Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - บทที่ 190 ยินเสี้ยวเสี้ยว ผมเกลียดคุณ
บทที่ 190 ยินเสี้ยวเสี้ยว ผมเกลียดคุณ
‘ร้านอาหารเทาถี้’
ตอนที่ยินเสี้ยวเสี้ยวมาถึง ผู้จัดการหวงยืนรอต้อนรับอยู่ที่หน้าประตู หลังจากก้มหัวคำนับอย่างมีมารยาทแล้วก็พาเธอไปที่ห้องหมายเลขศูนย์ คนที่อยู่โดยรอบจำนวนไม่น้อยต่างพากันพูดจาซุบซิบ ที่‘ร้านอาหารเทาถี้’ยังได้รับค่าตอบแทนที่สูงขนาดนั้น ต้องไม่มีเรื่องอะไรระหว่างจิ๋นลี่ยวนและยินเสี้ยวเสี้ยวแน่ …
ได้ยินคำพูดแบบนี้ ยินเสี้ยวเสี้ยวมุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะ
ความวิตกกังวลที่มีอยู่เดิมก็จางลงไม่น้อยทันที ยินเสี้ยวเสี้ยวยืนอยู่ที่หน้าประตูพูดขอบคุณกับผู้จัดการหวงเบาๆแล้วเดินเข้าไป
ภายในห้องหมายเลขศูนย์มีเพียงจิ๋นลี่ยวนเพียงคนเดียว นั่งอยู่บนโซฟาเงียบๆในมือถือแท็บเล็ตอยู่ไม่รู้ว่ากำลังดูอะไร
ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้เดินไป แต่กลับเดินไปที่โต๊ะอาหารสั่งอาหารสองสามอย่าง ที่เขาและเธอชอบกิน แบบง่ายๆ
หลังจากที่อาหารมาเสิร์ฟเรียบร้อย ยินเสี้ยวเสี้ยวจึงได้พูดเบาๆ “มาทานข้าวเถอะ ถึงเวลาทานข้าวแล้ว”
คิ้วขมวดแน่น จิ๋นลี่ยวนที่จมดิ่งอยู่ในโลกส่วนตัวดูเหมือนว่าเพิ่งจะมองเห็นการมีตัวตนอยู่ของยินเสี้ยวเสี้ยว สายตามองเธออย่างพินิจพิจารณา ชำเลืองมองอาหารบนโต๊ะสีหน้าค่อยๆเกร็งเล็กน้อย หมุนตัววางแท็บเล็ตลงแล้วเดินไป
ยินเสี้ยวเสี้ยวกินน้อยมาก แต่ก็รอจนจิ๋นลี่ยวนกินไปพอสมควรแล้วจึงได้วางชามและตะเกียบลง เอ่ยเบาๆว่า“คุณจะหย่า สามารถให้เหตุผลฉันสักข้อหนึ่งได้มั้ย”
เหตุผลเหรอ
เธอเป็นลูกสาวของศัตรูคู่แค้นของเขา เหตุผลนี้เพียงพอมั้ย
อารมณ์ของจิ๋นลี่ยวนไม่ดีอย่างยิ่ง คิ้วขมวดแน่น ไม่แม่แต่จะเหลือบมองใบหน้าของเธอแม้แต่นิดเดียว อารมณ์หงุดหงิดมาก
เดิมนั่งอยู่ตรงข้ามกับจิ๋นลี่ยวน ยินเสี้ยวเสี้ยวมองเห็นอารมณ์บนใบหน้าเขาชัดเจนทั้งหมด……
หงุดหงิด รำคาญ เกลียด……
อารมณ์ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เขารู้สึกกับเธอในเวลานี้……
ตกลงว่าพวกเขามาถึงขั้นนี้กันตั้งแต่เมื่อไหร่
ในดวงตามีความเศร้าเล็กน้อย ยินเสี้ยวเสี้ยวหลุบตาลงดื่มน้ำซุปพูดเบาๆว่า“จิ๋นลี่ยวน ขอแค่คุณให้เหตุผลที่แน่นอนกับฉันข้อหนึ่ง ฉันก็จะหย่ากับคุณ……”
สองคำสุดท้ายเสียงของยินเสี้ยวเสี้ยวเบาเป็นอย่างยิ่ง ราวกับว่าแบบนี้ก็สามารถถูกลมพัดปลิวไปได้อย่างนั้น
คิ้วของจิ๋นลี่ยวนยังคงขมวดเข้าหากันแน่นยิ่งขึ้น ตอนนี้เองจึงได้เงยหน้าขึ้นมามองยินเสี้ยวเสี้ยวที่อยู่ตรงข้าม ท่าทางสงบเสงี่ยวเจียมตัว ว่านอนสอนง่ายเป็นพิเศษ แต่ว่าเธอนิ่งเงียบแบบนี้ไม่เหมือนกับเธอที่ปกติสดใสร่าเริงเลยแม้แต่น้อย จิ๋นลี่ยวนรู้สึกสงสารเล็กน้อย แม้แต่สายตาที่มองเธอก็ยังแฝงความอ่อนโยน……
ถ้าหาก เธอไม่ใช่ลูกสาวของซูเหนียง อย่างนั้นเขาก็จะใช้ชีวิตอยู่กับเธอแบบนี้ตลอดไป……
น่าเสียดาย ไม่มีถ้ามากมายขนาดนั้นให้เขาได้เลือก
หลังจากนิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง ยินเสี้ยวเสี้ยวรวบรวมความกล้าเงยหน้าถามเขาว่า“จิ๋นลี่ยวน คุณมีคนที่รักแล้วหรือยัง”
คนรัก……
ใช่สิ เธอไม่ถามว่าเขามีคนรักแล้วหรือยังแม้ว่าจะหลอกตัวเอง เธอก็อยากบอกตนเอง เขาเคยพูดประโยคนั้น‘ผมเหมือนจะชอบคุณแล้ว’ก็คือขอบเธอแล้ว เธออยากจะเป็นคนที่เขาชอบเพียงคนเดียว……
แต่ดูเหมือนกับเป็นสิ่งเพ้อฝันอย่างหนึ่งแล้ว
“ไม่มี”จิ๋นลี่ยวนตอบอย่างรวดเร็ว ด้วยจิตใต้สำนึก
สีหน้าอึ้งเล็กน้อย ยินเสี้ยวเสี้ยวขมวดคิ้วแน่น“ในเมื่อไม่มี อย่างนั้นทำไมคุณต้องหย่ากับฉัน”
เก้าอี้ล้มลงไปด้านหลัง ตกลงไปบนพรมพร้อมกับเสียงที่อัดอั้น จิ๋นลี่ยวนยืนขึ้น สีหน้าที่มองไปยังยินเสี้ยวเสี้ยวแฝงด้วยรำคาญและหมดความอดทน โพล่งออกมาว่า“ยินเสี้ยวเสี้ยว ผมเกลียดคุณ”
ปึง……
ชั่วพริบตานั้น ใจของยินเสี้ยวเสี้ยวก็เจ็บปวดเหมือนกับถูกมีดแหลมคมทิ่มแทงก็ไม่ปาน
คุณเกลียดฉันเหรอ
คำพูดนี้เป็นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจผู้หญิงมากกว่าคำว่า‘ผมไม่ชอบคุณ’เสียอีก ผู้ชายที่แต่งงานอยู่ด้วยกันมาเกือบครึ่งปีกลับพูดออกมาง่ายๆแบบนี้เหรอ
นี่เธอฟังผิดไปอีกครั้งเหรอ
น้ำตาที่คลออยู่ในเบ้าตาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ทำให้ดวงตาทั้งสองข้างพร่ามัว ยินเสี้ยวเสี้ยวยืนขึ้นก็มองเห็นแผ่นหลังที่เดินจากไปของเขาโดยไร้เยื่อใย ในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนว่า “จิ๋นลี่ยวน ฉันต้องการเหตุผลที่แท้จริง ถ้าคุณไม่ให้ฉัน ฉันไม่มีทางหย่า! ”
ฝีเท้าที่เดินไปยังประตูหยุดชะงัก จิ๋นลี่ยวนหันศีรษะมาด้านข้างเล็กน้อยและพูดว่า “แล้วแต่คุณ ไม่ช้าหรือเร็วก็ต้องหย่า”
ยินเสี้ยวเสี้ยวที่อยู่ข้างหลังอยู่ในโลกที่จิ๋นลี่ยวนมองไม่เห็นร้องไห้อย่างหมดสิ้นทุกอย่าง …
ความรู้สึกของเธอ การแต่งงานของเธอ ก็เดินมาถึงเส้นทางที่ไม่อาจหวนกลับอย่างไม่มีเหตุผลแล้วหรือ
แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไร้ซึ่งเรี่ยวแรงต่อสู้ขัดขืน……
……
หลังจากที่จิ๋นลี่ยวนจากไป ผู้จัดการหวง ก็มาปิดประตูเพื่อปกปิดสายตาซุบซิบนินทามากมายด้วยตนเอง เดินไปตรงหน้ายินเสี้ยวเสี้ยวยื่นมือออกมาส่งผ้าเช็ดหน้าตนเอง ถอนหายใจเบา ๆ แทบไม่มีเสียง
หยินเสี่ยวเซียวมองไปที่ผู้จัดการหวางอย่างแน่วแน่และถามว่า ” ผู้จัดการหวงบอกฉันมา ทำไม ทำไมเขาถึงหย่ากับฉันกันแน่”
เอามือปาดน้ำตาบนใบหน้าตนเอง ยินเสี้ยวเสี้ยวถามผู้จัดการหวงด้วยแววตาแน่วแน่
ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ใช่คนปัญญาอ่อน ผู้จัดการหวงคือบุคคลที่รับผิดชอบของ ‘ร้านอาหารเทาถี้’แต่สมาชิกในตระกูลจิ๋น ไปมาอย่างอิสระ ในบรรดาพวกเขา จิ๋นลี่ยวนมีความสำคัญที่สุด ผู้จัดการหวงต้องดูทิศทางการตัดสินใจของจิ๋นลี่ยวน ถ้าจะบอกว่าที่นี่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับจิ๋นลี่ยวน และผู้จัดการหวงไม่ใช่ลูกน้องของจิ๋นลี่ยวนเธอไม่มีวันเชื่อเด็ดขาด !
ก้าวมาด้านหน้าหนึ่งก้าว ยินเสี้ยวเสี้ยวถามอย่างบีบบังคับว่า“ให้เหตุผลกับฉัน!”
เธอไม่ได้หลงใหลได้ปลื้มกับสถานะ ความมั่งคั่งของตระกูลจิ๋น และไม่เสียดายที่จะสละตำแหน่งคุณนายน้อยสามของตระกูลจิ๋น สิ่งเดียวที่เธอไม่ต้องการยอมสูญเสียไปคือความสัมพันธ์นั้นของตนเอง ของเธอผู้ชายคนนั้นที่ดูแลเธอด้วยหัวใจ …
เธอไม่เข้าใจ ว่าทำไมจิ๋นลี่ยวนอยู่ๆจึงต้องการหย่าร้าง ในเมื่อพวกเขากำลังพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ผู้จัดการหวงไม่ได้พูดอะไร ได้แต่วางผ้าเช็ดหน้าในมือลงแล้วหมุนตัวเดินจากไป
เขาติดตามจิ๋นลี่ยวนมาหลายปี เรื่องเกี่ยวกับซูเหนียงเขาเองก็รู้ แต่เขาคาดไม่ถึงว่า สุดท้ายแล้วผู้หญิงที่จิ๋นลี่ยวนยอมเดินไปด้วยกันตลอดชีวิตจะกลายเป็นลูกสาวของซูเหนียง!
คำพูดแบบนี้ เขาก็พูดไม่ออก
เห็นสีหน้าท่าทางของผู้จัดการหวงแบบนั้นยินเสี้ยวเสี้ยวก็ถูกทำให้ตกตะลึงชะงักไปเลย……
ทันใดนั้น ยินเสี้ยวเสี้ยววก็ดูเหมือนจะเป็นบ้า รีบวิ่งพรวดพราดออกจาก ‘ร้านอาหารเทาถี้’ ไปอย่างรวดเร็ว วิ่งไปที่ ‘โรงแรมซือซัน’ วินาทีที่เธอลงจากรถเก๋อเฉิงเฟยซึ่งกำลังสั่งการอยู่ในห้องโถงก็เห็นเข้า จึงรีบเดินมาอย่างรวดเร็วยังไม่ทันจะได้พูดอะไร ก็ถูกยินเสี้ยวเสี้ยวจับแขนเอาไว้ และวินาทีต่อมาก็เป็นประโยคที่น่าตกใจ
“เก๋อเฉิงเฟย นายบอกฉัน ทำไมจิ๋นลี่ยวนต้องหย่ากับฉัน ฉันทำอะไรผิด นายบอกฉัน ฉันจะได้แก้ไข เขาไม่บอกฉัน……”
‘โรงแรมซือซัน’เวลานี้ในห้องโถงที่มีผู้คนเดินผ่านไปมาก็มีคนอยู่ไม่น้อย คนส่วนใหญ่ก็รู้จักยินเสี้ยวเสี้ยว แต่ยังไม่ทันได้ตั้งสติจากความตกตะลึงของคุณนายน้อยสามของตระกูลจิ๋น ก็ได้ยินคำพูดนี้ที่น่าตกใจของเธอ ทันใดนั้นก็มองดูการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้อย่างเงียบ ๆ
เก๋อเฉิงเฟยสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาไม่ค่อยคุ้นชินกับการที่ต้องมารับมือกับสถานการณ์แบบนี้ โดยเฉพาะคนๆนี้คือยินเสี้ยวเสี้ยว
เขาสืบประวัติเธอแล้ว รู้เรื่องของเธอเกือบทั้งหมด แต่เขาก็พูดออกมาไม่ได้……
“เก๋อเฉิงเฟย ขอร้องนายละ บอกฉันที ได้มั้ย ฉันแค่อยากรู้ว่าตกลงฉันทำอะไรผิดกันแน่”ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดพลางร้องสะอื้น เธอทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ช่วงเวลาสั้นๆสองวันเธอก็เหมือนกับถูกบีบคั้นดูดเลือดหยดสุดท้ายไปอย่างนั้น ความห่างเหินอย่างกะทันหันของจิ๋นลี่ยวนทำให้เธอไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี
เก๋อเฉิงเฟยอ้าปากพูดอะไรไม่ออก
“เฉิงเฟย ฉันจะบอกนายให้นะ……”ทันใดนั้น ก็มีเสียงเรียกดังขึ้นมา ยินเสี้ยวเสี้ยวหันไปก็มองเห็นเฉินผูลี่ที่ไม่ได้พบกันนาน และเฉินผูลี่ก็เหมือนจะถูกทำให้ตกใจจากภาพตรงหน้า
ความสัมพันธ์ของเธอกับเฉินผูลี่ดีกว่าเก๋เฉิงเฟยเล็กน้อย มองเห็นเฉินผูลี่ ยินเสี้ยวเสี้ยวพุ่งไปข้างหน้าถามว่า“เฉินผูลี่ นายบอกฉันสิ จิ๋นลี่ยวนทำไมต้องหย่ากับฉันได้มั้ย ฉันแค่อยากจะรู้เหตุผลเพียงข้อเดียวเท่านั้น……”
เฉินผูลี่เองก็ตกใจจนตาลายไปแล้ว
พวกเขาต่างก็คิดไม่ถึง ยินเสี้ยวเสี้ยวจะถามพวกเขาตรงๆแบบนี้
ไม่มีทางเลือกอื่น เฉินผูลี่และเก๋อเฉิงเฟยคิดจะเอาตัวยินเสี้ยวเสี้ยวออกไปจากที่นี่ แต่เวลานี้ก็ยังมาพบกับแขกอย่างเฉิงฉิง
“ยินเสี้ยวเสี้ยว เธอจะหย่าแล้วเหรอ”มีความแปลกใจในน้ำเสียง แต่ที่มากกว่านั้นกลับเป็นความยินดีในความทุกข์ของคนอื่น เฉิงฉิงมาจับที่แขนของยินเสี้ยวเสี้ยวพูดว่า“สวรรค์ ในที่สุดเธอก็จะหย่าแล้ว ฮ่าๆ เป็นยังไงล่ะ คุณชายสามทนเธอไม่ไหวจะทิ้งเธอแล้วล่ะสิ……”
ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่พูดอะไร ได้แต่มองไปที่เฉินผูลี่และเก๋อเฉิงเยตรงหน้าถามต่อว่า“บอกฉันสิ ขอร้องพวกคุณละ……”
คิ้วขมวดแน่น เรื่องของเจ้านายพวกเขาจะพูดอะไรมากได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนี้พวกเขาก็ไม่กล้าพูดแน่นอน
“ฮ่าๆๆ……ยินเสี้ยวเสี้ยวในที่สุดเธอก็ถูกทิ้งแล้ว ฉันว่าที่คุณชายสามแต่งงานกับเธอก็คงเพราะเห็นพวกคุณหนูไฮโซจนเบื่อ พอมาเจอแบบธรรมดาโลโซอย่างเธอนี้ก็เลยอยากลองเปลี่ยนรสชาติ ตอนนี้ที่เธอเพ้อฝันมานานนั้นสุดท้ายก็ถูกทำลายแล้วสินะ……”เฉิงฉิงพูดจาเยาะเย้ยเหยียดหยาม เสียงก็ยังดังมาก คนที่อยู่รอบๆต่างก็หันมามองพวกเขานำมาซึ่งผู้คนที่มารุมล้อมยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่พนักงานของ‘โรงแรมซือซัน’มาขวางไว้ก็ไม่เป็นผล“ตอนนี้เธอตื่นจากความฝันแล้วสินะ สุดท้ายก็รู้ว่าคนที่คุณชายสามชอบก็ควรจะเป็นมู่เยียนหรานที่เป็นคุณหนูแบบนั้น ลูกเป็ดขี้เหร่อย่างเธออยากจะบินเหมือนหงส์ ช่างไม่ประมาณตนสักนิดเลยใช่มั้ย!”
ถ้าวินาทีนี้เฉินผูลี่และเก๋อเฉิงเฟยไม่ต้องคอยระวังที่จะใม่ให้คนรอบข้างเบียดเข้ามาหายินเสี้ยวเสี้ยวได้ และยังต้องพายินเสี้ยวเสี้ยวออกไปจากที่นี่ เฉิงฉิงแม้แต่โอกาสได้พูดก็คงไม่มี! แต่ตอนนี้พวกเขาก็ถูกบีบให้อยู่ในข้อจำกัด แทบไม่อาจขัดขืนดิ้นรนได้……
“ยินเสี้ยวเสี้ยว ฉันจะบอกให้นะ ตอนนี้เธอก็เป็นผู้หญิงสำส่อนคนหนึ่งที่จิ๋นลี่ยวนไม่ต้องการ!”เฉิงฉิงมองยินเสี้ยวเสี้ยวพูดอย่างสะใจ หลังจากรู้ข่าวว่าเธอจะหย่า เธอก็ดีใจมากกว่าใคร“ต่อไปก็ยังต้องเป็นตัวเธอเองคุณหนูใหญ่ตระกูลยินที่‘ไร้ศีลธรรม พฤติกรรมต่ำช้า’ต่อไป ใช่แล้ว ไม่แน่ว่าสาเหตุที่คุณชายสามหย่ากับเธอก็เพราะเธอสนิทสนมกับผู้ชายอื่นมากเกินไป เธอคงไม่ถึงขนาดสิ้นคิด เป็นคุณนายน้อยสามแล้วยังกลับไปทำ‘ธุรกิจ’เดิมก่อนหน้านี้หรอกนะ เธอนี่ช่างทำขายหน้าตระกูลจิ๋นและตระกูลยินเลยนะ……”
เพี๊ยะ!
แม้ว่าตอนนี้ยินเสี้ยวเสี้ยวจะวู่วามหุนหันบ้างเล็กน้อย แม้กระทั่งการบีบบังคับเพื่อให้ได้คำตอบที่ตนเองต้องการจากเฉิงผูลี่และเก๋อเฉิงเฟย แต่กกลับไม่ได้หมายความว่าเธอจะปล่อยให้เฉิงฉิงด่าว่าดูถูกตัวเองแบบนี้! ยินเสี้ยวเสี้ยวตบทักทายไปที่ใบหน้าที่สะใจของเฉิงฉิง แทบจะไม่ลังเลเลย!
ดวงตาคู่นั้นที่มีสีขาวดำแยกกันชัดเจนสาเหตุอาจจะเพราะเพิ่งร้องไห้มาจึงชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำ แต่วินาทีนี้ใบหน้าเล็กๆนั้น ยินเสี้ยวเสี้ยวดูไปแล้วกลับน่ากลัวมากเป็นพิเศษ ช่วงเวลาที่อยู่ตระกูลจิ๋น เธออาจจะไม่ได้เรียนรู้อะไรมากนัก แต่การใช้พลังอำนาจครอบงำกลับเป็นสิ่งที่มีมาแต่กำเนิด!
จ้องมองเฉิงฉิงอย่างเย็นชา ที่น่าตกตะลึงก็คือเฉิงฉิงแม้จะถูกตบนานแล้วก็ยังไม่ได้สติกลับมา แม้กระทั่งผู้คนโดยรอบต่างก็ค่อยๆถอยออกไปเพราะการตบฉาดนี้
ไม่ว่าจะเป็นคุณนายน้อยสามของตระกูลจิ๋น หรือว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลยิน เธอยินเสี้ยวเสี้ยวก็ล้วนมีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง!