Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - บทที่150 นาฬิกาของยินจื่อเจิ้น
บทที่150 นาฬิกาของยินจื่อเจิ้น
ชุดเดรสสีดำ ยินเสี้ยวเสี้ยวคล้องแขนจิ๋นลี่ยวนเข้าไป‘ร้านอาหารเทาถี้’
ตอนยินจื่อเจิ้นมองเห็นร่างเธอก็มีรอยยิ้มที่มุมปากออกมาอย่างอ่อนโยน หมุนตัวเดินไปทางพวกเขา ท่าทางแบบนั้น ในดวงตาสีดำลึกซึ้งนั้นเหมือนไม่เห็นจิ๋นลี่ยวนอยู่
“พี่”เรียกอย่างอ่อนหวาน รอยยิ้มที่มุมปากยินเสี้ยวเสี้ยวตื่นเต้นเป็นพิเศษ
ตั้งแต่นี้ไป ยินจื่อเจิ้นก็คือผู้มีอำนาจที่สุดของ‘บริษัทจื่อยิน’หมายความว่าไม่ใช่แค่ยินจื่อเจิ้นจะมีอำนาจควบคุม‘บริษัทจื่อยิน’ยิ่งไปกว่านั้นการอยู่ในระดับเดียวกับเขา แม้แต่เอามูลค่าของยินจื่อเจิ้นด้วยก็เพิ่มขึ้นไม่น้อย กลายเป็นเศรษฐีหนุ่มโสดในเมืองTกับคุณชายใหญ่ตระกูลยิน
“มาแล้ว”คำพูดธรรมดามาก แม้แต่ท่าทียังกลายเป็นมีความใกล้ชิดมากขึ้นและไม่อึดอัด
พยักหน้า ยินเสี้ยวเสี้ยวละแขนออกจากจิ๋นลี่ยวน แต่ไปคล้องแขนยินจื่อเจิ้นแทน นี่คือการกระทำที่ปกติ น้องสาวคล้องแขนพี่ชายตัวเองร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำก็เป็นเรื่องที่เจอบ่อย
ไม่ได้ไม่ดีใจ ก็แค่ตอนที่จิ๋นลี่ยวนเห็นยินจื่อเจิ้นก็มีรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้ง
ตั้งแต่รู้ว่ายินจื่อเจิ้นอยู่ตำแหน่งในใจของยินเสี้ยวเสี้ยว เขาก็เห็นอย่างเปิดเผยมากขึ้น
ถึงยินจื่อเจิ้นจะใช้ความรู้สึกลึกซึ้งแค่ไหนก็ไม่สามารถควบคุมหัวใจยินเสี้ยวเสี้ยวได้ มากไปกว่านั้นก็มี่มทางได้ผลลัพธ์ใดๆ เป็นแบบนี้ต่อไปมีแต่จะเพิ่มความเศร้าโศกให้ยินจื่อเจิ้น
“พี่คะ ยินดีด้วย……”ยื่นมือไปหยิบแชมเปญจากถาดในมือพนักงาน ยินเสี้ยวเสี้ยวชูแก้วไปที่ยินจื่อเจิ้น“ยินดีด้วยนะพี่ และก็ยินดีกับฉันด้วย……”
แล้วก็เงยหน้าขึ้นดื่มแชมเปญหมดขวด ยินจื่อเจิ้นเลิกคิ้วขึ้นหน่อยๆมองดูยินเสี้ยวเสี้ยวที่สวยขึ้นเรื่อยๆ
“ยินดีกับพี่ ต่อไปมีพี่คอยสนับสนุน กลายเป็นยินเสี้ยวเสี้ยวที่ไม่ต้องกลัวฟ้ากลัวดินอีกต่อไป”ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดยิ้มๆรอยยิ้มที่มุมปากมีความสละสลวย“ต่อไปฉันจะทำอะไรก็ไม่ต้องกลัวได้แล้วใช่ไหม?”
ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดหยอกเล่น ในใจของเธอ คนที่เชื่อใจที่สุดคือยินจื่อเจิ้นตลอดไป
จิ๋นลี่ยวนเดินเข้ามา ได้ยินแบบนี้ ในใจก็ไม่ค่อยพอใจนัก แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่ควรเป็นสาเหตุที่ต้องโกรธกับยินเสี้ยวเสี้ยว ไม่งั้นเขาก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กน้อยที่เพิ่งเกิด
“ใช่สิ พี่ ครั้งที่แล้วคุยกับพี่ว่าจะไปทำงาน‘บริษัทจื่อยิน’น่าจะเปลี่ยนแล้ว……”ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดอย่างผิดหวัง ตั้งแต่เด็กก็ชื่นชมยินจื่อเจิ้นมาก เอาแต่อยากเรียนรู้จากเขาบ้าง แต่น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาส “ฉันต้องไปเรียนปอโทที่มหาวิทยาลัยT แต่ฉันยังไปฝึกงานที่‘บริษัทจื่อยิน’ได้ ยังรับฉันไหม?”
ในการทำงาน ยินจื่อเจิ้นละเอียดเสมอมา เคร่งขรึมจริงจัง ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่เคยคิดว่าพี่ชายเธอจะยกเว้นให้เธอ ตอนนี้ถามแบบนี้ไปเลยระวังตัวเล็กน้อยอย่างชัดเจน
ในใจผิดหวังเล็กน้อย
เดิมทีวันนั้นได้ยินคำพูดของยินเสี้ยวเสี้ยวเขาก็ดีใจเล็กน้อย ……
หลายครั้ง คนมักจะเป็นแบบนี้ ถึงแม้รู้ตอนจบแต่ก็ยังอยากจะลองดูสักตั้ง
แต่ ฝึกงานได้ แต่ก็จะลำบากขึ้นหน่อย แต่มีเขาดูก็น่าจะไม่มีปัญหานัก
พยักหน้า ยินจื่อเจิ้นรับปากไว้
บางทียินเสี้ยวเสี้ยวอาจจะไม่เคยเห็น ตั้งแต่เด็กจนโต แค่ยินเสี้ยวเสี้ยวต้องการ เขาก็ไม่เคยปฏิเสธ ……
จิ๋นลี่ยวนชูแชมเปญไปที่ยินจื่อเจิ้นแล้วพูดเสียงเบา:“เสี้ยวเสี้ยว ต้องรบกวนให้คุณดูแลแล้ว”
ตาสีดำมองตาคมกริบคู่นั้น ยินจื่อเจิ้นก็ชูแก้วขึ้นยิ้มแล้วดื่มไป
ระหว่างนั้น คนจำนวนไม่น้อยมาหายินจื่อเจิ้น ยินจื่อเจิ้นก็ยิ้มตอบรับ จิ๋นลี่ยวนก็พายินเสี้ยวเสี้ยวไปอีกด้าน แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีคนจำนวนมากถือโอกาสนี้เข้ามาคุยกับพวกเขา ส่วนคนบ้านยินที่เหลือนั้นก็เข้าร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้……
ตอนยินรั่วอวิ๋นคล้องแขนเซี่ยงเฉิงเข้ามา คนจำนวนไม่น้อยต่างหยุดมองไปที่ยินเสี้ยวเสี้ยวแป๊บหนึ่งไม่รู้ตัว
สองสาวพี่น้องคู่นี้ มีความวุ่นวายสุดๆในเมืองT
รอยยิ้มที่มุมปากยังไม่เปลี่ยน ครั้งที่แล้วตอนที่เธอโทรหาโหลต้าจ้วงต่อหน้ายินรั่วอวิ๋นเพราะต้องการถอนคำฟ้องที่ห้าง เธอปล่อยยินรั่วอวิ๋นไปครั้งหนึ่งแล้ว ตอนนี้เห็นเธอก็ไม่รู้สึกมีอารมณ์ใดๆเท่าไหร่นัก ในระหว่างพวกเธอไม่ค่อยมีความเป็นพี่น้องอยู่แล้ว
เซี่ยงเฉิงเข้ามาก็เห็นยินเสี้ยวเสี้ยวในชุดกระโปรงดำ สายตาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ยินเสี้ยวเสี้ยวหลังแต่งงานนั้น สวยงามสงบนิ่งขึ้นมาก
หลี่หมึ้งกับยินไป่ฝันคอยรับแขกตลอด ถึงไม่ชอบยินเสี้ยวเสี้ยว แต่เห็นจิ๋นลี่ยวนตามอยู่ข้างๆไม่ไกลมากนักก็ไม่กล้าเข้าไปพูดอะไรที่ไม่น่าฟังนัก ได้แค่คอยเหลือบมองเธออยู่เรื่อยๆ
ในสายตาคนบ้านยิน ยินเสี้ยวเสี้ยวก็เหมือนคนอกตัญญู
“ผมได้ยินว่าวันนี้น้องชายคุณจะกลับมาด้วย?”จู่ๆจิ๋นลี่ยวนก็พูดเสียงเบาข้างหูเธอ
พยักหน้า ครั้งที่แล้วคุยโทรศัพท์ก็ได้ยินยินจื่อเจิ้นพูดเรื่องนี้ แต่จนตอนนี้เธอยังไม่เห็นยินจื่อเว่ยและก็ไม่รู้ว่าสรุปแล้วกลับมาหรือไม่“ฉันก็ได้ยินมา แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นเขาเลย”
ยินจื่อเว่ย คุณชายน้อยของบ้านยิน ตอนนี้ยี่สิบเอ็ด แต่ทุกคนต่างรู้ว่าเขาเป็นคนเสเพล วันๆเอาแต่เที่ยว
งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ยินไป่ฝันยืนที่เวที ตอนที่ประกาศว่าอำนาจดูแลของ‘บริษัทจื่อยิน’จะส่งต่อให้ยินจื่อเจิ้น ทั้งงานเลี้ยงก็มีเสียงปรบมือขึ้นมา สำหรับจุดจบแบบนี้ดูค่อนข้างพอใจ ถึงจะไม่มีโอกาสเข้าฮุบ‘บริษัทจื่อยิน’แต่ภาพที่ยินเสี้ยวเสี้ยวแต่งเข้าบ้านจิ๋น ก็น่าจะไม่มีใครมีความกล้านี้
จุดประสงค์งานเลี้ยงนี้เรียบง่ายมาก ก็แค่จะเอาสถานะของยินจื่อเจิ้นประกาศให้โลกรับรู้
ลงมาจากเวที ยินจื่อเจิ้นก็ถูกคนจำนวนมากล้อมรอบ แม้แต่ยินเสี้ยวเสี้ยวกับจิ๋นลี่ยวนก็ถูกล้อมไปด้วย
ยินรั่วอวิ๋นหยิบของขวัญที่ตัวเองเตรียมมาตามเซี่ยงเฉิงเดินเข้าไป ของขวัญแบบนี้ก็มีแค่ครอบครัวถึงจะเตรียมให้เขาได้ ตอนนี้ตำแหน่งของยินรั่วอวิ๋นไม่ดีมากนัก ถ้า ยังไม่รู้จักเอาใจยินจื่อเจิ้น ก็น่าจะไม่มีที่ยืนแล้ว
“พี่ นี่คือของขวัญที่ฉันให้พี่ ยินดีที่พี่ดูแล‘บริษัทจื่อยิน’ด้วยนะ”ยิ้มไปอย่างอ่อนโยน ยินรั่วอวิ๋นยังคงดูอ่อนหวานเป็นพิเศษ“ฉันก็ไม่รู้ว่าพี่จะชอบหรือไม่ นี่คือของที่ฉันกับเซี่ยงเฉิงเลือกให้ พี่ลองดู”
พูดไปยินรั่วอวิ๋นก็จะแกะหล่องให้ยินจื่อเจิ้น ในกล่องทรงเหลี่ยมก็มีนาฬิกาผู้ชายเรือนหนึ่งปรากฏ
คนรอบๆต่างอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว
คุณหนูสองบ้านยินคนนี้ไม่มีสมองเลยเหรอไง?
ไม่ฟังข่าวให้ดีๆก็เอาของมาให้?
มีนาฬิกาที่ยินเสี้ยวเสี้ยวให้อยู่แล้ว นาฬิกาเรือนนี้ก็น่าจะเป็นของที่ไปอยู่ใต้กล่องแหงๆ……
“ขอบคุณนะ พี่ชอบมาก”พูดไปเบาๆ ยังไงก็เป็นน้องสาวตัวเอง ยินจื่อเจิ้นไม่ทำให้เธอลำบากใจ“ไม่ต้องลองหรอก นาฬิกาพวกนี้มันปรับได้”
พูดไป ผู้ช่วยเฉิงกังที่อยู่ด้านหลังยินจื่อเจิ้นก็เข้ามาเก็บของขวัญให้
จู่ๆ ก็มีคนพูด:“คุณชายใหญ่ยินโชคดีจริงๆ น้องสาวทั้งสองมอบนาฬิกาให้คุณ ดูเหมือนต่อไปบนมือของคุณชายใหญ่ยินก็คงไม่ว่างแล้ว”
คิ้วขมวดแน่น จิ๋นลี่ยวนมองไปที่ข้อมือซ้ายยินจื่อเจิ้นอย่างไม่คิด แต่มีเสื้อบังไว้เลยมองไม่เห็น
มองยินเสี้ยวเสี้ยวอย่างสงสัย เธอกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
บางที นาฬิกาเรือนนั้นในหัวเขาก็คงไม่อยู่บนมือยินจื่อเจิ้นหรอกมั้ง……
ยินจื่อเจิ้นกลับยิ้มไม่พูดอะไร สายตาออ่นโยนมองไปที่ยินเสี้ยวเสี้ยวแล้วพูด:“นั่นมันแน่อยู่แล้วครับ”
มีนาฬิกาที่เธอให้ ต่อไปข้อมือเขาก็ไม่ว่างอีก แต่จะไม่มีของที่คนอื่นให้อยู่ตรงนั้นแน่ๆ
สีหน้ายินรั่วอวิ๋นซีดเล็กน้อยมองไปที่ข้อมือยินจื่อเจิ้น แม้แต่หลี่หมึ้งก็อดไม่ได้ที่จะมองค้อนใส่ยินเสี้ยวเสี้ยว
เธอทำอะไร ไวกว่าจริงๆ!
บิดตัวเล็กน้อยด้วยความไม่พอใจ หลี่หมึ้งอยากจะดึงยินรั่วอวิ๋นออกมาจากกลุ่มคนแล้วไปพูด ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่ยินเสี้ยวเสี้ยวโจมตีต่อหน้าสื่อ เธอก็หดหู่ขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้ต่อไปไม่ใช่เรื่องดี แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะไม่ทันระวังชนไปที่พนักงานเสิร์ฟอีกด้าน ในมือพนักงานยังมีถาด ทันใดนั้นแก้วบนถาดก็ตกไปที่พื้น ……
เพล้ง เพล้ง เพล้ง……
เสียงแตกดังขึ้นมา ทุกคนต่างตะลึง
จนตอนที่ได้สติคืนมา กลับเห็นคนสามคนที่ยืนท่ามกลางเศษแตกนั่นสีหน้าไม่ค่อยดี
ยินเสี้ยวเสี้ยวยืนตรงกลาง ขาเล็กถูกเศษแก้วบาดลงไป แผลบางๆยังไม่มีเลือดไหลทันทีแต่รู้สึกแสบเล็กน้อย แต่ตอนนี้เธอกลับไม่มีความคิดไปสนใจ เพราะตอนนี้ ……
ตอนที่พนักงานชนเข้ามา ยินเสี้ยวเสี้ยวยืนอยู่ใกล้มาก ยินจื่อเจิ้นกับจิ๋นลี่ยวนจะยื่นมือไปปกป้องเธอโดยจิตใต้สำนึก ยินจื่อเจิ้นยื่นมือซ้ายของตัวเองคว้าแขนของยินเสี้ยวเสี้ยว จากนั้นก็เห็นแขนของตัวเองถูกจิ๋นลี่ยวนคว้าไว้ ดวงตาคมกริบนั้นมองตรงไปที่นาฬิกาบนข้อมือยินจื่อเจิ้น ……
นาฬิกาจักรกลที่ประณีตเป็นพิเศษ ดูสงบนิ่งออกมา……
จิ๋นลี่ยวนเห็นนาฬิกาเรือนนั้น ก็อยู่ที่เมืองไห่เมียว แต่ตอนนี้กลับอยู่บนมือยินจื่อเจิ้น
ตาคมกริบนั้นมีประกายความสงสัย ไม่เข้าใจ โกรธ และอดทนเข้ามา……
เขาคิดว่าในเมื่อนั่นไม่ใช่ของขวัญวันเกิดเขา แต่ก็เป็นของของเขา ยังไงก็คิดไม่ถึง ว่าเธอจะมองนาฬิกาให้ยินจื่อเจิ้น?สถานะทางการเงินของยินเสี้ยวเสี้ยว เขาเข้าใจดีกว่าใคร นาฬิกาเรือนนี้น่าจะเป็นทรัพย์สมบัติทั้งบ้านถึงจะซื้อมาได้ แต่ดันไม่ใช่ของเขา ……
เป็นครั้งแรก เพราะว่าที่จริงจิ๋นลี่ยวนดูแล้วเป็นนาฬิกาที่ไม่ได้ระดับสูงมากนักจึงโกรธ
“จิ๋นลี่ยวน!”ในเสียงของยินจื่อเจิ้นมีความไม่พอใจเล็กน้อย ดีที่เสี้ยวเสี้ยวไม่ได้รับบาดเจ็บ ถ้าเธอบาดเจ็บเขาไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆแน่“ถ้าคุณจะบ้าก็ควรดูสถานการณ์ให้ชัดเจนหน่อย”
ในที่ที่มียินเสี้ยวเสี้ยว เธอก็ควรอยู่ในอันดับหนึ่ง
จิ๋นลี่ยวนกลับเหมือนไม่ได้ยินประโยคนี้ ได้แต่หันไปมองยินเสี้ยวเสี้ยว เลิกคิ้วตัวเองอย่างอันตราย ถามเบาๆ:“ยินเสี้ยวเสี้ยว นาฬิกาเรือนนี้หมายความว่าไง?”
คนรอบๆต่างมองมาทางนี้เงียบๆที่จู่ๆก็เปลี่ยนไป
นาฬิกาเรือนหนึ่ง ทำให้คุณชายสามบ้านจิ๋นโกรธ?หรือว่าคุณนายน้อยสามใช้เงินของจิ๋นลี่ยวน?
ก็แค่เงินค่านาฬิกาเท่านั้น ไม่ขนาดนั้นหรอก……
ยินเสี้ยวเสี้ยวตะลึง ตอนที่สบตากับสายตาจิ๋นลี่ยวน ทันใดนั้นก็ตกใจ จิ๋นลี่ยวนอาจจะรู้เรื่องนาฬิกาเรือนนี้มาเมื่อก่อนแล้ว แต่ไม่พูดอะไรมาตลอด และตอนนี้ ดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรผิด
“เมื่อไหร่กัน ที่น้องสาวผมจะให้แม้แต่นาฬิกาผมไม่ได้?”ยินจื่อเจิ้นไม่พอใจเล็กน้อย เขาไม่ชอบใครก็ตามที่ทำท่าทีสูงส่งพูดกับยินเสี้ยวเสี้ยว“จิ๋นลี่ยวน ยินเสี้ยวเสี้ยวแต่งไปเป็นภรรยาคุณ ไม่ใช่ไปเป็นถังขยะของคุณ ……”
ประโยคเดียว คนทั้งงานก็เงียบลง