Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - บทที่225 หลังจากไม่อยู่บ้านจิ๋น
บทที่225 หลังจากไม่อยู่บ้านจิ๋น
ห้องเขียนหนังสือได้เงียบชั่วขณะ
จิ๋นลี่ยวนขมวดคิ้วและไม่พูดอะไร จากนั้นเฉินผูลี่ยังคงถามต่อไปอย่างบังอาจว่า “แล้วบ้านยินล่ะ?”
จิ๋นลี่ยวนหลับตาแล้วถอนหายใจเบา ๆ ดูเหมือนว่าเขาเหนื่อยเป็นพิเศษ อีกไม่นานเขาก็พูดเบา ๆ ว่า “ไม่ต้องสนใจ จะมีคนอื่นจัดการลงโทษพวกเขา”
คนของบ้านจิ๋นไม่ใช่คนกินมัง โดยเฉพาะคุณย่าจิ๋น
เก๋อเฉิงเฟยและเฉินผูลี่มองหน้ากันและไม่พูดอะไรอีก แค่ช่วยจัดการกิจธุระเท่านั้น เรื่องนี้ดูเหมือนจะผ่านไปแล้ว แต่พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนใจให้กับยินเสี้ยวเสี้ยวในใจ
การแต่งงานกับจิ๋นลี่หยวน ซึ่งไม่รู้จริงๆว่านั้นเป็นวาสนาหรือความโชคร้ายของเธอ …
ยินเสี้ยวเสี้ยวกลับไป ‘บริษัทจื่อยิน’ ทำงานหลังจากพักผ่อนที่บ้านเป็นสองสามวัน และพอดีว่าโรงเรียนได้เข้าสู่ช่วงทบทวนสำหรับการสอบปลายภาค ซึ่งจะมีเวลาสองสัปดาห์ให้ทบทวนด้วยตัวเอง สำหรับวิชาเอกของเธอ เธอต้องทำการโฆษณาออก จึงจะได้ผลสอบยอดเยี่ยม
ใน ‘บริษัทจื่อยิน’ เนื่องจากข่าวที่มีกระแสดังก่อนหน้านี้ ทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวถูกนินทาเมื่อเธอเพิ่งมา แต่ตอนนี้ค่อยๆดีขึ้นแล้ว ข่าวลือก็คือแบบนี้ คุณยิ่งสนใจเขามากเท่าไหร่กระแสก็ยิ่งดังเท่านั้น และถ้าคุณเพิกเฉยมัน มันก็จะค่อยๆสงบลง ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้ให้ความสนใจกับสิ่งเหล่านี้ในครั้งนี้ เพียงแค่ปล่อยให้มันแพร่กระจาย และเธอก็เข้าใจว่าบ้านจิ๋นจะไม่ปล่อยให้ลูกคนนี้ถูกเข้าใจผิดเมื่อเขายังไม่เกิด …
คำพูดไม่ดีเหล่านั้นจะไม่อยู่นานหรอก
ยินเสี้ยวเสี้ยวสวมเสื้อสเวตเตอร์และกางเกงยีนส์ที่เรียบง่ายและเข้าชุดกับรองเท้ากีฬายุ่งอยู่ใน ‘บริษัทจื่อยิน’ ท่าทางที่มีชีวิตชีวาทำให้คนรอบข้างก็อิจฉาเล็กน้อย
—— ถ้าไม่บอกใครจะรู้ว่าเธอเคยแต่งงานกัน
—— ได้ยินว่าตั้งครรภ์อยู่ แต่ทำไมดูท้องยังไม่ป่อง มันอาจตั้งครรภ์ไม่นาน
——พวกคุณว่าเธอจะแต่งงานใหม่กับซานช่าวไหม?
——แน่นอนสิ หรือว่าบ้านจิ๋นจะให้หลานของพวกเขาเร่ร่อนอยู่ข้างนอกเหรอ?
…
ไม่ว่าที่ไหน ยินเสี้ยวเสี้ยวก็จะกลายเป็นประเด็นคุยกัน ตอนแรกที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ ยังรู้สึกอึดอัดใจนิดหน่อย แต่ค่อยๆก็ไม่มีความรู้สึกอะไรแล้ว ตอนนี้เธอยุ่งมาก ยุ่งกับการเรียน ยุ่งกับงาน และยุ่งกับการหาเงิน เธอต้องหาเงินให้ได้มากที่สุดในช่วงเวลานี้ มิฉะนั้นจะไม่สามารถเลี้ยงลูกได้แม้ว่าเธอสามารถขโมยเด็กออก!
ใน “บริษัทจื่อยิน” ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษใด ๆ มีเพียงการดูแลพิเศษอย่างเดียวก็คือเวลาเข้างานและเลิกงานยินจื่อเจิ้นจะมารับส่ง เธอเริ่มทำจากงานที่ง่ายและยุ่งที่สุด เมื่อเป็นเหนื่อยพักผ่อนสักหน่อยก็ทำต่อไป เรียนอย่างบ้าคลั่งทุกวัน ดูคนอื่นจะทำยังไง แล้วคิดว่าทำไมตัวเองทำไม่ถูก …
วันนี้ หลังจากได้ส่งข้อมูลที่เธอจัดเรียบร้อย ยินเสี้ยวเสี้ยวก็เหนื่อยจนนั่งลงในที่นั่งตัวเองพักผ่อน
เมื่อมองเห็นนาฬิกาแขวนบนผนังถึงเวลาสิบนาฬิกา ยินเสี้ยวเสี้ยวก็มองไปที่หน้าประตู เป็นอย่างที่คิดไว้ มีคนหนึ่งปรากฏที่นั่นตอนนี้เกือบคนใน ‘บริษัทจื่อยิน’ ทั้งหมดก็ได้รู้จักคนนี้แล้ว
ผู้จัดการหวง ซึ่งเป็นผู้จัดการของ “ร้านอาหารเทาถี้” ที่มีชื่อเสียงในเมือง T เขาจะมาที่นี่ตรงเวลา 11 นาฬิกาทุกเช้า เพียงเพื่อส่งซุปให้ยินเสี้ยวเสี้ยว
“คุณยินครับ วันนี้เป็นซุปไก่ดำครับ” ผู้จัดการหวางเดินมาข้างหน้าและเปิดปิ่นโตเก็บอุณหภูมิที่อยู่ในมือด้วยความเคารพ แล้วซุปไก่ดำที่กลิ่นหอมหวนก็กระจายไปในสำนักงานทันที และได้ดึงดูดหลายคนมองมาที่นี่ แต่ถึงแม้ว่าอยากกินแค่ไหน ก็ไม่กล้าขอชิม “ซานช่าวสั่งว่าเนื่องจากคุณมีความรู้สึกไวต่อรสชาติของนม ดังนั้นซานช่าวตัดสินใจตัวเองว่าหยุดส่งนมของบ้าน เมื่อคุณอยากดื่ม ก็จะสั่งให้คนส่งต่อไป
ผู้จัดการหวางพูดพร้อมกับเทซุปชามหนึ่งให้ยินเสี้ยวเสี้ยว จากนั้นก็ยืนอยู่ข้างๆของเธอด้วยรอยยิ้มและดูเธอดื่มหมดจึงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ และพูดต่อว่า “ซานช่าวบอกว่าหลังจากถึงเวลาที่คุณตั้งครรภ์ 8 สัปดาห์ “ร้านอาหารเทาถี้”จะรับผิดชอบอาหารวันละมื้อของคุณ ถ้าผมมารบกวนทุกวันในเวลานั้น หวังว่าคุณยินอย่ารังเกียจผมนะครับ”
ยินเสี้ยวเสี้ยวดื่มซุปหนึ่งชาม ได้อบอุ่นทั้งตัว
ฝีมือของ “ร้านอาหารเทาถี้” ดีมากมาตลอด และปฏิกิริยาการตั้งครรภ์ของเธอในปัจจุบันรุนแรงมาก แทบจะอาเจียนทุกอย่างที่กินเข้าไป แต่มีเพียงอาหารที่ “ร้านอาหารเทาถี้” ส่งมาจะไม่อาเจียน ดังนั้นเธอก็ยอมรับการจัดการของจิ๋นลี่ยวน
ปิดฝา แต่ยังมีซุปไก่ดำเหลืออยู่อีกมากมาย ผู้จัดการหวงทิ้งปิ่นโตเก็บอุณหภูมิไว้ แล้วหันตัวจากไป เขามาเมื่อเวลา 11 นาฬิกาของทุกวันและหลังจาก 20 นาทีก็จากไป ไม่มากเกินและก็ไม่ช้าไป ตรงเวลามาก
“เสี้ยวเสี้ยว” ทันใดนั้น ยินจื่อเจิ้นก็ยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องทำงานของเขาเรียกเธอ มองภาพด้านหลังของผู้จัดการหวงและถามว่า “คุณดื่มซุปเสร็จหรือเปล่า ถ้าคุณดื่มเสร็จแล้วก็เข้ามาหน่อย”
ยินเสี้ยวเสี้ยวเม้มริมฝีปากของเธอ แล้วเข้าไปในห้องทำงานโดยถือปิ่นโตเก็บอุณหภูมิ ในห้องทำงาน ยินจื่อเจิ้นกำลังคุยเรื่องที่เกี่ยวกับปัญหาของ ‘บริษัทจื่อยิน’ ในช่วงนี้กับเฉิงกัง เนื่องจากสิ่งที่ครั้งที่แล้วที่เธอเกือบจะถูกบังคับไปทำแท้ง ถึงที่สุด ‘บริษัทจื่อยิน’ ได้รับการตอบโต้จากบ้านจิ๋น แต่การตอบโต้ครั้งนี้ไม่ได้หนักสำหรับบ้านจิ๋น แต่มันหนักสำหรับบริษัทเล็ก ๆ อย่าง ‘บริษัทจื่อยิน’
เหตุผลที่ยินจื่อเจิ้นให้เธอเข้ามาก็คือเพื่อให้เธอมาเรียนรู้หน่อย
“คุณชายยิน ถ้าเราเปิดทางใหม่นี้เพื่อหลีกเลี่ยงการตอบโต้ของบ้านจิ๋น งั้นเราจะต้องลงทุนเงินมากขึ้น ไม่พูดด้านแรงคนและทรัพยากรวัสดุก่อน แม้แต่เป็นค่าโฆษณาก็เป็นการลงทุนที่ยิ่งใหญ่” เฉิงกังยังไม่เห็นด้วยกับวิธีการเบี่ยงเบนความสนใจอย่างนี้ รู้สึกเสี่ยงมาก “ถ้าเราต้องการทำ ก็มีแต่โอกาสเพียงครั้งเดียว มิฉะนั้นจะเกิดปัญหาไม่หยุด”
ยินเสี้ยวเสี้ยวกำลังถือปิ่นโตเก็บอุณหภูมิดื่มซุปอยู่ข้างๆ ยินจื่อเจิ้นและเฉิงกังโต้เถียงกันมาสามวันแล้ว แต่ไม่ได้ผล ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เธอหันหัวไปมอง และพบว่ายินจื่อเจิ้นอยากขยายขอบเขตธุรกิจของ ‘บริษัทจื่อยิน’ เข้าสู่อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง
ตั้งแต่แรก‘บริษัทจื่อยิน’ก็ได้ทำธุรกิจไฟโตคอสเมติกส์ แต่ธุรกิจด้านนี้เสี่ยงมาก และบ้านยินยังได้ซื้อที่ดินมาบ่มเพาะพืชเพื่อรับประกันว่าแหล่งผลิตสินค้าไม่ขาด แต่ธุรกิจที่ ‘บริษัทจื่อยิน’ทำส่วนใหญ่เป็นพวกคอสเมติกส์ทำความสะอาด ยังไม่เคยทำธุรกิจเครื่องสำอาง ครั้งนี้มันเสี่ยงทีเดียว
“เฉิงกัง คุณก็รู้ว่าหนึ่งในสี่ที่ดินของบ้านยินในเมือง M ถูกบริษัทจิ๋นซื่อรับซื้อ ผลกระทบโดยตรงที่สุดของเหตุการณ์นี้กับ‘บริษัทจื่อยิน’ก็คือแหล่งผลิตสินค้าของเราจะได้รับผลกระทบแน่ๆ ‘บริษัทจื่อยิน’ เป็นไปไม่ได้ที่จะทำธุรกิจในอุตสาหกรรมคอสเมติกส์ทำความสะอาดตลอดชีวิต จะต้องเดินออกหนึ่งก้าวไม่ช้าก็เร็ว ดังนั้นทำในตอนนี้ยังดีกว่า” ยินจื่อเจิ้นให้ความสำคัญกับเฉิงกังเป็นอย่างมาก ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้ช่วยที่สำคัญมากของเขา และมีหลายเรื่องก็ตกลงโดยสองคน “ผมรู้ว่าคุณกังวลเรื่องอะไร แต่ตอนนี้เราไม่มีทางเลือกเลย!”
เฉิงกังเงียบไป เขารู้ดีว่าสิ่งที่ยินจื่อเจิ้นตัดสินใจจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง แม้ว่าเขาจะไม่เห็นด้วย
เฉิงกังขมวดคิ้วและพูดเพียงหนึ่งประโยคว่า“ ผมสามารถเตรียมแรงคนให้คุณได้และยังให้ทุกหน่วยงานพร้อมที่จะช่วยเหลือได้ เหล่านี้เป็นทรัพยากรของ ‘บริษัทจื่อยิน’ แต่จู่ๆเราก็เข้าสู่อุตสาหกรรมนี้ งานโฆษณาจะต้องทำได้ดี แล้วคุณคิดให้ดีหรือเปล่าว่าคุณต้องการเชิญใครมา ก่อนอื่นคนที่คุณเชิญมาต้องมีความสามารถและมีกระแสด้วย สิ่งที่ผมกลัวคือบริษัทจิ๋นซื่อจะมีการดำเนินการอีกต่อไป ถ้าอย่างนั้นเงินทุนของเราจะหมุนเวียนไม่ได้”
ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้ว่านี่คือการลงโทษที่บ้านจิ๋นให้กับบ้านยิน เธอไม่รู้ว่าบ้านจิ๋นจะมีการดำเนินการอีกต่อไปหรือไม่ แต่เธอรู้ว่าบ้านจิ๋นจะไม่ทำร้ายเธอ
ยินเสี้ยวเสี้ยวเงยหน้าขึ้นมองเฉิงกัง ทันใดนั้นก็ถามว่า “เฉิงกัง คุณคิดอย่างไรกับความสามารถของฉัน”
เฉิงกัง ตกตะลึงอยู่สักครู่และไม่ช้าก็ตั้งสติได้
เขาเคยเห็นความสามารถในการออกแบบโฆษณาของยินเสี้ยวเสี้ยว โฆษณาน้ำหอมที่เธอทำได้สำเร็จอย่างมากเมื่อเธอเรียนจบ เธอยังเคยรับงานโฆษณาขนาดเล็กในช่วงมหาวิทยาลัย ประสิทธิผลของโฆษณาเหล่านี้ก็ดี แล้วความสามารถของเธอก็ไม่ต้องสงสัยเลย แต่อายุเธอค่อนข้างน้อยและไม่ค่อยมีชื่อเสียง แต่กระแสของยินเสี้ยวเสี้ยวดังมากเลย …
เขาไปที่มองยินจื่อเจิ้น เป็นอย่างที่คิดไว้ ยินจื่อเจิ้นโกรธทันที
“เสี้ยวเสี้ยว อย่ายุ่งเข้ามานะ!” ยินจื่อเจิ้นด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม และโกรธจนอยากตีเธอเป็นอย่างมากเลย จะมีใครไม่สนใจตัวเองอย่างเธอบ้างเหรอ? โฆษณา ‘บริษัทจื่อยิน’ ด้วยชื่อเสียงของเธอเอง “คราวนี้เราจะหานักออกแบบที่มีชื่อเสียง ไม่ใช่คุณ … ”
“ทำไมฉันไม่ได้ล่ะ” ยินเสี้ยวเสี้ยวถามกลับอย่างรวดเร็ว “พี่ ฉันไม่ได้ทำงานให้คุณฟรีนะ ฉันก็ต้องเอาค่าจ้าง และจำนวนก็ไม่น้อย คุณก็รู้ดีว่าความสามารถของฉัน แม้ว่ามันจะไม่ใช่บนสุด แต่ก็ถือได้ว่าเป็นบุคคลผู้โดดเด่นได้นะคะ แล้วอีกอย่าง สำหรับกระแสของฉัน ฉันว่าไม่มีใครในเมือง T จะมีกระแสดังกว่าฉันหรอก นอกจากนี้ ถ้าบ้านจิ๋นได้ทราบว่าฉันได้เข้าร่วมด้วย ก็จะไม่โจมตีหนักเกินไปค่ะ ทำอย่างนี้ไม่ใช่ยิงนัดเดียวได้นกสองตัวหรอ แล้วทำไมไม่ให้ฉันลองทำหน่อย”
เฉิงกังยืนอยู่ข้างๆและพูดอะไรก็ไม่เหมาะสม เขารู้ดีว่ายินจื่อเจิ้นรักเอ็นดูยินเสี้ยวเสี้ยวแค่ไหน
“เสี้ยวเสี้ยว!” ยินจื่อเจิ้นมองเธอโดยขมวดคิ้ว “คุณเคยคิดบ้างไหมว่าถ้าคุณเข้าร่วมด้วย แล้วข่าวลือที่เพิ่งสงบลงก็จะกระจายอีกครั้งทันที ถึงเวลานั้นคุณจะทนได้ไหม และคุณยังตั้งครรภ์อยู่ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่คุณอวดความสามารถตามใจนะ”
เป็นครั้งแรกที่ยินเสี้ยวเสี้ยวก็เริ่มจริงจัง
มือเธอลูบท้องตัวเอง ก็เพราะลูกนี้เธอจึงต้องยืนออกมา มิฉะนั้นเมื่อเธอคลอดลูกเสร็จแล้ว เธอจะทำอย่างไรดีถ้าไม่มีเงิน ไม่แน่ว่าแม้แต่เป็นเมือง T ก็ไม่สามารถออกไปได้ ดังนั้น สำหรับงานนี้ เธอจะต้องทำ “พี่ ฉันรู้ดีว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ เห็นได้ชัดว่ามีวิธีที่สามารถใช้เงินลงทุนน้อยที่สุดและได้ผลดีที่สุดสำหรับโครงการนี้ แล้วทำไมคุณไม่ใช้ล่ะ ถ้าฉันไม่ใช่น้องสาวของคุณ คุณก็จะไม่กังวลมากขนาดนี้ใช่ไหม? ” ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดเบา ๆ แต่ดูจริงจังมาก “ฉันกำลังช่วย ‘บริษัทจื่อยิน’ อยู่ ไม่ใช่คุณ แต่เป็นฉันเอง ฉันจะต้องเรียนรู้จะอยู่รอดยังไง ฉันอยากได้รับโอกาส และฉันต้องการได้รับการฝึกฝน ถ้าคุณไม่ปล่อยมือให้ฉันไปหล่อหลอม ก็จะทำให้ฉันเติบโตขึ้นภายใต้การคุ้มครองของคุณตลอดไป ถ้าเป็นอย่างนี้ ฉันจะไม่มีวันเติบโต ฉันจะเป็นยินเสี้ยวเสี้ยวที่ถูกผู้คนเยาะเย้ยเสมอ และจะไม่มีวันและไม่มีใครเคารพฉัน” ยินเสี้ยวเสี้ยวยืนตัวตรงและดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความแน่วแน่ แล้วพูดว่า “พี่ ทุกคนก็หวังว่าจะได้รับความเคารพ คุณคิดว่าโอกาสนี้จะทำให้ฉันถูกทุกคนเยาะเย้ย แล้วทำไมคุณไม่คิดในอีกมุมหนึ่งว่ามันเป็นโอกาสที่ฉันพิสูจน์ให้พวกเขาเห็นว่าแม้จะไม่มีบ้านจิ๋น ฉันก็สามารถใช้ชีวิตได้ดี” เมื่อมองท่าทางที่จริงจังของยินเสี้ยวเสี้ยว ยินจื่อเจิ้นได้ลังเลพักหนึ่ง