Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - บทที่178 คุณชายบ้านหลิน
บทที่178 คุณชายบ้านหลิน
เสียงเบรกที่แสบแก้วหูหยุดลง ยินเสี้ยวเสี้ยวลืมตาทนมองแสงไฟหน้ารถที่แสบตา ในโลกที่เต็มไปด้วยฝุ่น ระยะห่างระหว่างขาของเธอกับรถจี๊ปนั้นห่างแค่ห้าสิบเซนติเมตรเท่านั้น……
“อยากตายรึไง ถึงอยากจะปล้นก็ไม่ควรทำแบบนี้”เจ้าของรถจี๊ปโกรธจนเอาหัวออกมานอกรถแล้วพูดตะโกนอย่างโมโหกับยินเสี้ยวเสี้ยว “อยากตายก็ไปตายไกลๆหน่อย อย่ามายุ่งกับฉัน”
ใจที่แขวนอยู่สูงแล้วตกลงมาอย่างโหดร้าย ยินเสี้ยวเสี้ยวยังไม่ทันได้หายใจก็ได้ยินเสียงของเจ้าของรถตะโกนด่าอย่างโมโห
แววตาดำขาวที่แบ่งอย่างชัดเจนมองไป ยินเสี้ยวเสี้ยวมองเห็นผู้ชายที่อยู่กลางความย้อนแสงนั้นตะโกนด่าพวกผู้ชายพวกนั้นอยู่
แบกหลินยีเย่าแล้วรีบวิ่งไป ใช้มือนึงจับรถเอาไว้ราวกับว่าถ้าไม่ทำอย่างงี้ อีกวินาทีเดียวรถคันนี้ก็จะจากไปแล้วยังไงอย่างงั้น ตอนนี้ถึงแม้ว่าจะโดนด่า แต่ในใจของยินเสี้ยวเสี้ยวก็ยังมีความดีใจอยู่นิดนึง
“ขอโทษด้วยค่ะๆ ฉันไม่ได้จะมาปล้นแล้วก็ไม่ได้ตั้งใจจะรนหาที่ตาย ขอโทษด้วยนะคะ คุณสามารถพาเราไปด้วยได้ไหมคะ น้องชายของฉันไม่สบาย ตอนนี้เราต้องเข้าไปในเมือง……” ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดอย่างรัวๆ กลัวว่าเขาจะไม่เชื่อ ยังค่อยๆเผยให้เห็นหลินยีเย่าที่ไข้ขึ้นสูงจนหน้าแดงให้เห็น “ขอร้องนะคะคุณ เด็กไข้ขึ้นสูงแล้ว ถ้าไม่ไปโรงพยาบาลต้องเกิดเรื่องแน่ๆ……”
เจ้าของรถจี๊ปมองยินเสี้ยวเสี้ยวและหลินยีเย่าด้วยความสงสัย ผ่านไปนานถึงได้ถามคำนึงว่า “ท่าทางพวกคุณดูเหมือนไม่ใช่คนที่นี่ ทำไมถึงมาที่นี่ล่ะ”
ยินเสี้ยวเสี้ยวได้ยินเสียงที่อ่อนโยนของอีกฝ่ายแล้ว ในใจรู้สึกตื่นเต้นขึ้นเล็กน้อย รีบตอบทันที “พวกเราขึ้นรถดำมา โดนคนขับรถทิ้งลงกลางทาง พอหลงทางเลยมาอยู่ที่นี่ ขอโทษด้วยนะคะ พวกคุณสามารถพาเราไปด้วยได้ไหมคะ”
หลินยีเย่าที่อยู่ข้างหลังตัวร้อนขึ้นเรื่อยๆ เธอรีบร้อนมากจริงๆ ถึงยังไงเขาก็ไม่กล้าขึ้นรถผู้ชายคนอื่นตอนกลางคืนไปมั่ว ยิ่งเป็นที่แบบนี้ด้วย
ชายหนุ่มพิจารณายินเสี้ยวเสี้ยวและหลินยีเย่าสักพัก ในที่สุดก็ให้พวกเขาขึ้นรถอย่างไม่เต็มใจ
“ผมว่าพวกคุณคือคนเมืองTใช่ไหม หลงทางแล้วทำไมถึงยิ่งเดินไกลล่ะ”ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะมองดูยินเสี้ยวเสี้ยวที่ดูแลหลินยีเย่าอย่างใกล้ชิดผ่านกระจกมองหลังแล้วพูดว่า “พวกคุณบอกว่าพวกคุณหลงทางข้างหน้า แต่ทางที่พวกคุณเดินมันคนละทิศกับเมืองTเลยนะ……”
ฟะงคำนี้แล้ว ยินเสี้ยวเสี้ยวตบๆไปที่อกของตัวเอง ถึงว่าทำไมนานขนาดนั้นถึงยังไม่เจอใครสักคน ถนนนี้เป็นถนนที่เชื่อมระหว่างเมืองTกับเมืองข้างๆที่กำลังวางแผนใช้เป็นถนนสาธารณะอยู่ แต่แค่ยังไม่ได้เริ่มงาน คนที่อยู่รอบๆก็โดนไล่ที่หมดแล้ว……
พอชายหนุ่มเห็นท่าทางของยินเสี้ยวเสี้ยว ก็รู้ว่าเธอเป็นคนที่ไม่รู้ทิศทาง อดไม่ได้ที่จะส่ายหัว
“บนรถของคุณมีน้ำไหมคะ ถ้ามีแอลกอฮอล์ล่ะก็จะยิ่งดีมาก……” ยินเสี้ยวเสี้ยวมองหลินยีเย่าอย่างกังวล เขาเกือบจะโดนไข้เผาจนหมดสติแล้ว ถ้าไข้ไม่ลดต้องเกิดเรื่องแน่
ชายหนุ่มดูหลินยีเย่าที่นอนอยู่เบาะหลังแล้ว ก็ยื่นมือหยิบน้ำออกมาจากกล่องเก็บของขวดนึงแล้วก็เหล้าจีนขวดนึงโยนให้ยินเสี้ยวเสี้ยว “มีแค่นี้ แล้วก็ฉผมชื่ออวงเยียนซื่อ”
“ขอบคุณนะ คุณอวงเยียนซื่อ” ยินเสี้ยวเสี้ยวใช้น้ำและเหล้าจัดการกับสถานการณ์ของหลินยีเย่าอย่างระมัดระวัง หลังจากที่ให้เขาดื่มน้ำสักเล็กน้อยแล้ว ยินเสี้ยวเสี้ยว อยากจะหาผ้า แต่ผ้าที่หนานั้นคงใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่ แล้วตาก็เหลือบไปเห็นกระโปรงของตัวเองที่โดนเกี่ยวขาด ยื่นมือไปดึงส่วนนั้นออกมา แล้วยินเสี้ยวเสี้ยวก็เอาเหล้าจีนเทลงบนผ้า แล้วก็ค่อยๆเช็ดไปที่ตัวของหลินยีเย่าทีละนิดๆ
เช็ดหน้าเสร็จแล้ว ยินเสี้ยวเสี้ยวก็เริ่มเช็กตัวของเขา ร่างเล็กๆที่ตัวร้อนมากจนไม่ไหวนั้นแต่เขากลับหนาวจนตัวสั่น เช็ดส่วนบนเสร็จแล้ว ยินเสี้ยวเสี้ยวอยากจะใส่เสื้อให้เขา แต่เสื้อนั้นเปียกเหงื่อหมดแล้ว ตอนนี้ถ้าลมพัดมาก็เห็นได้ชัดว่าหนาวมากๆ แล้วจู่ๆก็มีเสื้อกันหนาวของผู้ชายถูกโยนมา……
“ห่มเขาไว้เถอะ เสื้อของผมเยอะพอที่จะทำเป็นถุงนอนของเขาแล้ว” อวงเยียนซื่อมองดูยินเสี้ยวเสี้ยวที่ดูท่าทางเร่งรีบแล้วก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “คุณดูแลน้องชายดีมาก”
ยินเสี้ยวเสี้ยวรับเสื้อมาห่มให้หลินยีเย่า เช็ดตัวให้เขาไปด้วยแล้วก็พูดไปด้วยว่า “อื้ม เขาเชื่อฟังมาก”
ไม่ง่ายเลยกว่าจะรอเธอเช็ดตัวของหลินยีเย่าเสร็จ เธอนั่งบนที่นั่ง แล้วก็เอาหัวของหลินยีเย่าวางไว้ที่ตักของจัวเองแล้วก็นอน เมื่อกี้ที่คุกเข่าอยู่ระหว่างที่นั่งนั้น ทำเอาขาของเธอนั้นชาไปหมด
“พวกคุณนั่งรถจะไปไหนกันหรอ ทำไมถึงโดนทิ้งลงที่นี่ล่ะ” สำหรับเรื่องนี้ อวงเยียนซื่อสงสัยเป็นพิเศษ ในแววตาก็ยังมีการสำรวจอยู่
“ฉันทะเลาะกับสามีของฉัน แล้วก็จะพาน้องชายไปหายาย แต่ซื้อตั๋วไม่ได้ เลยขึ้นรถดำมา แต่สรุปรถคันนั้นจะเพิ่มราคา ฉันเลยเถียงไปนิดหน่อย แล้วเขาก็ทิ้งเราลง……” ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดบอกเสียงเบา คำพูดพวกนี้นั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตที่เธอต้องเจอในช่วงนี้ “คุณล่ะทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่”
อวงเยียนซื่อยกมุมปากขึ้นยิ้ม ยื่นมือไปตบที่พวงมาลัย “ผม ผมก็เป็นนักท่องเที่ยวคนนึง ส่วนมากก็อยู่บนท้องถนนเพราะฉะนั้นการได้เจอกันที่นี่ ผมว่ามันคือโชคชะตาอย่างนึง……”
ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่พูดไม่จา แต่ไม่พูดไม่ได้ว่าเธอนั้นขอบคุณเขามากจริงๆ การที่จะได้รับความช่วยเหลือในตอนนั้นมันไม่ง่ายเลย ก็เหมือนที่คนบอกกันว่า คนที่รักการท่องเที่ยวนั้นส่วนใหญ่จะเป็นคนดี……
ในตอนที่รถกำลังเข้าสู่เขตเมืองTนั้น ยินเสี้ยวเสี้ยวก็มองเห็นเรนจ์โรฟเวอร์ที่คุ้นตาจอดอยู่ตรงนั้น แล้วก็รถรถเล็กซัสอีกคันนึงด้วย คนไม่น้อยยืนอยู่คนนั้นแล้วมองดูพวกเขา
รถจี๊ปจอดอยู่ตรงหน้าพวกเขา ยินเสี้ยวเสี้ยวยังไม่ทันได้ลงจากรถ จิ๋นลี่ยวนและจูเชี่ยนแม่ของหลินยีเย่าก็เดินมา พออวงเยียนซื่อลงจากรถแล้วเหตุคนกลุ่มนึงแล้วก็รู้สึกตกใจ คุณท่านบ้านหลินเดินมากล่าวขอบคุณ แต่สายตานั้นมองไปที่หลานชายคนโตที่อยู่ข้างหลังตลอดเวลา อวงเยียนซื่อก็รู้ว่าพวกเขานั้นกังวล รีบพูดไม่กี่คำก็บอกให้คนไปแล้ว
“ยีเย่า ยีเย่าตื่นเร็ว เราถึงบ้านแล้ว……” ยินเสี้ยวเสี้ยวเรียกเบาๆ แต่ไม่ว่ายังไงหลินยีเย่าก็ยังไม่ลืมตาขึ้น เพียงแต่เอาหัวซุกเข้าไปที่ท้องน้อยของเธอ มือเล็กๆจับเสื้อของเธอไว้แน่น “ยีเย่า……”ตอนที่ จูเชี่ยนเดินมาเห็นหลินยีเย่านั้น ถึงแม้ว่ายินเสี้ยวเสี้ยวจะโทรมาบอกเหตุการณ์คร่าวๆแล้ว แต่ในสายตาเธอนั้นก็ยังรู้สึกตกใจอยู่ดี
บ้านหลินที่ใหญ่โต หลานชายคนโตคนเดียวของบ้าน เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่
ด้วยความที่ทนไม่ไหว น้ำตาของจูเชี่ยนก็ไหลอาบน้ำลงมา “ยีเย่า ยีเย่า แม่อยู่นี่……”
แต่ไม่ว่าจูเชี่ยนจะพูดยังไง หลินยีเย่าก็เกาะยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ยอมปล่อยมือ
ขมวดคิ้ว จิ๋นลี่ยวนมองดูเด็กน้อยที่เอาหุวซบไปที่อกของภรรยาตัวเองแล้วก็รู้สึกไม่พอใจ
ในตอนที่คุณท่านบ้านหงินเดินมาเห็นสถานการณ์นี้นั้นก็รู้สึกไม่พอใจ ที่ยิ่งกว่านั้นคือมองดูหน้าตาน่าเกลียดของจิ๋นลี่ยวนแล้วก็ยิ่งไม่พอใจ แล้วก็พูดว่า “อุ้มเขาลงมาให้ฉัน!”
ดูเหมือนว่าจะเป็นการบังคับ
ยินเสี้ยวเสี้ยวขมวดคิ้วแน่นสักพัก แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร
จริงแล้วหลินยีเย่าเป็นคนบ้านหลิน ตอนนี้นั้นเธอจะใช้อารมณ์ของตัวเองไม่ได้
หลินจื้อพ่อของหลินยีเย่าเดินมายื่นมือมาอยากจะรับหลินยีเย่า ในตอนที่ลากแล้วขยับอยู่นั้น ในที่สุดหลินยีเย่าก็ตื่น
“ยีเย่า คนดี เราถึงบ้านแล้วนะ พ่อกับแม่ของหนูมารับแล้ว……”มองดูหลินยีเย่าลืมตาขึ้นแล้ว ยินเสี้ยวเสี้ยวดีใจเป็นพิเศษ แต่ต่อมาหลินยีเย่ากลับขมวดคิ้ว ปากบึ้งแล้วแขนขาก็เกาะไปที่ขาของยินเสี้ยวเสี้ยว นั่งอยู่บนตัวของเธอแล้วโอบไปที่คอของเธอ หัวที่ไม่มีแรงซบอยู่บนไหล่ของเธอ ท่าทางแบบนั้นดูออกได้ว่าไม่อยากกลับไปกับคนที่บ้าน “หลินยีเย่า กลับบ้านได้แล้ว……”
การกระตุ้นครั้งนี้ ทำเอาทุกคนต่างพากันอึ้ง
คุณชายหลินคนนี้ ไปสนิทกับยินเสี้ยวเสี้ยวตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
จิ๋นลี่ยวนยื่นมือออกมาพยุงยินเสี้ยวเสี้ยวแล้วจะพาเธอลงไปด้วย เห็นขาที่เปลือยอยู่ของเธอนั้นเต็มไปด้วยฝุ่นแล้วก็มีแผลอยู่ด้วย สีหน้าเริ่มไม่ดี อุ้มหลินยีเย่าด้วยหน้าตาเคร่งขรึม ยินเสี้ยวเสี้ยวเตรียมที่จะหลบอยู่ข้างหลัง
“เอ่อ……” ประหม่าเล็กน้อย ยินเสี้ยวเสี้ยวอุ้มหลินยีเย่ายืนอยู่บนรถจี้ป ยิ้มแล้วพูดว่า “เขายังไม่หลุดออกจากอารมณ์เมื่อกี้น่ะครับ ยังรู้สึกกลัวนิดหน่อย……”
คนของบ้านหลินก็รีบรนทันที หลินจื้อและจูเชี่ยนมองดูคุณท่านหลินด้วยหน้าตาที่น่าสงสาร ทันใดนั้นคุณท่านหลินก็ยอม ไม่บังคับต่อ แล้วก็บอกให้ไปโรงพยาบาลทันที
จิ๋นลี่ยวนยักคิ้วแล้วมองไปที่ยินเสี้ยวเสี้ยว แล้วพาเขาขึ้นเรนจ์โรเวอร์ รถคันนั้นแล่นผ่านรถเล็กซัส ทำเอาคุณท่านบ้านหลินโกรธจนกระแทกไม้เท้าที่อยู่ในมืออย่างรุนแรง
หลานของบ้านจิ๋นทำไมไม่มีมารยาทเอาซะเลยนะ
หลินจื้อและจูเชี่ยนรีบขับรถตามไป อวงเยียนซื่อได้รับคำตะโกนขอบคุณจาก ยินเสี้ยวเสี้ยวแล้วก็ได้ขับรถออกไปแล้ว สำหรับเขาในคืนนี้นั้นทั้งหมดเป็นโชคชะตาที่ได้พบเจอ แต่แค่ไม่รู้ว่าต่อไปจะมีโอกาสได้เจออีกรึเปล่า
จิ๋นลี่ยวนขับรถแต่ไม่ได้ขับไปทางโรงพยาบาลหนันหยู ตอนแรกยินเสี้ยวเสี้ยวคิดว่าเขาจะไปที่โรงพยาบาลอื่น แต่พอตอนที่รถจอดอยู่ข้างล่างตึกในเมืองไห่เมี่ยว ยินเสี้ยวเสี้ยวก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงเล็กน้อย
ที่นี่ มีโรงพยาบาลไหม
“จิ๋นลี่ยวน……”เรียกเสียงเบา ในตอนที่ยินเสี้ยวเสี้ยวอยากจะเตือนเขาอีกคำนึงนั้น จิ๋นลี่ยวนก็ลงจากรถแล้วไปเปิดประตูให้เธอแล้ว ยินเสี้ยวเสี้ยวนั่งอยู่กับที่ไม่ขยับ “เอ่อ เราไปโรงพยาบาลกันก่อนเถอะ……”
ไข้ของหลินยีเย่ายังสูงอยู่เลย อย่างเฉินหยูก็น่าจะยังอยู่ในโรงพยาบาล เธอนั้นไม่ได้บาดเจ็บอะไร แค่เหนื่อยล้าแค่นั้น ถ้าไปไม่แน่อาจจะได้เจอเขาด้วย
“ดึกมากแล้ว คุณควรพักผ่อนได้แล้ว” จิ๋นลี่ยวนพูดกับยินเสี้ยวเสี้ยวด้วยน้ำเสียงเย็นชา แล้วสายตาก็ตกไปที่หลินยีเย่าแล้วพูดว่า “เด็กคนนี้ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ในเมื่อเขาไม่ยอมกลับบ้าน บ้านของเรามีโซฟาให้เขานอน……”
แค่ประโยคเดียว ยินเสี้ยวเสี้ยวก็หน้าหมอง แล้วก็ดูออกถึงความโกรธของเขา
แต่ว่า เขากำลังโกรธเรื่องอะไรอยู่ล่ะ
ในทางเลือกสุดท้ายนั้น ยินเสี้ยวเสี้ยวทำได้แค่อุ้มหลินยีเย่าลงจากรถ ความเหนื่อยล้าเกินไปบวกกับความเครียดทางจิตใจแล้ว และจากที่ได้ผ่อนคลายไปสักพักในเมื่อกี้แล้วก็รู้สึกว่าแรงไม่พอ หลินยีเย่าก็หนักขึ้นเป็นพิเศษ ยินเสี้ยวเสี้ยวขมวดคิ้วแต่ไม่ได้พูดอะไร
เพิ่งลงจากรถได้ไม่นาน คนของบ้านหลินก็ตามมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล