Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 139
บทที่ 139 มันคุ้มค่าที่จะแลกกับความปลอดภัยของคุณ
หลังเลิกงาน เวินจิ้งกลับไปที่บ้านของเธอ ห้องนอนได้รับการตกแต่งใหม่ และเจี่ยนอีย้ายออกไปแล้ว
“ลูกรัก เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงเหรอ” เจี่ยนอีส่งแท็บเล็ตให้เธอ ข่าวที่ปรากฏอยู่คือข่าวมู่วี่สิงลาออก
เวินจิ้งพยักหน้า
“เกิดอะไรขึ้น คุณหมอมู่ลาออกแล้ว เขาไปทำงานที่โรงพยาบาลอื่นเหรอ” เจี่ยนอีไม่ได้สนใจข่าวนี้เป็นทุนเดิม เพียงแต่ว่ามันเกี่ยวกับมู่วี่สิง เธอจึงสนใจมากเป็นพิเศษ
“เขาเปลี่ยนสายอาชีพค่ะ”
“เปลี่ยนสายอาชีพเหรอ การงานดีออกขนาดนี้ เขาจะเปลี่ยนสายอาชีพทำไมล่ะ”
“แม่คะ เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับตระกูลมู่ หนูเองก็ไม่ค่อยรู้เท่าไรหรอกค่ะ แต่คุณหมอมู่เขามีแผนการของตัวเองแล้ว”
“อย่างนั้นเหรอ แม่เป็นห่วงก็เลยถามดู แม่เป็นห่วงเด็กคนนั้นมากทีเดียวนะ” เจี่ยนอีถอนหายใจ
“แม่คะ นี่มันอะไรกัน” เมื่อได้กลิ่นลอยออกมาจากห้องครัว เวินจิ้งจึงเดินเข้าไป
“แม่มัวแต่ดูข่าวคุณหมอมู่จนลืมปิดเตา!” เจี่ยนอีรีบเข้าไปในห้องครัวอย่างรวดเร็ว “นี่เป็นยาบำรุงตุ๋นไว้ให้ลูก พวกลูกแต่งงานกันมาครึ่งปีแล้ว ลูกยังไม่เห็นท้องสักที แม่จะให้ยาชูกำลังกับลูกนะ”
เวินจิ้งเงียบ “……”
สีหน้าของเธอดูไม่ปกติเท่าไร “หนูกับคุณหมอมู่ไม่ได้วางแผนจะมีลูกกันตอนนี้ค่ะ”
“ปีหน้าลูกก็ 26 แล้ว ถ้าหากปีนี้ท้องได้ ลูกก็จะคลอดลูกตอนอายุได้ 27 ปี ลูกรัก ช้าไปกว่านี้ไม่ได้แล้วล่ะ” เจี่ยนอีพูดอย่างจริงใจและเต็มไปด้วยความหวังดี
“แม่คะ อย่ากังวลไปเลยค่ะ ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติดีกว่าค่ะ” เวินจิ้งไม่เคยคิดถึงเรื่องมีลูกมาก่อนเลย
ถึงแม้ว่าเธอกับมู่วี่สิงจะมีเพศสัมพันธ์กัน แต่พวกเธอต่างก็ป้องกันเป็นอย่างดีในทุกครั้ง ถ้าหากว่าพวกเขาทั้งสองคนมีลูกขึ้นมา คงจะกลายเป็นเรื่องลำบากแน่นอน…..
“ถ้าหากว่าร่างกายมีปัญหา ลูกต้องบอกแม่ทันทีนะ แม่จะพาลูกไปหาแพทย์แผนจีน” เจี่ยนอียังคงย้ำเรื่องนั้นซ้ำไปมาเหมือนเดิม
เวินจิ้งรีบยกมือขึ้นปิดหูและเดินเข้าห้องครัวไป แต่ทว่าเวินจิ้งได้แต่ทานอาหารที่ตุ๋นเสร็จแล้วนั้นให้หมดอย่างเชื่อฟัง ภายใต้สายตาที่ยังคงจับจ้องเธอของเจี่ยนอี
“แม่คะ ฉืออี้เหิงถูกลงโทษหรือยังคะ” เมื่อคิดถึงเรื่องที่ฉืออี้เหิงถูกจับกุมขึ้นมาได้ เวินจิ้งยังคงไม่รู้ถึงผลลัพธ์ที่ตามมา เพราะในตอนนั้นเธอยังคงอยู่ที่ประเทศ C
“เขาถูกตัดสินโทษแค่สิบวัน จากนั้นเขาก็จ่ายเงินค่าเสียหาย เรื่องมันก็คงจบเพียงเท่านี้แหละ”
“ขอแค่เขาไม่มาสร้างความเดือดร้อนให้เราอีกก็พอแล้วล่ะ” เวินจิ้งพูดด้วยความโกรธ
เมื่อคิดถึงเรื่องที่มูวี่สิงลงทุนกับบริษัทของเขาไปเรียบร้อย เกรงว่าฉืออี้เหิงจะสามารถกลับมาได้อีกครั้ง
อย่างที่คาดไว้ ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ หลังจากที่ฉืออี้เหิงออกมาจากคุก บริษัทแห่งใหม่ก็จัดงานแถลงข่าวการเปิดตัวบริษัทในทันที เขาเคยเป็นถึงอดีตประธานบริษัทของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป และเคยตกอยู่ในวิกฤติที่เกิดขึ้นจากความคิดเห็นของสาธารณชนหลายครั้ง ภาพลักษณ์ของเขานั้นได้เสียหายไปมากแล้วทีเดียว เพียงแต่ว่างานแถลงข่าวในครั้งนี้กลับทุ่มทุนสร้างและมีอิทธิพลเป็นอย่างมาก มีข่าวลือว่าฉืออี้เหิงจะทำการลงทุนครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง
เวินจิ้งเห็นข่าวของเขาปรากฏทางโทรทัศน์ เธอถามชายหนุ่มที่อยู่ข้างกายโดยไม่รู้ตัว “คุณก็เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นไม่ใช่เหรอ คุณไม่ไปงานแถลงข่าวนั้นเหรอคะ”
มู่วี่สิงเงยหน้า สีหน้าไร้ความรู้สึก “ไม่ว่าง”
“มู่วี่สิง ไม่ว่ายังไงมันก็ตั้ง 50 ล้านหยวนเลยนะคะ คุณสามารถนำเงินนั้นคืนมาได้ไหม” เวินจิ้งถามเขา
เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะว่าเธอ เขาจึงลงทุนเช่นนั้นไป เธอจึงรู้สึกว่าเธอเป็นหนี้เขาครั้งใหญ่
เมื่อได้เห็นฉืออี้เหิงทะนงตัวมากขนาดนี้ เวินจิ้งก็รู้สึกเจ็บปวดข้างในหัวใจเสียเหลือเกิน
“50 ล้านหยวนเพื่อแลกกับความปลอดภัยของคุณ มันคุ้มค่าแล้วล่ะ” มู่วี่สิงหันศีรษะกลับมา แววตาของเขาแผดเผา
หัวใจของเวินจิ้งเต้นอย่างรัวเร็วด้วยความวุ่นวายไปครู่หนึ่ง และไม่กล้ามองมู่วี่สิงอีกต่อไป
ในเวลานั้น ผู้ดูแลบ้านได้ส่งจดหมายเชิญฉบับหนึ่งมาให้ คิดไม่ถึงว่ามันจะเป็นงานเลี้ยงอาหารค่ำที่จัดขึ้นโดยบริษัทเหิงอวี่กรุ๊ปซึ่งเป็นบริษัทใหม่ของฉืออี้เหิง จดหมายเชิญฉบับนั้นส่งมาให้คู่สามีภรรยาอย่างมู่วี่สิงและเวินจิ้ง
เวินจิ้งรีบยื่นไปให้มู่วี่สิงทันที “ฉันไม่ไป”
ไม่อย่างนั้น เธอกลัวว่าตัวเองจะทนไม่ไหวและเข้าไปพังงานครั้งนี้เข้า
ทว่าริมฝีปากอันเรียวบางของมู่วี่สิงกลับยิ้มขึ้นมา “ถ้าคุณไม่ไป คุณอาจจะพลาดฉากเด็ดก็ได้นะ”