Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 1326
บทที่ 1326 นัดเดท
หลังจากคนของบริษัทลู่ซื่อกลับไปแล้ว พนักงานของสาขาเมืองหนานก็สังเกตเห็นข้อสงสัยอย่างหนึ่ง
“ประธานฉินล่ะ”
สำหรับคนพวกนี้ องค์กรเป็นเพียงบริษัทธรรมดา เมื่อก่อนเรียก เหล่าหวางว่าประธานหวางจนเคยชิน เพิ่งเปลี่ยนเป็นฉินซีมาทำงานแทน แม้เธออายุจะน้อยกว่า แต่จะให้เปลี่ยนคำเรียกขานในชั่วเวลาอันสั้นก็ยาก ฉินซีจึงปล่อยพวกเขาเรียกอย่างนี้
แม้ว่าเวลาเข้างานของฉินซีจะอิสระ ถ้ามีงานต้องทำอาจไม่ออกมา แต่หลายวันนี้ฉินซีออกมาตรงเวลา พวกเขาจึงไม่เคยชินที่ฉินซีหายตัวไปในเวลานี้
ขณะที่กำลังคุยกัน มีคนมองไปรอบๆ หลายคนก็พบว่าฉินซีกำลังลงมาจากชั้นบน
“ประธานฉิน…” ฉินซีเดินเข้ามาหาพวกเขา หลายคนพยักหน้าแสดงความเคารพ แต่พนักงานหญิงหลายคนที่อยู่ใกล้ๆ สังเกตเห็น——วันนี้ฉินซีแต่งหน้าแล้ว
ถ้าเป็นใบหน้าของคนอื่น การแต่งหน้าอย่างนี้ไม่ถือว่าแต่งหน้าหนา
ปกติแล้วฉินซีแต่งหน้าบางๆ แต่เธอรองพื้นดีมาก การแต่งหน้าปกติแทบไม่เห็นร่องรอยเครื่องสำอาง วันนี้ดูออกว่าเธอแต่งหน้า สำหรับฉินซีแล้ว ถือว่าแต่งหน้าค่อนข้างหนาแล้ว
หน้าตาของฉินซีเดิมก็มีเสน่ห์ดึงดูดอยู่แล้ว เมื่อแต่งหน้าอย่างนี้ ยิ่งดูงามมาก งามเหมือนดอกไม้แย้มบาน ดอกไม้ที่สวยแต่เคลือบพิษ
ลองคิดดู เมื่อครู่ประธานของบริษัทลู่ซื่อขึ้นไปชั้นบน ทำไมวันนี้ฉินซีอยู่ๆ ถึงแต่งหน้าก็ไม่ยากที่จะเข้าใจ
“ประธานฉินวันนี้สวยจังค่ะ!” พนักงานที่ปากไวหลายคนอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
ฉินซียิ้มบางๆ ให้พวกเธอ ไม่ได้พูดอะไร
พวกพนักงานคิดไม่ผิด ฉินซีแต่งหน้าเพราะลู่เซิ่นจริงๆ แต่ไม่ใช่สาเหตุอย่างที่พวกเขาคิด
แต่เป็นเพราะว่า… ลู่เซิ่นทิ้งรอยจูบไว้ที่ลำคอของเธอ
หลังจากลู่เซิ่นกลับไปแล้ว ฉินซีลุกไปอาบน้ำ ถึงได้เห็นรอยนั้น
รอยจูบใหม่มาก และตำแหน่งก็ชัดเจนมาก ใช้ปกคอเสื้อก็ไม่แน่ว่าจะบังได้มิด ถ้าถูกคนเห็น ซักถามขึ้นมาล่ะก็ ยากที่จะไม่เชื่อมโยงกับเรื่องที่วันนี้ลู่เซิ่นอยู่ที่นี่ตั้งนานสองนาน
ฉินซีก็เลยจำเป็น หาครีมปิดบังริ้วรอยมาใช้ ปกปิดร่องรอยอย่างละเอียด
จะแต่งแค่ที่เดียวก็ชัดเจนเกินไป เธอจึงต้องแต่งหน้าเต็มที่ก่อนลงมาข้างล่าง
ดีที่หลายวันมานี้ สมาชิกองค์กรหลายคนรวมทั้งเหล่าหวางมีงานที่ต้องทำให้เสร็จ ยังไม่กลับมาสาขาช่วงนี้
ไม่อย่างนั้นฉินซีก็ไม่กล้ารับประกัน การเสแสร้งของตัวเองเพียงเท่านี้จะตบตาคนที่สายตาแหลมคมพวกนั้นได้ไหม
หลังจากหลอกพนักงานพวกนี้แล้ว ฉินซีก็จัดการงานในห้องทำงานทั้งวัน ประสิทธิภาพไม่มากนัก กระทั่งรีบร้อนด้วยซ้ำไป
…เพราะตอนเช้าก่อนที่ลู่เซิ่นจะกลับไป
“ฉินซี คุณจะไปเดทกับผมคืนนี้ได้มั้ย” ลู่เซิ่นมือกำลังผูกเน็คไท แต่สายตาจ้องมองฉินซีที่ยังนอนบนเตียง
แน่นอนว่าฉินซีไม่อาจปฏิเสธได้ เพียงแต่กังวลใจเท่านั้น “พวกเราทำอย่างนี้ต่อไป…”
“ไม่ถูกจับได้หรอก” ลู่เซิ่นเข้าใจความกังวลของเธอ พูดแทรกขึ้นก่อน
ฉินซีไม่พูดอะไร เพียงแต่มองเขาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
ลู่เซิ่นเดินไปหน้าเตียงของเธอ “ตอนเย็นหกโมงครึ่ง ผมมารับคุณนะครับ”
ความรักลึกซึ้งที่ฉายในดวงตาของเขาไม่จืดจาง ฉินซีเหมือนถูกสะกด ลืมความกังวลว่าจ้านเซินจะรู้เรื่องตัวเองกับลู่เซิ่น อดไม่ได้ที่จะพยักหน้า
ในที่สุดใบหน้าของลู่เซิ่นก็มีรอยยิ้มออกมา เข้ามาใกล้จุมพิตหน้าผากของฉินซีแผ่วเบา แล้วขยับตัว ยืนขึ้น
“เย็นนี้หกโมงครึ่ง ผมรอคุณที่ข้างหน้าตึกนะครับ” เขาย้ำอีกรอบ เมื่อเห็นฉินซีพยักหน้า ก็ค่อยยิ้มออกมา
เวลาหกโมงครึ่ง ที่หน้าประตู
ในหัวของฉินซีในที่สุดก็มีประโยคหนึ่งดังขึ้น ในใจช่วยไม่ได้ที่จะผิดหวัง
…ทำไมเธอถึงได้หลงไปชั่วขณะ ตอบตกลงลู่เซิ่นนะ
ตอนนี้คนพวกนั้นไม่อยู่เมืองหนาน โอกาสที่พวกเธอสองคนจะถูกพวกนั้นจับได้ก็น้อยลงไปมาก แต่นี่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่ลู่เซิ่นจะขับรถมาจอดหน้าตึกอย่างเปิดเผยหรือเปล่า
แล้วยังไม่ต้องพูดถึงกล้องวงจรปิดรอบๆ ที่จะต้องจับภาพทั้งหมดได้แน่ แค่คิดถึงตอนหกโมงครึ่ง ยังมีพนักงานหลายคนยังไม่เลิกงาน ถ้าพวกเขาเจอเข้าล่ะก็ พวกเขาอาจจะไม่คิดมากก็จริง แต่แค่พูดไปนิดหน่อย กอสซิปนี้แพร่ไปภายใน ถ้าคนขององค์กรได้ยินเข้าล่ะก็…
ฉินซีส่ายศีรษะ จะปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นไม่ได้
แต่เธอรู้ดี ถ้าเธอห้ามไม่ให้ลู่เซิ่นมาหา เขาต้องไม่เห็นด้วยแน่
ฉินซีก็พอจะเข้าใจ ลู่เซิ่นไม่พอใจสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ถึงขั้นขุ่นเคืองใจ จึงไม่มีทางยอมทิ้งโอกาสที่จะยั่วโมโหจ้านเซิน
แม้ว่าจะเป็นการยั่วโมโหฝ่ายเดียวก็เถอะ แต่ให้เขาได้ระบายอารมณ์บ้าง ฉินซีไม่รู้จะห้ามอย่างไรดี
ในเมื่อ…ตอนนี้ที่พวกเธอสองคนกลายเป็นอย่างนี้ สาเหตุส่วนใหญ่ก็มาจากตัวเธอเอง
ถ้าเธอไม่ใช่คนขององค์กร…ก็คงจะไม่ต้องกลุ้มใจอย่างนี้
เมื่อคิดถึงตัวเองก็ย้อนคิดไปถึงปัญหาเดิม ฉินซีส่ายศีรษะ ทำตามอย่างที่คิดไว้ เปิดภาพกล้องวงจรปิดหน้าประตูสาขาอย่างกังวล ช่วยลู่เซิ่นหาจุดจอดรถที่ปลอดภัยหน่อย
……
เวลาที่ฉินซีรอคอยและทรมานมาทั้งวัน ในที่สุดก็ถึงหกโมงครึ่ง
คงจะเป็นสวรรค์ที่ทนดูต่อไปไม่ไหวยื่นมือช่วยเธอ วันนี้พนักงานแทบทุกคนเลิกงานหกโมงตรง ที่เหลือไม่กี่คนก็กลับก่อนหกโมงครึ่ง
ฉินซีเดินออกมานอกห้องทำงานของตัวเอง เห็นห้องโถงว่างเปล่า ในใจค่อยรู้สึกปลอดภัยหน่อย
เธอส่งตำแหน่งที่คาดว่าจะบังใบหน้าของลู่เซิ่นได้มากที่สุดให้เขาแล้ว ลู่เซิ่นน่าจะรู้…ควรจะจอดรถที่ไหน
เธอสูดหายใจลึก แล้วเดินออกมานอกตึก
แม้ว่าในใจจะกังวล แต่เธอเองก็ต้องยอมรับ เวลานี้ ในใจของเธอเต็มไปด้วยความยินดี จนแทบจะเบียดความกังวลเมื่อเช้าไปเสียหมด
นี่…ดูเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่เธอกับลู่เซิ่น “นัดเดท” อย่างเป็นทางการ
พอถึงหกโมงเย็นฉินซีขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และยังแต่งหน้าใหม่อย่างจริงจัง
ชุดผ้าไหมสายเดี่ยวกระโปรงยาว การตัดเย็บประณีต ขับเน้นรูปร่างได้สัดส่วนของเธอ สวมทับด้วยเสื้อตัวนอก ปิดช่วงไหล่และหลังที่เปิดเผยมากไปหน่อย เพิ่มความเซ็กซี่ที่ไม่เปิดเผยจนเกินไป การแต่งหน้าส่วนใหญ่ของเธอยังคงไม่หนามาก เพียงแต่ทาลิปสติกสีแดงที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยๆ ทำให้ออร่าทั้งตัวสวยเหมือนภาพวาด
รถของลู่เซิ่นจอดที่จุดที่เธอบอกเรียบร้อยแล้ว
ฉินซียิ้มบางๆ เดินเข้าไปหา
ลู่เซิ่นเมื่อเห็นเธอเดินมาหา ก็ลงจากรถ ยืนที่ข้างประตูรถรอเธอเดินมา
เขาเงยหน้ามองฉินซี ดูเหมือนโลกทั้งใบขาดสีสัน มีเพียงแต่กระโปรงพลิ้วไหวเบื้องหน้า