Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - บทที่176 ชายผู้ที่สวมหน้ากากไว้
บทที่176 ชายผู้ที่สวมหน้ากากไว้
“พวกคุณถูกล้อมไว้หมดแล้ว! รีบวางอาวุธซะ! แล้วปล่อยตัวประกันออกมา!”เสียงตำรวจตะโกนดังขึ้น ตำรวจที่ล้อมรอบอยู่ก็ค่อยๆขยับเข้าไปทำให้วงล้อมแคบลง “แค่พวกคุณยอมจำนน ทางเราก็จะไม่ยิง”
ยินเสี้ยวเสี้ยวกับเฉินหยูแทบหายใจไม่ทั่วท้อง ตอนที่ตำรวจยศน้อยที่อยู่ด้านนอกเห็นพวกเขาก็เบิกตากว้าง ทว่า เพื่อความปลอดภัยของพวกเขา ตำรวจเหล่านั้นจึงแสร้งทำเป็นไม่เห็น ทำเพียงเหลือบไปมองสถานที่นั้นเป็นครั้งคราว การกระทำเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ไม่ค่อยมีใครสนใจหรือใส่ใจหรอก
“แม่งเอ๊ย วันนี้แม่งซวยชิบหาย! ถ้ารู้อย่างนี้กูไม่ออกมาแล้ว”อาชญากรคนหนึ่งพูดขึ้น แถมยังคายเสลดออกมา เขาคายเสลดลงไปยังพื้นที่ข้างๆยินเสี้ยวเสี้ยว ทันใดนั้น
ยินเสี้ยวเสี้ยวกับเฉินหยูตกใจจนหัวใจแทบวาย เมื่อทั้งสองหันหลังไปมองก็พบว่ามีเด็กคนหนึ่งกำลังซ่อนอยู่หลังพุ่มดอกไม้ เด็กคนนั้นกำลังตัวสั่น และไม่กล้าแม้แต่ร้องไห้ออกมา “ถ้ากูจับผู้หญิงคนนั้นได้ กูจะถกหนังมันออกมาแน่!”
เฉินหยูยื่นมือออกไปจับมือของยินเสี้ยวเสี้ยวแน่น แม้เขาจะทะเลาะวิวาทบ่อย แต่เขาก็ไม่เคยเจอแบบนี้ ปืนจริงมีดจริง นี่มันถึงขั้นเอาชีวิตเลย ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงไม่ใส่ใจอะไร ทว่า ตั้งแต่รู้จักกับยินเสี้ยวเสี้ยวเขาก็ไม่เต็มใจ ไม่เต็มใจที่จะตายไปง่ายๆแบบนี้………
อาชญากรสองคน มีตัวประกันในมือแค่คนเดียว คุณปู่ที่อายุมากกว่าห้าสิบปี หลังจากถูกลากวิ่งมาสักพัก สีหน้าของเขาก็ดูผิดปกติราวกับว่าไม่ไหวแล้ว
“พี่เสือ พี่จะจับตัวประกันก็ควรจับคนที่ดีๆหน่อยสิ จับคนที่จะเข้าโลงอยู่แล้วมาแบบนี้ พวกเราจะรอดออกไปได้เหรอ?”อาชญากรอีกคนทนไม่ไหวจึงพูดขึ้นมา มองดูท่าทางของตำรวจที่ไม่กล้าลงมือแล้ว จึงไปนั่งที่ข้างๆพุ่มดอกไม้ “ณ ตอนนี้ ที่นี่ไม่มีตัวประกันให้เราจับนิ?”
ถ้ารอไม่ถึงตอนที่พวกพ้องมาช่วย พวกเขาก็คงเสียเปรียบอย่างมาก?
คำนี้เขาไม่กล้าพูด ถ้าถึงเวลานั้น ทำให้พวกพ้องติดคุกคงไม่ดี…….
“แม่งเอ๊ย นายคิดว่าฉันเต็มใจเหรอ? ตอนนั้นก็มีแค่ไอ้แก่คนนี้อยู่ตรงหน้าฉัน เข้าใจไหม?”พี่เสือหงุดหงิดเล็กน้อย ท่าทางห้าวหาญและคำพูดตรงไปตรงมา ทว่า เขานั้นก็คอยระมัดระวังการเคลื่อนไหวของตำรวจตรงหน้าอยู่ตลอดเวลา “เจ้าชวด นายระวังตัวหน่อย อย่าชะล่าใจ……”
ปึก!
พูดยังไม่ทันขาดคำ ปืนในมือของเจ้าชวดก็ตกลง…….
ตกลงไปยังตรงหน้าของยินเสี้ยวเสี้ยวพอดี…….
ทันใดนั้น ยินเสี้ยวเสี้ยวกับเฉินหยูก็ตกตะลึง แม้แต่ตำรวจที่คอยสังเกตพวกเขาก็ตกตะลึงไปด้วย………
นี่คือฟ้ากำลังจะฆ่าพวกเขาใช่ไหม
เจ้าชวด กระโดดลงมาจากพุ่มดอกไม้ด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย เขาไม่ได้เอาตำรวจมาอยู่ในสายตาหรือใส่ใจอยู่แล้ว เขาปัดฝุ่นบนตัวออกแล้วเตรียมตัวที่จะอ้อมไปเก็บปืน มองดูระยะห่างของพวกเขากับเจ้าชวดยิ่งอยู่ยิ่งใกล้…….
ทันใดนั้นเฉินหยูก็ยื่นมือออกไปดึงยินเสี้ยวเสี้ยวเข้ามาในอ้อมกอดไว้ แล้วพูดขึ้นเบาๆที่ข้างหูเธอว่า “พี่สาวครับ ถ้าเป็นไปได้ก็เลิกกับคุณหมอจิ๋นได้ไหมครับ ผมไม่ชอบเขา…….”
พูดจบ เฉินหยูมองดูรอยยิ้มที่สดใสของยินเสี้ยวเสี้ยว จากนั้นก็ไปหยิบปืนที่ตกอยู่บนพื้นแล้วออกไปปรากฏตรงหน้าของพี่เสือและเจ้าชวด ทุกคนนั้นกลั้นหายใจไปชั่วขณะ
พี่เสือและเจ้าชวดตั้งสมาธิ สองตามองไปยังหนุ่มวัยรุ่นที่มาปรากฏตรงหน้ากะทันหันอย่างระแวดระวัง
ในมือถือปืนไว้ เฉินหยูพยายามที่จะไม่ให้ตัวเองสั่น ทว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจับของแบบนี้ และเผชิญหน้ากับคนที่เคยฆ่าคนแบบนี้ เขาไม่อยากจะตื่นเต้นแต่ก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
“พวกแก….พวกแก….พวกแกรีบปล่อยคุณปู่คนนั้นซะ……”เฉินหยูพูดขึ้นด้วยเสียงที่สั่น สายตาของเขาไม่ได้มองไปยังที่ๆยินเสี้ยวเสี้ยวหลบอยู่ข้างๆ ใช้เพียงแค่การกระทำของตัวเองเพื่อยืนยันว่าหลังพุ่มดอกไม้นั้นมีแค่เขาคนเดียว “พวกแกถูกล้อมไว้หมดแล้ว หนีไม่รอดหรอก………”
พี่เสือและเจ้าชวด นั้นเคยผ่านผู้คนมามากมาย ดูก็รู้ว่าเฉินหยูนั้นแสร้งทำเป็นกล้าหาญ จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“ ไอ้เด็ก แกจะข่มขู่พวกฉันสองคน มือก็ไม่ต้องสั่นสิ?”เจ้าชวด พูดขึ้นด้วยความสนใจ แม้ว่าในมือจะไม่มีปืน แต่ก็ยังทำเหมือนไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ท่าทางนั้นหยิ่งผยอง “มา ยิงปืนให้พี่ดูหน่อย พี่จะดูว่าแกจะมีความกล้านั้นไหม ถ้ามีก็จะให้แกติดตามเราไป………”
สีหน้าของเฉินหยูทั้งแดงทั้งซีด โดยเฉพาะตอนที่เห็นเจ้าชวดเข้าใกล้หลังพุ่มดอกไม้ที่เธอซ่อนอยู่ เขาเหลือบไปมองเธอโดยไม่รู้ตัว การกระทำนั้นอยู่ในสายตาของพี่เสือ เขาจึงขยิบตาเล็กน้อย เจ้าชวดจึงก้าวเท้าเพื่อที่จะเดินเข้าไป
“ผมแนะนำให้พูดคุณรีบจำนนโดยเร็วๆดีกว่า! ไม่ต้องหาทางต่อต้านแล้ว! พวกคุณถูกล้อมไว้หมดแล้ว! ยังไงก็หนีไม่รอดหรอก!” ตำรวจรีบพูดขึ้น เหมือนกำลังดึงดูดความสนใจของพวกเขา ทว่าพี่เสือและเจ้าชวดยิ่งแปลกใจมากขึ้น สองขามุ่งตรงไปยังทางนั้น “ถ้าพวกคุณยังคงหยิ่งผยองและไม่ยอมจำนน เราคงต้องยิงแล้ว!”
ไม่ได้ผล ตำรวจพูดกดดัน ทว่า พวกเขามีตัวประกันอยู่ในมือ การกดดันแบบนี้จึงไม่เป็นผล!
มองดูเจ้าชวดจะเดินไปทางนั้นแล้ว เธอตื่นเต้นและกังวลจนเหงื่อไหลท่วมตัว การออกไปเผชิญหน้ากับพวกเขาของเฉินหยูนั้นทำให้เธอโล่งใจและปลอดภัยได้ชั่วคราว แต่ว่าเรื่องในวันนี้ถ้าไม่จัดการให้หมด เธอก็ถือว่ายังไม่ปลอดภัย!
เจ้าชวด ยิ่งอยู่ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ๆ ยิ่งอยู่ยิ่งใกล้ ยินเสี้ยวเสี้ยว เกือบยอมรับชะตากรรมของตัวเองให้พวกเขาจับตัวเธอไปเป็นตัวประกัน……..
ปั้ง!
เสียงปืนดังขึ้น ลูกกระสุนถูกยิงออกไปที่ข้างๆพุ่มดอกไม้ที่ยินเสี้ยวเสี้ยวซ่อนตัวอยู่ จนทำให้เกิดรอยกระสุน
เสียงนี้หยุดฝีเท้าของเจ้าชวดได้สำเร็จ เขาหันมามองด้วยสีหน้าที่โกรธและคิดที่จะเข้าใกล้เฉินหยู ผลของการยิงในครั้งนี้ทำให้ไหล่ของเฉินหยูได้รับบาดเจ็บ ในเวลานี้มือของเขานั้นยังคงชา อยากจะยิงปืนนัดที่สองก็ยิงไม่ได้!
“ ไอ้เด็กนี่รนหาที่ตายจริงๆ!”เขาพูดขึ้นเสียงดัง เจ้าชวดมุ่งหน้าตรงไปหาเฉินหยู
“เจ้าชวด!” เรียกขึ้นเสียงเบา ฝีเท้าของเจ้าชวดก็หยุดชะงัก วินาทีต่อมา ปืนในมือของพี่เสือที่จ่อไปยังตัวประกันในตอนแรก ก็หันไปทางเฉินหยูอย่างรวดเร็ว แล้วยิงไปที่ขาของเขา
ปั้ง!
เสียงที่มาพร้อมกับเสียงปืนก็คือเสียงร้องของ เฉินหยู ปืนที่อยู่ในมือร่วงลงบนพื้น ตอนนี้ตำรวจที่อยู่ข้างหลังถึงจะมีโอกาสเข้าไปใกล้ แต่ไม่ทันจับตัวผู้ร้าย โอกาสดีๆแบบนี้ก็ถูกหยุดโดยลูกปืนของพี่เสือ
“อย่าทำเหมือนกูเป็นโจรชั้นต่ำที่ไม่มีประสบการณ์ กูกล้าพูดเลยว่า ในนี้ไม่มีใครสามารถจับตัวกูได้หรอก!”พี่เสือพูดขึ้นอย่างหยิ่งผยอง เขาโยนปืนในมือให้เจ้าชวด จากนั้นก็หยิบอีกกระบอกออกมาจากเอวแล้วจ่อไปยังตัวประกัน
เฉินหยูร่วงลงไปบนพื้นทันที ยินเสี้ยวเสี้ยวมองดูท่าทางที่เจ็บปวดของเขา และเลือดที่ไหลออกมากองเต็มพื้น แต่เธอก็ทำได้เพียงเอามือปิดปากตัวเองไว้ ไม่กล้าร้องมีเสียงออกมา!
เธอไม่ใช่คนไร้เหตุผล ทว่า เวลานี้ถ้าเธอออกไปก็จะมีแต่เพิ่มปัญหา เด็กน้อยที่หลบซ่อนอยู่ข้างๆยังรู้เหตุผล แล้วเธอจะไม่รู้ได้อย่างไร?
เหล่าตำรวจรู้สึกหดหู่อย่างมากจากคำพูดของพี่เสือ พวกเขาขมวดคิ้วแน่น
“พวกคุณอย่าได้ใจไปหน่อยเลย ทั้งๆที่ถูกล้อมไว้หมดแล้วยังกล้าพูดอย่างหยิ่งผยองอีก!”ตำรวจพูดขึ้นเสียงดัง ราวกับว่าโกรธกับคำพูดแบบนี้ “วันนี้ พวกคุณอย่าแม้แต่คิดจะหนีรอดไปได้สักคน………”
ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง!
พูดยังไม่ทันจบ ตำรวจที่ล้อมรอบอยู่ก็ถูกรถคันหนึ่งขับพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง จนทำให้วงแตก คนที่นั่งข้างคนขับรถสาดกระสุนใส่ตำรวจจนตำรวจหลายนายล้มลงและเลือดสดไหลออกมากองเต็มพื้น…….
ดวงตาเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว ยินเสี้ยวเสี้ยวกัดริมฝีปากของตัวเองแน่นไม่ให้มีเสียงมา
คนที่นั่งข้างคนขับนั้น ก็คือหนึ่งในผู้ที่ไล่ตามฆ่าพวกเขาในวันนั้น!
แก๊งค้าอวัยวะ!
เมื่อพี่เสือและเจ้าชวดเห็นว่าพวกพ้องของตัวเองมาแล้ว ก็ดีใจขึ้นมาทันที พวกเขาจับตัวประกันแน่นแล้วหาที่หลบซ่อน จากนั้นก็ซุ่มยิงใส่ตำรวจ พวกเขานั้นไม่มีความกังวลใดๆ ก็เลยทำตัวถือไพ่เหนือกว่ามาตั้งแต่แรก
ยินเสี้ยวเสี้ยวมองดูการต่อสู้ตรงหน้าด้วยตัวที่สั่น สองตาเปิดค้างราวกับว่ากะพริบตาไม่เป็น
ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง!
เสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้สึกราวกับว่าโลกของเธอนั้นไม่มีเสียงอะไรนอกจากเสียงปืนอีกแล้ว
ทันใดนั้น รถอีกคันก็ขับเข้ามาในสนามรบและร่วมสู้ด้วย แต่ล้วนเป็นฝ่ายของศัตรู เมื่อรถหยุดจอด มีผู้ชายลงมาจากรถและเดินมาด้วยท่าทีที่หยิ่งผยอง เมื่อตำรวจมองเห็นก็ยิงใส่เขา เขาก็จึงรีบหลบทันทีด้วยท่าทีที่คล่องแคล่ว ในตอนที่นั่งลง สายตาของเขาก็สบกับสายตาของยินเสี้ยวเสี้ยวพอดี…….
ทันใดนั้น ยินเสี้ยวเสี้ยวก็รู้สึกราวกับว่าเลือดในร่างกายของเธอเกิดการแข็งตัว!
ผู้มาใหม่สวมหน้ากากไว้ นอกจากท่าทางที่หยิ่งผยองแล้ว ก็ไม่มีอะไรเหมือนพี่เสือกับเจ้าชวดที่ปล่อยให้ใบหน้าของตัวเองปรากฏต่อหน้าคนอื่น ไม่เพียงแต่เท่านี้ เขายังปิดบังใบหน้าของตัวเองไว้อย่างดี นอกจากดวงตาแล้วไม่เห็นอะไรอีกเลย
ในมือถือปืนไว้ ชายคนนั้นดวงตามองไปยังยินเสี้ยวเสี้ยวแต่มือนั้นก็กำลังเปลี่ยนกระสุนปืนอย่างชำนาญ จากนั้นก็ยิงไปยังตำรวจที่อยู่ห่างไม่ไกล…….
ยินเสี้ยวเสี้ยวนั่งลงกับพื้น แล้วมองดูเขาด้วยใบหน้าที่ซีดขาว และเธอนั้นสูญเสียความรู้สึกทั้งหมดไปแล้ว
จบแล้ว จบแล้ว………
คราวนี้เธอตายแน่ๆ………
ชายคนนั้นยื่นมือออกไปเพื่อดึงยินเสี้ยวเสี้ยว แขนข้างหนึ่งเคลื่อนผ่านคอของเธอ ยินเสี้ยวเสี้ยวจึงจับแขนของเขาแน่นอย่างช่วยไม่ได้ วินาทีต่อมา เธอก็รู้สึกมีบางอย่างอยู่บนหัวของตัวเอง มันร้อนเล็กน้อย……
ก็คือปืนที่เพิ่งผ่านการใช้งานมาในเมื่อสักครู่
ทันใดนั้น เสียงปืนทั้งหมดก็เงียบลง
ชายคนนั้นไม่พูดอะไรสักคำ เพียงแค่ส่งสายตา เจ้าชวดก็เดินไปยังที่ๆเด็กคนนั้นซ่อนตัวอยู่แล้วจับเด็กนั่นมาเป็นตัวประกัน เขาทั้งสาม มีตัวประกันสามคนและกล้าเผชิญหน้ากับตำรวจด้วยท่าทีที่หยิ่งผยอง ซึ่งตำรวจเหล่านั้นก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
คราวนี้พี่เสือและเจ้าชวดยังคงเงียบสนิท สิ่งที่เผยออกมาให้เห็นในสายตาก็คือการระมัดระวังตัวและพร้อมฆ่าคนทุกเมื่อ
มองดูคนสามคนขึ้นรถไป เหล่าตำรวจเพียงรู้สึกถึงเหงื่อเย็นที่ไหลอยู่บนศีรษะของตัวเอง
คุณหญิงซานช่าวแห่งตระกูลจิ๋น แล้วก็หลานชายของตระกูลหลินเมืองT……….
บุคคลสองคนนี้ เป็นตัวกำหนดให้พวกเขาปล่อยตัวพวกนั้นไป!
หลังจากที่ขึ้นไปในรถ พี่เสือก็ปล่อยตัวคนแก่ในมืออย่างไม่ลังเล ในรถคันดังกล่าวยังมีเจ้าชวดและหลานชายตระกูลหลินอีกด้วย ส่วนชายคนนั้นก็พายินเสี้ยวเสี้ยวขึ้นรถของตัวเองแล้วขับตามออกไป
จู่ๆตำรวจที่อยู่ด้านหลังก็รู้สึกเหมือนเป็นบ้า!
หลานชายตระกูลหลินหลินยีเย่า สะใภ้สามบ้านจิ๋นยินเสี้ยวเสี้ยว!
พวกเขาจะถูกตระกูลหลินและบ้านจิ๋นเล่นงานไหม?
เหล่าตำรวจขับรถไล่ตามไปรวดเร็วอย่างไม่ลังเล!
ขณะเดียวกัน เรื่องนี้ก็ไปถึงหูของบ้านจิ๋นและตระกูลหลินอย่างรวดเร็ว!
……
ขับรถเร็วราวกับกำลังบิน หลายครั้งที่ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้สึกว่าตัวเองเหมือนจะถูกเหวี่ยงออกไปจากรถ ผู้ชายที่อยู่ข้างๆก็จับตัวเธอไว้ จากนั้นก็ขับรถต่อไปราวกับกำลังขับจานบินอยู่
เธอจ้องมองไปยังผู้ชายข้างๆ ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้สึกเพียงว่าในหัวของตัวเองนั้งขาวโพลนและโล่งไปหมด