Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 1345
บทที่ 1345 แผนการใหม่
หัวใจของฉินซีราวกับถูกกดลงไปในน้ำ จมดิ่งลึกลงไป
ในเวลานี้ จ้านเซินมาทำอะไร?
เขามีแผนการใหม่อะไรอีก?
ฉินซีขมวดคิ้วแน่น
เหมือนว่า…..ตอนเช้าเขาก็ไม่ได้พูดให้ชัดเจน ว่าจะอนุญาตให้ตนพิจารณานานแค่ไหน
คิดถึงตรงนี้ แผ่นหลังของฉินซีก็มีเหงื่อไหลออกมาช้าๆ
ถ้าเกิดว่าตอนนี้เขารอไม่ไหว…..
เล็บของฉินซีจิกเข้าไปในฝ่ามือโดยไม่รู้ตัว
ตำแหน่งที่เธอยืนอยู่บังเอิญมาก มองเห็นจุดที่จ้านเซินจอดรถในสวนได้พอดี
จ้านเซินลงจากรถ อีกฝั่งหนึ่ง…..ก็มีอีกคนลงมาจากรถ
คิ้วของฉินซีขมวดแน่นขึ้น จ้องไปที่คนนั้นที่เพิ่มมาอีกคนอย่างใกล้ชิด
สายตาของเธอดีมาก หลังผ่านการฝึกฝนพิเศษขององค์กรมาแล้วยิ่งสังเกตรายละเอียดของคนที่มาได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
มองขึ้นลงไปหลายวินาที ฉินซีก็เกือบจะแน่ใจแล้ว ว่าเธอไม่เคยเจอคนคนนี้มาก่อน
ในเวลาแบบนี้จ้านเซินพาคนแปลกหน้ามา คิดจะทำอะไร?
ฉินซีเริ่มประหม่า กล้ามเนื้อทั่วร่างเกร็งตึง ราวกับธนูที่ถูกดึงออกมา
แต่จ้านเซินที่อยู่ในสวนกลับไม่รู้ว่าตนกำลังถูกฉินซีสังเกตการณ์ เพียงแค่เดินนำคนแปลกหน้าคนนั้นตรงเข้ามาในบ้าน
เสียงประตูดังขึ้นเบาๆ ฉินซีหลับตาลง
—-เดินเข้ามากันแล้ว
ความคิดที่แยกไม่ออกในสมองของเธอ จินตนาการถึงความเป็นไปได้ทุกรูปแบบ กระทั่งคิดว่าถ้าหากจ้านเซินจะลงมือจริงๆ เธอจะหนีไปทางหน้าต่าง
เสียงฝีเท้าใกล้ประตูห้องของฉินซีเข้ามาเรื่อยๆแล้ว ประตูห้องถูกเคาะ
เป็นเสียงของจ้านเซิน
“ฉินซี ออกมาหน่อย”
เสียงของจ้านเซินฟังไม่ออกว่าอยู่ในอารมณ์ไหน แต่ฉินซีเพียงแค่จ้องไปที่ประตูอย่างระมัดระวัง ไม่ได้พูดอะไร
จ้านเซินกลับมีความอดทนอย่างคาดไม่ถึง เคาะประตูขึ้นอีกครั้ง “ฉินซี ออกมาเถอะ ฉันไม่อยากเข้าไป”
น้ำเสียงของเขาสงบนิ่งมาก แต่ฉินซีฟังออกถึงความหมายลึกๆที่อยู่ในนั้น
…..จ้านเซินสามารถเข้ามาได้
เธอลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไง
กุญแจห้องทั้งหมดในสาขา เป็นธรรมดาที่เขาจะมีหมด รวมถึงห้องของตนด้วยเป็นธรรมดา
ต่อให้ตนหลบซ่อนอยู่ในนี้ เขาก็เข้ามาได้ ผลลัพธ์ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
—-กระทั่งเพราะว่าปล่อยให้จ้านเซินเปลืองเวลากับเรื่องนี้ ก็อาจทำให้อารมณ์ของเขาขุ่นเคือง
ฉินซีรู้ แบบนี้มีแต่จะทำให้เรื่องเป็นไปในทางที่แย่ลง
ฉินซีหายใจเข้าลึก ถือโทรศัพท์มือถือไว้ด้านหลัง วางนิ้วไว้เหนือปุ่มกดหมายเลขฉุกเฉิน เข้าใกล้ประตูช้าๆ
ถ้าหากจู่ๆเกิดอันตรายอะไรขึ้น…..เธอจะโทรไปหาลู่เซิ่นทันที
ในเวลานี้ ไม่สนใจแล้วว่าเรื่องอะไรเปิดเผยได้เปิดเผยไม่ได้
ไม่อาจเป็นเหมือนครั้งที่แล้วได้ ที่จากไปโดยไม่ร้องเรียก
เธอเข้าใกล้ประตูห้องช้าๆ ก่อนที่จ้านเซินจะเคาะประตูขึ้นอีกครั้ง ก็เปิดประตูออก
บนใบหน้าของจ้านเซินมีสีหน้าปกติ ดูไม่ออกว่าท้ายที่สุดแล้วทนไม่ไหวหรือไม่ เพียงแค่ส่งสายตามองไปที่ฉินซี เชยคางขึ้น “ออกมาเถอะ”
แววตาของเขากวาดไปที่มือของฉินซีที่อยู่ด้านหลัง ราวกับว่ามองเห็นถึงความตั้งใจของเธอ
แต่ฉินซีไม่ได้วางมือลง และไม่ได้เดินตามจ้านเซินออกมา แต่มือไขว้หลัง ยืนอยู่ที่เดิมแบบนี้แล้วมองไปที่จ้านเซิน “ไปที่ไหน?”
“ฉันเชิญแขกมาคนนึง เธอต้องออกมาต้อนรับหน่อย” จ้านเซินพูดตามเหตุตามผล
แต่คิ้วของฉินซีกลับขมวดขึ้นมาอีกครั้ง “แขก? แขกอะไร?”
จ้านเซินกลับไม่ยอมพูดต่อ สีหน้าจมดิ่งลงเล็กน้อย “อย่าปล่อยให้แขกรออยู่คนเดียว หรือว่าเธอต้องให้ผมลากไป?”
พูดแล้ว เขาก็จะเข้าไปหา
ทุกเซลล์ในร่างกายของฉินซีต่างส่งเสียงร้องปฏิเสธ เธอก้าวถอยหลังอย่างไร้ร่องรอย หลีกเลี่ยงมือที่ยื่นออกมาของจ้านเซิน พูดอย่างเคร่งขรึม “ฉันจะไปเอง”
จ้านเซินก็ไม่ได้บังคับเธอต่อ ผายมือส่งสัญญาณให้เธอเดินไปข้างหน้า
ฉินซีดูไม่ออกว่าเขาจะทำอะไรกันแน่ แต่ก็ได้เพียงเดินหน้าต่อไป
จ้านเซินเดินตามหลังฉินซี ระยะห่างไม่ใกล้ไม่ไกล
ทั้งสองเดินตามกันมาแบบนี้จนมาถึงห้องประชุมชั้นล่าง
คนคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟาทางด้านหนึ่งของห้องประชุม ได้ยินเสียงฝีเท้า ถึงหันหน้ามา
ฉินซีสังเกตคนแปลกหน้าตรงหน้าอย่างละเอียด
แม้ว่าจะเคยเห็นจากข้างบนแล้ว แต่เนื่องจากแสงไฟ ทำให้เธอไม่ได้เห็นอย่างชัดเจน
แต่ในตอนนี้ เปิดไฟภายในห้องประชุม ทั้งหมดของคนตรงหน้าไม่มีอะไรปิดบังแล้ว
ผู้ชายอายุประมาณสามสิบปี สูงประมาณ1.75เมตร รูปร่างผอมบาง ศีรษะแบนเล็ก ใบหน้าเฉยเมยอย่างมาก มองไม่เห็นจุดความทรงจำใดๆ แต่ฉินซีแน่ใจมาก ว่าเธอไม่เคยเจอคนนี้ที่นี่แน่นอน
…..หรือว่า ไม่ใช่คนขององค์กร?
จิตใจของฉินซีสงสัย การก้าวเดินก็หยุดลง
แต่จ้านเซินที่ยืนอยู่ด้านหลังเธอกลับเอื้อมมือผลักเธอเบาๆ ส่งสัญญาณให้เธอเดินไปข้างหน้า
ตอนนี้ฉินซีตื่นตัวอย่างมากต่อการสัมผัสทุกอย่างของจ้านเซิน มือของจ้านเซินจะสัมผัสเธอ เธอก็ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวทันที
จ้านเซินไม่แสดงท่าทีใดๆต่อการตอบสนองที่เรียกได้ว่าสุดโต่งของเธอ แต่ตัวเองก็เดินเข้าไปหนึ่งก้าว แล้วหันหลังไปปิดประตูห้องประชุม
เส้นประสาทในตัวของฉินซีประหม่าขึ้นมาตามเสียงปิดประตูห้องประชุม
—-ทำไมต้องปิดประตู?
พวกเขาจะทำอะไรกันแน่?
ฉินซีรู้ว่าตนไม่ได้รับคำตอบ ได้เพียงแต่ยกการเตือนทั้งหมด ยืนอยู่ในมุมที่เหมาะแก่การหลบหนีที่สุด
แต่จ้านเซินไม่ได้สนใจเธอ แต่ตนเองเดินไปถึงข้างกายของชายคนนั้น หันหน้ามองไปที่ฉินซีแล้วพูดแนะนำ “ขอแนะนำหน่อย คนนี้คือคุณหมอจากโรงพยาบาลหนานเฉิง โจวซิง”
ผู้ชายที่ชื่อว่าโจวซิงพยักหน้าให้ฉินซี ยิ้มให้บางๆ
เขายิ้มอย่างอ่อนโยนมาก ทั่วทั้งตัวแสดงถึงรสนิยมที่แข็งแกร่งของนักวิชาการ ฉินซีมองไม่เห็นการโจมตีใดๆจากตัวเขา ก็ยิ่งคิดไม่ออก ว่าทำไมเขาถึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่
ดังนั้นฉินซีจึงยืนอยู่ที่เดิม พยักหน้าให้เขาอย่างระมัดระวังอย่างมาก ไม่ได้สนใจมือที่เขายื่นออกมา
เพียงแค่หันหน้าไปทางโจวซิงแล้วพูดแนะนำ “นี่คือผู้รับผิดชอบสาขาที่เมืองหนานของเรา ฉินซี”
ความคิดบางอย่างผ่านจากใบหน้าของโจวซิง ฉินซีไม่พลาดที่จะเห็น
……ดูท่าเขาจะรู้จักตน
แต่ว่า แล้วทำไมเขาถึงรู้จักตนได้?
ฉินซีไม่เข้าใจ
จ้านเซินให้โจวซินั่งลงบนโซฟาอีกครั้ง เหมือนกับรู้ว่าฉินซีจะไม่มานั่งลงแต่โดยดี ไม่ได้ร้องทักเธอ แต่หันไปที่โจวซิงแล้วพูดขึ้น “ระหว่างทางผมก็ได้บอกคุณไปแล้ว ก่อนหน้านี้ฉินซีจิตใจไม่มั่นคง เคยได้รับการตรวจร่างกายในโรงพยาบาลและสำนักงานใหญ่ของประเทศF แต่ตอนนี้ไม่ได้ตรวจซ้ำมานานแล้ว ผมอยากรู้ว่าอาการของเธอตอนนี้เป็นยังไง”
ร่างของฉินซีแข็งทื่อ
เธอเริ่มจะเข้าใจเหตุผลการมาของโจวซิงแล้ว
เป็นจิตแพทย์อีกคนหนึ่ง!
จ้านเซินดูจะชอบที่จะจำแนกว่าการต่อต้านเขาของเธอเป็นความไม่มั่นคงทางจิตใจของฉินซี
ตอนที่เธอจะจากไปก็ใช่ ตอนที่มัดเธอกลับมาก็ใช่ ตอนนี้ก็ยังเป็นแบบนี้!
ฉินซีกำหมัดทั้งคู่ขึ้นช้าๆ
—-ถ้าจ้านเซินกล้าที่จะบังคับตนให้ตรวจสอบ งั้นเธอไม่ให้ความร่วมมือแน่นอน
การดูถูกแบบนี้ เธอจะไม่ทนรับมันง่ายๆเด็ดขาด