Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - บทที่191 คำสั่งของคุณผู้หญิง
บทที่191 คำสั่งของคุณผู้หญิง
มองไปที่ยินเสี้ยวเสี้ยวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ผ่านไปครึ่งวันเฉิงฉิงก็ไม่เข้าใจว่ายินเสี้ยวเสี้ยวลงมือได้ยังไง เธอเอามือลูบใบหน้าของตัวเองแล้วพูดด้วยปากที่สั่นเทาว่า “นี่เธอ……เธอ……เธอกล้าตบฉันยังงั้นเหรอ? ”
ในคำพูดของเขาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ!
ยินเสี้ยวเสี้ยวคนนี้เนี่ย ก็ดูเป็นคนที่ไม่ได้น่ากลั่นแกล้งเท่าไหร่หรอก แต่ว่าก็ดูไม่เหมือนกับคนที่จะลงมือตบคนอื่น แต่ว่าตอนนี้เธอไม่ได้แค่ตบเธอเท่านั้น แต่ว่าเธอยังตบเธอต่อหน้าคนมากมาย!
ตั้งแต่เด็กเฉิงฉิงเคยได้รับความไม่เป็นธรรมแบบนี้ที่ไหนกัน หลังจากตั้งสติได้เธอก็โมโหทันที!
“ยินเสี้ยวเสี้ยว อีสารเลว! ” ระหว่างที่พูด เฉิงฉิงก็ขยับเข้าไปใกล้ยินเสี้ยวเสี้ยวอีกก้าวหนึ่ง แล้วก็ด่าต่อว่า “เธอกลัวคนอื่นพูดเรื่องพวกนั้นที่ตัวเองเคยทำยังงั้นเหรอ? ก่อนจะแต่งงานเข้าบ้านจิ๋นตัวเองก็ไม่ใช่คนที่สะอาดอะไร ตอนนี้กลายเป็นภรรยาของคนอื่นไปแล้วแต่วันๆ ยังเอาแต่อยู่กับผู้ชายคนอื่น เธอไม่ได้มีจิตสำนึกของการเป็นภรรยาบ้างเลยเหรอ? ตอนนี้พอฉันพูดหน่อยเธอกลับกล้าตบฉัน เธอคิดว่าฉันเฉิงฉิงจะกลัวยังงั้นเหรอ? ”
เพียะ!
ไม่ลังเลเลย วินาทีที่เฉิงฉิงพูดจบนั้น ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ตบเธอให้อีกฉากหนึ่ง ครั้งนี้เธอไม่ได้ให้โอกาสเธอแล้วก็สั่งให้คนของ ‘ฉือซานเย่’ ไปแจ้งตำรวจ
“ฉันยินเสี้ยวเสี้ยวตอนแรกที่ไปตรวจความบริสุทธิ์นั้นฉันก็บอกแล้วว่า ถ้าเกิดว่าตั้งแต่นั้นเป็นต้นไปใครเอาเรื่องนี้มาปั้นน้ำให้เป็นตัวอีก ฉันไม่มีวันปล่อยไปง่ายๆ แน่! เฉิงฉิง วันนี้เธอเป็นคนเหยียบฟางเส้นสุดท้ายของฉันเองก็ไม่อย่ามาหาว่าฉันไม่เตือน! แล้วอีกอย่าง ประโยคที่วันนี้เธอพูดกับฉันทุกประโยคฉันจะให้คนตัดสินเธอ ที่เธอใส่ร้ายป้ายสี สาดโคลนใส่ฉัน ฉันไม่มีวันปล่อยให้แล้วไปง่ายๆ หรอก! ” ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดอย่างเย็นชา เสียงไม่ได้ดังมากแต่ก็มีพลัง ตอนนั้นทำให้ผู้คนรอบๆ อ้าปากค้างอย่างอดไม่ได้ และเธอก็พูดต่อ “เฉิงฉิง ทางที่ดีเธอควรจำไว้ให้ดี ต่อให้ฉันยินเสี้ยวเสี้ยวจะเลิกกับจิ๋นลี่ยวนจริงๆ ฉันก็ไม่ใช่คนที่เธอจะมาฉีกหน้าได้! ถ้าเธอจะบอกสถานะของเธอมาพูด ถ้ายังงั้นฉันก็อยากจะดูหน่อยว่าสถานะของเธอมันสูงแค่ไหน! ไม่ว่าจะยังไงฉันก็คือคุณหนูใหญ่ตระกูลยิน แล้วเธอล่ะ? ”
เฉิงฉิงหน้าซีดทันที โดยเฉพาะตอนที่ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดเรื่องสถานะนั้น เธอก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น!
สถานะ!
นี่คือจุดอ่อนของเฉิงฉิง!
ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็ฯ ยังไง ตอนนี้ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ยังไม่ได้หย่ากับจิ๋นลี่ยวน แล้วอีกอย่างความสัมพันธ์ระหว่างเฉินผูลี่กับยินเสี้ยวเสี้ยวก็ไม่เลวเลย แน่นอนว่าต้องไม่ปล่อยให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเธอแน่นอน ตอนที่ยินเสี้ยวเสี้ยวแจ้งตำรวจนั้น รปภ.ของ‘ฉือซานเย่’ก็มาจับเฉิงฉิงไว้ ใบหน้าของเก๋อเฉิงเฟยมืดมนขึ้นกว่าเดิม ออกคำสั่งให้เฉิงฉิงกลายเป็นบุคคลขึ้นบัญชีดำของ‘ฉือซานเย่’!
หลังจากเฉิงฉิงถูกนำตัวออกไปแล้วนั้น คนรอบข้างก็ไม่กล้ามองดูเรื่อง ‘ตลก’ของยินเสี้ยวเสี้ยวอีกแล้ว ได้แต่เสแสร้งทำเป็นรีบร้อนแล้วก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว
ยังไงข่าวใหญ่แบบนี้ ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องมีวันหนึ่งที่จะได้เห็นบนหนังสือพิมพ์ไม่ก็นิตยสาร แล้วทำไมพวกเขาต้องทำให้คนอื่นขุ่นเคืองด้วยล่ะ?
พอเดินมาอยู่อีกด้านหนึ่งกับเก๋อเฉิงเฟยและเฉินผูลี่ ยินเสี้ยวเสี้ยวก็มองหน้าพวกเขาแล้วก็ถามออกไปทันที “บอกฉันมา ฉันต้องการแค่เหตุผลเดียวเท่านั้น! ”
ผู้ชายสูงใหญ่ทั้งสองคน ยืนหลบตาเม้มปากไม่พูดจาอยู่ต่อหน้าผู้หญิงตัวเล็กๆ อ่อนแอๆ อย่างยินเสี้ยวเสี้ยว เรื่องแบบนี้พวกเขาไม่กล้าพูดตามใจตัวเองหรอก
ยินเสี้ยวเสี้ยวมองพวกเขาอย่างท้อแม้ใจ เธอเริ่มใจเย็นลงจากการที่ถูกเฉิงฉิงขัดจังหวะเมื่อกี้นี้ และก็รู้ว่าเรื่องที่พวกเขาทั้งสองคนไม่กล้าพูดถึงนั้น มันคงจะเป็นเรื่องใหญ่มากอย่างแน่นอน แต่ว่าสรุปแล้วมันคือเรื่องใหญ่อะไรกันนั้นเธอจะไม่ได้ยินข่าวลือเลยแม้แต่นิดเดียวเลยเหรอ?
ยินเสี้ยวเสี้ยวหมุนตัว และเดินออกไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไรเลย
จิ๋นลี่ยวนใช้แผนการ ‘เกลียดเธอ’ มาจัดการกับเธอ งั้นเธอก็อยากจะดูหน่อยว่า เขาเกลียดเธอยังไง!
สรุปได้ประโยคเดียวก็คือ ถ้าเกิดว่าไม่มีเหตุผล ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ไม่มีวันหย่าเด็ดขาด!
……
โรงพยาบาลหนันหยู
พอจิ๋นลี่ยวนได้รับโทรศัพท์จากเก๋อเฉิงเฟยก็อารมณ์ไม่ค่อยดี
เฉิงฉิงเป็นใครมาจากไหนกัน แม้แต่กับยินเสี้ยวเสี้ยวยังกล้าเย้ยหยันยังงั้นเหรอ? หรือว่าเบื่อที่ชีวิตสงบสุขมากเกินไปงั้นเหรอ?
อย่างแปลกประหลาด จิ๋นลี่ยวนยังไม่ทันสังเกตว่า ที่เขาโกรธไม่ได้เป็นเพราะความใจร้อนเป็นเด็กของยินเสี้ยวเสี้ยว แต่กลับเป็นเพราะการคุกคามของเฉิงฉิง ภายในจิตใต้สำนึกนั้น ยินเสี้ยวเสี้ยวยังคงอยู่ในขอบข่ายความคุ้มครองของเขา!
หลังจากวางสาย จิ๋นลี่ยวนก็โทรไปที่สถานีตำรวจทันที ออกคำสั่งไม่กี่ประโยคแล้วก็วางสาย
ก่อนที่เขาจะได้หย่า ไม่มีใครจะมาทำร้ายเธอได้ทั้งนั้น!
นี่คือเหตุผลที่เขาบอกตัวเอง!
เมืองไห่เมียว
ตอนที่จิ๋นลี่ยวนกลับมานั้น บนโต๊ะอาหารก็ยังคงเต็มไปด้วยอาหารเย็นที่วางเรียงรายอยู่เหมือนเดิม ร่างเล็กๆ ที่กำลังยุ่งวุ่นวายเดินวนไปวนมา ตอนที่เห็นเขากลับมานั้นก็คลี่ยิ้มออกมา
พอเห็นรอยยิ้มนั้น จิ๋นลี่ยวนกลับขมวดคิ้วแน่น เขาหันหลังแล้วก็เดินไปที่ห้องทำงาน ยินเสี้ยวเสี้ยวที่อยู่ด้านหลังก็รีบตามไปอย่างรวดเร็ว
หน้าห้องทำงาน ยินเสี้ยวเสี้ยวขวางจิ๋นลี่ยวนได้สำเร็จ ใบหน้าเล็กๆ ที่งดงามและละเอียดอ่อนยังคงมีร่องรอยของแป้งอยู่บางๆ วันนี้เธอทำเกี๊ยวน้ำ เพราะว่ากระเพาะของจิ๋นลี่ยวนไม่ค่อยดี กินอาหารที่ทำมาจากแป้งสาลีน่าจะดีกว่า แต่ว่าพอกลับมาแล้วเหมือนเขาจะถือแค่เอกสารมา
จิ๋นลี่ยวนหันไปด้านข้าง อยากจะออกให้ห่างจากยินเสี้ยวเสี้ยว มือที่ถือเอกสารอยู่นั้นกับบีบแน่นขึ้น
“นายไม่กินข้าวเหรอ? ” ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดอย่างรวดเร็ว พร้อมกับก้าวไปด้านหน้าแล้วก็ขวางทางเขาไว้
จิ๋นลี่ยวนหรี่ตาและมองเขา เห็นว่าดวงตาของเธอแดงเล็กน้อย ขยับปากมุบมิบ แต่ว่าสุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร
ยินเสี้ยวเสี้ยวเป็นลูกสาวของศัตรูเขา
เขาจะจดจำความจริงนี้ไว้ให้ดี!
“ยินเสี้ยวเสี้ยว อย่ามาวุ่นวาย ไม่ยังงั้นคนที่ต้องขายหน้ามากที่สุดก็คือเธอ! ” จิ๋นลี่ยวนพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา เขาแทบอดทนรอไม่ไหวที่จะไม่ต้องเจอเธออีกตั้งแต่นี้เป็นต้นไป “เรื่องแบบวันนี้ฉันหวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง ถ้าจะทำให้ใครขายหน้าเธอก็ขายหน้าไปเองคนเดียวเลย ฉันจิ๋นลี่ยวน และบ้านจิ๋นไม่ใช่คนที่เธอจะมาทำให้เสียหน้า! ”
ยินเสี้ยวเสี้ยวกัดริมฝีปากแน่น แล้วก็หายใจเข้าลึกๆ ตอนนี้เองจิ๋นลี่ยวนก็ยื่อมือมาผลักเธอออกแล้วก็เดินออกไป
หน้าประตูห้องทำงาน ยินเสี้ยวเสี้ยวอดกลั้นไว้ไม่ให้ร้องไห้ออกมา
นี่เขาบอกว่าเธอทำให้เขาขายหน้ายังงั้นเหรอ?
เมื่อเห็นจิ๋นลี่ยวนกำลังจะจากไป ยินเสี้ยวเสี้ยวยังไม่ได้เดินออกมาจากห้องทำงาน แต่ทันใดนั้นโทรศัพท์ในห้องนั่งเล่นก็ดังขึ้น ทั้งสองคนก็อึ้งไปพร้อมๆ กัน จิ๋นลี่ยวนผลักประตูเข้าไปอย่างไม่อยากจะสนใจ ยินเสี้ยวเสี้ยวก็เดินไปรับโทรศัพท์ แต่เสียงที่เธอเรียกออกมานั้นสามารถหยุดฝีเท้าของจิ๋นลี่ยวนได้สำเร็จ
“คุณย่าเหรอคะ? ”ในน้ำเสียงของเธอมีความหวาดกลัวเล็กน้อย ความกลัวที่ยินเสี้ยวเสี้ยวมีต่อคุณย่าของบ้านจิ๋นเหมือนจะมีมาตั้งแต่กำเนิดยังไงยังงั้น
เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองคนในห้องหันมาสบตากันอย่างรู้กัน แต่ว่าก็หันหน้าออกมาอย่างรวดเร็ว
เรื่องหย่าที่พวกเขาวุ่นวายกันนั้น สุดท้ายก็ถูกคนที่บ้านจิ๋นรู้เรื่องเข้าให้แล้ว
เวลานี้ จิ๋นลี่ยวนกับยินเสี้ยวเสี้ยวก็จำเป็นต้องไปคฤหาสน์เก่าแก่ของบ้านจิ๋น
ณ บ้านจิ๋น ความกดอากาศต่ำทำให้ทุกคนเหมือนกับว่าจะหายใจไม่ออก แต่ว่าคุณย่าจิ๋นกลับไม่แคร์เลยแม้แต่นิดเดียว!
วันนี้ตอนบ่ายตอนที่เธอรู้เรื่องที่เกิดขึ้นที่‘ฉือซานเย่’นั้น เธอโกรธจนเกือบจะทำให้บ้านจิ๋นพังยับเยินแล้ว! จิ๋นหยวนเฟิงรีบพาภรรยาหยูเจียห้วยกลับมาจากบริษัท จิ๋นลี่โป๋หลังจากรู้ข่าวนั้นก็รีบกลับมาอย่างรวดเร้ว และจิ๋นลี่หยาวหลังจากที่เสร็จสิ้นการลาดตระเวนที่ ‘หมั่นห้านชู้สี’นั้นก็รีบกลับมาเหมือนกัน
เรื่องที่จิ๋นลี่ยวนจะหย่านั้น ทำให้คนทั้งบ้านจิ๋นตัวสั่น
บ้านจิ๋นไม่ใช่ครอบครัวเล็กๆ แต่เป็นครอบครัวใหญ่ที่มีรากฐานมานับศตวรรษ ชื่อเสียงของตระกูลใหญ่แบบนี้เป็นตัวแทนทุกอย่าง ในอดีตที่ผ่านมาหลายปีนี้ แต่ไหนแต่ไรบ้านจิ๋นไม่เคยมีเหตุการณ์การหย่าร้างแบบนี้เลย แต่ว่าตอนนี้จิ๋นลี่ยวนยังแต่งงานไม่ถึงครึ่งปีก็จะหย่าแล้ว มันทำให้ทั้งเมืองTช็อกไปเลย
คุณย่านั่งอยู่บนโซฟาด้วยความโกรธโดยที่ไม่พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว สีหน้าหม่นหมอง ในห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่นี้ไม่มีใครกล้าพูดอะไรเลย
ตอนที่จิ๋นลี่ยวนพายินเสี้ยวเสี้ยวมาที่นี่นั้น ตอนที่ทั้งสองคนพึ่งจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของคุณย่า ถ้วยชาที่เธอถืออยู่ในมือก็ถูกปามาอย่างรุนแรงที่ข้างๆ เท้าของยินเสี้ยวเสี้ยว เศษแก้วที่แตกกระเด็นขึ้นมาแล้วทำให้น่องของเธอมีรอยเลือด แผลไม่ถือว่าลึกมาแต่ว่าเลือดออก ดูน่ากลัวเล็กน้อย…
แต่ว่าตอนนี้ ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะร้องออกมาว่าเจ็บ
เรื่องที่เกิดขึ้นที่‘ฉือซานเย่’เมื่อบ่ายวันนี้ เธอก็หุนหันพลันแล่นไปจริงๆ ……
ไปเหยียบเกล็ดมังกรของคุณย่าเข้า ไม่โดนด่าสิแปลก!
จิ๋นลี่ยวนขมวดคิ้วแน่น ไม่แสดงความคิดเห็นอะไรกับเรื่องนี้ แต่กลับเอ่ยปากพูดกับคุณย่าอย่างตรงไปตรงมา “คุณย่า ผมจะหย่ากับเสี้ยวเสี้ยว”
เพล้ง!
ครั้งนี้ แก้วน้ำชาอีกใบหนึ่งก็กระแทกมาที่ข้างๆ เท้าของจิ๋นลี่ยวน แต่เพราะว่าเขาใส่กางเกงขายาวก็เลยไม่ได้รับผลกระทบอะไร
“จิ๋นลี่ยวน ลองพูดอีกครั้งสิ! ” คุณย่าจิ๋นโกรธจนเส้นเลือดปูด เธอลุกขึ้นจากโซฟาแล้วก็มองหน้าเขา ราวกับว่าถ้าเขากล้าพูดอีกครั้งเธอจะไร้ปรานีอีกต่อไป แต่ว่าความจริงแล้วคุณย่าก็ไม่มีความปรานีอยู่แล้ว
จิ๋นลี่ยวนคือหลานที่เธอรักมากที่สุดในบ้านจิ๋น จิ๋นหยวนเชิ่งเสียชีวิตไปเร็ว ลูกเพียงคนเดียวของเขายังไม่ทันจะโตก็ไม่มีพ่อไม่มีแม่แล้ว ดังนั้นเธอจึงรักและโอ๋เขามากเป็นพิเศษตั้งแต่เด็กๆ ไม่ยังงั้นคงไม่ให้ยินเสี้ยวเสี้ยวแต่งงานกับเขาได้ง่ายๆ แค่หลังจากเธอพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองหรอก!
แต่ว่าตอนนี้มันคืออะไรกัน?
แต่งงานกันยังไม่ทันจะถึงหนึ่งปีเลย จิ๋นลี่ยวนก็อยากจะหย่าซะแล้ว! เขาเห็นว่าการแต่งงานเป็นการเล่นขายของของเด็กหรือยังไงกัน?
เธอไม่ชอบยินเสี้ยวเสี้ยวนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ว่าการหย่าก็อีกเรื่องหนึ่ง! อะไรก็ตามที่จะทำให้ชื่อเสียงของบ้านจิ๋นเสียหายเธอต้องระงับให้หมด เธอไม่อนุญาต! ตอนที่เธอยังไม่พูดอะไร เพราะว่าเธออยากจะดูว่า ในบ้านจิ๋นนี้ ใครจะกล้าขัดใจเธอ!
จิ๋นลี่ยวนอ้าปากอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่กลับโดนหยูเจียห้วยขวางไว้ก่อน “แม่ หนูว่าพวกเขาก็แค่ทะเลาะกันเท่านั้นเอง ผ่านไปไม่กี่วันเดี๋ยวก็ดีแล้ว แม่อย่าโกรธขนาดนี้เลยนะคะ ถ้าเกิดว่าโมโหมากไปจนเสียสุขภาพมันจะไม่ดีนะ……”
ระหว่างพูด หยูเจียห้วยก็ส่งสัญญาณทางสายตาให้จิ๋นลี่ยวนกับจิ๋นลี่หยาว จิ๋นลี่หยาวกลัวว่าจิ๋นลี่ยวนจะดื้อรั้นขึ้นมาก็รีบพูดกับคุณย่าก่อนว่า “คุณย่าครับ พวกเขาก็แค่ทะเลาะกันเท่านั้นเอง อย่าโมโหขนาดนี้เลยนะครับ ผมคิดว่าช้วงนี้ลี่ยวนทำเกินไปจริงๆ เสี้ยวเสี้ยวก็เลยไม่มีความสุข นิสัยลี่ยวนเป็นยังไงคุณย่าก็รู้อยู่ วันนี้ตอนที่อยู่ที่ ‘หมั่นห้านชู้สี’ผมก็ยังเห็นพวกเขายังดีๆ กันอยู่เลย จู่ๆ ก็บอกว่าจะหย่ากัน ถ้าไม่ทะเลาะกันจะเป็นอะไรได้อีกล่ะ? ”
จิ๋นลี่หยาวพยายามห้ามปราม แต่ว่าอารมณ์ของคุณย่าจิ๋นก็ยังไม่ดีขึ้น เธอชี้หน้าของจิ๋นลี่ยวนและยินเสี้ยวเสี้ยวพร้อมกับออกคำสั่งว่า “พวกเธอทั้งสองคน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปต้องย้ายกลับมาอยู่ที่นี่ ฉันอยากจะเห็นว่าพวกเธอจะก่อเรื่องได้ยังไงอีก! จิ๋นลี่โป๋ จิ๋นลี่หยาวพวกเธอสองคนไปเก็บกระเป๋าพวกเขาย้ายมาที่นี่! ”
ตอนที่คุณย่าเรียกชื่อจิ๋นลี่โป๋กับจิ๋นลี่หยาวอย่างเต็มยศ หมายความว่าเธอโกรธมากแล้ว จนถึงตอนนี้ใครยังจะกล้าพูดอะไรอีกล่ะ?
จิ๋นลี่ยวนขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม ความไม่พอใจของเขาอยู่ในสายตาของยินเสี้ยวเสี้ยว แต่ได้ยกมุมปากขึ้นอย่างเย้ยหยัน
คนที่เธอเย้ยหยันนั้นก็คือตัวเอง…