Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 108
บทที่ 108 คงจะ จริงจังแล้ว
เขาประคองศีรษะด้านหลังของเธอเอาไว้ ถือโอกาสดันตัวเธอลงไป ดวงตาที่ดำขลับแฝงไปด้วยความอันตรายเล็กน้อย
เวินจิ้งใจเต้นไม่เป็นจังหวะ สายตาแบบนี้…ช่างคุ้นเคยเหลือเกิน
“ฉันเหนื่อยแล้ว จะนอนแล้วค่ะ!” เวินจิ้งรีบหันหลังทันที
แต่นี่คือคู่ต่อกรกับมู่วี่สิงที่ไหนกัน เธอถูกพาเข้ามาในอ้อมแขนอย่างง่ายดาย สายตาของทั้งคู่ประสานเข้าหากัน
“มู่วี่สิง…” เธอเรียกชื่อของเขาเบาๆ คิดอยากจะหยุดยั้งเขาเอาไว้
เสียงที่นุ่มนวลนี้ทำให้มู่วี่สิงหยุดชะงักลง วินาทีต่อมา ก็จูบเวินจิ้งอย่างดุดัน ดำเนินลงไปเรื่อยๆตลอดทาง…
…
แสงแดดที่อบอุ่นสาดส่องเข้ามา เวินจิ้งปวดเมื่อยไปทั่วทั้งตัว. ตอนเที่ยงนัดอั้ยเถียนเอาไว้ ตอนที่เธอลุกขึ้นจากเตียงมู่วี่สิงกลับไม่ได้อยู่ที่ข้างกาย
วันนี้วันอาทิตย์ เขาคงจะไม่ต้องไปโรงพยาบาล
ลงไปทานอาหารเช้าที่ห้องรับแขก ในเวลานี้เอง เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
“คุณนายมู่ วันนี้ผมต้องไปเข้าร่วมการประชุมของสาขาวิชาระบบประสาทและสมอง ตอนบ่ายจะกลับมานะครับ”
“ฉันก็จะออกไปเหมือนกันค่ะ คงจะต้องถึงเย็น” เธอกับอั้ยเถียนไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว คาดว่าจะต้องคุยกันนานมาก
“ตอนเย็นผมไปรับคุณ หืม?”
”ค่ะ งั้นคุณรอโทรศัพท์จากฉัน”
“อาฮะ ส่งจุ๊บให้ผมทีนึง” ใครบางคนออกคำสั่ง
สีหน้าของเวินจิ้งแดงขึ้นมาในทันที ผู้ชายคนนี้ทำไมถึงได้เริ่มน้ำเน่าขนาดนี้แล้ว…
เห็นเวินจิ้งไม่มีเสียงตอบรับ น้ำเสียงของมู่วี่สิงก็เยือกเย็นลงเล็กน้อย “คุณนายมู่ หืม?”
พอมู่วี่สิงพูด เวินจิ้งก็ใจอ่อนขึ้นมาในชั่วขณะ ส่งเสียง “มั้วะ” ออกไป
“เด็กดี มีเรื่องอะไรโทรศัพท์หาผม”
“รู้แล้วค่ะ คุณก็เหมือนกัน”
วางสายโทรศัพท์ลง เวินจิ้งอดไม่ได้ที่จะยกมุมริมฝีปากขึ้น รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้านี้แผ่ขยายไปตลอดจนไปถึงบ้านของอั้ยเถียน
อั้ยเถียนเป็นไข้ หากเวินจิ้งรู้ก่อนหน้านี้ก็มาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว มองดูปรอทวัดไข้ เกือบจะสี่สิบองศา
“พวกเราไปโรงพยาบาลกัน!” เวินจิ้งดึงเธอขึ้น
อั้ยเถียนขมวดคิ้ว ส่ายศีรษะ “ฉันไม่ไป ฉันซื้อแผ่นแปะลดไข้เอาไว้แล้ว แปะสักพักก็ดีขึ้น”
เวินจิ้งจนปัญญา ทั้งยังเคลื่อนย้ายอั้ยเถียนไม่ไหว ทำได้เพียงช่วยเธอซื้อยาลดไข้ไปก่อน อีกทั้งยังต้มโจ๊กให้
“จิ้งจิ้ง เธอมาอยู่เป็นเพื่อนฉัน คุณหมอมู่คงจะไม่หึงใช่หรือเปล่า?” อั้ยเถียนก่อกวน
“แน่นอนว่าเธอสำคัญกว่า” เวินจิ้งเอ่ย
“วู้ ซาบซึ้งตายเลย!จิ้งจิ้ง ต่อไปฉันก็จะไม่เห็นแฟนดีกว่าเพื่อนเหมือนกัน เธอสำคัญที่สุด!” อั้ยเถียนหัวเราะออกมาเล็กน้อย
คนในครอบครัวของอั้ยเถียนต่างก็ไม่ได้อยู่ที่เมืองไห่เฉิง ที่ผ่านมาคนที่อยู่เป็นเพื่อนข้างกายเธอมากที่สุดก็คือเวินจิ้ง ทั้งสองคนมักจะพึ่งพาอาศัยกันและกัน
“ฉันขอฟังก่อน เธอกับเสี้ยวหงเป็นยังไงบ้าง?” เวินจิ้งเอ่ยถาม
ได้ยินดังนั้น ใบหน้าเล็กๆของอั้ยเถียนก็ขมวดเข้าหากัน เอนตัวกลับลงไปบนโซฟา เอ่ยขึ้นอย่างอุดอู้ว่า “ก็อย่างงั้น ยังไงซะอยู่ด้วยกันแล้ว ก็ไม่มีอนาคต”
เธอก็ไม่ใช่ไม่เคยคิดว่าจะก้าวข้ามจุดนั้นออกมา แต่ว่า ผู้ชายคนนั้นคือเสี้ยวหง เธอถอยกลับเข้าไปแล้ว
“คราวนี้ทำไมถึงใจเย็นขนาดนี้แล้วล่ะ?” เวินจิ้งหัวเราะขึ้นเบาๆ
ที่ผ่านมาหลักความคิดในการคบหาอีกฝ่ายของอั้ยเถียนก็คือความรักสำคัญที่สุด เรื่องอะไรต่างก็ไม่สามารถที่จะขัดขวางได้
ได้ยิน “อนาคต” ที่เธอกำลังพูดอยู่ตอนนี้ เวินจิ้งประหลาดใจเป็นอย่างมาก
“คงจะ จริงจังแล้วล่ะมั้ง” อั้ยเถียนหลับตาลงอย่างยอมรับชะตากรรม
เวินจิ้งยกโจ๊ะออกมา นั่งลงที่ข้างกายของเธอ “ข่าวลือเกี่ยวกับชู้สาวของเสี้ยวหงมีไม่น้อยเลยนะ”
“ดังนั้นน่ะ เขาคงจะเพียงแค่เล่นๆเท่านั้นเองล่ะมั้ง” อั้ยเถียนถอนหายใจออกมา
“ทุกเรื่องต่างก็มีข้อยกเว้น”
“เธอคือข้อยกเว้นของคุณหมอมู่ ฉันรู้!” อั้ยเถียนกระพริบตาวิ้งๆส่งให้กับเธอ
แก้มทั้งสองข้างของเวินจิ้งแดงระเรื่อขึ้น เธอกับมู่วี่สิง…จะมีอนาคตได้ที่ไหนกันล่ะ
ในเวลานี้เอง เสียงเคาะประตูระลอกหนึ่งก็ดังขึ้น เวินจิ้งประหลาดใจ แต่อั้ยเถียนกลับมีใบหน้าที่เปลี่ยนสี
รู้ว่าเธอพักอยู่ที่นี่ ก็มีเพียงแค่เสี้ยวหง
คงจะไม่ใช่พอพูดถึงก็มาเลยนะ
“จิ้งจิ้ง อย่าไป!” เห็นเวินจิ้งจะไปเปิดประตู อั้ยเถียนก็เรียกเธอเอาไว้ในทันที