Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - บทที่ 86 คนที่รักใครไม่เป็น
บทที่ 86 คนที่รักใครไม่เป็น
ยินเสี้ยวเสี้ยวนั่งอยู่ตำแหน่งของตัวเอง หันหน้ามองผู้ชายที่นั่งอยู่สามคนนั้นอย่างระมัดระวัง
หรือว่า มีแค่เธอที่รู้สึกว่าบรรยากาศที่ไม่ค่อยดี?
ดูดู ยินจื่อเจิ้นดื่มชาอยู่คนเดียวเหมือนกับประเทศบรรณาการชายังไงอย่างนั้น เฉิงชื่อชิง หันศีรษะของเขาและยิ้มอย่างอ่อนโยนไปที่จิ๋นลี่ยวน จิ๋นลี่ยวนก็ไม่ได้สนใจการปรากฏตัวของตัวเองนั้นส่งผลอะไรบ้าง ก็ได้แต่ตักอาหารให้ยินเสี้ยวเสี้ยว แบบนั้นคนที่ไม่รู้ก็คงคิดว่าพวกเขาสองคนมีความสัมพันธ์ที่ดีมากต่อกัน!
ยินเสี้ยวเสี้ยวได้แต่ยิ้มและนั่งกินอาหารอย่างตั้งใจ ไม่สนใจสามคนบนโต๊ะอาหารโดยสิ้นเชิง
จิ๋นลี่ยวนมองดูยินเสี้ยวเสี้ยวที่นั่งอย่างเรีบยร้อยครู่หนึ่งอดไม่ได้จึงยกคิ้วเบาๆ แต่กลับหันไปพูดกับเฉิงชื่อชิง: “ เฉิงสิงจิ่งช่วงนี้ถือได้ว่ามีชื่อเสียงโด่งดังแล้วสินะ?ฉันคาดว่านานาประเทศคงมีน้อยคนที่ไม่รู้จักคุณ”
เฉิงชื่อชิงมักจะดูเป็นคนอ่อนโยนและไม่มีพิษมีภัยอะไร ยิ้มเหมือนสายลมฤดูใบไม้ผลิมักจะทำให้คนเข้าใจผิด ถึงขนาดสติลดลงโดยไม่รู้ตัว ตอนนั้นยินเสี้ยวเสี้ยวยังยิ้มแล้วพูดว่าถ้าเขาเป็นคุณหมอผู้ป่วยในโรงพยาบาลจะต้องชอบคุณหมออย่างแน่นอน แต่สุดท้ายแล้วเขากับอาชีพคุณหมอก็จับไว้ไม่ได้ สุดท้ายก็เป็นตำรวจสากล
ยินเสี้ยวเสี้ยวได้ยินคำพูดของจิ๋นลี่ยวนก็เงยหน้าขึ้นมามองเฉิงชื่อชิง
เมื่อเร็วๆนี้เขาได้รับความสนใจมาก สำหรับเรื่องที่เกี่ยวกับพวกเขาก็สามารถดูได้จากข่าว ก่อนหน้านี้เพิ่งจะได้ปิดคดียาเสพติดระดับประเทศมา ถึงคนจะไม่ได้ออกทีวี แต่ก็มีรายชื่อแสดงอยู่บนหน้าจอ
“พี่ชื่อชิง คุณป้าเฉิงบ่นถึงพี่อีกแล้ว?” ยินเสี้ยวเสี้ยวยิ้มแล้วหยอกล้อ ถ้ารู้ว่าตอนนั้นเฉิงชื่อชิงมาสนใจทางด้านนี้ คงจะโดนแม่ตัวเองบ่นไม่น้อยเลย ดีที่เขายังมีคุณพ่อที่เป็นตำรวจสากลเกษียณอายุแล้วคอยสนับสนุน ไม่งั้นเส้นทางนี้คงจะไม่ราบรื่น “พี่อยู่ข้างนอกต้องดูแลตัวเองด้วยนะ ปัจจัยด้านความปลอดภัยของงานคุณไม่สูงเท่าไหร่”
นี่ก็เป็นคำพูดของยินเสี้ยวเสี้ยวเอง เธอก็ไม่ค่อยชอบอาชีพนี้ของเฉิงชื่อชิงสักเท่าไหร่ แม้ว่าด้านไหนๆก็ดี แต่ไม่พูดไม่ได้ว่าในระหว่างที่ได้รับสวัสดิการที่ดี ขณะเดียวกันก็ต้องตอบแทนด้วยความพยายามที่คนทั่วไปไม่สามารถเข้าใจได้!
เมื่อดวงตาของเฉิงชื่อชิงได้ยินประโยคท้ายที่เป็นห่วงเป็นใย ดวงตาก็อดไม่ได้ที่จะอ่อนไหวหน่อยๆ หันมาก็พูดว่า: “คุณก็ไม่ใช่ไม่รู้ว่าคุณป้าเฉิงของคุณชอบวิตกกังวลเกินไป คุณวางใจเถอะ ฉันจะระวังตัว”
พูดเสร็จแล้ว เฉิงชื่อชิงก็หันไปทางจิ๋นลี่ยวน ชายสองคนมองหน้ากันแต่ไม่ได้พูดอะไร
ผ่านไปนานพอสมควรถึงได้ยินเฉิงชื่อชิงเอ่ยปากพูด: “ดูเหมือนจิ่งซานช่าวก็ติดตามเรื่องประเทศชาติเหมือนกันนะ”
จิ๋นลี่ยวนริมฝีปากบางยกขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่ปฏิเสธ
ทันใดนั้นยินเสี้ยวเสี้ยวก็รู้สึกว่าเรื่องราวมันแปลกๆ?
ทำไมเธอรู้สึกว่าพวกเขาพูดถึงเรื่องอะไรตัวเองฟังไม่เข้าใจ?
โลกของชายสามคนนี้ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่เข้าใจ สุดท้ายแล้วเธอรู้แค่ตัวเองมาแค่เสพสุขกับอาหารเท่านั้น แต่ผู้ชายทั้งสามคนคุยไปเรื่อยเปื่อย เพียงแค่ในตอนนี้ยินเสี้ยวเสี้ยวกลับรู้จุดเด่นเล็กๆน้อยๆของจิ๋นลี่ยวน
เริ่มต้นเปิดหัวข้อด้วยการลงทุนที่ได้รับความนิยมในตลาดT แค่ให้เขาคิด จิ๋นลี่ยวนก็สามารถทำให้สถานที่ต่างๆฮ๊อตขึ้นมาได้
หลังจากกินข้าวเสร็จ เฉิงชื่อชิงตกลงกับยินจื่อเจิ้นว่าจะไปบ้านยินไปเยี่ยมยินไป่ฝัน ยินเสี้ยวเสี้ยวกลับไปเมือง ไห่เมียวกับจิ๋นลี่ยวน เมื่อรอยินจื่อเจิ้นกับจิ๋นลี่ยวนไปขับรถมา เฉิงชื่อชิงกับยินเสี้ยวเสี้ยวรออยู่หน้าประตู
“เสี้ยวเสี้ยว คุณมีความสุขไหม?” ทันใดนั้น เฉิงชื่อชิงก็มองไปข้างหน้าดูรถที่ขับผ่านไปมาแล้วถามคำถามนี้
ยินเสี้ยวเสี้ยวอึ้งสักพัก หันหน้ามามองเฉิงชื่อชิง ที่จริงตัวเธอเองก็มีความรู้สึกมาตลอด เธอรู้ว่าเฉิงชื่อชิงอาจจะชอบตัวเอง ตั้งแต่เด็กก็เริ่มมีความรู้สึกแบบนี้แล้ว แต่ว่าในใจของเธอที่มีต่อเขาทำได้แค่เหมือนกับยินจื่อเจิ้น ที่เป็นแค่พี่ชาย มิฉะนั้นตอนที่เกิดเรื่องคนแรกที่เธอจะไปหาก็คงเป็นเฉิงชื่อชิง คงจะไม่มีเรื่องของจิ๋นลี่ยวนเข้ามา?
แต่ทันใดนั้นที่ได้ยินเฉิงชื่อชิงใช้คำพูดที่อ้างว้างถามเธอ เธอก็รู้สึกปวดใจแทนเขา เพียงแค่แสดงคำพูดออกมาอย่างจริงใจ: “พี่ชื่อชิงฉันมีความสุขมากค่ะ”
เพราะว่าเป็นทางที่ตัวเองเลือกแล้ว ดังนั้นถึงจะยากลำบากเธอก็รู้สึกคุ้มค่า ไม่แน่ความสุขของเธอพรุ่งนี้อาจจะมาถึง จริงไหม?
เฉิงชื่อชิงมองไปที่รถRange Roverอยู่ไม่ไกลนักขับมาอย่างช้าๆแล้วพูดเบาๆว่า: “เสี้ยวเสี้ยว ถ้าเป็นไปได้ฉันหวังว่าคุณจะจำได้ว่า ข้างหลังคุณยังมีฉันเสมอ
ยินเสี้ยวเสี้ยวมองดูเฉิงชื่อชิงด้วยความประหลาดใจ ดวงตาสีดำและสีขาวที่เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย เธอรู้ว่าเฉิงชื่อชิงชอบตัวเองเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ว่าได้ฟังเฉิงชื่อชิงพูดออกมาแบบนี้กลับกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของผู้ชายทั้งสองคนเปลี่ยนไปเพราะเรื่องนี้ เธอแค่อยากเป็นน้องสาวของเขา
อ้าปากขึ้น ยินเสี้ยวเสี้ยวกำลังจะพูดอะไร จิ๋นลี่ยวนและยินจื่อเจิ้นก็มาแล้ว ยินเสี้ยวเสี้ยวจำเป็นต้องขึ้นรถของจิ๋นลี่ยวน ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนที่เฉิงชื่อชิงจะขึ้นรถของยินจื่อเจิ้นก็หันหน้ามาที่เธอแล้วพูดว่า: “อีกไม่กี่วันฉันจะไปจากเมืองTแล้ว วันนี้อาจจะเป็นการพบกันครั้งสุดท้ายแล้ว คุณอย่าลืมพี่ชายคนนี้นะ”
ยินเสี้ยวเสี้ยวมองดูใบหน้าที่อ่อนโยนของเฉิงชื่อชิง อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
พี่ชื่อชิงของเธอ แต่ไหนแต่ไรไม่เคยกดดันเธอ เขาก็ยังคงเป็นเช่นเคย
รถRange Roverที่เงียบขับอยู่บนท้องถนน ยินเสี้ยวเสี้ยวและจิ๋นลี่ยวนสองคนไม่พูดไม่จา
จนขับรถมาถึงสวนสาธารณะของเมืองT จิ๋นลี่ยวนหยุดรถและกำลังจะพายินเสี้ยวเสี้ยวไปเดินเล่น ให้ย่อยอาหาร
ยินเสี้ยวเสี้ยวตามไปแต่โดยดี เธอรู้ว่าวันนี้จิ๋นลี่ยวนปรากฏตัวขึ้นที่นั้นตอนนั้นแน่นอนต้องได้ยินอะไรมา ดังนั้นตอนนี้จิ๋นลี่ยวนไม่แน่อาจจะมีเรื่องอะไรที่อยากคุยกับตัวเองเท่านั้น หลังจากที่ครั้งที่แล้วตัวเองรู้สึกภูมิใจที่เป็นที่โปรดปราน การกระทำของยินเสี้ยวเสี้ยวที่มีต่อจิ๋นลี่ยวนพยายามอย่างหนักที่จะไม่ยึดติดในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
จิ๋นลี่ยวนสวมใส่เสื้อยืดเรียบง่าย แต่รูปร่างที่สูงแล้วใบหน้ารูปไข่วางอยู่บนนั้น จะมองยังไงก็เป็นคนที่มีคุณค่ามาก แล้วก็ดึงดูดสายตาผู้คนรอบๆไม่น้อย แต่ครั้งนี้จิ๋นลี่ยวนกลับไม่ได้จูงมือเธอ
ยืนอยู่ข้างรั้ว จิ๋นลี่ยวนหยุดเดินแล้วหันมามองยินเสี้ยวเสี้ยวพูดเบาๆว่า: “ยินเสี้ยวเสี้ยว เฉิงชื่อชิงชอบคุณ คุณรู้ไหม?”
ตีให้ตายเธอก็คิดไม่ถึงว่าจิ๋นลี่ยวนจะถามเรื่องนี้ออกมาอย่างง่ายๆตรงไปตรงมาแบบนี้ได้ ทันใดนั้นทั้งตัวเธอก็งงๆ รอจนสติกลับมาจิ๋นลี่ยวนยังคงมองเธออย่างจริงจัง เป่าลมออกมาเบาๆ ยินเสี้ยวเสี้ยวมองตรงไปที่เขาแล้วตอบว่า: “ฉันรู้”
ตาที่เหมือนตาเยี่ยวก็หรี่ลงเล็กน้อย จิ๋นลี่ยวนแทบจะไม่ตกใจคำตอบของยินเสี้ยวเสี้ยว เพียงแค่พยักหน้าเบาๆแล้วพูด: “อืม”
ไม่รู้ว่าทำไม ตามหลักแล้วจิ๋นลี่ยวนไม่คิดเล็กคิดน้อยเรื่องนี้สำหรับยินเสี้ยวเสี้ยวแล้วถือว่าเป็นเรื่องดี ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกผิดชอบชั่วดีแต่ว่าจิ๋นลี่ยวนทำเป็นว่าไม่เป็นอะไรต่อหน้าเธอ เธอยังรู้สึกน้อยใจหน่อยๆ
ทันใดนั้นยินเสี้ยวเสี้ยวนึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้เฉิงชื่อชิงที่ถามเธอ เขาถามว่า เสี้ยวเสี้ยว คุณมีความสุขไหม?
เธอมีความสุขไหม? มีความสุขมั้ง อย่างน้อยเธอยังอยู่ข้างกายเขาไม่ใช่เหรอ? มีความสุขจริงๆเหรอ ยิ่งเข้าใกล้เธอยิ่งรู้สึกจิ๋นลี่ยวนเหมือนกับปราสาทน้ำแข็งหลังหนึ่ง เธอยืนมองดูที่ด้านนอกมองเห็นแสงสะท้อนมาที่ด้านหลังตัวเอง และไม่มีประตูเข้าไปยังไงอย่างนั้น เธอไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ และไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่?
เฉินผูลี่ก็เตือนเธอ ให้เธอมีเวลาพูดคุยกับจิ๋นลี่ยวนมากๆ เธอมีเวลาเธอพร้อมที่จะทำ จิ๋นลี่ยวนจะยินดีไหม?
ทันใดนั้น ยินเสี้ยวเสี้ยวก็รู้สึกว่าตัวเองน้อยใจมาก คำพูดในใจก็ได้ออกมา: “จิ๋นลี่ยวน ทุกครั้งที่คุณถามเรื่องในอดีตของฉัน ฉันไม่ได้ปิดบังคุณแม้แต่น้อย ตลอดเวลาถึงแม้ว่าคุณจะไม่รู้ ฉันก็อยากจะบอกคุณเอง แต่คุณบอกฉันหน่อย เรื่องที่เกี่ยวกับคุณ มีเรื่องไหนที่คุณคิดจะบอกฉันบ้าง?”
จิ๋นลี่ยวนมองดูยินเสี้ยวเสี้ยว ไม่เข้าใจว่าเธอเป็นอะไร
สีหน้าของยินเสี้ยวเสี้ยวแสดงออกถึงความเศร้า จิ๋นลี่ยวนเหมือนกับว่าเป็นคนที่รักใครไม่เป็น แค่สนใจทำแต่เรื่องของตัวเอง อาจจะเป็นเพราะไม่ใส่ใจ ดังนั้นแต่ไหนแต่ไรไม่เคยคิดเรื่องไหนบ้างที่ทำร้ายจิตใจเธอ
“จิ๋นลี่ยวน คุณรู้ไหม ก่อนที่ฉันจะไปบ้านคุณ ฉันไม่รู้ว่าคุณคือนายน้อยคนที่สามของบ้านจิ๋น;ตอนที่เตรียมงานแต่ง ฉันก็ไม่รู้ว่าคุณมีแฟนสาวที่คบกันมาได้สองปี;ในวันแต่งงาน ฉันก็ยังไม่รู้อีกว่าแฟนเก่าของคุณก็คือนางเอกที่อยู่บนเวที ที่พวกเราเคยไปดูการแสดงด้วยกัน!” ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดเบาๆ แต่ว่าในแต่ละคำแต่ละประโยคเหมือนเป็นคำถามธรรมดาทที่ถามจิ๋นลี่ยวน “คุณรู้ไหมว่าตอนที่ฉันเห็นมู่ซูวปรากฏตัวในงานแต่ง ฉันรู้สึกยังไง?”
มีบางคำที่ยินเสี้ยวเสี้ยวที่จริงแล้วไม่อยากจะพูด แต่ว่ามีหลายเรื่องที่เก็บไว้นานนานแล้วก็จะระเบิดออกมา
จิ๋นลี่ยวนอาจจะไม่รู้ตลอดกาล ยินเสี้ยวเสี้ยวตอนที่รู้มู่ซูวคือแฟนเก่าของตัวเองจะมีจิตใจสั่นคลอนขนาดไหน
ก่อนหน้านี้สองวัน เธอก็ไปดูมู่ซูวแสดงที่เมืองTกับเขาในครั้งนั้น เธอนั่งอยู่ข้างเขามองดูการแสดงของเธออย่างตั้งใจ ฉันคิดว่าตัวเอง ยังคิดว่าตัวเองทำถูกแล้วที่เป็นคนเลือกทำแต่เรื่องที่คนอื่นชอบ ตอนนี้คิดขึ้นได้ว่าตอนนั้นเขาหลุดเข้าไปอยู่ในการแสดงแบบนั้น ตกลงคือหลุดเข้าไปอยู่ในการแสดงหรือว่าความทรงจำความหลังของพวกเขาสองคน? ต่อมามู่ซูวถึงกับปรากฏตัวที่คอนโดส่วนตัวของเขา เธอยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเหมือนตัวตลกสะดุดล้มอยู่ตรงหน้าจิ๋นลี่ยวน!
“จิ๋นลี่ยวน แต่ไหนแต่ไรคุณไม่เคยบอกเรื่องเกี่ยวกับคุณแม้แต่เรื่องเดียว แต่ว่าเรื่องของฉันคุณรู้อย่างชัดเจนแทบจะทุกเรื่อง คุณรู้ว่าทำให้ฉันเกิดความรู้สึกแบบไหนไหม?” ยินเสี้ยวเสี้ยวมองดูเขา พูดออกมาแต่ละคำแต่ละประโยค: “ฉันรู้สึกว่าฉันไม่ใช่ภรรยาของคุณ เป็นเพียงคนรับใช้ จะมีหรือไม่มีก็ได้”
พูดเสร็จ ยินเสี้ยวเสี้ยวแค่มองดูเขาไม่พูดอะไร ดูหน้าเขาที่ไม่อธิบายอะไรเลย มองหน้าเขาด้วยความสงสัย แต่ตอนนี้เธอไม่อยากพูดกับเขาเยอะกว่านี้แล้ว พูดถึงความน้อยใจของตัวเองออกมาแล้วยังไง? เขาจิ๋นลี่ยวนก็ไม่ได้ใส่ใจ เธอพูดออกมาก็เหมือนเพิ่มเรื่องตลกแค่นั้นเอง
ไม่อยากจะสนใจเขาแล้ว ยินเสี้ยวเสี้ยวหมุนตัวแล้วเดินไป แทบจะไม่ได้สนใจผู้ชายที่มองด้านหลังของเธอว่าคิดอะไร
ช่วงเวลาแต่งงานนี้ที่เพิ่งจะเริ่ม แต่กลับทำให้เธอรู้สึกเหนื่อย สิ่งที่สำคัญที่สุดกลับไม่ใช่ว่าเธออยู่ดีๆก็น้อยใจ แต่เป็นจิ๋นลี่ยวนตั้งแต่แรกก็ไม่ได้คิดที่จะเปิดใจกับเธอ
เธอแปลกใจ ยินเสี้ยวเสี้ยวก็คิดว่า จิ๋นลี่ยวนเคยชอบผู้หญิงคนไหนบ้างหรือเปล่า? หรือว่า ตกลงเขาเคยรักใครบ้างไหม?