Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 1491
“ฉินซี……”
“ทำไมถึงเป็นคุณ ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่”
ลู่เซิ่นพูดตะกุกตะกัก ด้วยความรู้สึกหลากหลายในใจ
เขาไม่ได้คาดหวังว่าฉินซีจะปรากฏตัวในโรงพยาบาล เดิมทีลู่เซิ่นคิดว่าเขาอธิบายเรื่องนี้อย่างชัดเจนแล้วจากการคุยโทรศัพท์ในครั้งก่อน
เมื่อนึกถึงที่พึ่งยิงเกมปาเป้า ในตอนนี้ลู่เซิ่นก็รู้สึกประหม่า
เขาผลักโจวซิงคนที่อยู่ตรงหน้าตัวเองที่กำลังพันแผลให้ออกไป และเดินไปหาฉินซีด้วยความตื่นตระหนก: “ฉินซี คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม? คุณไดรับบาดเจ็บหรือไม่?”
ลู่เซิ่นดึงเธอขึ้นจากพื้น สายตามองสแกนขึ้นลง
เขาเสียใจอย่างมาก เมื่อกี้ก่อนที่จะลงมือทำไมไม่มองใช้ชัดเจน อีกนิดเดียวก็จะทำให้ฉินซีได้รับบาดเจ็บ
ฉินซีมองไปที่เสื้อคลุมที่เปิดอ้าออก เผยให้เห็นแผลที่ช่องท้องอย่างชัดเจน
หัวใจของเขาเจ็บปวดเหมือนถูกเข็มแทง เบ้าตาเป็นสีแดง
ฉินซียังยืนอยู่ที่เดิม โดยไม่พูดอะไรปล่อยให้เขาจับแขนไว้
เมื่อเห็นฉินซีเงียบแบบนี้ ลู่เซิ่นก็ว้าวุ่นใจ
สายตาที่เฉียบคมของเขาสังเกตเห็นถึงสายตาของฉินซี จ้องมองที่บาดแผลในช่องท้องของเขาเสมอ
ลู่เซิ่นรีบปล่อยมือเขาออก และพยายามคลุมเสื้อผ้า
เขายิ้มอย่างกลืนไม่เข้าคลายไม่ออก และพูดอย่างถูๆไถๆ: “ฉินซี คุณอย่ากังวล ฉันไม่เป็นอะไร มันเป็นแค่การบาดเจ็บเล็กน้อย ไม่ถึงกับตายได้”
ลู่เซิ่นแสร้งทำเป็นยืนสงบนิ่ง น้ำเสียงตื่นเต้นมาก
ฉินซีคว้าแขนของเขา และหยุดการเคลื่อนไหวของเขา
เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อสบกับดวงตาที่ลึกล้ำของลู่เซิ่น ริมฝีปากสีแดงก็เปิดออกเบา ๆ : “คุณบอกฉัน เรื่องมันเป็นยังไง?”
เห็นได้ชัดว่าในงานเลี้ยงยังดีๆอยู่ ทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นแบบนี้?
ฉินซีพยายามเดา รอคำตอบของลู่เซิ่น
ลู่เซิ่นปฏิเสธที่จะบอกความจริง จึงเลือกที่จะโกหก: “ไม่เป็นไร ก็แค่เดินไม่ระวังเลยได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้ดีขึ้นเยอะแล้วคุณ ก็อย่ากังวลไปเลย”
มือใหญ่โอบมือเล็ก ๆ ของฉินซี เขาพยายามอย่างหนักที่จะทำให้เรื่องใหญ่นี้กลายเป็นเรื่องเล็ก
เมื่อต้องเผชิญกับคำพูดที่ขอผ่านไปทีของเขา ฉินซี ยังคงนิ่งไม่ขยับ
ฉินซีไม่ใช่คนโง่ เขารู้ดีอยู่ในใจ ถ้าแค่เดินเฉยๆ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำให้ได้รับบาดแผลร้ายแรงขนาดนี้
ลู่เซิ่นต้องทำอะไรบางอย่างแน่นอนจึงทำให้แผลแตกอีกครั้ง
ฉินซีมองไปที่เขาอย่างตรงไปตรงมา ใบหน้าที่งดงามเต็มไปด้วยความจริงจัง: “ลู่เซิ่น!”
เขาพูดเสียงเข้ม ดวงตาสีดำเข้มเปล่งประกายด้วยเปลวไฟ
ฉินซีพูดทีละคำ: “ถ้าคุณไม่อธิบายอย่างตรงไปตรงมาตอนนี้ ให้ฉันสืบรู้เอง ฉันจะโกรธมาก แล้วคุณคงจะรู้ผลที่ตามมา”
น้ำเสียงของเขาเคร่งขรึมโดยไม่มีคำพูดล้อเล่นแม้แต่น้อย
ฉินซียืนอยู่ที่เดิมอย่างเงียบ ๆ มีออร่าที่หนาวเหน็บแผ่ออกมาจากทั่วร่างกาย
ใคร ๆ ก็มองออก ตอนนี้หัวใจของฉินซีอยู่ในความโกรธ แล้วถ้าลู่เซิ่นไม่ได้อธิบายอย่างตรงไปตรงมา กลัวว่าสิ่งต่างๆจะเลวร้ายลง
โจวซิงตกตะลึงเมื่อเห็น ฉินซีเข้ามาทางหน้าต่าง เขาถูกลู่เซิ่นผลักออกไปอย่างไม่น่าสงสัย เซไปจับโต๊ะเก้าอี้ไว้ ไม่ง่ายกว่าจะยืนได้อย่างมั่นคง
เขาไม่ได้วางแผนที่จะแทรกแซงในเรื่องนี้ แต่เมื่อเห็นว่าฉินซีและลู่เซิ่นกำลังจะทะเลาะกัน ก็อดไม่ได้ที่จะช่วยลู่เซิ่นพูด
“ฉินซี จริงๆแล้ว ……”
โจวซิงเปิดปาก กำลังจะพูด แต่ลู่เซิ่นมองเขาด้วยสายตาดุ
“พอแล้ว”
ลู่เซิ่นกล่าวอย่างเย็นชา น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม
เสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ ทำให้โจวซิงสั่นสะท้านด้วยความตกใจ
โจวซิงมองไปที่ลู่เซิ่น และเห็นคำเตือนในแววตาของเขา
เขาปิดปากโดยไม่รู้ตัว ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
ฉินซียืนอยู่ด้านข้าง เฝ้าดูทุกการเคลื่อนไหวของทั้งสองคน
เธอรู้ว่าโจวซิงมีบางอย่างอยากจะพูด เพียงแต่เพราะแรงกดดันของลู่เซิ่น จึงปิดปาก
ฉินซีเดินไปที่ตรงหน้าโจวซิงอย่างรวดเร็ว และพูดด้วยใบหน้าที่จริงจัง: “โจวซิง คุณบอกฉันว่าเกิดอะไรขึ้น!”
ตอนนี้เธอไม่เชื่อในสิ่งที่ลู่เซิ่นพูด
โจวซิงก้มหัว มองลงไปที่ ฉินซีมองมาที่ปลายจมูกของตัวเอง หัวใจของเขาก็สั่น
เขาไม่รู้จริงๆว่าจะฟังใคร ดวงตาของฉินซีน่ากลัวจริงๆ
“ฉัน……”
โจวซิงใจยุ่งเหยิงอยู่ข้างใน มองไปที่ลู่เซิ่นราวกับขอความช่วยเหลือ
ลู่เซิ่นที่ยืนอยู่ไม่ไกล ก็กังวลมากเช่นกัน
เขารู้ว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังพัฒนาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ เขาทำอะไรไม่ถูก
ฉินซียกมือขึ้น และยืนอยู่ตรงหน้าเขา: “โจวซิง ฉันกำลังคุยกับคุณ คุณไม่จำเป็นต้องถามความคิดเห็นของคนอื่น ฉันอยากได้ยินความจริง”
เมื่อการได้เห็นความจริงนั้นยาก ฉินซีก็เดาอยู่ในใจ
วันก่อนงานเลี้ยงหนึ่งวัน ฉินซีได้ตรวจสอบอาการบาดเจ็บของลู่เซิ่น ซึ่งมันดีกว่าตอนนี้หลายเท่า
แต่ เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากงานเลี้ยง
เพียงแค่ว่า ไม่กี่วันหลังจากงานเลี้ยงจบลง ฉินซีมีภาระหน้าที่ที่ต้องไปอีกครั้ง
ในเวลานั้น เธอขอให้เหยาจ้าวติดต่อลู่เซิ่น โดยหวังว่าทั้งสองคนจะได้ใช้โอกาสนี้เพื่อเจอกันเหมือนครั้งที่แล้ว
แต่ว่า ฉินซีถูกโจวเอ้อหาเหตุผลมาปฏิเสธ
ตั้งแต่นั้นมา ทุกครั้งที่ฉินซีออกไปปฏิบัติภารกิจ ลู่เซิ่นจะมีข้อแก้ตัวมากมายที่จะไม่ได้เจอกัน
งั้น แน่นอนว่ามันจะต้องเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันนี้
ทันใดนั้นฉินซีก็นึกออก เมื่อเธอถูกจับโดยหรูเว่ยเสียง ลู่เซิ่นก็ออกมาต่อสู้อย่างกล้าหาญ
หรือว่าจะเป็นช่วงเวลานั้น
ฉินซีตกใจ และทันใดนั้นสีหน้าก็กลายเป็นเคร่งขรึม: “โจวซิง คุณบอกฉันมา ในวันงานเลี้ยง ลู่เซิ่นได้รับบาดเจ็บเพราะช่วยฉันใช่ไหม”
เธอรู้ดี แม้ว่าเธอจะถามลู่เซิ่นด้วยคำพูดเหล่านี้ เขาก็ไม่ยอมบอกความจริง ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงกดดันโจวซิง
สัญชาตญาณของฉินซีแม่นยำเกินไป ทำให้ทั้งสองตกใจ
หัวใจของลู่เซิ่นเต้นอย่างรุนแรง เขาก็ขยิบตาให้โจวซิงอย่างเงียบ ๆ เพื่อที่เขาจะได้ไม่พลาดหลุดปาก
แต่ว่า ฉินซีได้เห็น สีหน้าของโจวซิงที่เปลี่ยนไป
เธอเริ่มมีความมุ่งมั่นมากขึ้น เพียงแค่รอคำพูดของโจวซิง
โจวซิงใจยุ่งเหยิงอยู่ข้างใน เขาเข้าใจสายตาของลู่เซิ่น แต่เขาก็รู้ว่า ฉินซี ไม่ใช่สามารถบอกผ่านไปได้ง่ายๆ
“ช่างมันเถอะ”
โจวซิงโล่งใจ หลับตาลง
น้ำเสียงของเขามีความเฉียบขาด ในใจลู่เซิ่นรู้สึกไม่ดีบางอย่าง
“โจวซิง คุณ…..”
ลู่เซิ่นก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว กำลังจะหยุดปากของโจวซิง ให้เขาไม่ต้องพูด ก็ถูกสายตาของฉินซีจับจ้องไว้
เขาไม่เคยเห็นฉินซีแสดงท่าทางเย็นชาเช่นนี้ แบบนี้ ทำให้เขารู้สึก
ถ้าตัวเองจะยังปิดบังต่อไปจริงๆ ฉินซีจะจากไปด้วยความผิดหวังและจะไม่กลับมาอีก
ทันใดนั้นลู่เซิ่นรู้สึกว่าเท้าของเขาชา ราวกับว่าเขาตกลงไปในใต้น้ำแข็ง สมองสูญเสียความสามารถในการคิด เหมือนกับเด็ก
สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือ ยืนอยู่ที่เดิมอย่างเชื่อฟังและอย่าฝ่าฝืนคำสั่งของฉินซี มิฉะนั้นผลที่ตามมาจะร้ายแรงมาก