Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 1289
บทที่ 1289 สอบสวน
แม้ว่าฉินซีจะมีหน้าที่ในองค์กรแค่สืบข่าว แต่เธอก็เคยเรียนคลาสอื่นมากมาย
อย่างเช่นคลาสความแข็งแกร่งของร่างกาย อย่างเช่น…คลาสสอบสวน
ในหัวของฉินซียังคงตื่นตัว บังคับให้เธอย้อนคิด สายตาเงียบขรึมแบบนี้ เป็นวิธีการสอบสวนที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่มั่นใจ
เธอจะต้องไม่ยอมแพ้เด็ดขาด
ฉินซีสูดลมหายใจลึกในใจ พยายามหันเหความสนใจของตัวเอง
“ถังย่า” จ้านเซินพิจารณาฉินซีครู่ใหญ่ แต่จู่ๆ ก็เรียกชื่อถังย่า “ไหนเล่าให้ผมฟังหน่อยสิ ครึ่งค่อนวันมานี้พวกคุณทำอะไรกันบ้าง”
ในที่สุดฉินซีก็มีโอกาสเงยหน้ามองถังย่าตรงๆ
อารมณ์ของถังย่าสุขุมกว่าเธอมาก
“เมื่อวานคุยสัพเพเหระกัน ก็เลยหลับอยู่ในห้อง วันนี้ตอนเช้าว่างๆ ฉันกับฉินซีไปดูงานแต่งงานที่บ้านตระกูลลู่มาค่ะ”
ถังย่าพูดจบ ก็ใช้สายตาไม่จริงจังมองฉินซี
ยังดี ฉินซีควบคุมอารมณ์ได้ค่อนข้างดี มองไม่เห็นว่ามีอะไรผิดปกติ
เธอเข้าใจอะไรๆ ดีกว่าฉินซี
อย่างเช่นชิปที่ฝังในข้อมือของฉินซี เพื่อทำให้ฉินซีไม่รู้สึกตัว ลดขนาดให้เล็กที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ จึงลดสมรรถนะส่วนใหญ่ลง เหลือเพียงแต่…
สามารถกำจัดฉินซีเมื่อถึงเวลาสำคัญ
ชิปไม่สามารถบอกตำแหน่งได้ แต่ถังย่าตรวจสอบแล้ว ฉินซีไม่ได้พกอุปกรณ์ทำนองมือถือและนาฬิกาข้อมือ จ้านเซินจึงไม่มีทางรู้ตำแหน่งของฉินซี
ถ้าหากแม้แต่ฉินซียังบอกตำแหน่งของไม่ได้ ถังย่ารู้ดี จ้านเซินไม่รู้ตำแหน่งของตัวเองแน่
ถังย่าพูดขึ้นมาเช่นนี้ มีความมั่นใจไม่น้อย
“ไปงานแต่งอย่างงั้นหรือ” จ้านเซินดูเหมือนจะแปลกใจ กวาดสายตามองถังย่ากับฉินซีสลับไปมา “พวกคุณไปด้วยกันงั้นหรือ”
“ใช่ค่ะ” ฉินซีพยักหน้าอย่างเรียบเฉย
จนถึงตอนนี้ เธอยอมรับความสามารถการโกหกของถังย่า
จริงเท็จปะปนกันถึงจะเป็นทักษะที่แท้จริง
ถังย่าพูดกับจ้านเซิน ครึ่งแรกคือความเท็จ ครึ่งหลังคือความจริง
ถ้าหากจ้านเซินตั้งใจสืบ ก็จะรู้แค่การเดินทางวันนี้ของพวกเธอ
เมื่อวานนี้ในองค์กรไม่มีคนอื่น และไม่มีกล้องวงจรปิด จะหาหลักฐานเป็นเรื่องยาก
ส่วนเรื่องที่พวกเธอสองคนไปบ้านตระกูลลู่ ถ้าจะตรวจสอบ สำหรับจ้านเซินแล้ว ง่ายดายสุดๆ แค่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ก็เห็นแล้ว
ส่วนครึ่งหลังบังเอิญเป็นความจริง
ถังย่าไปบ้านตระกูลลู่จริง ไปร่วมงานแต่งจริง เธอตั้งใจทำเงาลางๆ ที่เบาะนั่งด้านหลังรถของตัวเอง เมื่อมองจากกล้องใครก็ต้องคิดว่าเป็นฉินซี ขณะที่กล้องในบ้านตระกูลลู่ ก็ถูกลู่เซิ่นลบเกลี้ยงแต่แรกแล้ว ต่อให้เป็นจ้านเซิน ก็หาหลักฐานไม่เจอ
หรือจะพูดไป ถ้าหากจ้านเซินจะไปหาหลักฐานจริงๆ ก็จะเห็นภาพจากกล้องแค่ตอนเธอขับรถพาฉินซีเข้าไปในบ้านตระกูลลู่ และเธอกับฉินซีออกมาจากบ้านตระกูลลู่เท่านั้น
แต่แค่นี้ก็พอแล้ว
ความเข้าใจของคนเราเป็นแบบนี้ ถ้าหากพิสูจน์ความจริงบางส่วนแล้ว ก็จะรู้สึกว่าทั้งหมดที่เธอพูดเป็นความจริง
เวลานี้จ้านเซินยังมีท่าทีไม่ค่อยเชื่อ ฉินซีเห็นเขาทำมือกับพวกคนที่อยู่ข้างหลัง คงจะให้ไปหาหลักฐานนั่นเอง
แต่ใจของฉินซีกลับยิ่งสงบขึ้น
“เห็นงานแต่งแล้ว คุณคิดว่าไง” จ้านเซินจู่ๆ ก็ถามขึ้นอีก
เขาเชิดคางหันไปทางฉินซี แสดงความหมายให้เธอพูด
การแสดงออกของฉินซียังคงเรียบเฉย “เห็นลู่เซิ่นใช้เงินไม่น้อย หรูหราทีเดียว ความรักกับเจ้าสาวคนนั้น…คงจะหวานชื่น”
เธอพูดคล่องแคล่วมาก ไม่ติดขัดสักนิดเดียว
ความสงสัยในสายตาของจ้านเซินคลี่คลายลงไปตามอารมณ์ที่เปิดเผยของเธอ
ถังย่าพูดต่อ “ใช่ค่ะ ลู่เซิ่นไม่ให้เห็นหน้าเจ้าสาวเลย ปกป้องเธอเต็มที่”
จ้านเซินมองเธอพูดประโยคนี้จบ แล้วหันไปมองประสานสายตากับฉินซี สองคนพยักหน้ายิ้มแย้ม
อารมณ์ของพวกเธอสงบนิ่ง ราวกับกำลังคุยเรื่องกอสซิปในแมกกาซีนที่ห่างไกลจากตัวเอง งานแต่งงานที่ไม่สลักสำคัญอะไร ใบหน้าฉินซีไร้แววขมขื่น ฝืนใจ อาลัย แม้แต่จ้านเซิน ก็หาช่องโหว่ไม่เจอ
มีแต่ถังย่ากับฉินซีที่รู้ดี เจ้าสาวที่พวกเธอพูดถึงก็คือตัวฉินซีเอง ฉินซีย่อมไม่รู้สึกลำบากใจ
ระหว่างที่พูด ลูกน้องที่ช่วยเขาตรวจสอบกล้องวงจรปิดกลับมาแล้ว
แท็บถูกวางลงตรงหน้าจ้านเซิน ในมุมของถังย่ากับฉินซี มองไม่เห็นหน้าจอ แต่เมื่อดูจากท่าทีของจ้านเซิน ตอนนี้พวกเธอปลอดภัยแล้ว
จ้านเซินมองแท็บครู่หนึ่ง ก็หยิบขึ้นมา ทำท่าให้พวกนั้นออกไปได้ แล้วหันมามองถังย่ากับฉินซี
สัญชาตญาณบอกเขา เรื่องราวไม่ได้เรียบง่ายเช่นนี้ ยังมีบางอย่างผิดปกติ แต่ตอนนี้หลักฐานเท่าที่เขามี ชี้ให้เห็นว่า ฉินซีกับถังย่าไม่มีอะไรผิดปรกติ
คงจะเป็นเพราะเรื่องเกี่ยวกับฉินซี เขาจึงอ่อนไหวมาก
จ้านเซินได้แต่เก็บความสงสัยในใจลึกๆ ลุกขึ้นยืน
“ได้เวลา ต้องเตรียมเดินทางแล้ว”
ในใจฉินซีค่อยโล่งอก
เธอรู้ดี นิสัยของจ้านเซิน ไม่มีทางเชื่อคำพูดของพวกเธอสองคนง่ายๆ
อย่างน้อยตอนนี้ พวกเธอก็ปลอดภัยชั่วคราวแล้ว
สายตาของเธอทำเป็นไม่ตั้งใจมองถังย่า พบว่าสายตาอีกฝ่ายก็มีความยินดีเหมือนรอดตายเช่นกัน
ทั้งสามคนเดินออกไปพร้อมกัน
คนที่มารายงานตอนบ่ายรู้งานแล้ว ครั้งนี้ไม่กล้าพรวดพราดเข้ามา เพียงแต่ยืนรอที่ประตู เห็นพวกเขาออกมา ค่อยรีบเข้าไปรายงาน “งานเลี้ยงตอนค่ำบ้านตระกูลลู่เริ่มเข้างานกันแล้วครับ”
ฉินซีรู้ดีวันนี้จัดงานฉลองงานแต่งทั้งวัน ตอนเที่ยงมีพิธี แล้วต่อด้วยงานเลี้ยงกลางวัน คนที่มาร่วมงานคือญาติสนิทมิตรสหายและหุ้นส่วนที่ใกล้ชิดของบริษัทลู่ซื่อ หลังมื้อกลางวัน จะพักผ่อนก่อน แล้วค่อยเริ่มงานเลี้ยงตอนค่ำ
คนที่ได้รับเชิญมางานช่วงค่ำมากกว่าช่วงกลางวัน ดูเหมือนจะเป็นหุ้นส่วนทุกคนของบริษัทลู่ซื่อ เริ่มเข้างานเวลานี้ ถือเป็นเรื่องปกติ
เริ่มงานเลี้ยงช่วงค่ำ หมายความว่า พวกเขากำลังจะเตรียมพร้อมแล้ว
จ้านเซินนั่งเครื่องบินทั้งวัน แทบไม่ได้พักผ่อน หลังฟังรายงานจากคนนั้นแล้ว เหมือนไม่รู้สึกตัว ยกมือขึ้นมานวดขมับ
ความสนใจของฉินซีอยู่กับงาน ไม่สังเกตเห็นท่าทางของจ้านเซิน แต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงถังย่าพูด
“ที่นี่เตรียมห้องนอนไว้มั้ยคะ”
ฉินซีหันไปมองถังย่าอย่างสงสัย ฝ่ายหลังมองผู้รับผิดชอบ
ผู้รับผิดชอบรีบตอบ “มีครับ อยู่ข้างบน”
จากนั้น ฉินซีก็เห็นถังย่าเดินเข้าไปข้างจ้านเซิน กระซิบกับเขา “ยังพอมีเวลา เรื่องนี้คุณไม่ต้องเฝ้าก็ได้ รอเสร็จแล้วฉันจะให้ฉินซีขึ้นไปหาคุณ คุณไปพักผ่อนเถอะค่ะ”
ฉินซีอึ้งไปครู่หนึ่ง