Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 1082
บทที่ 1082 ต่างเป็นจุดประสงค์ร้าย
“ฉันจริง ๆ แล้ว…ไม่ได้ตื่นเต้นอย่างที่คิด” ฉินซีคิดอยู่พักหนึ่ง และค่อยๆพูด “เมื่อเห็นฉินซึ่งเทียนถูกจับ สิ่งที่ฉันคิดไม่ใช่ ‘เขาควรจะเป็นแบบนี้’ แต่เป็น ‘เขาควรจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก’ “
อานหยันไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกของเธอได้ทั้งหมด แต่ก็ยังแสดงความเห็นด้วย “อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก”
หลังจากมีข่าวใหญ่ ทั้งสำนักข่าวก็ยุ่งมาก ตั้งแต่ระดับบนจนถึงล่าง อานหยันหาเวลาว่างโทรหาฉินซี เพียงแค่คุยกันได้ไม่กี่ประโยค ก็ได้ยินคนเรียกเธอแว่วๆดังมาจากข้างหลัง ดังนั้นเธอจึงวางสายไป
….
ฉินซึ่งเทียนหนีเร็วเกินไป ข่าวออกมาตอนแปดโมง ซึ่งเป็นเวลาที่ครอบครัวจะมารวมตัวกัน และพูดคุย ดังนั้นข่าวด่วนของเขาจึงถูกพูดถึงตลอดทั้งคืน ว่าทำไมเขาถึงต้องหนี เหตุผลนั้นมีข้อมูลเชิงลึกมากมายนับไม่ถ้วน จนถึงขนาดมีคนพูดว่าเขาทำลูกสาวของศัตรูท้องป่อง จึงต้องรีบหนีไป
แต่ทั้งคืนผ่านไปก็ยังไม่มีข่าวแน่ชัด
ทุกคนหลับไปด้วยความเสียดายที่ไม่ได้รู้อะไรเพิ่ม เมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น พวกเขาพบว่ากลางดึกสื่อที่ปล่อยข่าวว่าฉินซึ่งเทียนถูกจับได้ปล่อยสัมภาษณ์ออกมา
‘ฉันถูกฉินซึ่งเทียนล้อมกรอบอย่างไร’
คำสามคำ ‘ฉินซึ่งเทียน’ มาพร้อมกับเอฟเฟกต์แสงที่โดดเด่นเป็นประกาย ถึงทุกคนจะยังง่วงนอนอยู่ ก็อดไม่ได้ที่จะเปิดบทสัมภาษณ์เข้าไปดู
หลังจากอ่านบทสัมภาษณ์นี้ ทุกคนก็สดชื่นขึ้นมา
ข่าวนี้วิเศษจริงๆ
คนที่แทนตัวเองว่า ‘ฉัน’ ในสัมภาษณ์ก็คือเห้อเสียง เป็นพนักงานโรงแรมที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ ในสัมภาษณ์เขาเล่าเรื่องราวโดยละเอียด
ในเรื่องเล่าว่า ฉินซึ่งเทียนต้องการจะหย่ากับภรรยาของเขา เขาจึงให้คนมาวางยานอนกลับ และถ่ายภาพอนาจารขณะที่เธอหลับ โดยใช้สิ่งนี้เป็นตัวการเพื่อบีบบังคับให้ภรรยาของเขาหย่ากับเขา
อย่างไรก็ตาม หลังจากทำสิ่งเลวร้ายเช่นนี้ ฉินซึ่งเทียนก็กลัวความผิดมาก เขาจึงทำเรื่องเลวร้ายต่อ โดนการใช้การฟอกเงิน มาทำให้เห้อเสียงติดคุก
หากเป็นเพียงแค่การสัมภาษณ์ ผู้คนคงอดสงสัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า เห้อเสียงอาจใช้ประโยชน์จากชื่อเสียงที่ไม่ดีของฉินซึ่งเทียน และจงใจออกมาเพื่อทำลายชื่อเสียง
แต่เสียงบันทึก และภาพถ่ายเอกสาร ที่เผยแพร่โดยนิตยสารในภายหลัง ทำให้ผู้คนต้องเชื่อว่าฉินซึ่งเทียนทำสิ่งเหล่านี้จริงๆ
“ดังนั้นเมื่อวานนี้ที่เขาถูกตำรวจจับที่สนามบิน ไม่ใช่เพราะการยักยอกเงิน แต่เป็นเพราะการฟอกเงินใช่ไหม” ในตอนท้ายของบทความนักข่าวถาม
“ไม่ใช่แน่นอน” เห้อเสียงตอบ “ผมได้พบกับคนดีสองคน เขาได้ล้างมลทินให้ผมในการตัดสินข้อกล่าวหา และยังช่วยหาข้อพิสูจน์ว่าฉินซึ่งเทียนทำการฟอกเงิน ตำรวจต้องมาเชิญเขาไปให้ปากคำอยู่แล้ว”
รายงานข่าวดูเหมือนจะเน้นพูดถึงวิธีที่เห้อเสียง ถูกฉินซึ่งเทียนล้อมกรอบ เพื่อฟอกเงินตั้งแต่ต้นจนจบ จุดประสงค์ของการกระจายข่าว ก็ดูเหมือนจะเพื่อให้ทุกคนรู้ว่า ฉินซึ่งเทียนถูกจับเมื่อวานนี้ โดยไม่มีเหตุผลแปลกๆ แต่เป็นเพราะเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน
แต่ความสนใจของทุกคนไม่ได้อยู่ที่สองสิ่งนี้
ทุกคนต่างถูกดึงดูดด้วยเรื่องที่เห้อเสียงเล่าว่า ‘ฉินซึ่งเทียนวางแผนล้อมกรอบภรรยาของเขา’
บนอินเทอร์เน็ตมีการจดจำ และในไม่ช้าก็มีคนมาพูดอย่างล้นหลาม เกี่ยวกับเหยาหมิ่น ภรรยาของฉินซึ่งเทียนเมื่อปีก่อน
แน่นอนว่าในข่าวมีรูปถ่ายที่ไม่เหมาะสมมากมาย เปรียบได้กับรายงานนิตยสารที่วางอยู่บนโต๊ะที่แฝงไปด้วยคมดาบมากมาย นิตยสารที่ตั้งใจจะดึงดูดความสนใจ ที่แท้ก็เต็มไปด้วยการมุ่งร้าย
แม้แต่ชาวเน็ตหลายคนเองก็มีส่วนร่วมในความรุนแรงทางไซเบอร์ต่อเหยาหมิ่น
ในเวลานั้น ความคิดเห็นของสาธารณชนมีเพียงด้านเดียว ไม่มีใครถามว่าภาพนี้มาจากไหน และไม่มีใครถามว่า การรายงานข่าวนี้ที่เกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของบุคคลที่ไม่ใช่สาธารณะนั้นถูกกฎหมายหรือไม่ มีการโจมตีจากความคิดเห็นสาธารณะมากมาย จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของชาวเน็ต และอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เหยาหมิ่นก็ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดตึก ชาวเน็ตหลายคนแสดงความคิดเห็นว่า ‘สาแก่ใจนัก’ ‘สมควรตาย’
ราวกับว่าเธอเป็นคนชั่วร้ายจริงๆ
แต่หนึ่งปีต่อมา เรื่องนี้กลับตาลปัตรอย่างรุนแรง
หากภาพนี้ถ่าย และถูกจัดเตรียมโดยฉินซึ่งเทียนจริง ถ้าเหยาหมิ่นไม่ได้ทำอะไรเลย และบุคคลที่สามนั้นไม่มีอยู่จริง หากฉินซึ่งเทียนเพียงแค่วางแผนใช้ความรุนแรงจากอินเทอร์เน็ตมาบีบบังคับให้เธอหย่าร้าง นั่น…มันน่ากลัวเกินไป
อีกด้านหนึ่ง ทุกคนตำหนิว่าพวกเขาถูกใช้เป็นเครื่องมือของฉินซึ่งเทียน อีกด้านพวกเขาก็รู้สึกขอโทษเหยาหมิ่นอย่างจริงใจ แน่นอนว่ายังมีบางคนที่ยังหลงผิดอยู่ พวกเขาปฏิเสธที่จะยอมรับว่าพวกเขามองพลาดไป แถมยังแสดงความคิดเห็นว่า ‘เพียงแค่หย่าเองไม่ใช่หรือ ทำไมฉินซึ่งเทียนถึงต้องลงทุนขนาดนี้ เห้อเสียงแค้นฉินซึ่งเทียนอยู่หรือเปล่า ถึงได้ออกมาทำลายชื่อเสียงเขา’
หลายคนเห็นด้วยกับคำพูดของเขา อย่างไรก็ตามฉินซึ่งเทียนก็เป็นประธานบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป แม้ว่าตระกูลฉินและตระกูลเหยาจะดองกัน แต่ตระกูลเหยาก็ตกต่ำมาหลายปีแล้ว ถ้าเขาต้องหย่ากับเหยาหมิ่น เขาก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีเสี่ยงขนาดนี้
มีข่าวดังออกมาตั้งแต่เช้า เกือบทุกคนกำลังกระซิบกระซาบเพื่อพูดคุยกันว่าเหยาหมิ่นนอกลู่นอกทางหรือไม่ และฉินซึ่งเทียนเป็นคนเลวหรือไม่ เมื่อข่าวใกล้จะเป็นข่าวเด่น จู่ๆก็มีข่าวอื่นออกมา
ฉินซีจะจัดงานแถลงข่าวในช่วงบ่าย
การแถลงข่าวอย่างกะทันหันนี้ เหมือนกับการฉีดน้ำลงในกระทะน้ำมันที่กำลังเดือด ชั่วขณะหนึ่งความสนใจของเกือบทุกคนก็ถูกดึงดูดโดยความเมตตาและความคับแค้นใจของตระกูลฉิน และในเวลาไม่นานก็มีคนกระจายข่าวเมื่อหลายวันก่อนที่เห็นฉินซีไปที่ศาลออกมา คนที่สนใจก็ไปหาข้อมูลเพิ่มเป็นพิเศษ ก่อนจะพบว่าคนที่ฉินซีไปฟังคำพิพากษาก็คือ เห้อเสียง
และชื่อของเหยาหมิ่น ก็รวมอยู่ในบันทึกเสียงการตัดสิน ที่เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตในวันนั้นด้วย
“ถ้าเห้อเสียงใช้หลักฐานเดียวกัน เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขาในศาล นั่นหมายความว่าฉินซึ่งเทียนทำสิ่งที่เลวร้าย”
“ที่เห้อเสียงบอกว่าเจอคนดี คือฉินซีใช่หรือไม่”
“มันจริงหรือหลอก ฉินซึ่งเทียนไม่ใช่พ่อของเธอหรอ ทำไมเธอถึงต้องทำลายพ่อของตัวเอง”
“เอาเถอะถ้าสิ่งที่ฉินซึ่งเทียนทำเป็นเรื่องจริง เขาก็เป็นขยะ และถ้าพ่อของฉันเป็นแบบนี้ ฉันก็ทนไม่ได้เช่นกัน”
“ฉันจะรอดูว่าฉินซีจะพูดอะไรในบ่ายวันนี้”
“ฉันด้วย”
ภาคการเงินมีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วที่สุด หลังจากข่าวการจับกุมของฉินซึ่งเทียนเมื่อคืนนี้ สถาบันหลายแห่งออกข่าวว่าพวกเขาจะขายหุ้นของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ทันทีที่ตลาดเปิดในตอนเช้าราคาหุ้นของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปก็ลดลงจนถึงขีดสุด ต้องประกาศระงับการซื้อขายโดยเร็วที่สุด เพื่อหยุดการดิ่งลงของราคาหุ้นอย่างต่อเนื่อง
ในความสับสนวุ่นวาย ในที่สุดงานแถลงข่าวของฉินซีก็มาถึง
…
ฉินซีไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นในตอนเช้า เธอพูดคุยกับบุคคลที่ประชาสัมพันธ์ส่งมาสักพัก จากนั้นเธอก็แต่งตัวเพื่อเตรียมการแถลงข่าว
เป็นการแถลงที่ดีที่สุด ทุกรายละเอียดไม่มีใครมองข้าม และเธอก็รู้ด้วยว่าการแต่งหน้า และเสื้อผ้าแบบไหนที่จะได้ผลดีที่สุด