Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 1395
บทที่1395 ครอบครอง
จ้านเซินเคยคิดว่าเขาไม่มีหัวใจ แต่ในขณะที่ฉินซีพูดเรื่องออกไปจากที่นี่ มันเหมือนท้องฟ้าพลันมืดลง
เขาได้ยินเสียงหัวใจที่แตกสลายอย่างชัดเจน แสงในดวงตาหรี่ลง
ฝ่ามือที่วางอยู่ข้างลำตัวนั้นกำแน่น เส้นเลือดแขนที่ซ่อนอยู่ในเสื้อ เหมือนจะระเบิด
ความโกรธของจ้านเซินเหมือนจะระเบิดออกมา
ฉินซีกำลังสบกับดวงตาที่ล้ำลึกเหมือนหลุมดำของเขา ทันใดก็มีความกลัวบางอย่างเกิดขึ้นในใจ
เธอไม่เคยเห็นจ้านเซินเป็นแบบนี้ ราวกับปีศาจที่โหดเหี้ยม
ฉินซีขยับออกห่างจากจ้านเซินอย่างไม่รู้ตัว เธอไม่อยากอยู่ใกล้เขา
แต่ เธอไม่ทันคาดคิด ว่าการกระทำที่เธอทำโดยไม่รู้ตัว จะทำให้ใจของจ้านเซินโกรธจนถึงขีดสุด
ทันใดจ้านเซินก็โน้มตัวลงไปข้างหน้า ยื่นมือใหญ่ออกไปจับคางของเธอ เขากัดฟันและพูดว่า “เธอเกลียดฉันมากขนาดนี้เลยหรือฉินซี อยากออกไปจากที่นี่ใจจะขาดแล้วหรือไง?”
เขาคิดว่าตัวเองแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยทำตัวไม่ดีกับฉินซี เขาแม้กระทั่งปฏิบัติต่อเธอดีกว่าคนอื่น
จ้านเซินถามด้วยความเสียใจ “ทำไมเธอถึงทรยศฉัน!”
ดวงตาสีเข้มลุกโชนด้วยไฟโกรธ กลิ่นอายสังหารฟุ้งไปทั่วร่างกายของเขา
ตาดำของฉินซีหดตัว เผยให้เห็นความกลัวข้างใน
เธอไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกภายในใจอย่างไรดี แต่ตอนนี้เธอกลัวจริงๆแล้ว
ฉินซีต้องการหนีไปจากการควบคุมของจ้านเซิน แต่เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจ้านเซิน ได้แต่ถูกเขาคุมขัง
เธอขบริมฝีปาก ฉินซีสูดหายใจเข้าลึก บังคับให้ตัวเองใจเย็น “นายใจเย็นก่อนจ้านเซิน ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น… …”
เธอต้องการอธิบายกับจ้านเซิน
ฉินซีไม่ได้เกลียดจ้านเซิน เธอแค่เกลียดองค์กรที่โหดเหี้ยม แค่เกลียดบรรยากาศและระบบของมัน
แต่ จ้านเซินกลับไม่ได้ฟังมันสักคำ
“พอ!”
จ้านเซินขัดคำพูดของเธออย่างเย็นชา สีหน้ามืดมน
เขาค่อยๆออกแรงมือที่ใช้จับคางของฉินซี กระทั่งข้อนิ้วเป็นสีขาว “ฉันไม่อยากฟังคำอธิบายของเธอ ครั้งนี้เธอจะใช้ข้ออ้างอะไรมาหลอกฉันอีก”
จ้านเซินกล่าวด้วยความเจ็บปวดใจ เขารู้สึกว่าเขาให้อิสระแก่ฉินซีมากพอ แต่ฉินซีกลับต้องการที่จะหนีไป เธอไม่เห็นใจความรู้สึกเหนื่อยกายและใจของตัวเองสักนิด
“โอ๊ย……”
แรงจากมือของจ้านเซินหนัก บวกกับแรงอารมณ์ ทำให้เขาสูญเสียการควบคุมอารมณ์ตัวเอง ฉินซีเจ็บขนต้องร้องออกมา คางที่ถูกเขาบีบ ตอนนี้แดงเถือกไปหมด
ในเวลานี้ ร่างกายของจ้านเซินเต็มไปด้วยจิตสังหาร เขาค่อยๆถูกควบคุมโดยอารมณ์และสูญเสียความมีเหตุผล
“จ้านเซิน ฟังฉัน!”
ฉินซีฝืนทนต่อความเจ็บปวด พูดออกมาอย่างยากลำบาก
เธอรู้สึกว่าหากยังเป็นแบบนี้ต่อไป คางของเธอจะต้องแหลกสลายด้วยน้ำมือของจ้านเซินแน่
ดวงตาสีแดงเข้มมองไปที่เธอ มองไปที่เธอ ภายในหัวของเขามีแต่คำพูดของถังย่าสะท้อนไปมา “คุณเก็บเธอไว้ได้แค่ตัว แต่ไม่ใช่หัวใจ”
เขาถามขึ้นมาอย่างแสนเศร้า “ทำไม ทำไม… …”
เมื่อจ้านเซินกำลังจะสูญเสียการควบคุมและเอ่ยชื่อลู่เซิ่นขึ้นมา ถังย่าก็ปรากฏตัว
“จ้านเซิน”
ถังย่ามองไปยังภาพตรงหน้าที่ดูโหดร้าย รูม่านตาหดเล็กลงอารามตกใจ พลางตะโกนด้วยเสียงอันดัง
เธอไม่คิดว่าฉินซีจะมีอิทธิพลต่อจ้านเซินขนาดจะทำให้เขาเสียสติได้ขนาดนี้
“คุณกำลังทำอะไร!”
เสียงที่ดังขึ้น ทำให้จ้านเซินดึงสติของเขากลับมา
ก่อนที่เขาจะได้โต้ตอบอะไร ก็ถูกถังย่าลากตัวออกมา
“แค่ก แค่ก”
ฉินซีที่ได้อิสระไอออกมาอย่างแรง แก้มเธอย้อมด้วยสีแดงก่ำ
ถังย่าเห็นว่าตอนนี้คางของฉินซีช้ำเป็นสีเกือบม่วงแล้ว เห็นได้ชัดว่าเมื่อกี้จ้านเซินใช้แรงเยอะแค่ไหน
เธอมองไปที่จ้านเซินอย่างตำหนิ “คุณทำแบบนี้กับฉินซีได้ยังไง?”
ถึงอย่างไรพวกเขาก็มาจากองค์กรเดียวกัน ถังย่าอยากให้เราสามคนไม่หันหลังให้กัน
ฉากเมื่อกี้ ทำให้ถังย่าตกใจกลัวจริงๆ
หลังจากที่จ้านเซินถูกดึงออกมา สติของเขาก็ค่อยๆกลับมา
หลังจากหมอกหนาทึบตรงหน้าสลายไป เผยให้เห็นโลกตรงหน้า
เขาเห็นถังย่ามองตรงมาที่เขาด้วยความโกรธ จากนั้นสายตาของเขาก็ไปสบกับฉินซีที่นั่งอยู่บนโซฟา
ฉินซียังคงไออย่างแรง
ผิวของฉินซีขาวอยู่แล้ว บวกกับรอยมือของจ้านเซิน รอยแผลบนคางของเธอจึงดูน่าสยองมาก
จ้านเซินทรุดลงไปกับพื้น ตอนนี้หัวใจของเขาเจ็บปวด
เขามองไปที่ฉินซี ขยับปากจะพูด ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี
จ้านเซินลดสายตาลง ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “ฉันขอโทษ”
เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงสูญเสียการควบคุมตัวเอง บางทีอาจเป็นเพราะไม่เต็มใจ
จ้านเซินเป็นคนที่มีความอยากครอบครองสูง เขาไม่อาจทนดูคนที่ตัวเองรักหนีไปกับชายอื่นโดยไม่ทำอะไรไม่ได้
แม้ว่าจ้านเซินจะขอโทษ แต่ใจของฉินซีกลับปวดร้าวอย่างมาก
ตลอดมา เธอรู้สึกว่า ถึงแม้เธอกับจ้านเซินจะมีปัญหาอะไรกัน แต่ความรู้สึกในวัยเยาว์มันยังคงอยู่
แต่ทว่า ฉินซีเพิ่งจะรู้สึกได้อย่างชัดเจน ถ้าหากเธอไปจากเขาจริงๆ จ้านเซินจะโกรธ จนสามารถฆ่าเธอได้เลย
ความคิดนี้ที่ปรากฏให้เห็น ทำให้ฉินซีหวาดกลัว
เธอไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าคืนนี้จะเกิดอะไรขึ้น
ถ้าหากถูกจ้านเซินจับได้ ถ้าอย่างนั้นเธอกับลู่เซิ่น… …
“แค่กแค่กแค่ก”
ฉินซีไอแรงมากกว่าเดิม
ถังย่ามองไปที่เธอด้วยความเป็นห่วง เดินมาข้างกายเธอ นั่งลงก่อนถามเสียงต่ำ “ฉินซี ไม่เป็นอะไรใช่ไหม ยังมีแผลอะไรบนตัวอีกไหม?”
เมื่อเจอกับความห่วงใย ฉินซีอยากจะพูด แต่ลำคอของเธอเจ็บมากเกินไป
เธอทำได้เพียงแค่ส่ายหน้า “ไม่ ไม่เป็นไร”
ซิวหน่ายซิงรินน้ำให้ฉินซีก่อนส่งสายตาให้เธอรับไป “คุณฉิน ดื่มน้ำให้ชุ่มคอหน่อยเถอะครับ”
เมื่อกี้จ้านเซินทำให้ซิวหน่ายซิงตกใจจริงๆ
ถึงแม้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ซิวหน่ายซิงได้เจอกับจ้านเซิน เขาก็รู้สึกว่าผู้ชายตรงหน้าเป็นคนที่ไม่น่าเข้าใกล้ แต่กลับไม่คาดคิดว่าเมื่อจ้านเซินโกรธจะน่ากลัวแบบนี้
ยิ่งไปกว่านั้น ฉินซียังเป็นผู้หญิงที่จ้านเซินชอบอีกด้วย
ซิวหน่ายซิงอดไม่ได้ที่จะเริ่มกังวลกับถังย่าแล้วว่า ผู้ชายคนนี้คุ้มค่ากับความรักของเธอจริงหรือ?
ถ้าวันหนึ่งจ้านเซินทำร้ายถังย่าขึ้นมาละ จะทำอย่างไร?
เมื่อฉินซีรับน้ำแล้ว เธอก็พยักหน้าไปทางเข้า
“ขอบคุณค่ะ”
แม้ในเวลาแบบนี้ ฉินซีก็ยังคงรักษามารยาทเอาไว้ได้
ยิ่งเธออ่อนโยนและประพฤติตัวดีมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งชัดเจนแล้วว่าเมื่อกี้จ้านเซินอำมหิตมากแค่ไหน
ฉินซีจิบน้ำ ในที่สุดเสียงเธอก็ดีขึ้นมาก
แต่รอยนิ้วมือที่คางก็ยังไม่หาย ถังย่ามองอย่างกังวล “ฉันจะไปเรียกหมอเหยามาช่วยดูให้”
พูดจบ ถังย่าก็หันหลังเดินออกไปจากห้อง
จ้านเซินยืนอยู่ตามลำพัง ดูโดดเดี่ยว
แม้การกระทำเมื่อครู่ของจ้านเซินจะทำให้ถังย่าโกรธมาก
แต่ เมื่อเห็นจ้านเซินทำท่าทางที่ดูยอมรับผิด ใจถังย่าก็อ่อนแล้ว
ถังย่าเดินไปยืนข้างๆจ้านเซิน ก่อนจะจับข้อมือของเขา ริมฝีปากสีแดงเปิดออก และพูดเบาๆ “คุณออกไปกับฉันหน่อย”