Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - บทที่195 จิ๋นลี่ยวนเมา
บทที่195 จิ๋นลี่ยวนเมา
เยาะเย้ยเสียงเบา ไม่ใช่ว่าเขาไม่รักยินรั่วอวิ๋น แต่ว่าการกระทำหลายๆ อย่างของยินรั่วอวิ๋นทำให้คนอื่นรักไม่ลงจริงๆ!
ที่เขาไม่พูดก็เพราะว่าอยากจะปกป้องยินรั่วอวิ๋น แต่ก็ไม่อยากให้ยินรั่วอวิ๋นต้องรู้สึกผิด แต่น่าเสียดาย ที่แต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เข้าใจอะไรเลย!
ยินจื่อเจิ้นหันหลัง อยากจะเดินออกไป เขาไม่อยากจะยุ่งกับคนเลือดเย็นที่อยู่ด้านหลังของเขาเลย เขาทิ้งไว้เพียงประโยคเดียวเท่านั้น “พ่อกับแม่ไม่ให้ผมช่วยเหลือเธอในนามของบ้านยิน ถ้ายังงั้นผมใช้ชื่อของตัวเองก็คงได้แหละเนอะ”
หลังจากพูดจบ ยินจื่อเจิ้นก็จากไปโดยที่ไม่สนใจเลยว่าคนข้างหลังของเขาสีหน้าเป็นยังไงบ้าง
น่าขำที่ตอนแรกที่เขามานั้นเขาคิดเพ้อเจ้อลมๆ แล้งๆ ว่า บางทีบ้านยินอาจจะตัดสินใจออกมาช่วยเสี้ยวเสี้ยว……
พอออกมาจากบ้านยิน ยินจื่อเจิ้นก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็โทรหาเฉิงกัง “เฉิงกัง นายไปหาคอนโดมาที่หนึ่ง ขอแบบเงียบๆ ความปลอดภัยสูงอะไรแบบนั้น ซื้อให้ฉันหน่อย”
พอออกมาจาก ‘ร้านอาหารซื่อฟาง’ ยินเสี้ยวเสี้ยวก็เตรียมจะกลับไปที่คฤหาสน์ เธอยังไม่ทันลางานที่‘บริษัทจื่อยิน’เสร็จเรียบร้อย พรุ่งนี้ถึงจะไปทำงาน หลังจากบอกลาเฉิงชื่อชิงแล้ว ยินเสี้ยวเสี้ยวเดินอยู่ริมถนนแล้วก็บังเอิญเห็นเสื้อเชิ้ตผู้ชายบนตัวของนายแบบที่อยู่ในตู้โชว์ ……
เสื้อตัวนี้ ถ้าเกิดว่าจิ๋นลี่ยวนได้ใส่ คงจะดูดีกว่านายแบบอีกใช่ไหม?
สมองยังไม่ทันคิดเรื่องนี้อย่างรอบคอบ แต่ว่าเท้าของยินเสี้ยวเสี้ยวกลับก้าวเข้าไปด้านในแล้ว เธอบอกไซส์ของจิ๋นลี่ยวนแล้วก็ซื้อมันมาอย่างไม่ลังเล จนถึงตอนที่เดินออกมาจากร้านเธอก็อึ้งไป หรี่ตาลงมองดูถุงในมือของตัวเองแล้วก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ผู้ขายคนนั้นจะเลิกกับตัวเองอยู่แล้ว ในสายตาของเขาไม่ได้มีเธออยู่ในนั้นเลยด้วยซ้ำ แต่ว่าเธอกลับยัง……
เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ ยินเสี้ยวเสี้ยวลังเลอยู่ชั่วครู่แต่ว่าสุดท้ายก็ไม่ได้เอาเสื้อไปคืน แล้วก็เอาเสื้อนั้นกลับไปที่คฤหาสน์ด้วย
ทั้งวันวันนี้คุณย่าจิ๋นไม่ได้ออกไปจากคฤหาสน์เลยและรอให้พวกเขากลับมา พอเห็นว่ายินเสี้ยวเสี้ยวกลับมาแล้วเธอก็เลิกคิ้วเล็กน้อยแสดงให้เห็นว่าเธอค่อนข้างจะพอใจ
ยินเสี้ยวเสี้ยวเก็บเสื้อตัวนั้นใส่ไว้ในกระเป๋าแล้วก็กลับไปที่ห้องนอนอย่างรวดเร็ว
เสื้อเชิ้ตสีดำธรรมดาๆ ชายแขนเสื้อสีขาวที่งดงามและละเอียดอ่อนดูแล้วงดงามเป็นพิเศษ วางมันไว้บนผ้าปูที่นอนสีอ่อน ดูยังไงก็มีความรู้สึกเหมือนเป็นอิสระ แต่ว่าน่าเสียดาย ที่เธออาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นว่าเขาใส่ออกมาแล้วจะเป็นยังไงบ้าง
เธอเอาเสื้อไปวางไว้ชั้นใต้สุดของตู้เสื้อผ้า ยินเสี้ยวเสี้ยวเก็บกวาดเล็กน้อยแล้วก็ลงไปเล่นกับเอ้อฮัน
ตอน1ทุ่ม ทุกคนนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหาร เมื่อเวลาผ่านไปสีหน้าของคุณย่าจิ๋นก็ดูแย่ขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง จิ๋นลี่ยวนก็ยังคงไม่กลับมา คุณย่าถึงเริ่มจับตะเกียบ……
อาหารมื้อนี้กินอย่างอึดอัด และหลังจากกินข้าวแล้วคุณย่าก็ไม่ได้ไปเดินเล่นด้วยซ้ำ เธอนั่งรอจิ๋นลี่ยวนอยู่ในห้องนั่งเล่น หยูเจียห้วยแอบโทรหาจิ๋นลี่ยวนไม่หยุด แต่ไม่ว่าจะโทรยังไงก็โทรไม่ติด เธอร้อนใจเหมือนมดที่อยู่บนหม้อไฟ แม้แต่จิ๋นหยวนเฟิงก็ขมวดคิ้วอย่างหาได้ยาก
ยินเสี้ยวเสี้ยวนั่งอยู่ด้านข้างเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าเมื่อเวลาผ่านไปเธอก็ยิ่งกังวล แล้วก็เยือกเย็นลง
กังวล ว่าบางทีวินาทีต่อมาจิ๋นลี่ยวนอาจจะปรากฏตัวก็ได้ เยือกเย็น เพราะว่าวันแรกจิ๋นลี่ยวนก็โต้คุณย่าจิ๋นกลับด้วยการกระทำ นี่เป็นการแสดงความรังเกียจเธอยังงั้นไม่ใช่เหรอ?
ตอนที่นาฬิกาแสดงเวลา2ทุ่ม55นาที จิ๋นลี่ยวนก็ยังคงไม่กลับมา คุณย่าจิ๋นโกรธจนร่างกายเธอเริ่มสั่น โทรไปที่โรงพยาบาลหนันหยูเพื่อสอบถาม ก็ได้รู้ว่าวันนี้จิ๋นลี่ยวนเลิกงานตั้งแตห้าโมงแล้ว แต่ว่าจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่กลับมา……
หยูเจียห้วยขมวดคิ้วแน่นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไปเธอก็ยังคงมองไปที่ยินเสี้ยวเสี้ยวด้วยแววตาที่ไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะว่ายินเสี้ยวเสี้ยว คุณย่าจะโมโหขนาดนี้ได้ยังไงกัน?
บางทียินเสี้ยวเสี้ยวอาจจะเป็นตัวซวยจริงๆ ก็ได้! เดินไปที่ไหนก็สร้างแต่ปัญหาใหญ่!
ยินเสี้ยวเสี้ยวสังเกตได้ถึงความไม่พอใจของหยูเจียห้วย แต่ว่าเธอจะทำยังไงได้ล่ะ? โต้กลับยังงั้นเหรอ? แต่ว่าบางสิ่งบางอย่างเมื่อฝังลงไปในจิตใจคนเราแล้วมันก็ยากที่จะลบล้างได้……
2ทุ่ม58นาที ในที่สุดนอกคฤหาสน์ก็มีเสียงรถดังขึ้น หยูเจียห้วยลุกขึ้นออกไปต้อนรับอย่างร้อนรน
“คุณชายสาม” พอได้ยินเสียงเรียกของคนรับใช้ ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ลุกขึ้นเตรียมจะไปต้อนรับโดยไม่รู้ตัว
“คุณป้าคะ ลี่ยวนเขาเมาแล้ว……”เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น หยุดฝีเท้าของยินเสี้ยวเสี้ยวที่กำลังจะก้าวไปข้างหน้าทันที
จิ๋นลี่ยวนเมาแล้ว แล้วมู่เยียนหรานมาส่งเขากลับยังงั้นเหรอ?
วันนี้พวกเขาอยู่ด้วยกันทั้งวันเลยยังงั้นเหรอ?
ยินเสี้ยวเสี้ยวเม้มปาก เธอยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน คุณย่าก็เดินตามออกไป จิ๋นลี่หยาวเดินมากระซิบที่ข้างหูของยินเสี้ยวเสี้ยว “เสี้ยวเสี้ยว ตอนนี้เธอยังไม่ได้หย่ากับเขานะ”
เพียงประโยคเดียว ทำให้ฝีเท้าของยินเสี้ยวเสี้ยวที่หยุดอยู่กับที่นั้นก้าวออกไปข้างหน้าอีกครั้ง
ใช่ เธอยังไม่ได้หย่า ไม่มีเหตุผลที่เธอจะยอมแพ้เรื่องสามีตัวเองอย่างง่ายดายแบบนี้!
ไฟด้านนอกของบ้านจิ๋นสว่างจ้า สายตาที่หยูเจียห้วยมองไปที่จิ๋นลี่ยวนที่เมามายนั้นเต็มไปด้วยความรักและความเจ็บปวด คุณย่าเองก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเข้าหากัน
“เด็กคนนี้ ทำไมถึงได้ดื่มเยอะขนาดนี้? ทั้งๆ ที่รู้ว่ากระเพาะของตัวเองไม่ค่อยดี ยังจะเป็นแบบนี้อีก! ” หยูเจียห้วยบ่นพึมพำ แล้วก็สั่งให้คนรับไปพยุงจิ๋นลี่ยวนเข้ามา แต่ว่าตอนนี้จิ๋นลี่ยวนไม่สนใจใครเลย ได้เพียงแค่พิงรถเรนจ์โรเวอร์แล้วก็มองคนที่อยู่ด้านหน้า
ความโกรธที่มากมายในใจของคุณหย่าเมื่อเห็นสภาพของจิ๋นลี่ยวนตอนนี้ก็เลือนหายไปไม่น้อยเลย
เด็กคนนี้ สรุปแล้วเป็นอะไรไปกันแน่?
ก่อนหน้านี้ต่อให้จิ๋นลี่ยวนดื่มเหล้า แต่ว่าเขาก็รู้จักลิมิตของตัวเอง ไม่เคยเมามาก่อนเลย……
ยินเสี้ยวเสี้ยวพอออกไปก็เห็นท่าทางที่ร้ายของเขา ก็เดินเข้าไปอยากจะพยุงเขา แต่ว่ามู่เยียนหรานที่อยู่ข้างๆ ก็พูดออกมาเบาๆ “เสี้ยวเสี้ยว เธอไม่ต้องพยุงเข้าหรอก ตอนนี้ลี่ยวนไม่สนใจใครแล้ว ถ้าเกิดว่าไม่ทันระวังเธออาจจะเจ็บตัวได้นะ……”
ยินเสี้ยวเสี้ยวเหลือบมองเธอ แต่ว่าเธอก็ไม่ได้หยุดเดิน แล้วก็พูดเบาๆ ว่า “ขอบคุณนะที่เตือน ไม่ว่าไม่ว่าจะพูดยังไงเขาก็คือสามีของฉัน มีที่ไหนกันที่สามีเมาแล้วภรรยาจะไม่สนใจน่ะ? ”
มู่เยียนหรานหน้าซีดลงทันที โชคดีที่แสงไฟค่อนข้างสว่างก็เลยมองไม่ค่อยเห็น
หยูเจียห้วยมองยินเสี้ยวเสี้ยวอย่างไม่พอใจ ตอนนี้จิ๋นลี่ยวนไม่สนใจแม้แต่เธอเลย เธอไม่เชื่อหรอกว่ายินเสี้ยวเสี้ยวที่ลูกชายเธอรังเกียจขนาดนี้จะจัดการเขาได้?
คนจำนวนไม่น้อย รอดูเรื่องตลกของยินเสี้ยวเสี้ยว
แต่ว่าพอยินเสี้ยวเสี้ยวเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าจิ๋นลี่ยวน เธอก็มองไปที่เขาพร้อมกับถอนหายใจเบาๆ แล้วก็ยื่นมือไปประคองเขาพร้อมกับพูดว่า “นายดื่มเยอะไปแล้ว เดี๋ยวฉันไปส่งกลับห้อง”
พอเห็นยินเสี้ยวเสี้ยวปรากฏตัวตรงหน้าของตัวเอง จิ๋นลี่ยวนที่เดิมทีสีหน้าเรียบเฉยก็หัวเราะออกมา
เสียงหัวเราะของเขาทำให้คนที่อยู่ตรงนั้นตะลึงตาค้างไปเลย แต่ว่าสิ่งที่น่าอัศจรรย์กว่านั้นยังมาไม่ถึง
จิ๋นลี่ยวนหลบเลี่ยงมือของยินเสี้ยวเสี้ยวที่จะยื่นมือประคองตัวเอง แล้วก็จับที่ศีรษะเล็กๆ ของเธอ พร้อมกับพรมจูบลงไปที่ริมฝีปากสีชมพูของเธอ แถมยังทำเสียงดัง
‘ม้วฟ’ ทำให้ใบหน้าของยินเสี้ยวเสี้ยวแดงขึ้นทันที
คุณย่าทนไม่ไหวที่จะกลอกตา!
นี่คือท่าทางของคนที่จะหย่ากันยังงั้นเหรอ?
จิ๋นลี่หยาวนืนอยู่ข้างๆ หัวเราะออกมาอย่างไม่เกรงใจ สีหน้าของมู่เยียนหรานกลับยิ่งแย่ลง
ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่กล้าหันกลับไปมองปฏิกิริยาของคนด้านหลัง ได้แต่กัดฟันแล้วก็ลากเขาเข้าไปข้างใน สายตาก้มมองพื้นยังไงก็ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา หูก็เริ่มแดง
ครั้งนี้จิ๋นลี่ยวนเชื่อฟังเป็นพิเศษและยอมเดินไปกับยินเสี้ยวเสี้ยว ยิ้มกว้างขึ้นด้วย
“ช้าหน่อย……”ยินเสี้ยวเสี้ยวเดินไปด้วยพร้อมกับเตือนให้เขาระวังทาง
มู่เยียนหรานมองดูแผ่นหลังของทั้งสองคนที่เดินจากไป ใบหน้าทั้งแดงและซีดด้วยความเจ็บปวด
ทันใดนั้นจิ๋นลี่หยาวที่ยืนอยู่ตรงมุมก็พูดขึ้นมาว่า “คุณมู่คะ ขอบคุณที่วันนี้คุณมาส่งน้องชายฉันนะคะ ก็เลยรบกวนให้คุณต้องขับรถ ตอนนี้ก็ค่อนข้างดึกแล้ว เดี๋ยวให้คนขับรถไปส่งคุณแล้วกัน ไม่ยังงั้นคุณพ่อกับคุณแม่ของคุณจะเป็นห่วงเอาได้”
มู่เยียนหรานเม้มปากและยิ้มเล็กน้อย ตอนที่กำลังจะพยักหน้าก็ได้ยินเสียงคุณย่าพูดขึ้นมา “ดึกขนาดนี้แล้ว แถมตระกูลมู่ก็ไม่ได้ถือว่าใกล้ที่นี่มาก ฉันว่าวันนี้เด็กน้อยเยียนหรานไม่ต้องกลับไปแล้วล่ะ เดี๋ยวฉันโทรหาพ่อกับแม่ของหนูเอง คืนนี้หนูอยู่ที่นี่เถอะ”
จิ๋นลี่หยาวขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
คุณย่าชอบมู่เยียนหราน นั่นคือสิ่งที่บ้านจิ๋นทุกคนรู้ เธอจะไม่ไปพุ่งชนอย่างโง่เขลาหรอก
หยูเจียห้วยกับจิ๋นหยวนเฟิงขมวดคิ้วแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่สั่งให้คนพามู่เยียนหรานไปที่ห้องพักแขก
ในห้องนอน
ไม่ง่ายเลยกว่าที่ยินเสี้ยวเสี้ยวจะพยุงจิ๋นลี่ยวนเข้ามาได้ ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้เห็นว่าเตียงขนาดใหญ่นั้นอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่แล้ว แต่จู่ๆ จิ๋นลี่ยวนกลับเล่นลูกไม้ไม่ยอมเดินต่อไป ยินเสี้ยวเสี้ยวจะไปขยับเขาได้ยังไงกัน น้ำหนักทั้งตัวของจิ๋นลี่ยวนทับอยู่บนร่างกายของเธอ เกิดความโกลาหลและทั้งสองคนก็ล้มลงที่พรม โชคดีที่พรมค่อนข้างหนา ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ล้มลงในอ้อมอกของจิ๋นลี่ยวน ก็เลยไม่ได้หกล้มจับกบ……
“ลี่ยวน?” เธอเรียกเบาๆ ยินเสี้ยวเสี้ยวกลัวว่าการล้มในครั้งนี้จะทำให้จิ๋นลี่ยวนเจ็บตัว ก็เลยอยากจะลุกขึ้นมาดูอาการของจิ๋นลี่ยวน แต่ว่าเขากลับยื่นมือออกมากอดเธอไว้ในอ้อมอก ทำให้เธอไม่สามารถขยับได้เลย
ในห้องไม่ได้เปิดไฟ มีเพียงแค่แสงจันทร์ที่เย็นยะเยือกแล้วก็ทิวทัศน์ที่มืดมิด
ทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมาก เธอรู้สึกได้ถึงลมหายใจของเขาที่พ่นลงบนใบหน้าของเธอ ตอนนั้นเธออึ้งไปเลย ไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไง
ตั้งแต่เกิดเรื่องที่จะหย่านั้น พวกเขาก็ไม่ได้ใกล้ชิดกันแบบนี้มาประมาณสองอาทิตย์ได้แล้ว
หลังจากปรับตัวเข้ากับความมืดนั้น ยินเสี้ยวเสี้ยวก็มองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาที่คุ้นเคยที่อยู่ภายใต้ตัวเธอ เขาเองก็ค่อยๆ ลืมตามองเธอเหมือนกัน ในตอนนี้เขาดูเหมือนว่าจะเมาเล็กน้อย แล้วก็เหมือนว่าจะไม่เมา แต่ว่ายินเสี้ยวเสี้ยวกลับดีใจมาก เพราะว่าตอนนี้ในสายตาของจิ๋นลี่ยวนไม่ได้มีความรังเกียจหรือว่าความเกลียดชัง……
ทั้งสองคนสบตากัน ทั้งสองคนไม่ได้มีใครพูดอะไร
จิ๋นลี่ยวนโอบเอวบางๆ ของยินเสี้ยวเสี้ยว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยร่างของเธอ และดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยร่างของเขา……
จิ๋นลี่ยวนในตอนนี้ จู่ๆ ก็ลืมบางสิ่งบางอย่างไป
หลังจากผ่านไปนาน ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เธอยื่นมือเล็กๆ ใบลูบใบหน้าของเขา จากคิ้วไปถึงตา จากตาไล่ลงมาถึงจมูก สุดท้ายก็เลื่อนลงมาที่ริมฝีปากบางที่เซ็กซี่ของเขา……
ช่วงเวลาที่ปลายนิ้วสัมผัสริมฝีปากนั้น สุดท้ายแล้วจิ๋นลี่ยวนก็ทนไม่ไหว เขายื่นมือออกไปจับศีรษะของยินเสี้ยวเสี้ยวไว้แล้วก็พรมจูบลงไป เต็มไปด้วยความเร่าร้อน แล้วก็ความคิดถึง……
ความอ่อนโยนภายในห้องทำให้ผู้คนหน้าแดงและใจเต้นเร็ว เสียงหอบปะปนไปกับเสียงหายใจอย่างหนักหน่วง
ทันใดนั้น ประตูห้องก็ถูกเปิดออกอย่างเบาๆ มู่เยียนหรานยื่นหน้าเข้ามา พอเห็นสถานการณ์บนเตียงใบหน้าของเธอก็ซีดเผือดไร้เลือดทันที!
จะหย่ากันอยู่แล้ว ยังสามารถสนิทชิดเชื้อกันได้ขนาดนี้อีกเหรอ?