Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - บทที่145 การชักนำของเขา
บทที่145 การชักนำของเขา
มู่หลงได้ยินประโยคนี้ ทันใดนั้นก็ไม่ค่อยพอใจ พูดไปทันทีว่า:“ลี่ยวน นี่คุณมาขอโทษหรือว่ามาถามหาความผิดกันแน่?คุณต้องรู้ว่าฝ่ายที่ผิดคือคนบ้านจิ๋นของคุณ ไม่ใช่คนของตระกูลมู่ผม ถ้าคุณยังทำนิสัยแบบนี้ต่อไปล่ะก็ ผมว่าคุณก็เป็นแค่ทายาทคนรวยคนหนึ่งที่ไม่เอาไหนเท่านั้นแหละ!”
คำนี้พูดเกินไปหน่อย แม้แต่มู่เยียนหรานต่างขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างอดไม่ไหว
แต่จิ๋นลี่ยวนกลับยังไม่แคร์ ได้แต่หันไปมองเงียบๆแล้วพูดกับมู่หลงว่า:“คุณลุง ไม่รู้ว่าคำพูดของผมทำให้ท่านไม่พอใจตรงไหน ที่ผมพูดก็เป็นเรื่องที่คุณป้าพูดเมื่อครู่ มากกว่านั้นก็ไม่มีแล้ว หรือว่าคุณคิดมากไป?นอกจากนี้ ถ้าหากคุณลุงรู้สึกว่าผมเป็นแค่‘ทายาทที่ไม่เอาไหน’งั้นก็แล้วแต่ครับ ยังไงผมก็ควบคุมความคิดของคุณไม่ได้”
แค่ประโยคเดียว แต่ชัดเจนว่าเป็นการเยาะเย้ยและไม่พอใจ แต่จิ๋นลี่ยวนพูดเบาๆ
ยินเสี้ยวเสี้ยวมองเขาเงียบๆไม่พูดอะไร หลายๆครั้งจิ๋นลี่ยวนเหมือนกับท้องฟ้าที่อยู่บนหัวเธอ ไม่ว่าเกิดเรื่องอะไร แค่เงยหน้ามอง เขามักจะคอยคุ้มกันอยู่ข้างกายตัวเองเสมอ
ถึงทั้งสองจะถูกบังคับให้มาขอโทษที่ตระกูลมู่อย่างชัดเจน แต่จิ๋นลี่ยวนกลับไม่ยอมพ่ายแพ้
ความโกรธของมู่หลงก็ถูกจิ๋นลี่ยวนจุดประกายสูงขึ้นมา พริบตาเดียวตอนที่อยากจะยืนขึ้นมาโต้แย้งกับเขา มู่ซูวกลับออกมาจากห้องเต้น
ห้องเต้นของตระกูลมู่อยู่ข้างห้องรับแขกชั้นหนึ่งพอดี เสียงเปิดประตูดึงดูดสายตาทุกคน
มู่ซูวยืนตรงนั้นเหมือนไม่รู้ว่าในบ้านมีแขก เสื้อยืดโคร่งๆเผยกระดูกไหปลาร้าที่บอบบางกับสายด้านในเล็กๆ กางเกงเต้นที่รัดๆฟิตจนปรากฏรูปร่างที่แสนเพอร์เฟคของเธอ ผมมัดไว้สูงๆ ที่คอมีผ้าขนหนูพาดไว้ ตอนนี้กำลังเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก……
ท่าทางเหมือนกับทำงานหนัก
ต้องบอกว่า เวลานี้มู่ซูวสวยจนน่าตะลึง
บนโลกใบนี้มักจะมีผู้หญิงบางส่วน เวลาที่สวยที่สุดไม่ใช่ตอนที่แต่งตัวแต่เป็นช่วงที่หนึ่งในการใช้ชีวิต และในช่วงเวลานี้ก็ถูกมู่ซูวเข้าใจได้อย่างดี
“ลี่ยวน?”พูดเสียงเบาๆ มู่ซูวเหมือนจะเพิ่งได้สติคืนมา สีหน้าแดงเล็กน้อยก้มลง
ยินเสี้ยวเสี้ยวมองมู่ซูวแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย ที่มู่ซูวสวมไม่มีปัญหาใดๆ แม้ว่าจะไม่ได้โป๊เปลือย แต่แต่งตัวแบบนี้กลับล่อใจเล็กน้อย หน้าอกที่ใหญ่เอวเล็กและสะโพกผายนั้น ……
ยินเสี้ยวเสี้ยวกับมู่เยียนหรานแทบจะหันไปมองจิ๋นลี่ยวนพร้อมกัน จิ๋นลี่ยวนกลับได้แต่หรี่ตาเล็กน้อยจากนั้นก็ไม่ตอบสนองใดๆ ก็แค่สายตาหยุดไปที่เสื้อยืดตัวนั้นของมู่ซูวแป๊บหนึ่ง การกระทำเล็กๆน้อยๆนี้ยินเสี้ยวเสี้ยวกับมู่เยียนหรานต่างสังเกตเห็น ก็อดไม่ไหวที่จะมอง
เสื้อผ้าที่เก่ามาก เป็นเสื้อยืดธรรมดาของยี่ห้อหนึ่ง แต่ไม่มีตรงไหนที่ไม่เหมือนเลย
“ฉันขึ้นไปเปลี่ยนชุดก่อนแล้วค่อยลงมา”พูดไป มู่ซูวก็เหลือบมองไปที่ยินเสี้ยวเสี้ยวด้วย‘ความหวาดกลัว’เล็กน้อยแล้วก็หมุนตัววิ่งออกไป การมองนั้นทำให้ในใจของยินเสี้ยวเสี้ยวอึดอัดหน่อยๆ
ความโกรธของมู่หลงถูกตัดบทไปก็ทำให้นิ่งขึ้นมาเยอะ หมุนตัวแล้วก็พูดต่อ:“จิ๋นลี่ยวน อย่าลืมว่าวันนี้จุดประสงค์ที่คุณมาที่นี่คืออะไร คุณมาขอโทษก็ควรมีความรู้สึกผิด!”
จิ๋นลี่ยวนหันไปมองเขา พูดแค่ประโยคเดียว:“ลุงครับ ผมมาขอโทษ แต่ไม่ได้มาทำตัวน้อยใจ”
พูดจบ จิ๋นลี่ยวนก็ลุกขึ้นจะพายินเสี้ยวเสี้ยวออกไป
เวลานั้นคนในห้องรับแขกทั้งหมดต่างตะลึง
นี่มาขอโทษจริงๆใช่ไหม?
ก่อนมายินเสี้ยวเสี้ยวจินตนาการเยอะมาก จะต้องเป็นเธอที่ทะเลาะกับคนของตระกูลมู่แน่นอน ยังไงก็คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายที่ขัดแย้งกับคนของตระกูลมู่จะเป็นจิ๋นลี่ยวนได้ และความโกรธของเขาเหมือนพอเห็นมู่ซูวก็พุ่งขึ้นมาทันที
หรี่ตาลงเล็กน้อย ยินเสี้ยวเสี้ยวมองจิ๋นลี่ยวนอย่างสงสัย ไม่พูดอะไร
มือเล็กๆถูกจิ๋นลี่ยวนกุมในข้อมือ ก้าวเท้าใหญ่ไปข้างหน้า ยังไงยินเสี้ยวเสี้ยวก็รู้สึกคิดไม่ถึง จิ๋นลี่ยวนที่ควบคุมอารมณ์ได้ดีมาตลอดโมโหในเวลานี้?
“ลี่ยวน……”ด้านหลังมีเสียงวิ่งเบาๆ พร้อมกับความหอบเล็กน้อย
เสียงเรียกคำเดียว ยินเสี้ยวเสี้ยวกับจิ๋นลี่ยวนต่างรู้ว่าคนที่อยู่ด้านหลังคือใคร แล้วฝีเท้าก็หยุดลงทันที
มู่เยียนหรานตามมา อาจจะเพราะว่าสาเหตุที่เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลเพราะร่างกายยังอ่อนแอเล็กน้อย เดินไปไม่กี่ก้าวแล้วยืนตรงหน้าเขาก็ต้องยันกำแพงไว้เพื่อหายใจ ผ่านไปนานถึงดีขึ้น
“ขอโทษนะ อารมณ์พ่อฉันไม่ค่อยดี”มู่เยียนหรานพูดเสียงเบา ในสายตามีความรู้สึกขอโทษมองไปที่จิ๋นลี่ยวนกับยินเสี้ยวเสี้ยว“ที่จริง วันนี้พวกคุณไม่จำเป็นต้องมา ฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรก็แค่โรคเดิมๆ เป็นพ่อกับแม่ฉันเองที่กังวลไป ตอนนี้อยู่ที่นี่ก็ยังโกรธอีก ขอโทษจริงๆ……”
ตั้งแต่มู่เยียนหรานมายินเสี้ยวเสี้ยวก็เอาแต่มองเธอ
หน้าตาถือว่าสวยงามละเอียดอ่อน ก็แค่เทียบกับยินรั่วอวิ๋นรวมถึงมู่ซูวแล้วก็ยังถือว่าขาดไปนิดหน่อย แต่สมองของเธอกลับฉลาดมากกว่ายินรั่วอวิ๋นกับมู่ซูวมาก
ผู้หญิงแบบนี้ มองยังไงก็ไม่ใช่คนที่ควรรับมือด้วย
พูดไป มู่เยียนหรานก็หันไปมองยินเสี้ยวเสี้ยวแล้วพูด:“เสี้ยวเสี้ยว เรื่องครั้งที่แล้วอย่าเอาใส่ใจเลยนะ ฉันไม่ใส่ใจหรอก เป็นคุณกับ ลี่ยวนต่างหาก ที่ไม่ต้องแตกแยกกันเพราะเรื่องนี้ แบบนี้ไม่ดี……”
มุมปากยกขึ้นอย่างเยาะเย้ย ยินเสี้ยวเสี้ยวพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้เย้ยหยันไป!
ความหมายของเธอมู่เยียนหรานก็คือทุกอย่างคือความผิดของเธอ?
ยินเสี้ยวเสี้ยวอ้าปากยังไม่ทันพูดอะไร จื่อผู่หยางก็ตามออกมา เวลานั้นยินเสี้ยวเสี้ยวคิดว่าจงใจจริงๆหรือไม่!นี่ถ้าจิ๋นลี่ยวนไม่เชื่อเธอ ตอนนี้มองท่าทางเธอที่ไม่ตอบโต้แบบนี้ ไม่ใช่ว่าทำให้เธอกลายเป็นคนผิดแบบนี้จริงๆเหรอ?
ที่จริง ยินเสี้ยวเสี้ยวคิดไม่ผิด นิสัยของเธอไม่เคยยอมรับหากไม่ใช่เรื่องที่ตัวเองทำผิด แต่ตอนนี้แค่ไม่พูดอะไร เวลานั้นแม้แต่จิ๋นลี่ยวนที่ก่อนหน้านี้คิดไว้หน่อยๆก็อดไม่ได้ที่จะผิดหวังนิดๆ……
“ลี่ยวน คุณก็เพิ่งมา มีเหตุผลที่จะไปจากที่นี่ตรงไหน?”จื่อผู่หยางพูดด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า ความไม่พอใจเมื่อครู่เหมือนว่าไม่มีแล้ว ได้แต่ยื่นมือไปจูงผู้หญิงของตัวเองเงียบๆแล้วพูด“เยียนหรานนี่ร่างกายก็ยังไม่ค่อยดี ตอนนี้กำลังรอหัวใจที่เหมาะสมแล้วก็จะได้ทำการผ่าตัด พวกคุณก็ถือว่าเป็นเพื่อนที่ค่อนข้างสนิทที่สุดของเธอในเมืองTแล้ว ช่วงนี้เธอไปไหนไม่ได้สักสองสามวัน ในเมื่อพวกคุณมาแล้วก็คุยกับเธอดีๆเถอะ เธออยู่คนเดียวจะได้ไม่เบื่อ ……”
จิ๋นลี่ยวนไม่พูดอะไรได้แต่มองมู่เยียนหรานแวบหนึ่งเงียบๆ
ยินเสี้ยวเสี้ยวมองมู่เยียนหรานแวบหนึ่งแล้วก็พูดไปว่า“ในเมื่อคุณป้าพูดแบบนี้แล้ว งั้นพวกเราก็อยู่ต่อเถอะ ไม่ใช่ว่าคุณย่าบอกเหรอว่าให้พวกเราเป็นมิตรต่อเยียนหรานไว้?ยังไงคุณย่าก็เห็นเยียนหรานเป็นหลานสาวมาตลอด ……”
ก้มลง จิ๋นลี่ยวนมองยินเสี้ยวเสี้ยว สายตาที่ลึกซึ้งกลับมีรอยยิ้มเผยออกมา
ภรรยาตัวน้อยของเขา นี่กำลัง‘ใช้โอกาสมาทำลายเธอ’อยู่เหรอ?
จริงๆ ได้ยินคำนี้ สีหน้ามู่เยียนหรานก็เปลี่ยนเล็กน้อย!
‘หลานสาว’?นั้นคือไม่มีทางแต่งเข้าบ้านจิ๋นได้อีกตลอดไปไม่ใช่เหรอ?
ยินเสี้ยวเสี้ยวถูกจิ๋นลี่ยวนมองจนรู้สึกละอาย สีหน้าแดงหน่อยๆพูดไปว่า“หรือว่าไม่ใช่?ถ้าเป็นแบบนี้ คุณก็คือพี่ชายเยียนหรานน่ะสิ……”
ยิ่งพูดไป สีหน้าของยินเสี้ยวเสี้ยวก็ยิ่งแดง
เธอรู้ว่าจิ๋นลี่ยวนไม่ชอบท่าทางที่เธอพูดถึงมู่เยียนหรานเป็นศัตรูแบบนี้ แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็รู้สึกว่ามู่เยียนหรานชอบจิ๋นลี่ยวนมาก แบบนี้แล้ว ไม่ว่ายังไงเธอก็ควรจะหาทางปกป้องครอบครัวตัวเองไม่ใช่เหรอ?
จิ๋นลี่ยวนขำกับคำหยอกล้อของยินเสี้ยวเสี้ยว แล้วจึงพยักหน้ารับ แล้วกลุ่มคนจึงกลับไปที่ห้องรับแขก ครั้งนี้มู่หลงพูดไปตรงๆว่าตัวเองยังมีธุระขอตัวกลับไปที่ห้องทำงาน เพราะไม่เห็นด้วยแต่ทำอะไรไม่ได้ ส่วนจื่อผู่หยางก็ไม่ได้อยู่คุยกับพวกเขาที่นี่แต่ลุกกลับไปที่ห้องตัวเอง ในเวลานั้นห้องรับแขกก็เหลือแค่พวกเขาสามคน
“ลี่ยวน ฉันได้ยินว่าคุณย่าบอกว่าคุณชอบดื่มชา ที่บ้านฉันมีชาต้าหงเผาพอดีเลย งั้นฉันไปทำให้คุณสักหน่อยละกันเอาไหม?”พูดไป มู่เยียนหรานก็ลุกขึ้นแล้วไปทางห้องครัว จิ๋นลี่ยวนขมวดคิ้วลุกขึ้นตามไป
มู่เยียนหรานในตอนนี้ ไม่มีใครอยู่ข้างๆก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าหากมีเรื่องคาดไม่ถึงเกิดขึ้นตอนนั้นเรื่องก็คงวุ่นวายขึ้นจริงๆ ก็แค่ยังไงจิ๋นลี่ยวนก็คิดไม่ถึง ตอนที่พวกเขาเพิ่งออกไป มู่ซูวก็ลงมา
ทั้งสองนั่งในห้องรับแขกไม่พูดอะไร ยินเสี้ยวเสี้ยวนั่งบนโซฟา มู่ซูวกลับยืนอยู่ไม่ไกลตรงหน้าเธอ
“ยินเสี้ยวเสี้ยว ฉันคิดว่าคุณจะมีความสามารถมากแค่ไหน วันนี้ถูกบังคับให้มาขอโทษเหรอ?”มู่ซูวพูดเยาะเย้ย
ตั้งแต่เริ่ม เธอก็ไม่คิดว่ายินเสี้ยวเสี้ยวเป็นคู่แข่งมู่เยียนหราน ตัวเธอเองแข่งกับมู่เยียนหรานมาหลายปียังไม่เคยชนะ อีกอย่าง ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่มีความเป็นผู้หญิงอยู่เลย?
มือที่ถือน้ำผลไม้สั่นเล็กน้อย ยินเสี้ยวเสี้ยวเงยมองเธอ
มู่ซูวเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เธอทำเหรอ?
มู่ซูวเดินหน้าไปทีละก้าว ไปตรงหน้ายินเสี้ยวเสี้ยวแล้วพูด:“ยินเสี้ยวเสี้ยว คุณต้องใช้ชีวิตอยู่นานๆหน่อยนะ แบบนี้คุณจะได้มองเห็นของที่อยู่ข้างกายคุณเหมือนโดนฉกไป ความรู้สึกที่เหมือนถูกทำลาย ฉันเฝ้ารอที่จะเห็นจริงๆ คุณที่ให้จิ๋นลี่ยวนปฏิบัติต่อฉันแบบนี้ ถึงวันนั้นก็จะถูกปฏิบัติอย่างนั้น!”
หลายๆครั้ง มู่ซูวพูดยินเสี้ยวเสี้ยวก็ไม่เข้าใจ เหมือนกับตอนนี้
ผ่านไปนาน หลังจากที่มู่ซูวชื่นชมท่าทางที่น่าสงสัยบนใบหน้ายินเสี้ยวเสี้ยวแล้วจึงถาม:“ยินเสี้ยวเสี้ยว ตั้งแต่เรื่องเกิดจนตอนนี้ ประโยคที่จิ๋นลี่ยวนพูดกับคุณ เขาเชื่อคุณไหม?”
ประโยคเดียว พูดจนร่างกายยินเสี้ยวเสี้ยวสั่นนิ่งขึ้นมาทันที
ใช่ เขาเมื่อคืนพูดแบบนั้น แต่กลับยังไม่มีความแสดงออกชัดเจนว่าเขาเชื่อเธอ ตอนนี้คิดดูแล้วคำพูดเมื่อคืนเขาส่วนมากกลับเป็นการชักนำ ชักนำให้วันนี้เธอมาขอโทษที่นี่ ……
มองสภาพยินเสี้ยวเสี้ยว มู่ซูวก็ทนไม่ไหวอยากจะขำ เธออยู่ข้างกายจิ๋นลี่ยวนมาสองปีจะไม่รู้ได้ไงว่าจิ๋นลี่ยวนคือคนแบบไหน พูดจริงทำจริง โหดร้าย ได้รับถ่ายทอดสไตล์ที่เต็มไปด้วยพลังมาจากคุณย่าแห่งบ้านจิ๋นอย่างมาก ตอนที่ไร้ความรู้สึกก็ไร้ความรู้สึกได้มากกว่าใครๆทั้งนั้น!
เขาก็คือปีศาจตัวหนึ่งที่มาจากขุมนรกปีศาจ สามารถเอาใจพาคุณขึ้นสวรรค์ได้ และก็สามารถทำลายคุณให้ลงนรกได้เช่นกัน