Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 1181
บทที่ 1181 รู้สึกผิดต่อเธอมากกว่าเดิม
อานหยันทำได้เพียงแค่ยื่นมือออกไปกอดฉินซีเอาไว้แน่น พูดซ้ำไปซ้ำมาว่า “ฉันยังอยู่นี่ มีฉันอยู่ด้วยนะ”
เธอรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างบนร่างของฉินซีค่อยๆจางหายไป ความมีชีวิตชีวา ความโกรธ และอะไรบางอย่างที่เธอมองเห็นแต่แตะต้องไม่ได้
แม้ว่าเธอจะกอดฉินซีเอาไว้แน่น แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งความสูญเสียนั้นไปได้
สีหน้าความรู้สึกของฉินซียังคงแข็งทื่อ
แต่ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะสมจะอยู่นาน ทั้งสองคนกอดกันอีกชั่วครู่ อานหยันก็ปล่อยฉินซี
“ไปเถอะ ไปอยู่ที่บ้านฉันสักพักหนึ่ง” อานหยันมองฉินซีอย่างเป็นห่วง
ฉินซีพยักหน้า เดินตามเธอไป
“ฉันช่วยเธออธิบายกับทางนิตยสารไปแล้ว ทางฝ่ายนั้นล้วนเข้าใจ” อานหยันพูดก็เหมือนไม่ได้พูด พยายามหาหัวข้อมาสนทนาสุดชีวิต “พวกเขายังบอกอีกว่าถ้ามีโอกาส ครั้งหน้าจะเชิญเธออีก เธอไม่ต้องเอามาใส่ใจ”
ฉินซีพยักหน้าอย่างเฉยชา
อานหยันรู้อยู่แล้วว่า ตอนนี้เธอไม่สามารถที่จะไม่นำเรื่องพวกนี้มาใส่ใจได้
เธอใช้สมองครุ่นคิดอย่างหนักหน่วงเพื่อหาหัวข้อสนทนา ไม่ใช่ว่าฉินซีไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ยังไม่เอ่ยอะไรต่อ เพียงแค่พยักหน้าเป็นการแสดงออกว่าตัวเองได้ยินแล้วอย่างเฉยเมย
หลังจากอานหยันฝืนพูดไปหลายเรื่อง สุดท้ายก็พูดต่อไปไม่ไหวแล้ว
ดังนั้นฉินซีจึงกอดกล่องบรรจุเถ้ากระดูกขึ้นไปนั่งข้างที่นั่งคนขับเงียบๆ พลางก้มหน้าลง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
ภายในรถเงียบเสียกระทั่งสามารถแยกแยะเสียงลมหายใจได้อย่างชัดเจน
อานหยันขับรถไปได้ครึ่งทาง ก็ทนต่อบรรยากาศที่นิ่งชะงักแบบนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆ จึงยื่นมือไปเปิดวิทยุ
เดิมเธออยากจะเลือกช่องสถานีเพลง แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเพิ่งจะเปิดวิทยุ ก็เป็นการรายงานข่าวสังคม
“เมื่อครู่เพิ่งจะได้รับข้อมูลมาว่า ที่ชุมชน XX ไนเขตตะวันตก เหมือนว่าจะมีคุณผู้หญิงท่านหนึ่งกระโดดตึก……..”
ชุมชน XXหรือ นี่เป็นย่านที่ฉินซีกับเหยาหมิ่นอาศัยอยู่ไม่ใช่หรือ
อย่างนั้นคุณผู้หญิงที่กระโดดตึกคนนี้…….
อานหยันมือไวกว่าสมอง กดเปลี่ยนสถานีในทันที
เสียงเพลงชวนผ่อนคลายค่อยๆลอยออกมา อานหยันกลับจุกแน่นหน้าอก
นี่มันโชคอะไรกัน! แค่กดเปิดสถานีวิทยุก็ได้ยินข่าวประเภทนี้แล้ว!
อานหยันแอบหงุดหงิดเงียบๆในใจ ทางหนึ่งก็แสร้งทำเป็นเหลือบมองไปทางฉินซีอย่างไม่ใส่ใจ อยากจะเห็นว่าเธอได้รับผลกระทบใดจากสถานีวิทยุนี้หรือไม่
แต่ใบหน้าของฉินซีกลับไม่มีความรู้สึกใดๆเปลี่ยนแปลง เหมือนกับว่าไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น
เพียงแต่อาการนิ่งสงบแบบนี้ของเธอ กลับทำให้อานหยันรู้สึกเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น
เธอแอบถอนหายใจเงียบๆ แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มุ่งหน้าไปยังบ้านของตัวเองต่อไป
ฉินซีก็ไม่ได้ถามอะไร รอจนรถจอดนิ่งที่หน้าประตูบ้านอานหยันแล้ว เธอก็ลงจากรถ
อานหยันช่วยเปิดประตูให้เธอ แต่ตัวเองกลับไม่ได้ลงจากรถด้วย
“ฉัน……จะไปช่วยเธอซื้อของกลับมา” เสียงของเธอลังเลเล็กน้อย มองดูแล้วก็รู้ว่าไม่ได้เอ่ยพูดความจริง
ที่จริงแล้วเธอไม่ได้จะออกไปซื้อของแต่ไปเก็บของของฉินซีมา
เป็นธรรมดาที่เธอไม่สามารถพาฉินซีกลับไปยังบ้านที่พวกเขาเช่าเอาไว้ แล้วได้รับความสะเทือนใจจากการเห็นสถานที่ที่เหยาหมิ่นกระโดดตึก ดังนั้นจึงต้องไปเอง
แต่ฉินซีกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไรแม้แต่น้อย พยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ และประคองกล่องบรรจุเถ้ากระดูกเดินเข้าไปในตัวบ้าน
อานหยันมองแผ่นหลังของเธออย่างเป็นห่วง
หวังว่า…..เธอจะเพียงแค่ได้รับความสะเทือนใจหนักเกินไปในวันนี้ รออีกสักพักหนึ่งก็จะกลับเป็นปกติเอง
เธอส่ายหน้า เหยียบคันเร่ง
……….
สถานที่ที่พวกเขาเช่านั้นอยู่ไม่ไกลจากบ้านของอานหยัน ดังนั้นอานหยันไปรับกระเป๋าเดินทางที่ฉินซีฝากเอาไว้ที่ร้านสะดวกซื้อ กลับไปเก็บของที่บ้าน และกลับไป ก็ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง
แต่รอจนตอนที่เธอถึงบ้านแล้ว ภายในตัวบ้านก็เงียบเสียจนน่ากลัว ไม่มีความเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย คล้ายกับว่าไม่มีใครอยู่
อานหยันใจหนักอึ้ง เอ่ยเสียงดังว่า “ฉินซี”
ไม่มีคนตอบ
เธอได้ยินมาจากสถานีตำรวจว่าฉินซีเกือบจะกระโดดตึกหลังจากที่เหยาหมิ่นกระโดดลงไป คราวนี้ก็แอบด่าตัวเองในใจว่ากลับปล่อยเธอทิ้งเอาไว้ในบ้านคนเดียว เธอโยนกระเป๋าเดินทางทิ้งไว้ด้านหนึ่ง และพุ่งตัวเข้าไปในบ้าน
ภายในห้องรับแขกว่างเปล่า ห้องครัวก็ไม่มีคน ห้องนอนก็ว่างเช่นกัน
เมื่อไม่เห็นฉินซี และไม่เห็นเถ้ากระดูกของเหยาหมิ่น
หัวใจดวงนี้ของอานหยันก็เหมือนกับถูกบีบแน่นขึ้นเรื่อยๆ
เธอแทบจะพุ่งตัวไปหน้าประตูห้องน้ำ ทุบประตูปังๆ “ฉินซี! เธออยู่ข้างในหรือเปล่า”
ยังคงเต็มไปด้วยความเงียบ ไม่มีเสียงใดๆ
อานหยันรู้สึกลนลานขึ้นมา และไม่ใส่ใจข้อห้ามอะไร บิดประตูและบุกเข้าไปในทันที
ฉินซีอยู่ข้างใน
แต่เมื่อเห็นท่าทางของฉินซีแล้ว หัวใจของเธอก็ถูกบีบแน่นยิ่งขึ้น
เธอกอดกล่องบรรจุเถ้ากระดูกเอาไว้แน่น ขดตัวอยู่ในอ่างอาบน้ำ
มีดแหลมคมด้ามหนึ่งถูกโยนทิ้งอยู่ด้านข้าง แทบจะเป็นจุดที่ฉินซีสามารถเอื้อมมือไปหยิบได้
อานหยันเห็นประกายมีดเล่มนั้นแล้ว หัวใจก็เต้นผิดไปจังหวะหนึ่ง
เธอไม่สนใจอะไร พุ่งตัวก้าวไปถึงข้างอ่างอาบน้ำ หยิบมีดขึ้นมาและโยนออกไปก่อน จากนั้นก็หันหน้ามาตะโกนใส่ฉินซีว่า “ฉินซี! เธอสู้หน่อยสิ! คุณป้าเหยาจะต้องไม่อยากเห็นเธอมีสภาพแบบนี้แน่นอน! ถ้าเธอเห็นแล้วจะต้องเสียใจแน่ๆ!”
เสียงของเธอดังมาก เกือบจะสะท้อนกลับไปกลับมาในห้องอาบน้ำ
แต่ฉินซีกลับทำเพียงแค่เหลือบตาขึ้นมองไปยังด้านหน้า นัยน์ตาไม่ได้โฟกัสอะไรเลยแม้แต่น้อย
“อานหยัน” เสียงเธอเบามาก “คุณแม่ของฉันเป็นกังวลว่าจะทำให้ฉันเดือดร้อน เลยกระโดดตึก”
อานหยันขมวดคิ้วแน่น “ไม่ใช่นะ! เธออย่าคิดแบบนี้นะ!”
ฉินซีกลับส่ายหน้าเบาๆ “ก่อนที่เธอจะกระโดดลงไป ก็โทรศัพท์มาหาฉันครั้งหนึ่ง”
อานหยันไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ จึงพูดอะไรได้ยาก ทำได้เพียงแค่ฟังเงียบๆ
“เธอพูดว่า ไม่อยากทำให้ฉันเดือดร้อนอีก” เสียงของฉินซีว่างเปล่า ไร้สิ้นเรี่ยวแรง “เดิมฉันนึกว่า……ฉันอยู่ข้างกายเธอแล้ว จะสามารถสร้างกำลังให้เธอได้ ผ่านอุปสรรคที่ยากลำบากไปด้วยกันกับเธอ แต่คิดไม่ถึงเลยว่า สุดท้ายแล้วก็เป็นฉัน…..ที่ทำร้ายเธอให้ตาย”
“ไม่ใช่แบบนั้นนะ!” อานหยันคุกเข่าอยู่ข้างกายฉินซี “ช่วงเวลานี้คุณป้าจะต้องใช้ชีวิตด้วยความทุกข์ทรมานอย่างแน่นอน ดังนั้นถึงได้คิดที่จะหลุดพ้น ไม่ใช่เพราะว่าเธอเป็นสาเหตุ……….”
ฉินซียิ้มอย่างสลดใจ “อาจจะล่ะมั้ง……..แต่ว่า……สุดท้ายแล้วก็ยังเกี่ยวข้องกับฉัน ไม่ใช่หรือ”
อานหยันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี จึงกระชับอ้อมกอดตัวเองให้แน่นขึ้นเงียบๆ หวังว่าจะมอบความอบอุ่นให้กับฉินซีได้เล็กน้อย
“ทำไมนะ……..ทำไมล้วนต้องจากฉันไปด้วย…….” ฉินซีพึมพำ
อานหยันไม่รู้เรื่องของฟางฟาง ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงพูดว่า “ล้วน” จากไป
เธอเพียงแค่ฝืนเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “คุณป้าทำเพื่อเธอขนาดนี้แล้ว เธอ…….ยังจะจากไปอีก แบบนี้ก็ทำผิดต่อเธอมากกว่าเดิมไม่ใช่หรือ”
ฉินซีกลับยิ้มบางๆกะทันหัน
“ที่จริงแล้ว…….ตอนที่เธอเพิ่งจะเข้ามา ก็ไม่ต้องตื่นเต้นกับมีดเล่มนั้นขนาดนี้” รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอมีความปกติที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้ “ก่อนหน้าที่ฉันหยิบมีดเล่มนี้ขึ้นมา ก็มีเสียงของคุณแม่ฉันดังขึ้นมาข้างหูกะทันหัน”
อานหยันมองแววตาของเธอ ก็แอบร้องในใจว่าไม่ดีแล้ว
ฉินซีเสียใจมากเกินไป…….จนทำให้เกิดภาพหลอนแล้วหรือ