Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 1463
บทที่ 1463 ดำเนินการ
ฉินซีมองไปยังเขาพลางขยิบตา และหันหลังเดินจากไป
หลูจื๋อหลินช่วยเหลือเธอเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าเธอจะต้องทำดีกับเขา
แค่ส่งสายตาหวานง่ายๆ ก็ทำให้หลูจื๋อหลินหลงใหลในตัวเธอจนแทบไม่อาจต้านทานได้
หลูจื๋อหลินยังคงยืนตะลึงอยู่ที่เดิม พลางมองเงาหลังของเธอพร้อมใจที่เต้นแรง
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉินซีแสดงความรู้สึกดีๆกับเขาตั้งแต่รู้จักกัน
หลูจื๋อหลินควบคุมตัวเองไม่อยู่ เริ่มคิดไปต่างๆนานา เขารู้สึกว่าฉินซีกำลังตกอยู่ในกับดักความอ่อนโยนของเขา ขอแค่เขาพยายามมากกว่านี้ ฉินซีจะต้องตกอยู่ในกำมือของเขาแน่ๆ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ริมฝีปากของหลูจื๋อหลินก็ค่อยๆยกขึ้น ในใจพึงพอใจเป็นอย่างมาก
เขาคิดไม่ถึงอย่างแน่นอนว่าการที่ฉินซีปฏิบัติต่อเขาแบบนั้นเป็นเพราะว่าการตัดสินใจโดยไม่ได้ตั้งใจของเขา ที่สร้างโอกาสให้เธอกับลู่เซิ่นได้ใกล้ชิดกันสักพัก
ฉินซีพยายามเก็บความรู้สึกไว้ในใจ เสแสร้งทำเป็นเย็นชา แล้วเธอไปข้างหน้า
ลู่เซิ่นแสดงเป็นพนักงานเสิร์ฟ แล้วเดินตามหลังเธอไปติดๆ
ทั้งสองนิ่งไม่มีพิรุธ ไม่รู้สึกกินปูนร้อนท้องแต่อย่างใด
“หลูจื๋อหลินคนนี้โง่จริงๆ”
ภายใต้หน้ากาก ฉินซียิ้มอย่างเบิกบานใจ น้ำเสียงเต็มไปด้วยอาการเย้ยหยัน
ลู่เซิ่นคล้อยตามพลางพยักหน้า:“ใช่”
ใครจะไปคิดว่าเขาจะมีข้อเสนอแบบนี้
ฉินซีพูดขึ้นต่อว่า:“แต่ก็ต้องขอบคุณข้อเสนอของเขา ที่ทำให้เรามีโอกาสอยู่ด้วยกันสองคนสักพัก และยังไม่ทำให้ลูกน้องของจ้านเซินสงสัย”
เมื่อถึงเวลานั้นหากจ้านเซินถามขึ้น เธอจะได้มีข้อแก้ตัว
“อืม”
เมื่อเห็นท่าทีระมัดระวังแบบนี้ของเธอ ในใจของลู่เซิ่นก็อดทรมานใจไม่ได้
ลู่เซิ่นพยายามระงับความรู้สึกที่อยากจะกอดฉินซี พลางพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า:“ฉินซี คุณวางใจเถอะ คุณใกล้ที่จะได้รับอิสรภาพแล้ว”
ตอนนี้เขากำลังแอบวางแผนอย่างลับๆ ว่าจะทำอย่างไรจึงจะสามารถช่วยฉินซีออกมาได้
ลู่เซิ่นจ้องมองไปที่เธอ ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
แม้ว่าจะมีหน้ากากกั้นอยู่ แต่ฉินซีก็พอที่จะจินตนาการได้ว่าสีหน้าของลู่เซิ่นตอนนี้จะเคร่งขรึมแค่ไหน
เธอเป็นกังวลว่าตัวเธอจะทำให้ลู่เซิ่นเครียดจนเกินไป ดังนั้นจึงเอ่ยปากปลอบโยนพลางยิ้มอ่อนว่า:“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่รีบร้อน ฉันอยู่ข้างในมาตั้งนานแล้ว จะอยู่ต่ออีกสักวันสองวันจะเป็นอะไรไป”
น้ำเสียงของฉินซีอ่อนโยน ทำให้ลู่เซิ่นมีกำลังใจขึ้นมาทีเดียว
ทั้งสองยิ้มประสานสายตากัน หัวใจเย็นชาดวงนั้นก็อบอุ่นขึ้นมา
เพื่อที่จะหลบหลีกหูตาที่จ้านเซินจัดเตรียมไว้ ทั้งสองไม่กล้าที่จะใกล้ชิดกันมากกว่านี้
สำหรับฉินซีแล้วขอเพียงแค่ได้อยู่กับฉินซี อย่าว่าแต่เดินเล่น พูดคุยเลยแค่นี้เธอก็มีความสุขมากแล้ว
แม้ว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไหร่ แต่ว่าสำหรับสถานการณ์ของเขาทั้งสองคนแล้ว การที่ได้พบหน้ากันสักครั้งหนึ่งมันก็ยากมากเหลือเกิน ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะเรื่องมากเลือกโน้นเลือกนี้
เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย ฉินซีกับลู่เซิ่นอยู่ด้วยกันเพียงครึ่งชั่วโมงก็แยกจากกัน
ฉินซีนั่งอยู่บนโซฟาตามลำพัง พลางมองไปที่งานปาร์ตี้ที่มีผู้คนเดินไปเดินมาไม่ขาดสาย
เธอมองไปรอบๆทั้งสี่ด้าน แล้วสายตาไปหยุดอยู่ที่หลูจื๋อหลิน
ตอนนี้หลูจื๋อหลินกำลังพูดคุยกับแขกอยู่ จึงไม่ได้สังเกตว่าฉินซีมองมาที่เขา
เมื่อเห็นว่าหลูจื๋อหลินไม่ได้มองมาที่เธอ ฉินซีก็เปลี่ยนใจ
เธอค่อยๆลุกขึ้นและออกจากที่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ
ฉินซีเดินมายังห้องน้ำอย่างรวดเร็ว แล้วเปิดกระเป๋าสะพายออก พลางเปลี่ยนมาใส่ชุดดำ
ดีที่เมื่อวานเธอที่นี่มาก่อน จึงได้สำรวจสถานที่ไว้เรียบร้อยแล้ว
ฉินซีพบว่า ฝ้าเพดานของห้องน้ำมีช่องระบายอากาศช่องหนึ่งที่สามารถปีนขึ้นไปชั้นบนได้
จากข้อมูลที่ฉินซีทราบจากจ้านเซินก่อนหน้านี้หลูจื๋อหลินไม่ได้ซ่อนหลักฐาน ไว้ในบ้านและไม่ได้พกติดตัว แต่เก็บไว้ในห้องที่โรงแรม
หลูจื๋อหลินได้เซ็นสัญญาระยะยาวกับโรงแรมแห่งนี้ งานปาร์ตี้ของเขาในทุกครั้งจะจัดในสถานที่แห่งนี้
โรงแรมแห่งนี้ได้จัดห้องพักห้องดีลักซ์ให้กับหลูจื๋อหลินห้องหนึ่ง เพื่อรับรองเขาจะเขาจะมาที่นี่เมื่อไหร่ก็ได้
อีกทั้งกุญแจของห้องนี้มีเพียงหลูจื๋อหลินคนเดียวเท่านั้นที่มี แม้แต่พนักงานที่หน้าเค้าเตอร์ก็ยังไม่มี
สถานที่ที่คิดว่าจะมีก็หาจนหมดแล้ว แต่ก็ยังหาหลักฐานมัดตัวหลูจื๋อหลินไม่พบ
ดังนั้น สายตาของจ้านเซินจึงจับจ้องอยู่ที่ห้องดีลักซ์ห้องนี้
เขาคิดว่าในนั้นจะต้องมีอะไรแปลกๆ จึงส่งฉินซีให้มาตรวจสอบ
หลังจากที่ฉินซีเปิดประตูห้องน้ำทุกห้อง เพื่อตรวจสอบว่าไม่มีใครอยู่ในนั้น จากนั้นเธอก็ปีนขึ้นไปบนช่องลม
เธอราวกับตุ๊กแกตัวหนึ่ง ที่ราวกับพื้นที่ราบเรียบท่ามกลางความมืด
ไม่นาน
ฉินซีก็มาถึงชั้นที่หลูจื๋อหลินอาศัยอยู่
เธอค่อยๆกระโดดเข้าไปจากหน้าต่าง โดยไม่มีใครสังเกตเห็น
ห้องของหลูจื๋อหลินมีกล้องวงจรปิดติดอยู่ฉินซีพกเครื่องก่อกวนสัญญาณไปด้วย ทำให้กล้องวงจรปิดหยุดทำงาน
เพื่อไม่ให้หลูจื๋อหลินพบ ฉินซีจึงรีบดำเนินการหาอย่างรวดเร็ว
เธอค้นหาแล้วรอบหนึ่ง แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ
จู่ ๆ ไม่รู้ว่าฉินซีคิดอะไรขึ้นมา
ฉินซีเดินไปบริเวณด้านหน้าตู้เสื้อผ้า แล้วเปิดตู้เสื้อผ้าออก
ภายในตู้มีเสื้อสูทและเสื้อเชิตแขวนอยู่เต็มไปหมด
ฉินซีผลักเสื้อผ้าไว้ด้านหนึ่งด้วยสีหน้าเคร่งขรึม และเธอก็พบจุดที่น่าสงสัย
เธอลูบสัมผัส เพื่อมองหาที่เปิด
ปลายนิ้วของฉินซีพบจุดที่นูนขึ้นมา เธอค่อยๆกดลงไปเบาๆ มีประตูเล็กๆโผล่มาจากด้านหลังตู้
ไม่พูดไม่ได้ว่าหลูจื๋อหลินฉลาดไม่น้อย
เดิมทีฉินซีคิดว่าจะสามารถเปิดได้เลย แต่ที่ไหนได้จำเป็นต้องใช้รหัส
เธอขมวดคิ้ว ลองใส่รหัสดู ผลปรากฎว่ารหัสผิดพลาด
ฉินซีนิ่งเงียบ กลับไปคิดถึงวิธีการที่องค์กรสอนในตอนนั้น
สมองของเธอก็มีความคิดแวบขึ้นมา จู่ๆเธอก็มีไอเดีย
ฉินซีรีบกดรหัสอย่างรวดเร็ว และได้ยินเพียงแค่เสียงคาซ่า กล่องก็ถูกเปิดออก
เธอมองเห็นสมุดบัญชีหลายเล่มวางอยู่ในนั้น ในใจของฉินซีรู้สึกเบิกบาน
เธอยื่นมือออกไปกำลังจะหยิบสมุดบัญชีขึ้นมา ด้านหลังของเธอก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น
“อย่าขยับ!”
ปืนสีดำของชายคนหนึ่ง จ่อไปที่ศีรษะของฉินซี
ขณะนั้นสีหน้าของฉินซีก็เปลี่ยนไป
“ยกมือขึ้นมา!”
เมื่อฉินซีได้ยินเสียงแหบนี้ดังขึ้น
เธอก็ค่อยๆยกมือขึ้นมา แล้วค่อยๆหันหลังกลับไป
หน้าของฉินซีมีผ้าปกหน้าปกปิดอยู่ อีกทั้งก็เป็นเวลาตอนกลางคืน ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเห็นหน้าเธอไม่ชัด แต่เธอสามารถเห็นใบหน้าของฝ่ายตรงข้ามอย่างชัดเจน
ฝ่ายตรงข้ามเป็นลูกน้องของหลูจื๋อหลิน ชื่อว่าหรูเว่ยเสียง
เขาเป็นลูกน้องที่มีความสามารถคนหนึ่งที่อยู่ข้างกายหลูจื๋อหลิน เป็นคนลึกลับซับซ้อน ฝีมือการต่อสู้ร้ายกาจ
ก่อนหน้าตอนที่อยู่ที่องค์กร จ้านเซินได้ให้ฉินซีดูรูปภาพของหรูเว่ยเสียงแล้ว ยังกำชับให้เธอระวังเขาด้วย
แต่ว่าก่อนหน้านี้ฉินซีได้ตรวจสอบร่องรอยการเดินทางของหรูเว่ยเสียงแล้ว
จากการรายงานของลูกน้องหรูเว่ยเสียงถูกหลูจื๋อหลินสั่งให้ไปจัดการภารกิจที่แอฟริกาไม่ได้อยู่ในประเทศ ต้องใช้เวลากว่าหนึ่งสัปดาห์ถึงจะกลับมา ดังนั้นฉินชีจึงตัดสินใจใช้โอกาสนี้ลงมือ
ใครจะไปคิดว่าหรูเว่ยเสียงจะกลับมาก่อนเวลา