธออยู่ในมหาวิทยาลัยTต่อไม่ได้ได้ทุกเมื่อ !”
พูดตามจริง เธอมีจิ๋นลี่ยวนผู้มีอำนาจคอยหนุนหลัง มีความห้าวหาญของบ้านจิ๋น เธอเลยไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น!บางคนคิดว่าจะรังแกเธอได้ง่ายๆ งั้นก็ลองดูสิ ดูว่าเธอจะอ่อนแอเหมือนที่เธอแสดงออกมารึเปล่า
เข้าหอวันแรกความประทับใจแรกที่ยินเสี้ยวเสี้ยวให้รูมเมทคือ‘เผด็จการ’มันเป็นที่ไม่น่าพอใจเล็กน้อย