Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา - บทที่236 ยินรั่วอวิ๋นมีนัด
บทที่236 ยินรั่วอวิ๋นมีนัด
ในวันถัดไป ยินเสี้ยวเสี้ยวตื่นแล้วแต่ก็ยังไม่ลุกจากเตียง ในสมองยังนึกย้อนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในบ้านเมื่อคืนนี้
ในใจของจิงลี่ยวนมีเธออยู่
จุดนี้ทำให้เธอดีใจกว่าสิ่งอื่นใด มุมปากค่อยๆ ยกขึ้น แต่ดีใจได้ไม่นานเท่าไหร่ก็นึกถึงสิ่งที่เขาจะทำขึ้น เหมือนมันจะไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเรื่องนึงเลย……
ในตอนที่ประตูห้องโดนจิงลี่ยวนเคาะดังขึ้น ยินเสี้ยวเสี้ยวถึงจะคลานขึ้นมาจากเตียง ตั้งแต่หลังจากที่เธอท้องก็นอนเก่งสุดๆ อาการแพ้ท้องเกือบทั้งหมดนั้นมาฝึกซ้อมที่ตัวเธอไปรอบนึง ทำให้คนที่อยู่รอบๆ ที่ใส่ใจเธอนั้นต่างประหลาดใจ
“เสี้ยวเสี้ยวตื่นมาทานอาหารเช้า ทานเสร็จแล้วค่อยนอนต่อ” จิงลี่ยวนพูดแล้วก็ยื่นมือหยิบเสื้อมาช่วยสวมให้เธอ ดูใบหน้าที่แดงก่ำด้วยความอับอายอดไม่ได้ที่จะเม้มริมฝีปากกลั้นขำ “ตอนที่จะไปตรวจครรภ์ในอีกไม่กี่วันฉันไปเป็นเพื่อนเธอเอง จะได้ให้หมอบอกเธอดีๆ ด้วย ว่าคนท้องต้องระวังอะไรบ้าง”
ยินเสี้ยวเสี้ยวพยักหน้าอย่างเชื่อฟังจนแทบไม่น่าเชื่อ จู่ๆ แววตาก็ตกไปอยู่บนแขนที่คล่องแคล่วของเขา
จิงลี่ยวนไม่ได้สังเกต ในปากยังคงเยาะเย้ยยินเสี้ยวเสี้ยวอยู่ ในตอนที่มองไปก็เห็นว่าใบหน้าที่เล็กของเธอนั้นบึ้งตึงลง ตอนนี้เพิ่งจะสังเกตว่าในตอนที่ตัวเองกำลังช่วยยินเสี้ยวเสี้ยวสวมเสื้อนั้นก็ไม่ได้สังเกตว่าตัวเองยังเป็น “ผู้บาดเจ็บอยู่ ถ้าไม่ระวังไส้อาจจะทะลุได้เลยล่ะ……
“เสี้ยวเสี้ยว……” เรียกเบาๆ ไปทีนึง จิงลี่ยวนขาดความใส่ใจอย่างเห็นได้ชัด
ถึงยินเสี้ยวเสี้ยวจะโง่แค่ไหนแต่ก็รู้สึกตัวขึ้นในตอนนี้ ถอนหายใจแรงหนึ่งทีแล้วหันหลังออกไป และไม่สนใจเขาอีกเลย
จิงลี่ยวนรีบตามอยู่ด้านหลังเธออย่างเชื่อฟังและพูดเสียงเบาเพื่อเอาใจ ลักษณะนั้นไม่ต่างจากการหยอกเท่าไหร่
มือของจิงลี่ยวนดีขึ้นแล้วก็ต้องกลับไปทำงานแล้ว ถึงแม่ว่าเขาอยากจะหน้าด้านอยู่ที่นี่ต่อแต่สุดท้ายก็โดนยินเสี้ยวเสี้ยวไล่ ในตอนที่จะไปนั้นจิงลี่ยวนยังคงมองเธอด้วยสีหน้าเศร้าเล็กน้อย แต่ยินเสี้ยวเสี้ยวยังคงไม่หวั่นไหวอยู่เหมือนเดิม
ยอมที่จะเชื่อเขานั้นคืออีกเรื่อง สัญญาของเธอก็หมายถึงการที่เธอยอมรอสักพัก รอให้ถึงวันที่เรื่องที่เขาบอกนั้นจบลง แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่ดูแลตัวเอง เธอจำได้ถึงเรื่องจริงที่ว่าตัวเองกับเขานั้นหย่ากันตั้งนานแล้วมาโดยตลอด
ใน ‘บริษัทจื่อยิน’ ยินเสี้ยวเสี้ยวเอาโฆษณาที่ตัวเองออกแบบเสร็จแล้วมาทำงานด้วย เฉิงกังและยินจื่อเจิ้นรออยู่ในห้องทำงานตั้งนานแล้ว
ยินเสี้ยวเสี้ยวเอาแฟลชไดร์ฟเสียบเข้าไปในคอมพิวเตอร์ ใช้รูปแบบพาวเวอร์พอยท์มาอธิบายแนวคิด ไอเดีย กรอบความคิด และธีมของโฆษณาที่ตัวเองออกแบบอย่างตั้งใจ อีกทั้งยังแปะรูปภาพของดาราที่เธอคิดว่าค่อนข้างเหมาะสมตรงด้านหลังด้วย โฆษณาที่เรื่องหนึ่งที่ไม่ถึงสิบนาที ยินเสี้ยวเสี้ยวกลับใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงกว่าจะอธิบายเสร็จ
พออธิบายเสร็จแล้ว ยินจื่อเจิ้นนั้นมองเธอด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม ดูเหมือนว่าจะพอใจกับการออกแบบโฆษณานี้มาก แม้แต่เฉิงกังที่อยู่อีกฝั่งก็ยังรู้สึกว่าเหมาะสมมาก ถึงขั้นนึกถึงผลตอบรับหลังจากที่โฆษณาได้ฉายออกไปแล้ว
“เสี้ยวเสี้ยวลำบากคุณเลย” ยินจื่อเจิ้นขอบคุณเธออย่างจริงใจ วันนี้น้องสาวของเขาสามารถฉายเดี่ยวได้แล้ว ในจุดนี้ทำให้เขาปลาบปลื้มและดีใจมาก “ต่อไปก็ส่งต่อให้ฉันกับเฉิงกังเถอะ แล้วเรื่องค่าตอบแทนการลำบากของเธอเดี๋ยวจะโอนเข้าบัญชีของเธออีกที”
ในตอนนี้ยินเสี้ยวเสี้ยวยิ้มมีความสุขขึ้นไปอีก ตั้งแต่หลังจากที่เธอท้องเหมือนว่าเธอจะกลายเป็นทาสของเงินไปแล้ว รู้จักแต่จะหาเงินทั้งวี่ทั้งวัน ตั้งแต่ตอนแรกที่ปรึกษาปัญหากับยินจื่อเจิ้นเพื่อโฆษณานี้ไปไม่รู้กี่ครั้ง……
มีปัญหาเกี่ยวกับรายละเอียดบางอย่างยินจื่อเจิ้นบอกว่าถ้าถึงเวลาเดี๋ยวจะติดต่อเธอไป ให้เธอกลับบ้านไปพักผ่อน ตอนนี้ทุกคนทั้งเมือง Tรู้กันหมดแล้วว่าเธอตั้งท้องหลายของตระกูลจิ๋นอยู่ ใครยังจะกล้าให้เธอทำงานหนักอีกล่ะ ถึงยินเสี้ยวเสี้ยวจะยอมรับอย่างหมดปัญญา ครั้งนี้เธอก็ยอมรับแล้ว เธอก็หมดแรงกับโฆษณาชิ้นนี้แล้วจริงๆ
บนทางที่นั่งรถกลับหนานเยวี่ยน จู่ๆ ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ได้รับสายโทรศัพท์ของยินรั่วอวิ๋น
“แกมีอะไรรึเปล่า” ขมวดคิ้วถาม ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้สึกว่าเธอกับยินรั่วอวิ๋นนั้นไม่มีหน้าต่อกันแล้วไม่ใช่หรอ ทำไมจู่ๆ หล่อนถึงยังโทรมาหาเธออีกล่ะ
“พี่ ฉันมีเรื่องจะบอกพี่” ยินรั่วอวิ๋นพูดเสียงเบาในโทรศัพท์ น้ำเสียงจริงจัง “เกี่ยวกับเซี่ยงเฉิง”
ยินเสี้ยวเสี้ยวแทบจะไม่ยิ้มออกมาแล้ว ถามกลับว่า “ยินรั่วอวิ๋น เซี่ยงเฉิงเป็นสามีของแก เรื่องของเขาน่ะ แกรู้ก็พอแล้ว ทำไมต้องมาบอกฉันด้วยล่ะ ระหว่างฉันกับเขาไม่ได้มีเรื่องอะไร แกอย่ามาคิดเองเออเอง อย่ามาคิดว่าทุกคนเป็นศัตรูที่แกคิดไปเองเลย”
สำหรับยินรั่วอวิ๋นแล้ว รู้สึกว่าในใจของเธอนั้นมีแต่ความคิดเรื่องไร้สาระเกี่ยวกับเซี่ยงเฉิงอยู่ตลอด ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริงๆ
“พี่ ฉันแค่อยากจะบอกพี่แค่เรื่องเดียวเท่านั้น ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆ พี่อย่ามาโทษฉันล่ะ” ยินรั่วอวิ๋นดูไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด แต่พอนึกถึงผลประโยชน์ของสัญญาเรื่องที่ตระกูลมู่ให้ไว้กับตระกูลยินแล้วก็รู้สึกว่าคุ้มค่ามาก เลยรีบพยายามพูดว่า “ไม่ว่ายังไงเซี่ยงเฉิงก็เป็นแฟนเก่าของพี่ตอนนี้พี่โสดแล้วไม่อยากจะหาคนมาดามใจสักคนหรอ พี่ เราก็ผู้หญิงด้วยกันทั้งนั้นอย่าแสร้งทำเลย ตอนนี้ความคิดที่เป็นหลักๆ ของพี่ก็คือต้องหาผู้ชายสักคน ไม่ว่าจะเป็นเฉิงซ่าวก็ดี หรือจะเป็นเซี่ยงเฉิงก็ดี พวกเขาก็ล้วนเป็นทางเลือกที่ไม่เลวใช่ไหมล่ะ ขอแค่มีผู้ชายคนนึงมาขอพี่ พี่ก็จะได้ไม่ต้องถูกคนวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนแล้ว…..”
ยินเสี้ยวเสี้ยวจับโทรศัพท์แล้วคิ้วขมวดแน่น จู่ๆ ก็นึกถึงเรื่องวันนั้นที่เจอจิ่งลี่หยาวที่ร้านอาหารซื่อฟาง เธอคงไม่คิดแบบนี้หรอกมั้ง มันไร้สาระเกินไปรึเปล่า
แต่ไม่พูดไม่ได้ว่า ทั้งหมดนี้คือความคิดของคนทั่วไปภายใต้สถานการณ์แบบนั้น
“แล้วแต่แกจะคิดก็แล้วกัน ตอนนี้ฉันไม่อยากเห็นหน้าแกแล้วก็ไม่อยากคุยกับแก เพราะฉะนั้นเรื่องที่จะเจอกันก็ช่างมันเถอะ” พูดจบ ยินเสี้ยวเสี้ยวก็เตรียมที่จะวางสาย แต่กลับต้องชะงักเพราะได้ยิน ยินรั่วอวิ๋นที่อยู่ปลายสายพูดประโยคนั้นออกมา
“ยินเสี้ยวเสี้ยว พี่ไม่อยากรู้หรอว่าผู้หญิงที่จิงลี่ยวนซ่อนอยู่ในใจนั้นคือใคร” ยินรั่วอวิ๋นก็รีบพูด เธอรู้สึกว่าแค่เธอโยนเซี่ยงเฉิงซึ่งเป็นเหยื่อ ยินเสี้ยวเสี้ยวต้องมาแน่นอน โดยเฉพาะภายใต้สถานการณ์แบบนี้ แต่คิดยังไงก็คิดไม่ถึงว่าเธอจะเฉยชาแบบนี้ พูดคำนั้นออกมาอย่างไม่มีทางเลือก
ในสายโทรศัพท์ ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้วางสาย สักพักถึงจะถามขึ้นว่า “เธอพูดว่าอะไรนะ”
เรื่องที่จิงลี่ยวนซ่อนผู้หญิงคนนึงไว้ในใจนั้น เขาไม่สามารถเอาออกมาป่าวประกาศไปทั่วได้ ขนาดเธอก็เพิ่งจะรู้ตอนที่อยู่กับจิงลี่ยวนมานานแล้ว คนตระกูลจิ๋นนั้นน่าจะรู้ แต่ก็ไม่มีใครเคยพูดถึงไม่ใช่รึไง แล้วยินรั่วอวิ๋นรู้ได้ยังไงล่ะ
เธอโตมากับตระกูลยิน เป็นลูกสาวที่แต่งเข้าตระกูลเซี่ยง ทำไมถึงรู้เรื่องของจิงลี่ยวนล่ะ ขมวดคิ้ว ยินเสี้ยวเสี้ยวถามอย่างจริงจัง “ยินรั่วอวิ๋น แกคิดอยากจะทำอะไรกันแน่”
“เหอะเหอะ……” จู่ๆ ยินรั่วอวิ๋น ที่อยู่ในโทรศัพท์ก็หัวเราะเบาๆ ขึ้น สักพักถึงจะหยุดลง “พี่ พี่อย่าร้อนรนขนาดนั้น ฉันก็แค่อยากเตือนพี่หน่อย ตอนแรกฉันคิดว่าพี่ถูกตระกูลจิ๋นเตะออกมาแล้วก็จะมาแต่งงานกับผู้ชายธรรมดา หรือหาวิธีจับเซี่ยงเฉิง แต่ไม่คิดว่าในใจของพี่จะซ่อนความเพ้อฝันถึงสามีจิ่งซานซ่าวเอาไว้” ตั้งใจควบคุมอารมณ์โมโหของตัวเอง แล้วยินเสี้ยวเสี้ยวก็ฟังคำพูดเยาะเย้ยของฉินรั่วอวิ๋น
“แต่ก็ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่อยากนัดพี่ออกมากินข้าวก็แค่นั้น … ” สุดท้ายแล้ว ยินรั่วอวิ๋นก็พูดจี้จุด ไม่ให้เวลายินเสี้ยวเสี้ยวได้คิด ก็กำหนดเวลาและสถานที่ไปแล้ว และสุดท้ายก็พูดว่า “พี่ ฉันรอพี่อยู่ที่นั่น อย่าลืมนะ ไม่แน่ฉันก็อาจจะลืมสิ่งที่ฉันได้ยินในวันนั้นก็ได้ … ”
พูดจบ ยินรั่วอวิ๋นก็วางสายโทรศัพท์ของยินเสี้ยวเสี้ยวทันที โดยไม่สนใจเธอเลย
ถือโทรศัพท์เอาไว้ ยินเสี้ยวเสี้ยว ตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เธอรู้ว่าในเวลานี้ที่ยินรั่วอวิ๋นมาหาตัวเองนั้นจะต้องมีเรื่องอะไรแน่นอน ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอจะไปก็คือไปเลย ก็แค่อายแป๊ปเดียว แต่ตอนนี้เธอท้องลูกของเธออยู่ ในสมองยังมีฉากวันนั้นที่ของครอบครัวยินมาเอะอะโวยวาย ทำให้รู้สึกอายในตอนนั้น
อย่างไรก็ตามยินรั่วอวิ๋นก็โยนเหยื่อที่น่าดึงดูดอีกตัว
ผู้หญิงในใจของจิงลี่ยวน ยินเสี้ยวเสี้ยว เดาว่าเป็นรักแรกของเขา แต่เธอแค่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ……
ในสมองมีเงารูปร่างของคนๆหนึ่งลอยอยู่ ยินเสี้ยวเสี้ยวก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้
ในท้ายที่สุดด้วยความอยากรู้ ยินเสี้ยวเสี้ยวเลยขอให้คนขับเปลี่ยนเส้นทางและตรงไปยังที่ที่ยินรั่วอวิ๋นบอก คิดมาตลอดทาง ยินเสี้ยวเสี้ยว ก็ยังโทรหา เถาหยีและบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก่อนที่เธอจะหันกลับมาและรู้สึกโล่งใจที่จะไปตามนัด
……
ยินรั่วอวิ๋น กำลังมองหาสถานที่ในเขตชานเมือง มันอยู่ห่างไกล แต่ทิวทัศน์ก็ดีมีแม่น้ำและป่าละเมาะรอบ ๆ แต่ในป่าละเมาะฤดูหนาวจะไม่มีสัตว์อะไรและน้อยมากที่จะเห็นต้นไม้ที่มีสีสัน ทุกที่เป็นวิวที่แห้งแล้ง ไม่มีชีวิตชีวา แต่มีบ้านไร่แห่งหนึ่งในที่แบบนี้ ซึ่งยังคงมีชื่อเสียงในเมือง Tอยู่บ้าง
ในบ้านไร่ ในตอนที่ยินเสี้ยวเสี้ยวมาถึง ยินรั่วอวิ๋น ก็รออยู่ที่นั่นแล้ว ดูแล้วเหมือนเธอจะโทรหาเธอจากที่นี่ แล้วก็มั่นใจว่าเธอต้องมาแน่นอน
“เร็วขนาดนั้นเชียว” เมื่อเห็นยินเสี้ยวเสี้ยว ยินรั่วอวิ๋นเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยที่น่าประหลาดใจ “ฉันคิดว่ากว่าพี่จะคงมาอีกนาน ดูเหมือนว่าฉันจะประเมินสถานะของจิ่งซานซ่าวในใจของพี่ต่ำไปซะแล้ว”
“แกจะพูดถึงเรื่องอะไรกันแน่?” ยินเสี้ยวเสี้ยวถามตรง แต่สายตาก็คอยจับตาดู ยินรั่วอวิ๋นอยู่ตลอดเวลา
ตั้งแต่เด็กจนโต จริงๆ แล้วยินรั่วอวิ๋นไม่เคยดูเหมือนน้องสาวของเธอเลย เหมือนศัตรูกันมากกว่า
“อย่ารีบสิ พี่รีบร้อนขนาดนั้นเลยหรอ” โอกาสแบบนี้หาได้ยาก ยินรั่วอวิ๋น ตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัดและแม้แต่ดวงตาก็มีสีสันของความได้ใจอยู่ “ยินเสี้ยวเสี้ยว ถ้างั้นพี่บอกฉันมาสิว่าจิ่งซานซ่าวมีดีตรงไหน ที่ทำให้พี่อดทนที่จะให้คลอดเด็กคนนี้เพื่อเขา โดยไม่นึกถึงชื่อเสียงของตัวเองเลยแบบนี้? ”
เมื่อข่าวการตั้งครรภ์ของยินเสี้ยวเสี้ยว หลังจากข่าวนั้นถูกส่งออกไป ยินรั่วอวิ๋นก็ดีใจจนแทบแย่ เธอไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งเธอไม่จำเป็นต้องลงมือ ยินเสี้ยวเสี้ยว ก็ทำลายชื่อเสียงของเธอเองแล้ว!
ชื่อเสียงของผู้หญิงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เช่นเดียวกับตัวเธอเอง ตอนนี้เธอเป็นคนเก็บหางตัวเองเพื่อเป็นคนอยู่ ใคร ๆ ก็รู้ว่าเธอเคยจงใจทิ้งลูกตัวเองเพื่อเข้าใกล้ชิดกับจิงลี่ยวน เรื่องนี้ถือเป็นตราบาปที่เธอกลายเป็นมือที่สามในสายตาของคนอื่น แต่โชคดีที่ไม่มีใครกล้าพูดต่อหน้าครอบครัวของเธอ ยังไงเบื้องหลังของเธอก็มียินจื่อเจิ้นอยู่ ไม่เห็นแก่เธอก็เห็นแก่คนอื่นหน่อย
ยินเสี้ยวเสี้ยว ไม่ได้พูดอะไร แต่เพียงแค่จ้องมองไปที่เธออย่างเงียบๆ
ยินรั่วอวิ๋น ไม่ได้พูด แต่เพียงแค่ประชดเธอ ท่าทางแบบนั้น คนที่ไม่รู้อาจคิดว่าเธอกับยินเสี้ยวเสี้ยว มีเรื่องบาดหมางกันจนอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้แน่ๆ
ถ้าไม่ใช่เพราะอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเธอก็จะไม่มีทางมาอยู่แล้ว แต่เธอก็รู้ด้วยว่าเธอไม่สามารถยั่วยุยินรั่วอวิ๋นได้ สุดท้ายตอนนี้เธอก็เป็นฝ่ายที่อ่อนแอกว่าในบรรดาสองคน….