Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - บทที่215 ผมจัดการเอง
บทที่215 ผมจัดการเอง
ดวงตาของยินเสี้ยวเสี้ยวหม่นลงเล็กน้อย ก่อนความโกรธจะปะทุขึ้นมา
บนเตียงผ่าตัดนั่นเพิ่งจะทำแท้งเสร็จไปคนหนึ่ง ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่เคยเข้ามาในที่แบบนี้ ยิ่งไม่รู้ว่าการผ่าตัดแบบนี้เขาทำกันยังไง แต่เมื่อมองไปที่เครื่องมือเย็นเฉียบเหล่านั้นหัวใจของเธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัวเล็กน้อย แต่ตอนนี้อยู่ต่อหน้าจิ๋นลี่ยวน เธอไม่อยากจะแสดงความขี้ขลาดออกมาแม้แต่นิดเดียว!
ยินเสี้ยวเสี้ยวเดินเข้าไปโดยไม่ลังเล เธอขึ้นไปบนเตียงผ่าตัดสูงลิ่วอย่างไม่ง่ายนักแล้วนั่งมองจิ๋นลี่ยวนอยู่บนเตียง
หน้าอกของจิ๋นลี่ยวนไม่กระเพื่อมอย่างรุนแรง ไข้สูงก็ยังไม่ลด ที่ถูกคุณหมอหยางจับไปเมื่อครู่ก็แค่จัดการแผลที่หน้าผาก เขากินยาสองเม็ดแล้วก็มาเลย แต่ยัยสาวน้อยที่น่าเป็นกังวลคนนี้ก็ยังดื้อกับเขาแบบนี้อีก เขาคงโมโหจะตายอยู่แล้ว!
ในเวลานี้เห็นเธอนั่งอยู่บนเตียงผ่าตัดอย่างตั้งมั่นก็ยิ่งโมโหแทบไม่ไหว!
เขายื่นมือไปกระชากชุดผ่าตัดด้านข้างมาสวม แล้วหยิบเครื่องมือแพทย์ หลังจากทำความสะอาดมือแล้วเขาก็สวมถุงมือผ่าตัดมุ่งไปยังยินเสี้ยวเสี้ยว…..
ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่เคยเห็นท่าทางจริงจังแบบนี้ของจิ๋นลี่ยวนมาก่อน ยิ่งไม่เคยเห็นเขาทำการผ่าตัด ตอนนี้เธอตื่นตระหนกจริง ๆ แล้ว โดนเฉพาะเมื่อเห็นจิ๋นลี่ยวนเอื้อมมือไปขยับเครื่องมือในถาด ก็ยิ่งรู้สึกร่างกายเย็นยะเยือก!
“นอนลง!” จิ๋นลี่ยวนพูดอย่างเย็นชา แต่ในน้ำเสียงก็ยังเผยความรู้สึกของเขาออกมาอย่างตรงไปตรงมา
ยินเสี้ยวเสี้ยวได้สติกลับมา แต่กลับหันกลับไปพูดอย่างไม่สนใจเขา “ฉันไม่อยากให้นายทำการผ่าตัดให้ นายออกไป แล้วเปลี่ยนหมอคนอื่นให้ฉัน!”
เสียงข้าวของดังเคร้งคร้าง คนที่ฟังอยู่ข้างนอกต่างแยกเขี้ยวยิงฟันอย่างอดไม่ได้
คุณหมอจิ๋นคงไม่รื้อห้องผ่าตัดของพวกเขาหรอกนะ?
แผนกสูติ-นารีเวชนั้นจนมาก ไม่มีห้องผ่าตัดห้องที่สองหรอกนะ…..
“ยินเสี้ยวเสี้ยว!” จิ๋นลี่ยวนโกรธมากจนเหมือนจะพูดได้แค่สามคำนี้ ดวงตาคมที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวจ้องมองเธอ เขาทิ้งเครื่องมือผ่าตัดในมือแล้วโน้มตัวไปข้างหน้า จ้องเธอแล้วพูด “ยินเสี้ยวเสี้ยว เธอรู้ไหมว่าการผ่าตัดนี้ทำยังไง? เธอยังกล้าให้หมอคนอื่นมาทำให้อีกเหรอ? เห็นฉันตายไปแล้วจริง ๆ รึไง !”
ยินเสี้ยวเสี้ยวเลิกคิ้ว ทันใดนั้นเธอก็หัวเราะขึ้นมาอย่างเย้ยหยัน มองไปยังจิ๋นลี่ยวนแล้วตอบกลับด้วยเสียงนุ่มนวล “จิ๋นลี่ยวน นายคิดว่าตอนนี้ในสายตาฉันนายยังมีชีวิตอยู่อีกเหรอ? เราหย่ากันแล้ว นายไม่คิดว่าตัวเองล้ำเส้นกันไปหน่อยเหรอ?”
เธอไม่ใช่คนโง่ ทำไมจะไม่รู้ว่าผ่าตัดทำแท้งน่ะทำยังไง?
ก็แค่อายนิดหน่อยเท่านั้นเอง แถมได้ยินมาว่าเดี๋ยวนี้หมอทำแท้งหลายคนก็เป็นผู้ชาย….
จิ๋นลี่ยวนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธ เอื้อมมือกระชากหน้ากากของตัวเองทิ้ง แล้วยื่นมือไปบีบคางของยินเสี้ยวเสี้ยวเพื่อบังคับให้เธอกันมามองตัวเอง ก่อนพูดขึ้น “ยินเสี้ยวเสี้ยว อย่าท้าทายความอดทนของฉัน!”
ยินเสี้ยวเสี้ยวจ้องเขาอย่างโกรธเคือง พูดแค่ว่า “เปลี่ยนหมอให้ฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะไปทำที่โรงพยาบาลอื่น ทั้งเมืองTไม่ได้มีโรงพยาบาลนายแค่ที่เดียวซะหน่อย!”
จิ๋นลี่ยวนจ้องมองยินเสี้ยวเสี้ยวโดยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ในที่สุดก็โน้มตัวลงไปจูบที่ริมฝีปากของเธออย่างทนไม่ไหว
ปากเล็ก ๆ นั่น วันนี้ช่างน่าชังจริง ๆ !
น่าชิงชังจนเขาแทบจะอยากกลืนเธอลงท้องไปให้หมด ดูสิว่าจะยังมีแรงพูดอยู่อีกไหม!
ยินเสี้ยวเสี้ยวตกใจกับการกระทำของจิ๋นลี่ยวนจนสติหลุดลอยไปพักใหญ่ เมื่อรู้สึกตัว เธอก็ตบเขาไปตามสัญชาตญาณ
เธอเพิ่งจะตบใบหน้าซีกซ้ายไป คราวนี้เธอก็ตบใบหน้าด้านซ้านอีก คงยากที่จะมองไม่เห็น
จิ๋นลี่ยวนหยุดการเคลื่อนไหวของตัวเอง จากนั้นเขาก็สงบลงไม่น้อย เขาเลิกคิ้วมองยินเสี้ยวเสี้ยวแล้วพูด “ครั้งหน้าอย่าตบแค่ข้างเดียวนะ เปลี่ยนไปตบข้างอื่นบ้าง”
ยินเสี้ยวเสี้ยวหันตัวคิดจะลงจากเตียงออกไปอย่างโมโห แต่จิ๋นลี่ยวนกลับรั้งเธอไว้ในอ้อมกอดของตัวเองบนเตียงผ่าตัด ยินเสี้ยวเสี้ยวที่ตั้งครรภ์อยู่ไม่กล้าขยับตัวมั่วซั่ว ทำได้เพียงมองเขาอย่างโกรธเกรี้ยว
“จิ๋นลี่ยวน นายอย่าไร้ยางอายขนาดนี้สิ! พวกเราหย่ากันแล้ว นายทำแบบนี้ฉันฟ้องนายได้นะ!” ยินเสี้ยวเสี้ยวโกรธจนอยากจะฆ่าคน
แต่มุมปากและหางคิ้วของจิ๋นลี่ยวนยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม เขาดูออกน่า ถ้ายินเสี้ยวเสี้ยวไม่ต้องการเด็กคนนี้จริง ๆ ตอนนี้ก็คงทำอะไรโดยไม่คิดห่วงอะไรทั้งนั้นแล้ว แต่เธอก็ยอมถูกเขาผูกมัดอยู่ตรงนี้อย่างว่าง่าย! ถึงเธอจะโกรธ แต่ก็กลับไม่ได้ไม่ต้องการเด็กคนนี้ขนาดนั้น…..
การได้รับรู้เรื่องนั้นทำให้จิตใจของจิ๋นลี่ยวนดีขึ้นเล็กน้อย
จิ๋นลี่ยวนเอื้อมมือลูบเอวบางของยินเสี้ยวเสี้ยวก่อนฝังศีรษะไว้ที่คอของเธอ แม้การกระทำจะอ่อนโยนแต่กลับไม่สามารถปกปิดความเอาแต่ใจของตัวเขาเองได้ ถ้าเขาไม่อนุญาตยินเสี้ยวเสี้ยวก็หมดทางหนี เขากระซิบข้างหูเธอเบา ๆ “เสี้ยวเสี้ยว เก็บเด็กคนนี้เอาไว้ได้ไหม? เขาเป็นลูกของเรานะ ลูกที่เราเฝ้ารอกันมาตลอด….”
สิ้นเสียงพูด ยินเสี้ยวเสี้ยวกลับร้องโฮออกมาอย่างทนไม่ไหว
ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าที่คือลูกที่พวกเขารอคอยมานานขนาดนั้น ถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ตอนนี้คุณย่าจะดีใจขนาดไหนกันนะ? แต่ยังไงตอนนี้พวกเขาก็หย่ากันแล้ว! หย่ากันแล้ว!
ทุกครั้งที่คิดถึงตอนที่จิ๋นลี่ยวนบอกกับเธอตอนที่เดินผ่านตัวเธอไปว่า ‘ยินเสี้ยวเสี้ยว พวกเราหย่ากันเถอะ’ ที่โรงพยาบาล เธอก็เจ็บปวดแทบขาดใจ! เธอดิ้นรน พยายามอย่างหนัก แต่สุดท้ายจิ๋นลี่ยวนก็ยังบอกออกคำเดียวว่าอยากจะหย่า แล้วเธอจะทำยังไงได้อีก?
จะสับสนวุ่นวายเหรอ? จะเป็นจะตายรึเปล่า?
เธอทำไม่ลงหรอก!
ในโลกแห่งความเสน่หาเธออาจอ่อนแอหรือถูกหลอกลวง แต่เธอก็ไม่ได้เป็นคนที่ยอมให้ศักดิ์ศรีของตัวเองถูกเหยียบย่ำ! ทำไมตอนนี้จิ๋นลี่ยวนถึงยังพูดอย่างมั่นใจแบบนั้นออกมาได้อีก?
เขาไม่ได้คิดเลย ถ้าเธอยืนกรานที่จะเก็บเด็กคนนี้เอาไว้ แล้วสิ่งที่เธอต้องเจอคืออะไร?
“จิ๋นลี่ยวน นายเคยคิดถึงฉันบ้างไหม?” ยินเสี้ยวเสี้ยวถามด้วยเสียงแหบพร่า กัดริมฝีปากไม่ให้ร้องไห้ออกมา
ร่างสูงของจิ๋นลี่ยวนชะงักแข็งอย่างรุนแรง เขาตกตะลึง
อายุ23ปี ยินเสี้ยวเสี้ยวแต่งงานกับเขา อายุ23ปี ยินเสี้ยวเสี้ยวหย่ากับเขา อายุ23ปี ยินเสี้ยวเสี้ยวตั้งท้องลูกของเขา…..
ในตอนนี้ เขาให้ยินเสี้ยวเสี้ยวตั้งท้องลูกของเขาเพื่ออะไรกันแน่?
เพียงแค่ต้องการลูกของพวกเขา หรือต้องการเหมือนที่เขาพูดไว้ก่อนหน้านี้ ใช้เด็กคนนี้เพื่อบังคับให้ซูเหนียงปรากฏตัว?
เป็นเวลานานที่จิ๋นลี่ยวนไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่แขนที่ยึดรั้งยินเสี้ยวเสี้ยวไว้ก็ค่อย ๆ คลายออก
ยินเสี้ยวเสี้ยวอึ้งไปเล็กน้อยก่อนลงจากเตียงผ่าตัด ตลอดทางเดินไปถึงประตูเธอไม่หันกลับไปมองเขาเลยแม้แต่น้อย
ตั้งแต่ที่ข้อตกลงการหย่าร้างเริ่มต้นขึ้น ระหว่างพวกเขาก็มีเส้นแบ่งที่ชัดเจน อย่างที่คุณย่าพูดเอาไว้ทั้งหมด อย่าดึงดัน กัดไม่ปล่อย….
ก่อนออกจากประตูไป จิ๋นลี่ยวนเอ่ยขึ้นเบา ๆ “ช่วงนี้เธอก็พักผ่อนให้ดี ฉันจะเตรียมการผ่าตัดให้….”
เมื่อสิ้นเสียงลง น้ำตาที่ยินเสี้ยวเสี้ยวอดกลั้นมานานในที่สุดก็ไหลออกมา
แล้วทั้งสองคนในห้องผ่าตัด ก็เดินห่างไปจากเป้าหมายที่แท้จริงทั้งอย่างนั้น
เมื่อออกมาจากห้องผ่าตัด ยินเสี้ยวเสี้ยวเช็ดน้ำตาออกจากไปหน้าของตัวเอง มือเล็กสัมผัสหน้าท้องแบนราบของตัวเองโดยไม่รู้ตัวแล้วเม้มปากนิ่งเงียบ หลังผ่านไปพักหนึ่งถึงหมุนตัวเดินออกไป
ด้านนอกห้องผ่าตัด กลุ่มของยินจื่อเจิ้นรอคอยยินเสี้ยวเสี้ยวอย่างใจจดใจจ่อ
เมื่อเห็นเธอเดินออกมาอย่างปลอดภัยทุกคนก็ต่างถอนหายใจอย่างโล่งอก สีหน้าของเฉินหยูยังคงซีดขาวยิ่งกว่าใคร ข้างหูของเขาได้ยินสิ่งที่จิ๋นลี่ยวนเคยพูดต่อหน้าเขาอยู่ตลอดเวลา
เขาต้องการจะทรมานยินเสี้ยวเสี้ยว ทรมานเด็กในท้องของยินเสี้ยวเสี้ยว…..
ชายคนนั้นมันปีศาจ….
“เสี้ยวเสี้ยว ไม่เป็นไรนะ?” เฉิงชื่อชิงก้าวเข้าไปถามเธอ แล้วเอื้ออมือไปห่มเสื้อคลุมของยินจื่อเจิ้นให้กับเธอ
“ฉันไม่เป็นไร” ยินเสี้ยวเสี้ยวส่ายหัว พูดอย่างอ่อนล้า
ยินจื่อเจิ้นเห็นดังนั้นจึงให้ทุกคนแยกย้าย แล้วขับรถไปส่งยินเสี้ยวเสี้ยวกลับชู่ถีหย้วนทันที มีอะไรค่อยว่ากันพรุ่งนี้เถอะ ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องแบบนี้นี้ไม่ใช่สิ่งที่สามารถตัดสินใจได้ในเวลาแค่ชั่วครู่
เมื่อรถมาจอดอยู่ใต้ตึกฝั่งใต้ของชู่ถีหย้วน ยินจื่อเจิ้นก็ยังไม่ไปไหน และยินเสี้ยวเสี้ยวก็ยังคงนิ่งเงียบอยู่ตลอด
ไม่นานหลังจากนั้นยินจื่อเจิ้นก็พูดขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำ “เสี้ยวเสี้ยว เธอคิดจะทำยังไง?”
ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ตอบ ในมือถือผลทดสอบที่ถาวหยียัดใส่มือเธอตอนที่จะออกมาเอาไว้แน่น
ผ่านไปนานจนไม่อาจรอคำตอบของยินเสี้ยวเสี้ยว ยินจื่อเจิ้นถอนหายใจแล้วพูดอย่างจริงจัง “เสี้ยวเสี้ยว เด็กคนนี้จะเก็บไว้ไม่ได้”
ด้วยคำพูดนั้น สีหน้าของยินเสี้ยวก็ซีดเผือด
ยินจื่อเจิ้นไม่ยอมรับการมาของเด็กคนนี้….
ยินเสี้ยวเสี้ยวหันมองยินจื่อเจิ้นอย่างแข็งทื่อ ในแววตาเต็มไปด้วยความงุนงง
“เสี้ยวเสี้ยว เธอยังเด็กเกินไป ข้างกายไม่มีครอบครัวไม่มีสามี ตอนนี้เธอยังมีลูกไม่ได้” ยินจื่อเจิ้นบอกเสียงเบา ตั้งแต่ที่รู้เรื่องยินเสี้ยวเสี้ยวตั้งครรภ์ก็เริ่มมีความคิดนี้ “นอกจากนี้ ถึงเธอจะเก็บเด็กคนนี้ไว้ตอนนี้ สุดท้ายเธอไม่อาจจะให้เขาอยู่ข้างกายเธอได้…..”
เมื่อสิ้นเสียง ร่างกายของยินเสี้ยวเสี้ยวก็แข็งทื่อ
เธอไม่อาจให้ลูกอยู่ข้างกายเธอได้?
ทำไมกันล่ะ?
ตระกูลจิ๋นที่ใหญ่โตจ้องถมึงทึงอยู่อีกด้าน คุณย่าจิ๋นจะไปยอมให้หลานคนโตของตระกูลจิ๋นถูกทิ้งอยู่ข้างนอกได้ยังไง ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ก็ไม่มีอะไรให้ต้องสงสัยเลยแม้แต่น้อย!
เมื่อมองยินเสี้ยวเสี้ยว ยินจื่อเจิ้นก็รู้แล้วว่ายินเสี้ยวเสี้ยวคิดอะไรอยู่ นั่นคือสิ่งที่เขาก็คิดได้ตอนที่อยู่นอกห้องผ่าตัด
ฐานะทางสังคมของตระกูลจิ๋นจะต้องไม่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่ ลูกคนนี้ของเสี้ยวเสี้ยวจะทิ้งไปก็ยาก แต่ถึงจะคลอดออกมาก็ยังลำบากอยู่ดี….
“พี่ชาย…..” ยินเสี้ยวเสี้ยวเรียกเบา ๆ ในน้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความสับสน
ยินจื่อเจิ้นเอื้อมมือไปโอบยินเสี้ยวเสี้ยวเข้าสู่อ้อมแขนอย่างปลอบประโลม ก่อนถอนหายใจเบา ๆ “ไม่ต้องกลัว ให้เธอพักผ่อนก่อนสักหลายวัน พวกเราค่อยมาคุยเรื่องนี้อีกที”
ยินเสี้ยวเสี้ยวพยักหน้าอย่างด้านชา ทันใดนั้นก็นึกถึงเรื่องที่จิ๋นลี่ยวนสัญญาจะเตรียมการผ่าตัดให้เธอ
ในใจก็เริ่มเจ็บขึ้นมา แต่ก็ถูกเธอกดลงไปอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
เด็กคนนี้ มาผิดเวลาเกินไปแล้ว….
ในเวลาเดียวกัน คนของตระกูลจิ๋นเองก็เพิ่งได้รับข่าวนี้
คุณย่าจิ๋นตกใจจนลุกยืนขึ้นมาจากโซฟา คว่ำชุดน้ำชาที่เธอเพิ่งจับอยู่ทั้งชุด ไม่รู้สึกปวดใจเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่ยืนยันข่าวนี้ด้วยความประหลาดใจ จิ๋นลี่ยวนและหยูเจียห้วยต่างเบิกตากว้างอย่างอดไม่ได้ แต่กลับกันจิ๋นลี่โป๋ก็อดยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยไม่ได้
เด็กคนนี้ ราวกับมาได้เวลาเหมาะเป็นพิเศษเลยเชียว…..
คุณย่าจิ๋นคิดจะออกไปหายินเสี้ยวเสี้ยวโดยจิตใต้สำนึก แต่กลับถูกจิ๋นลี่ยวนที่รีบกลับมาขวางทางไว้
สีหน้าของจิ๋นลี่ยวนย่ำแย่มาก แต่ในเวลานี้กลับไม่มีใครสนใจ
จิ๋นลี่ยวนยืนอยู่ในห้องรับแขก มองหมู่ญาติตรงหน้าเอ่ยเสียงเรียบ “เด็กในท้องของยินเสี้ยวเสี้ยวผมจะจัดการเอง!”
เพียงคำเดียว ตระกูลจิ๋นก็เกิดความโกลาหลขึ้น