Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 1399
บทที่1399 ภาระ
โจวซิงกัดฟันด้วยความโกรธ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ “จ้านเซิน คุณคิดจะทำอะไรกันแน่”
เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมความยึดติดของจ้านเซินถึงลึกขนาดนี้ “คุณคิดเหรอว่าทำแบบนี้แล้วฉินซีจะชอบคุณได้? ผมจะบอกอะไรให้ ยิ่งคุณอยากกักขังเธอด้วยวิธีนี้เท่าไหร่ ก็จะทำให้เธอยิ่งกลัวคุณ และอยากจะหนีไปให้ไกล ไม่กลับมาอีก”
ความอยากครอบครองที่เหมาะสมจะทำให้คนรู้สึกถึงความห่วงใยที่เสน่หา แต่ถ้ามันมากไป จะทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว และต้องการอิสรภาพ
เห็นได้ชัดว่าการอยากครอบครองของจ้านเซินอยู่ในจุดที่บ้าคลั่ง
ใครก็รับไม่ได้กับท่าทางของเขา โดยเฉพาะที่ฝั่งตรงข้ามมีคนในใจอยู่แล้ว
ความชอบของจ้านเซิน กลายเป็นภาระและทำให้ฉินซีอึดอัด
คำพูดของโจวซิงราวกับหนามทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจของจ้านเซิน
ใบหน้าของจ้านเซินค่อยๆมืดมนลง
ถังย่าที่ยืนอยู่ข้างๆ สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิโดยรอบที่ลดลงอย่างเร็วอย่างชัดเจน
เธอจ้องมองไปที่โจวซิงอย่างหงุดหงิด เด็กคนนี้พูดอะไรที่ไม่ควรพูด เขาคงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว ถึงได้กล้าพูดแบบนี้กับจ้านเซิน
เพื่อป้องกันไม่ให้จ้านเซินฆ่าคนที่นี่ ถังย่าจึงรีบพูดขึ้นมา “เด็กนี่ปากแข็ง คงง้างอะไรออกมาไม่ได้ พวกเราออกไปก่อนเถอะ”
มีเวลามาถามโจวซิงที่อยู่ตรงนี้ คงดีกว่าไหมถ้าออกไปเตรียมการข้างนอก และขยายวงล้อมให้กว้างขึ้นไปอีก เพื่อไม่ให้ลู่เซิ่นมาไม่กลับ
เสียงของถังย่าปลอบประโลม ทำให้ความโกรธในดวงตาของจ้านเซินค่อยๆหายไป
“อืม”
จ้านเซินพยักหน้าอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย
เขาออกไปก่อน ถังย่าตามมาทีหลัง
ถังย่ามองไปยังบอดี้การ์ด ก่อนจะกำชับเสียงขรึม “ล็อคประตูให้ดี ถ้าหากมันออกไปได้ พวกแกเตรียมโดนฝังพร้อมคนตายได้เลย”
บอดี้การ์ดพยักหน้าอย่างสั่นๆ “ครับ”
ในองค์กรนอกเหนือจากจ้านเซิน คำพูดที่มีประโยชน์ที่สุดคือถังย่า
ไม่มีใครกล้าดูหมิ่นถังย่า และไม่กล้าไม่ฟังคำพูดของเธอ
……
ฉินซียังคงคิดอยู่ในห้องน้ำ ว่าจะส่งข่าวออกไปข้างนอกอย่างไร
พอดีกับที่คิดจะออกไปถามซิวหน่ายซิง ว่าเหยาจ้าวมาหรือยัง ทันใดประตูห้องพักก็ถูกเปิดออกมาจากข้างนอก
เมื่อจ้านเซินกับถังย่าเข้ามา เห็นแค่ซิวหน่ายซิงยืนเฝ้าอยู่คนเดียว
มองไปยังรอบห้องที่ว่างเปล่า จ้านเซินขมวดคิ้ว “ฉินซีละ?”
ซิวหน่ายซิงมองสบไปยังดวงตาที่ลุ่มลึก รู้สึกว่าหลังจากจ้านเซินออกไปแล้วกลับเข้ามา ไอความโกรธทั่วร่างดูรุนแรงมากขึ้น
เขาเอียงศีรษะเล็กน้อยไปทางห้องน้ำ พลางพูดเปิดปากรายงาน “คุณฉิน ตอนนี้กำลัง… …”
ตอนที่ซิวหน่ายซิงกำลังจะบอกว่าฉินซีกำลังอยู่ในห้องน้ำ จู่ๆประตูห้องน้ำก็ถูกผลักออกมา
ประตูเปิดออก เผยให้เห็นใบหน้าที่งดงามของฉินซี
“ฉันอยู่นี่”
ที่คางของเธอ รอยนิ้วยังคงเห็นชัดมาก
ใบหน้าของฉินซีไม่ได้มีความน่ารักและอ่อนโยนอย่างที่เคยแสร้งทำภายในไม่กี่วันมานี้ ชั่วพริบตาเดียวเธอก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา
ถึงแม้ในใจของจ้านเซินจะหดหู่ แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอย่างไร
เพราะนี่คือฉินซีที่เขาคุ้นเคยในความทรงจำ
ถ้าเป็นไปได้ จ้านเซินก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าฉินซีที่น่ารักและอ่อนโยนคนนั้นจะเป็นของเขา แต่ก็น่าเสียดายที่ทั้งหมดเป็นแค่ภาพลวงตา
จ้านเซินมองไปที่เธอและพูดอย่างเย็นชา “เธอไปนั่งที่โซฟา จะให้ถังย่าช่วยจัดการเรื่องแผล”
ถังย่าที่ถูกพูดถึงชื่อเดินออกมาจากข้างหลังจ้านเซิน ในมือเธอถือกล่องยาสีฟ้าอ่อน
ถังย่ายิ้มบาง “ฉินซี ฉันจะช่วยเธอเอง”
เธอเดินไปข้างๆฉินซี ใช้สายตาส่งสัญญาณว่าเธอจะทำ
ฉินซีมองไปที่ประตู พบว่าไม่ได้มีเงาของเหยาจ้าว
ความวิตกกังวลในใจของเธอเริ่มเพิ่มขึ้น “หมอเหยาอยู่ไหน ไม่ได้บอกว่าจะให้มาช่วยทำแผลให้ฉันเหรอ?”
ฉินซีมองไปทางจ้านเซินตรงๆ ถ้าหากไม่เห็นเหยาจ้าว อย่างนั้นแผนของเธอก็พังพินาศแล้ว
ดวงตาของจ้านเซินมืดลงเมื่อเธอได้ยินเธอพูดถึงชื่อเหยาจ้าว
หากเป็นก่อนหน้า ตอนที่ถังย่ายังไม่ได้บอกเหยาจ้าวเป็นสายลับ ฉินซีอยากจะให้เหยาจ้าวมา จ้านเซินก็ไม่ได้รู้สึกอะไร
อย่างไรเหยาจ้าวก็เป็นหมอที่จริงจัง ได้รับบาดเจ็บก็ต้องไปหาเขาเป็นธรรมดา
แต่ตอนนี้ ใจของจ้านเซินเต็มไปด้วยความระแวง
เขาเริ่มสงสัยว่าแท้จริงแล้วเหยาจ้าวและฉินซีเริ่มสมคบคิดกันตั้งแต่ตอนไหน
เมื่อตอนเจอกันมิน่าฉินซีถึงไม่ต่อต้านการสะกดจิตของเหยาจ้าว แท้จริงแล้วทั้งสองคนสมรู้ร่วมคิดกันมานานแล้ว
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ จ้านเซินก็ยิ่งเพิ่มความโกรธขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อก่อนตอนอยู่ในองค์กร เหยาจ้าวพยายามหาทุกวิถีทางช่วยฉินซี
เพราะเหตุนี้ องค์กรจึงยังไม่ดำเนินการ “ปรับแก้”
จ้านเซินพอใจมากกับผลของการปรับแก้ และเขายังให้เหยาจ้าวเป็นคนสนิทของเขาอีกด้วย
ทำให้เขาอยู่ตำแหน่งที่สำคัญพอๆ กับถังย่า แต่เขากลับร่วมมือกับฉินซี ทรยศเขา
ความรู้สึกถูกโจมตีโดยศัตรูทุกทางนี้ ทำให้จ้านเซินรู้สึกเสียใจ ความโกรธพลุ่งพล่านอยู่ในอกของเขา
ถังย่ากังวลว่าจ้านเซินจะหลุดปากพูดออกไป จึงชิงพูดก่อน “จ้านเซินให้หมอเหยาออกไปทำภารกิจนะ เมื่อกี้ตอนฉันไปหาเขา เขายังไม่กลับมา”
เธอมองไปยังฉินซี ก่อนพูดอย่างปลอบโยน “วางใจเถอะ แผลเล็กๆแค่นี้ของเธอฉันจัดการได้ อย่าดูถูกฉันเชียว”
สิ่งต่างๆในองค์กรปนเปกันไป เหมือนกับอาชีพที่พวกเธอทำกันอยู่ สิ่งสำคัญที่สุดคือจะเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองอย่างไร รองลงมาคือเมื่อบาดเจ็บ จะปฐมพยาบาลและช่วยชีวิตของตัวเองอย่างไร
ฉินซีและถังย่าสามารถรับมือกับอาการบาดเจ็บเล็กน้อยได้
ฉินซีไม่ได้กังวลเกี่ยวกับทักษะทางการแพทย์ของถังย่า อาการบาดเจ็บเล็กน้อยนี้แม้จะไม่ได้รับการรักษา ไม่เกินอาทิตย์มันก็หายดีแล้ว
สิ่งที่เธอกังวลคือ จะมีอะไรเกิดขึ้นกับทางฝั่งเหยาจ้าวหรือไม่
ฉินซีอยากถาม เหยาจ้าวไม่อยู่ งั้นโจวซิงอยู่ไหน เขาถูกส่งออกไปแล้วหรือยัง?
ด้วยนิสัยที่ขี้สงสัยของจ้านเซิน เธอไม่สามารถส่งโจวซิงออกไปทำธุระได้
แต่ฉินซีก็ไม่กล้าพูดเยอะ เธอกลัวถ้าตัวเองพูดมากไป จะทำให้จ้านเซินที่ยังไม่มีความสงสัยอะไรรู้ตัว และทำให้แผนของลู่เซิ่นล่าช้า
เธอหันไปพยักหน้ากับถังย่า “โอเค”
เธอเดินไปที่โซฟาก่อนนั่งลงเงียบๆ และไม่พูดอะไร
ในใจของฉินซีเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย ไม่มีความคิดไหนเลยที่ทำให้ใจผ่อนคลาย
แต่ถังย่าและจ้านเซินต่างก็มีความคิดของตัวเอง และไม่พูดออกมาแน่
ภายในห้องพักฟื้นพลันเงียบลงทันที มีเพียงซิวหน่ายซิงที่ยืนข้างๆเท่านั้นรู้สึกถึงกลิ่นอายของปัญหาอย่างชัดเจน ขนาดจะหายใจแรงยังไม่กล้า กลัวจะเกิดหายนะขึ้น
ถังย่าหยิบสำลีจุ่มลงในยาทา ก่อนจะทาลงเบาๆ บนแผลบนคางของฉินซี “ถ้าเจ็บก็บอกฉัน ฉันจะเบามือลง”