Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - บทที่ 198 ทำร้ายยินเสี้ยวเสี้ยว
บทที่ 198 ทำร้ายยินเสี้ยวเสี้ยว
ทางฝั่งของจิ๋นลี่ยวนก็มองหน้าจอที่เต็มไปด้วยแถบสีแดงเขียวด้วยท่าทางที่ผ่อนคลาย แต่ดูเหมือนว่าทางฝั่งของเก๋อเฉิงเฟยนั้นจะมองอยู่ตลอด
จนในที่สุดจิ๋นลี่ยวนพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงเหลือบไปมองและถามว่า “มีเรื่องอะไรเหรอ?“
เก๋อเฉิงเฟยลดสายตาลง เงียบไปครู่หนึ่งจากนั้นก็ส่ายหัวและพูดว่า “ไม่มีอะไรหรอก“
จิ๋นลี่ยวนหันกลับมาและสนใจในตัวหนังสือพวกนั้นต่อ ราวกับว่าทั้งโลกใบนี้ไม่มีอะไรอีก นอกว่าตัวเลขที่อยู่บนหน้าจอ
เฉินผูลี่มองไปที่เก๋อเฉิงเฟยด้วยแววตาที่สงสัย แต่ก็เดินออกไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไร
จิ๋นลี่ยวนยุ่งเสร็จไปแล้วหนึ่งวัน รอจนเขาออกมาจากห้องทำงานและค่อยตั้งหลักพูด เฉินผูลี่เดินกลับเข้ามาจากข้างนอก พูดด้วยท่าทีเคร่งขรึม “คุณชายสามครับ เกิดเรื่องขึ้นที่เมืองYครับ มีคนพบฐานของเราที่นั่น ตอนนี้ทางฝั่งนั้นต้องการพบคุณ“
สีหน้าของยินเสี้ยวเสี้ยวเริ่มเปลี่ยนไป เงยหน้าขึ้นจากหน้าจอ หันไปถามด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม “ใคร?”
เฉินผูลี่ส่ายหัว “ทางนั้นไม่ยอมปรากฏตัว บอกว่าต้องการพบแค่คุณเท่านั้น ถ้าไม่อย่างนั้นฐานเมืองYก็จะถูกกวาดล้างออกไป”
เขาขมวดคิ้วอย่างรุนแรง เพราะเขานั้นไม่เคยถูกใครคุกคามมาก่อน!แน่นอนว่าต้องรู้สึกไม่พอใจเป็นธรรมดา เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็ต่อสายโทรศัพท์หาผู้อำนวยการของโรงพยาบาลหนันหยู จากนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าและรีบเดินตามสองคนนั้นไปยัง เมืองY
ที่นั่นคือฐานของเขา จะต้องไม่มีปัญหาใดๆเกิดขึ้นก่อนถึงเวลาใช้งาน
เขตบ้านเก่าของตระกูลจิ๋น
คุณย่าจิ๋นมักจะโทรหาผู้อำนวยการของโรงพยาบาลหนันหยูบ่อยๆ และก็ได้รู้ว่าทางโรงพยาบาลนั้นกำลังจะส่งตัวนั้นไปประชุมทางการแพทย์สองวัน เพราะนี่คือเป็นคำสั่งชั่วคราว ทำให้ในตอนแรกที่คุณย่าจิ๋นโทรมานั้น เขาก็ต้องขอโทษ จนทำท้ายทำให้คุณย่าจิ๋นนั้นก็รู้สึกผิดเล็กน้อยเช่นกัน
หลังจากที่วางสายไป คุณย่าจิ๋นก็ถอนหายใจออกมา
ยินเสี้ยวเสี้ยวยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยวที่ตรงบันไดโดยไม่พูดอะไรออกมา
วันนี้จิ๋นลี่ยวนไม่กลับมา ไม่ว่าจะเป็นการที่ไปร่วมประชุมทางการแพทย์หรือไม่ ออกไปในเวลานี้ ยกโทษให้เธอด้วยที่มันทำให้เธอนั้นคิดมากจริงๆ และจะไม่ให้เสียใจก็คงทำไม่ได้เช่นกัน
ตอนนี้ในโลกออนไลน์ต่างเต็มไปด้วยข่าวของเธอ เห็นกันอยู่ชัดๆว่าเธอนั้นไม่ได้ทำอะไร แต่ดูเหมือนตอนนี้เธอจะเป็นศูนย์กลางของโลกทั้งใจ ถูกหลากหลายสายตานั้นจับจ้องมาที่เธอ
——ยัยยินเสี้ยวเสี้ยวก็หน้าตาดีมากเลยนะ ฉันล่ะชอบหล่อนจริงๆ ถ้าได้นอนด้วยสักคืนก็คงดี!
——ใครจะไม่อยากนอนกับเธอล่ะ?ฉันคิดว่าที่คุณชายสามแต่งงานกับเธอ ก็คงเพราะอยากร่วมหลับนอนกับเธอบ้างแหละ……
——เหอะๆ ตอนนี้ฉันล่ะสงสัยจริงๆว่าที่จริงแล้วเธอขายตัวเองเพื่อเข้าไปอยู่ในบ้านจิ๋นหรือเปล่า?
——คงเหนื่อยกับการนอนหลับในครึ่งปีนี้ ช่างน่าสงสารจริงๆ……
——ฉันล่ะอยากจะไปถามเธอจริงๆ ว่าขอเป็นบ้านเล็กของเธอได้ไหม ขอเป็นบ้านหลังถัดไปของเธอได้หรือเปล่า?
……
คำพูดต่างๆนาๆนั้นวนเวียนอยู่ในหัวของยินเสี้ยวเสี้ยว เธอเม้มปากลงและตาแดงก่ำ
ไม่เคยพบเจอช่วงเวลาที่เลวร้ายเท่านี้มาก่อนเลย ถึงแม้เมื่อก่อนนั้นจะมีข่าวลือเรื่องไร้ศีลธรรมของตัวเองลอยออกมา ก็ยังไม่หนักเท่ากับในวันนี้เลย!
เธอมันไร้เดียงสาจริงๆ คิดว่าตลอดว่าเขานั้นคงจะปกป้องตัวเธอ ที่ไหนได้เมื่อเธอเจอเรื่องแย่เลวร้ายขนาดนี้ เขาก็ควรจะปกป้องเธอในฐานะของคนในครอบครัวจิ๋น หรือในฐานะของภรรยาเก่า ก็ควรจะออกมาปกป้องเธอบ้าง แต่จิ๋นลี่ยวนกำลังจะจากไปในเวลานี้
ครั้งนั้นจิ๋นลี่ยวนถูกบีบบังคับให้ไป แต่ครั้งนี้เขากลับไปด้วยตัวเอง!
เธอเดินกลับมายังห้องด้วยฝีเท้าที่เบา นั่งตรงขอบเตียงโดยที่ไม่พูดอะไร
ความสัมพันธ์ในการแต่งงาน เธอควรที่จะดื้อรั้นต่อไปอย่างนั้นเหรอ?
ท้องฟ้าเริ่มค่อยๆมืดครึ้ม คนที่นอนไม่หลับนั้นทำให้เพียงพลิกตัวไปมาบนเตียง
……
ในวันถัดไป ยินเสี้ยวเสี้ยวแต่งตัวและเตรียมจะไปมหาวิทยาลัย ชีวิตของเธอที่ไม่มีจิ๋นลี่ยวนนั้นมันช่างเงียบเหงาเหลือเกิน
“ทำไมวันนี้มีรถเต็มไปหมดเลย?” คุณเฉิงอดไม่ได้ที่จะต้องถามขึ้นมา
เขามาส่งยินเสี้ยวเสี้ยวมาเรียนตลอด แต่ก็ไม่เคยเห็นหน้าประตูของมหาวิทยาลัยTถูกอัดแน่นไปด้วยคนเท่านี้มาก่อน ทั้งมหาลัยนั้นรถติดจนแทบจะขยับไม่ได้เลย
ยินเสี้ยวเสี้ยวมองรถที่ผ่านไปมาโดยไม่พูดอะไร
หลังจากที่ลงจากรถคุณเฉิงก็ขับรถจากไป ยินเสี้ยวเสี้ยวต้องเดินเข้ามหาลัยด้วยตัวเอง
“สวัสดีครับ คุณยินเสี้ยวเสี้ยว ”อยู่ๆก็มีชายคนหนึ่งเรียกของเธอและยื่นมือออกมาด้วยความสุภาพและถ่อมตัว
ยินเสี้ยวเสี้ยวมองหน้าชายคนนั้น จิตใต้สำนึกของเธอสั่งให้เธอยื่นมือออกไป “สวัสดีค่ะ คุณคือใครเหรอคะ?”
พูดเสร็จ เธอก็รีบดึงมือกลับแต่ก็จนปัญญา เพราะอีกฝ่ายยึดมือเธอไว้แน่นอมากจนไม่สามารถดึงกลับมาได้ ในตอนนี้สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที เธอขมวดคิ้วพูดด้วยความไม่พอใจ “คุณคะ ฉันไม่รู้จักคุณค่ะ กรุณาปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้!”
ชายคนนั้นมองไปที่มือเล็กของยินเสี้ยวเสี้ยว จากนั้นก็เอานิ้วโป้งนั้นมาลูบที่ฝ่ามือของเธอ “ผิวของคุณนี่มันช่างนุ่มจริงๆ ผิวของคุณดีกว่าผู้หญิงหลายๆคนเสียอีก”
คำพูดเมื่อกี้มันทำให้เธอรู้สึกโกรธอย่างถึงที่สุด เธอกระชากมือกลับมาอย่างรุนแรง และมองชายคนนั้นอย่างหวาดระแวง
ฝ่ายชายนั้นสัมผัสได้ถึงความว่างเปล่า จึงรีบดึงมือของตัวเองกลับมา จากนั้นก็รีบพูดขึ้นมา “คุณยินเสี้ยวเสี้ยวครับ ถ้าคุณหย่ากับคุณชายสามแล้ว ยังไงช่วยเก็บผมไปพิจารณาหน่อยนะครับ ถ้าหากว่าหลังแต่งงานคุณต้องการทำเป็นธุรกิจจริงๆ ผมก็ไม่ถือสาอะไรนะครับ แต่ว่าจะต้องให้ผมทดลองใช้สินค้าก่อน”
เพี๊ยะ!!!
เสียงที่ดังขึ้นดึงดูดสายตาของผู้คนที่อยู่รอบข้าง
เมื่อได้ยินคำพูดนั้นมันทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวโกรธอย่างถึงที่สุด จนตบหน้าชายคนนั้นเข้าไปอย่างแรง “กรุณาให้เกียรติกันด้วยค่ะ ถ้าหากว่าคุณยังพูดแบบนี้ต่อไป เห็นทีว่าฉันกับคุณต้องเจอกันที่ศาลอย่างแน่นอน!”
ในตอนนี้ยินเสี้ยวเสี้ยวเองก็นับว่าเป็นคนดังของเมืองT และยิ่งแถวๆมหาวิทยาลัยนั้นผู้คนรู้จักเธอมากมาย ผู้คนเริ่มมารายล้อม ผู้คนมากมายเดินเข้ามามองที่หน้าของเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า
ใบหน้าที่บอบบาง หุ่นที่เล็กเพรียว ผิวที่ผ่องใส ผู้หญิงคนนี้เป็นที่น่าตกตะลึงเสียจริง!
ฝ่ายชายที่โดนยินเสี้ยวเสี้ยวตบนั้นก็ถึงกับนิ่งอึ้ง เขาดึงสติกลับมา จ้องมองไปที่ยินเสี้ยวเสี้ยวอย่างเคร่งเครียด หลังจากนั้นสองวินาทีเขาก็ตบหน้าเธอกลับไปหนึ่งที
เพี๊ยะ!!!
เสียงที่ดังขึ้นเผยถึงความรุนแรง ยินเสี้ยวเสี้ยวที่โดนตบนั้นถึงกับถอยหลังไปหลายก้าว ผมก็ปกคลุมที่ใบหน้าของเธอ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาชายคนนั้นก็ขยับเข้ามาใกล้เธอแล้ว ยื่นมือออกมาลูบที่เส้นผมของเธอ พูดด้วยน้ำเสียงที่นอบน้อม “ยินเสี้ยวเสี้ยว ฉันเห็นแก่หน้าเธอแล้วนะ ที่ฉันเห็นแก่หน้าเธอ เพราะฉันชอบเธอ เธอมันเป็นผู้หญิงสำส่อน ยังจะคิดที่สร้างอนุสรณ์แห่งพรหมจรรย์อีกเหรอ! ฉันมาหยอกล้อเล่นกับเธอเพื่อเป็นบุญของเธอ!เธอมันนอนกับคนมาแล้วไม่รู้กี่คน คิดว่าฉันจะยังอยากได้เธออีกเหรอ? นังผู้หญิงสกปรก!”
ยินเสี้ยวเสี้ยวเงยหน้ามองชายคนนั้น คิดไม่ถึงว่าเขาจะกล้าตบเธอกลับ ดวงตาของเธอนั้นเต็มไปด้วยความเคียดแค้น
ชายคนน้นกลับขยับเขามาใกล้กว่าเดิม จนลมหายใจของเขานั้นรดที่ใบหน้าของเธอ แรงของมือที่ดึงผมของเธอนั้นก็ไม่คลายลงเลย กลับมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เขาชื่นชมรอยเลือดที่มุมปากของเธอ และเชยชมรอยแผลที่แก้มของเธอ! พูดชื่นชมขึ้นมาว่า “ยินเสี้ยวเสี้ยว คุณชายสามเขาเล่นกับเธอจนเบื่อแล้ว ก็เลยอยากหย่ากับเธอ เธออย่าพูดนะว่าเธอไม่เข้าใจความหมายที่ฉันกำลังจะสื่อออกไป? ผู้หญิงข้างทางอย่างเธอมันมีอะไรดีเหรอ? อย่าคิดว่าตัวเองเรียนมหาลัยสองสามปีก็มีความรู้มากมาย เด็กมหาลัยสมัยนี้มันเต็มไปหมด ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากสินค้า? อย่าคิดที่จะเอาเรื่องกฎหมายมาขู่ฉันเลย เธอคิดว่าตัวเองมันมีคุณค่าขนาดนั้นเลยเหรอไง? ”
ผู้คนรอบข้างต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ยินเสี้ยวเสี้ยวยื่นมือออกไปจับเส้นผมของตัวเองเพื่อบรรเทาการเจ็บปวด แต่มันก็ดูเหมือนไม่มีหนทางใดๆ เธอทำได้เพียงจ้องมองไปที่เขาด้วยสายตาที่ไม่ยอมพ่ายแพ้
“ผู้หญิงที่ถูกหย่าร้างยังจะกล้ามาปากดีใส่ฉันอีกเหรอ เธอคิดว่าตัวเองบริสุทธิ์มากเหรอไง?” ฝ่ายชายพูด พลางกับผลักหัวของเธอออกไปอย่างแรง ร่างกายที่ยังไม่สมดุลของเธอนั้นถอยหลังไปหลายก้าวจนชนกับต้นไม้ ชายคนนั้นจัดเสื้อผ้าของตัวเอง “แม่เมิงสิ ผู้หญิงที่มันไม่รู้ดี ฉันจะรอให้แกเลิกกับคุณชายสามและเล่นจนแกตายเลย!”
หลังจากพูดจบเขาก็เดินจากไป
ยินเสี้ยวเสี้ยวยืนหายใจด้วยอาการเหนื่อยหอบ สีหน้าของเธอซีดเผิอด
สถานที่เคยเงียบในตอนแรก ก็ค่อยๆดังขึ้นด้วยเสียงวิพากษ์วิจารย์
——นี่คือจุดจบของพวกเมียน้อย มันเป็นการจัดฉากของผู้มีอำนาจหรือเปล่า หาเรื่องใส่ตัวจริงๆ
——ฉันคิดว่า การที่คุณชายสามมาหลงรักยินเสี้ยวเสี้ยวนั้น เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเลย
——ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงมีผู้ชายมากมายเข้ามาที่โรงเรียน ที่แท้ก็มาเพื่อหาตัวเธอ?
……
เสียงวิพากษ์วิจารณ์นั้นมีมากมาย ตัวของเธอนั้นเริ่มสั่น แต่ก็ทำได้เพียงเม้มปากและไม่พูดอะไรออกมา
เธอพยายามยืนขึ้น และค่อยๆเดินไปทีละก้าวๆเพื่อไปให้ถึงห้องเรียน
——รองเท้าขาด เหมือนอนาคตหรือเปล่านะ?
——คุณชายสามนี่เป็นสุภาพบุรุษจริงๆ ผู้แบบนี้ควรจะทิ้งไปตั้งนานแล้ว
——ฉันเคยได้ยินมาว่าคุณมู่เยียนหรานนั้นเป็นคู่หมั้นของคุณชายสาม มันเรื่องจริงหรือเปล่า?
——แน่นอนสิ ถ้าไม่อยากนั้นยินเสี้ยวเสี้ยวจะกลายเป็นมือที่สามได้อย่างไรล่ะ
……
ทุกคำพูดเหมือนทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจของเธอ ตอนนี้เธออ่อนกำลังจนแทบที่จะไม่มีแรงร้องไห้ออกมา ทำได้เพียงมองทุกอย่างด้วยความเงียบงัน
ในตอนนั้นเธอเองก็เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อน แต่ตอนนั้นนับว่าเป็นโชคดีของเธอ เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามเธอก็ยังมีเขาคอยอยู่ข้างหลังเสมอ แต่ตอนนี้…….มันยังมีอยู่ใช่ไหม?