Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 1505
ฉินซีหวังว่าตัวเธอจะจำบทเรียนวันนี้เอาไว้ ต่อจากนี้อย่าประมาทวู่วามแบบนี้อีก
ลู่เซิ่นแหงนหน้าขึ้น สบประสานสายตากับดวงตาประกาย อย่างไร้หนทาง “ถ้างั้นก็ได้”
เขาได้แต่ถอดเสื้อผ้าออกภายใต้สายตาของฉินซี
เสื้อผ้าถูกย้อมเป็นสีแดงฉาน ฉินซีเจ็บปวดใจเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า
เมื่อฉินซีได้เห็นบาดแผลที่น่าตกใจ เธอสูดหายใจเข้า
เธอไม่คิดเลย ว่าบาดแผลของลู่เซิ่นจะสาหัสถึงเพียงนี้
มิน่าโจวซิงถึงได้บอกว่า หากไม่ระวังให้มากกว่านี้ จะทำให้พิการไปตลอดชีวิตก็เป็นได้
มือทั้งสองข้างที่วางอยู่ข้างลำตัวกำแน่น ฉินซีรู้สึกผิดอย่างมาก
เธอเสียใจ เธอไม่ควรไม่เชื่อใจลู่เซิ่น ยิ่งไม่ควรวู่วามไปหาเขาแบบนี้
ฉินซีน้อยนักที่จะหลั่งน้ำตา แต่เมื่อได้เห็นรอยแผลของลู่เซิ่น ของตาของเธอแดงก่ำขึ้นมาอย่างหักห้ามไม่ได้
เธอกล่าวอย่างกล้ำกลืน “ขอโทษ ขอโทษ…..”
ฉินซีกล่าวพึมพำกับตังวเอง ด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า
หยดน้ำตาใส ไหลอาบไปตามรูปหน้า เข้าสู่ริมฝีปากจนรู้สึกขมขื่น แต่สิ่งนี้ช่างเทียบไม่ได้เลยกับความเจ็บปวดในใจของเธอ เธอแทบอยากจะตบหน้าตัวเองสักฉาด ทำไมในตอนนั้นเธอถึงได้เอาแต่ใจถึงขนาดนี้
ลู่เซิ่นไม่กลัวเจ็บ สิ่งที่เขาเกรงกลัวมากที่สุดคือฉินซีต้องเสียน้ำตา
ทุกครั้งที่ฉินซีเสียน้ำตา หัวใจของเขาก็บีบรัดแน่น แตกสลายจนกลายเป็นเศษแก้ว
“ฉินซี อย่าร้องไห้ไปเลย ผมไม่เป็นไร ไม่เจ็บเลยสักนิด”
ลู่เซิ่นจ้องมองเธอด้วยความสงสาร พลันกล่าวด้วยความอ่อนโยน
หากแต่ ไม่ทันที่เขาจะพูดจบประโยค ก็เจ็บจนคำรามลั่น “โอ๊ย…..”
ลู่เซิ่นเจ็บปวดจนต้องสูดหายใจเข้า ใบหน้าที่หล่อเหลาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
คุณปู่เช่ที่เห็นทีท่ากลั้นความเจ็บปวด พลันกล่าวเสียงเย็น “ไอ้หนู ยังจะบอกว่าไม่เจ็บอีก แกลองดูบาดแผลของแกที่สาหัสขนาดนี้สิ ยังจะไม่รู้จักพักผ่อนอีก ตระเวนไปทั่วแบบนี้ แกไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วสินะ รอแกตายไป ฉันจะแนะนำหนุ่มหล่อให้กับฉินซี ให้เธอแต่งงานใหม่ ดีกว่าได้กลายเป็นแม่ม่ายตั้งแต่ยังสาว”
เขากล่าวด้วยน้ำเสียงประหลาด ทำให้ลู่เซิ่นหน้าบูดหน้าบึ้ง
ลู่เซิ่นเจ็บปวดจนต้องกัดฟันแน่น ไม่กล้าพูดแม้แต่คำเดียว
เขาเกรงว่าเมื่อปริปาก ก็จะคำรามออกมา
หากเป็นเช่นนั้น ฉินซีจะเป็นห่วงมากไปกว่าเดิม
ฉินซีจ้องมองทีท่าที่เจ็บปวดทรมานของเขา ด้วยความเจ็บปวดใจแสนสาหัส “คุณปู่ เบาๆ หน่อยสิ”
เธอกล่าวเสียงหวาน ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความร้อนใจ
คุณปู่เช่จ้องมองทีท่าร้อนรนของเธอ เธอส่ายหน้าด้วยความเสียใจ “เฮ้อ มีสามีแล้วก็ลืมตาแก่อย่างฉันจริงๆ ด้วยสินะ ไม่คิดบ้างเลยว่าใครชีวิตของเธอเอาไว้ หากไม่ใช่เพราะฉัน จะมีเธอในตอนนี้ได้ยังไง”
เขาทำตาขวางใส่หญิงสาวอย่างไม่สบอารมณ์ ยัยเด็กบ้านี่ ทรยศหักหลังเสียจริง
ฉินซีจดจำบุญคุณของเขาเอาไว้ในใจเสมออยู่แล้ว “คุณปู่ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น อย่าโกรธไปเลย ฉันไม่พูดแล้ว ได้ไหมล่ะ?”
เมื่อจบประโยค ฉินซีปิดปากสนิท
เธอเกรงว่า หากเธอทำให้คุณปู่เช่ไม่พอใจ เขานึกโกรธ แล้วลงที่ลู่เซิ่นได้ ทำให้เขาเจ็บปวดมากกว่าเก่า
คุณปู่เช่จับจ้องทีท่าที่อยากจะร้องไห้แต่ก็ไม่กล้าร้องของเธอ พลันถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “ยัยเด็กบ้านี่ วางใจเถอะ แม้ว่าบาดแผลจะสาหัสสักหน่อย แต่มีตาแก่อย่างฉันอยู่ ฉันต้องคืนผัวให้กับเธอแบบครบสมบูรณ์แน่ ไม่ทำให้เธอต้องเป็นแม่ม่ายหรอก”
เขารักอิสระ อยู่บนเขานี่คนเดียวมานาน การพูดจาจึงค่อนข้างตามใจฉัน ไม่พูดจากำกวมเหมือนคนที่มีความรู้มาก
คุณปู่เช่ตรงไปตรงมา กล่าวคำว่าผัวออกมา ทำให้ฉินซีอดที่จะหน้าแดงไม่ได้
เธอก้มหน้าลง บดบังความเขินอายในใจ
แม้ว่าทั้งคู่จะแอบแต่งงานกันแล้ว แต่ฉินซีไม่เคยเอ่ยปากขานลู่เซิ่นว่าสามีมาก่อน แต่ลู่เซิ่นในปกติมักจะขานเรียกเธอว่าภรรยาอยู่เสมอ ดูยืดยาด แต่ฉินซีกลับรู้สึกหอมหวาน
ฉินซีไม่รู้ว่า ท่าทีของเธอแบบนี้ ช่างน่าดึงดูด
เธอเสมือนกับลูกแอปเปิลที่สุกได้ที่ พวงแก้มแดงก่ำ ช่างดูหอมหวานน่าลิ้มลอง
หากไม่ใช่เพราะตอนนี้มีคนอื่นอยู่ด้วย และบาดแผลของเขา ลู่เซิ่นอยากจะโถมตัวเข้าไป ลิ้มลองรสชาติของฉินซีว่าจะหอมหวานเหมือนอย่างที่คิดเอาไว้หรือไม่
สายตาของทั้งคู่นัดเดตกันกลางอากาศ ทันใดนั้นคลื่นกระแสถูกกระตุ้น
คุณปู่เช่จับจ้องสถานการณ์ตรงหน้า พลันกล่าวอย่างไร้คำพูด “พอได้แล้ว หากพวกเธอสองคนยังจ้องตากันไปมาแบบนี้ รบกวนตาแก่อย่างฉันรักษาคนไข้”
เขาโบกมืออย่างไร้ความอดทน “เด็กบ้า เธอไปต้มน้ำร้อนมาที อีกเดี๋ยวฉันต้องใช้”
คุณปู่เช่หาข้ออ้าง เพื่อกันฉินซีออกไป
เผชิญกับคำสั่งของคุณปู่เช่ ฉันซีได้แต่ออกไปอย่างไร้หนทาง
เธอพยักหน้า “ค่ะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
ลู่เซิ่นจับจ้องแผ่นหลังของเธอ ด้วยสายตาแห่งความอาลัย
คุณปู่เช่ที่เห็นปฏิกิริยาของเขา พลันถลึงตาโต “เลิกดูได้แล้ว ดูไปนานกว่านี้ลูกตาจะกระเด็นแล้ว”
เขายกเก้าอี้มาตัวหนึ่ง นั่งลงตรงข้ามของลู่เซิ่น
คุณปู่เช่เปิดตะกร้าไม้ไผ่ หยิบผ้าก๊อซที่จำเป็นออกมาจากในนั้น และขวดเล็กๆ สีขาวออกมา
ลู่เซิ่นจ้องมองขวดยานั้นอย่างสงสัย ไม่รู้ว่าด้านในนั้นมีอะไรอยู่
หลังจากที่เปิดขวดออก ด้านในเป็นเนื้อยาสีดำ กลิ่นยาโบราณแผ่ซ่านออกไปทั่ว
ลู่เซิ่นจับจ้องยาสีดำ ด้วยความประหลาดใจ
ปฏิกิริยาของเขา อยู่ภายใต้สายตาของคุณปู่เช่
คุณปู่เช่กล่าวอย่างเย็นชา “ทำไม รังเกียจของของตาแก่ อย่างฉันจะสกปรก ไม่กล้าใช้หรือไง?”
น้ำเสียงของเขาแอบแฝงไปด้วยไอแห่งอันตราย ทำให้ลู่เซิ่นสะดุ้งโหยงในใจ
ลู่เซิ่นรีบแก้ตัวทันที “ไม่ใช่ครับคุณปู่ ผมแค่ไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน ก็เลยประหลาดใจเท่านั้น ไม่ได้รังเกียจของของท่านแน่นอน ท่านเป็นปู่ของฉินซี ตอนนี้ผมแต่งงานกับฉินซีแล้ว ท่านก็เป็นปู่ของผมด้วย ผมกับฉินซีเป็นผู้น้อย ต้องเคารพในตัวท่านอยู่แล้ว”
เขารู้สึกคุณปู่เช่เก่งกาจ ทำให้เขาสั่นทึ่มได้ทุกประโยค เขาไม่กล้าชะล่าใจ เกรงว่าจะถูกคุณปู่กำความลับเข้า แล้วจะนำไปฟ้องฉินซี
ประโยคที่ทั้งมีมารยาทและรู้งานของลู่เซิ่น เมื่อคุณปู่เช่ฟังจบ รอยยิ้มจางๆ เผยขึ้นบนใบหน้าทันที
เขารู้สึกว่า นายลู่เซิ่นคนนี้ถือว่าใช้ได้
แต่ รอยยิ้มบนใบหน้าของคุณปู่เช่อยู่ได้เพียงสามวินาทีเท่านั้น ก่อนที่จะกลับไปเคร่งขรึมดั่งเดิม
เขาหันไปทางลู่เซิ่น แสร้งทำทีท่าโมโห “เลี่ยนแบบนี้ แกคงใช้ไม้นี้สินะถึงได้หลอกล่อฉินซีจนสำเร็จ?”
คุณปู่เช่จ้องมองเขา เขาสงสัยอย่างมาก เรื่องราวระหว่างฉินซีและลู่เซิ่น
ลู่เซิ่นส่ายหน้า “ปู่ครับ ผมกับฉินซีเรารักกันด้วยใจ ฉินซีฉลาดซะขนาดนั้น หากผมคิดไม่ซื่อจะโกหกเธอได้ยังไง”