Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 1030
บทที่ 1030 หลักฐาน
เห้อเสียงยิ้ม “ฉันเป็นนักธุรกิจมาหลายปีแล้ว ต้องมีการตื่นตัวอยู่บ้าง ตอนที่เห็นว่าเหยาหมิ่นกระโดดตึกตายเขาเป็นหนี้ก้อนโต ฉันเกิดความรู้สึกแย่อยู่รางๆ มักรู้สึกว่านี่คือจุดประสงค์ที่แท้จริงที่ฉินซึ่งเทียนทำเรื่องนี้”
ฉินซีเลิกคิ้ว ครั้งนี้เห้อเสียงเดาไม่ผิด
“และมาคิดอีกครั้ง ฉันก็นึกถึงข่าวที่ว่าฉินซึ่งเทียนหยุดพักเงินทุนในตอนนั้น ถ้าแค่อยากต้องการจะหย่ากับเหยาหมิ่นเพียงอย่างเดียว ให้คนรักตัวเองเข้ามา ทำไมต้องกังวลขนาดนี้ด้วยล่ะ?” เห้อเสียงพูดต่อ “ฉันเลยยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกมีปัญหา และนึกถึงโครงการนี้ที่เขามอบให้ฉัน มันก็มีปัญหาด้วยหรือเปล่า”
ครั้งนี้ฉินซีแปลกใจจริงๆ
สัญชาตญาณนี้ของเห้อเสียง……เรียกได้ว่าเฉียบแหลมจริงๆ
“คุณก็เลยระงับโครงการเหรอ?” จ้าวจิ้งถาม
เห้อเสียงส่ายศีรษะ “ได้ที่ไหนล่ะ เพราะว่ามีความสงสัย ถ้าสืบอย่างครึกโครมก็จะถูกจับได้ ฉันเลยทำได้แค่ให้คนของฉันแอบสืบลับๆ”
“แต่ฉินซึ่งเทียนก็จับได้อยู่ดี” จ้าวจิ้งพูด
เห้อเสียงหัวเราะอย่างขมขื่น “คนรอบตัวฉัน……ก็ไม่ใช่คนของฉันทั้งหมดไง”
ฉินซึ่งเทียนไม่แปลกใจเลย
การแนะนำคนให้อยู่ข้างๆ เป็นเคล็ดลับปกติที่ฉินซึ่งเทียนใช้จริงๆ
“ดังนั้นตอนที่ฉันคิดว่าตัวเองสืบลับๆ อยู่ ฉินซึ่งเทียนก็รู้ว่าฉันสงสัย ถ้าโครงการนี้สำเร็จลุล่วง ตามจำนวนโครงการเดิม ฉันก็สามารถอยู่ในสำนักงานได้ตลอดชีวิต แต่ฉันสงสัยเร็วเกินไป จำนวนเงินยังไม่พอ แม้แต่เงินก็มาจากฉินซึ่งเทียน ถ้าฉันแฉเรื่องนี้ออกมาจริงๆ เกรงว่าคนที่เกิดปัญหาก็คือเขา เขาก็เลยลงมือรายงานความผิดฉันก่อน”
เห้อเสียงพูดถึงตรงนี้ ก็เกิดความโมโหขึ้นมานิดหน่อย
“วันนั้นฉันกำลังหาวัสดุอยู่ ก็พบสิ่งผิดปกติพอดี จู่ๆ ตำรวจก็พุ่งเข้ามาจับฉันโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ ฉันเข้าไปอยู่ตั้งนาน หลังจากที่เจอทนายความของฉันถึงได้พบว่า ฉันถูกแจ้งข้อหาฟอกเงิน”
“ฉินซึ่งเทียนเป็นคนแจ้งใช่ไหม?” ฉินซีถาม
เห้อเสียงกัดฟัน “จะมีใครได้อีกล่ะ?”
แต่ฉินซึ่งเทียนไม่ได้ทำแค่แจ้งความง่ายๆ แบบนั้น
“ทนายความฉันบอกว่าเขาไม่เก่งการดำเนินคดีด้านนี้ แนะนำทนายความอีกคนให้ฉัน ฉันทำงานกับทนายความคนนี้มาหลายปีแล้ว เลยไม่ได้สงสัย ยอมรับทนายความคนใหม่ ไม่คิดเลยว่าทนายความคนนี้จะเป็นคนของฉินซึ่งเทียน”
เห้อเสียงพูดอย่างโกรธเคือง “ต่อมาฉันถึงได้รู้ว่าเขาซื้อคนที่อยู่รอบตัวฉันไปทั้งหมด”
ฉินซีเงียบ
แผนการครอบคลุมทุกด้านของฉินซึ่งเทียนนี้วางแผนมาตั้งแต่เริ่มต้นจริงๆ ไม่ได้วางแผนทิ้งทางหนีให้เห้อเสียงเลย
เรื่องราวหลังจากนี้ ก็ไม่ต่างกับสิ่งที่ฉินซีได้รับมา
ฉินซึ่งเทียนปลอมหลักฐาน รวมหัวกันกับทนายความที่ตัวเองส่งไปอยู่ข้างๆ เห้อเสียง ให้ข้อหาอาชญากรรมที่ร้ายแรงที่สุดกับเห้อเสียง
เพื่อทำลายหลักฐานทั้งหมด เขาไม่ลังเลที่จะทำลายชีวิตผู้อื่น
และหลังจากที่เห้อเสียงถูกตัดสินโทษแล้ว โรงแรมเขาก็ถูกขายต่อให้คนอื่นโดยธรรมชาติ แผนกต้อนรับที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นในตอนแรกก็ลาออกด้วยเช่นกัน บันทึกกล้องวงจรปิดของโรงแรมก็โดนทำลายอย่างสมบูรณ์แบบ
ฉินซึ่งเทียนเปลื้องผ้าตัวเองอย่างขาวสะอาด
พูดถึงตรงนี้ ความพัวพันในนี้ มันก็ถูกแพร่กระจายออกไปอย่างสมบูรณ์
“หลักฐานที่คุณพูดถึง มันอยู่ที่ไหน?” จ้าวจิ้งก็ไม่อ้อมค้อม ถามอย่างตรงไปตรงมา
เห้อเสียงหรี่ตา “เธอคิดว่าฉันจะให้เธอง่ายๆ เหรอ?”
สีหน้าฉินซีสงบนิ่งมาก “คุณพูดเยอะขนาดนี้แล้ว ถ้าฉันให้บันทึกบทสนทนาในวันนี้กับฉินซึ่งเทียน คุณคิดว่าเขาจะปล่อยคุณไปไหม?”
เห้อเสียงหัวเราะ “สาวน้อย ตอนนี้ฉินซึ่งเทียนอยู่ในสภาพย่ำแย่เพราะเรื่องราวในบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ทนายความของเธอบอกฉันแล้ว”
ฉินซียิ้มเรียบๆ “แต่เธอไม่ได้บอกคุณสินะว่าตอนนี้ตระกูลฉินต้องการปกต้องฉินซึ่งเทียน คุณมีหลักฐานที่ไม่ดีเกี่ยวกับเขาอยู่ในมือ คุณคิดว่าคนของตระกูลฉินจะปล่อยคุณไปไหม?”
สีหน้าเห้อเสียงหนักอึ้งขึ้นมา “เอาล่ะ สมแล้วที่เธอเป็นลูกสาวของฉินซึ่งเทียน”
ฉินซีไม่ได้สนใจประโยคนี้ของเขา ถามอีกรอบหนึ่ง “หลักฐานของคุณ มันอยู่ที่ไหน?”
แต่จู่ๆ เห้อเสียงก็ถามขึ้นมา “คนของตระกูลฉินที่เธอพูดเมื่อกี้นี้ แต่เธอเองก็เป็นหนึ่งในคนของตระกูลฉิน ไม่ใช่เหรอ?”
ฉินซียิ้มเรียบๆ “ฉันก็แค่แซ่ฉิน แต่ฉันไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับตระกูลฉินแล้ว”
เห้อเสียงมองเธอด้วยใบหน้าครุ่นคิด “คำพูดนี้ของเธอมันน่าเชื่อเธอเท่าไร?”
ฉินซีหันศีรษะไปมองเขา “เหยาหมิ่นเป็นแม่ของฉัน เธอกระโดดลงมาจากตึกต่อหน้าฉัน คุณคิดว่าความเกลียดที่ฉันมีต่อฉินซึ่งเทียน มันน่าเชื่อถือแค่ไหน?”
เห้อเสียงตกใจ “เธอ……”
ฉินซีกระตุกมุมปากยกยิ้มอย่างเย็นชามาก “คุณคิดว่าหลักฐานในมือคุณมันมีค่าอะไร? คุณวางแผนที่จะเปิดโปงเขาด้วยตัวเองหลังจากที่คุณออกจากคุกเหรอ? แต่คุณในตอนนั้น คนที่เคยติดคุก และฉินซึ่งเทียนเป็นประธานบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ของที่อยู่ในมือคุณ จะมีคนดูกี่คน แล้วมีคนเชื่อกี่คน?”
บนใบหน้าเห้อเสียงมีความลังเลอย่างเห็นได้ชัด “แต่เธอจะพิสูจน์ยังไง ว่าหลักฐานมันจะมีประโยชน์ในมือเธอ?”
“ฉันตามหาหลักฐานที่สามารถทำให้เหยาหมิ่นบริสุทธิ์มาหนึ่งปีเต็ม” ฉินซีพูดอย่างเคร่งเครียด “คุณคิดว่าการล่มสลายของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป เป็นอุบัติเหตุเหรอ?”
เห้อเสียงเงยศีรษะขึ้นมองเธอ “คือเธอ……”
หน้าฉินซีมีความเกลียดชังอย่างเห็นได้ชัด พยักหน้าพูดขึ้น “ฉันเอง”
เห้อเสียงมั่นใจแล้ว เขาจะไม่เข้าใจผิดความเกลียดชังนี้
เพราะหนึ่งปีมานี้ ทุกครั้งที่เขาเงยศีรษะมองกระจก แววตาที่เห็นได้จากใบหน้าตัวเอง
เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ก็ไม่ยอมปล่อยง่ายๆ “วันนี้ฉันบอกทุกเรื่องให้เธอฟังแล้ว ถ้าให้หลักฐานเธออีก ฉันจะรับประกันได้ยังไงว่าที่เธอตกลงจะช่วยฉัน จะไม่ผิดสัญญา?”
จ้าวจิ้งเอ่ยปาก “ฉันสมัครการไต่สวนคดีใหม่ได้วันนี้เลย”
ฉินซีเคาะโต๊ะ “คุณเอาหลักฐานออกมา ทนายความของฉันเริ่มช่วยคุณได้ทันที ไม่งั้นรอให้ฉันไปเจอหลักฐานเอง ฉันถึงให้ทนายความเริ่มกระบวนการไต่สวนคดีใหม่ กลับไปกลับมาแบบนี้ คุณอยากเสียเวลามากมายอยู่ที่นี่งั้นเหรอ?”
เห้อเสียงกัดฟัน “ได้ ฉันจะบอกเธอ”
……
เมื่อถึงเวลาเยี่ยม ฉินซีก็ได้รับข้อมูลที่เธอต้องรู้เป็นส่วนมากแล้ว
เห้อเสียงก็ยังมีสติ ไม่ได้เอาบันทึกเสียงใส่ลงไปในคอมพิวเตอร์ แต่ใช้ปากกาบันทึกเสียง แยกเก็บไว้คนละที่ และเอกสารการตรวจสอบยา ก็ใส่ไว้ในตู้เซฟของเขาเอง
ฉินซียืนขึ้นมา
ก่อนเดินออกไปจากห้อง จู่ๆ เธอก็หันศีรษะมาพูดกับเห้อเสียงหนึ่งประโยค
“ตอนฉินซึ่งเทียนถอดเสื้อผ้าเหยาหมิ่น ได้หลีกเลี่ยงคุณไหม?”
เห้อเสียงไม่คาดคิดว่าจู่ๆ เธอจะถามคำถามนี้ นึกย้อนกลับไปสองสามวินาที ก็ส่ายศีรษะ
“ถ้าฉันจำไม่ผิด……น่าจะไม่นะ”
สีหน้าฉินซีไม่ได้ผันผวน แค่พยักหน้าเรียบๆ หันตัวเดินออกไป
จ้าวจิ้งกลับเข้าใจความหมายที่ฉินซีถามประโยคนี้