Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 1534
ฉินซีขมวดคิ้ว ความวิตกปรากฏบนใบหน้าอันเรียบเนียน
เธออยากจะพูดบางอย่างเพื่อเปลี่ยนความคิดของคุณปู่เช่ แต่ในใจมีแต่ความยุ่งเหยิงอีนุงตุงนังมาก
ตอนนี้ฉินซีตอนนี้ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองคิดอะไรอยู่ในใจ
มองเธอที่สีหน้าเป็นกังวล ลู่เซิ่นพูดว่า “ฉินซี ในเมื่อคุณปู่เช่กล่าวเช่นนี้แล้ว พวกเราก็เคารพความคิดเห็นของท่านเถอะ”
เขารู้สึกว่าที่คุณปู่เช่พูดมีเหตุผลมาก ตอนนี้ฉินซีใช้ความรู้สึกในการตัดสินใจ
แต่ลู่เซิ่นไม่คิดว่านี่คือข้อบกพร่อง ในทางตรงกันข้ามมีความสุขมากที่ฉินซีมีการเปลี่ยนแปลงนี้
เมื่อก่อนฉินซีอยู่ในองค์กรได้รับการสั่งสอนให้เป็นคนเลือดเย็นไม่มีความรู้สึก เธอในตอนนั้นเห็นแก่ตัวมาก ไม่เคยคิดถึงคนอื่นเลย
แต่ตอนนี้ แต่ฉินซีใช้ความรู้สึกเหล่านี้ไปแก้ปัญหา ไปไตร่ตรอง ไปใส่ใจ
นี่แสดงให้เห็นอีกด้านว่าฉินซีกำลังค่อยๆออกห่างจากองค์กรแล้ว เริ่มก้าวไปสู่ชีวิตใหม่
ถึงแม้ลู่เซิ่นกับคุณปู่เช่อยู่ด้วยกันไม่นาน แต่ว่าก็รู้สึกได้ชัดเจนว่านิสัยของคุณปู่เช่ดื้อรั้นแค่ไหน
ถ้าเรื่องที่เขาตัดสินใจแล้ว ไม่มีทางที่จะไปเปลี่ยนแปลงได้
แทนที่จะทำให้หงุดหงิด สู้ทำตามความต้องการของคุณปู่เช่จะดีกว่า
“แต่ว่า……..”
ใบหน้าที่เรียบเนียนของฉินซีแสดงออกถึงความเศร้า เธอลังเล ไม่รู้ว่าจะเชื่อฟังดีไหม
คุณปู่เช่มองสีหน้าแบบนี้ของเธอ รู้สึกดีใจมาก คิดว่าฉินซีเป็นห่วงเขาจริงๆ
แต่ว่า เขาไม่อยากเป็นภาระของลู่เซิ่นกับฉินซี
ดังนั้น คุณปู่เช่แกล้งทำเป็นโกรธ “พอได้แล้ว ฉันไม่อยากคุยเรื่องนี้อีก ทำตามที่ฉันบอก พวกคุณสองคนไปเก็บของตอนนี้เลย ออกไปจากที่นี่”
เขากล่าวอย่างเย็นชา สีหน้าจริงจัง
หลังจากพูดประโยคนี้จบ คุณปู่เช่ก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป
มองตามหลังของคุณปู่เช่ฉินซีรีบเดินไปข้างหน้า อยากจะตามไป “คุณปู่เช่ ท่าน……”
ฉินซียังพูดไม่ทันจบ
คุณปู่เช่หันมาขัดจังหวะเธอ “คุณไม่ได้ยินที่ฉันพูดหรอ?การปรากฏตัวของคุณรบกวนชีวิตเดิมของฉัน ตอนนี้ฉันไม่อยากเห็นพวกคุณอีก พวกคุณควรจะรู้ตัวแล้วรีบออกไปซะ อย่าให้ฉันต้องเหลียวหลังมาไล่”
เขาแกล้งทำสีหน้าที่รำคาญ แต่ใจกำลังเจ็บปวด
คุณปู่เช่ดูแลฉินซีเหมือนหลานสาวของตัวเอง พูดแบบนี้ออกไป ในใจเขาก็เสียใจและเสียดาย
แต่ว่า ถ้าเขาไม่พูดแบบนี้ ฉินซีก็จะไม่ยอมไป
ดังนั้น คุณปู่เช่จึงจำเป็นต้องทำเรื่องโหดร้ายแบบนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่รักฉินซี
พูดจบ คุณปู่เช่ก็เดินออกไปอย่างใจเด็ด
ฉินซียืนอึ้งอยู่ที่เดิม มองตามหลังของคุณปู่เช่ในดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาที่ส่องประกายอำพัน
ลู่เซิ่นดูสีหน้ที่เศร้าของเธอ รีบเดินไปข้างหน้า
เขาเอื้อมแขนที่เรียวยาวออกมา โอบไหล่ของฉินซีเบาๆ พูดอย่างอ่อนโยน “ฉินซี คุณอย่าเสียใจเลย พวกเราจะกลับมาอีก”
ลู่เซิ่นตบไหล่เธอเบาๆ ในใจเต็มไปด้วยความสงสาร
ฉินซีเอาหัวพิงบนไหล่ของเขา ถามด้วยความเศร้า “อาเซิ่น คุณคิดว่าคุณปู่เช่กำลังโกรธฉันใช่ไหม”
เธอถามด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น หลับตาเบาๆ ปิดบังน้ำตาในดวงตา
“เป็นไปได้อย่างไร ที่คุณปู่เช่ทำแบบนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะรักคุณ ดังนั้นกังวลว่าถ้าคุณอยู่ที่นี่ต่อไป ก็จะถูกคนในองค์กรค้นพบ และกังวลว่าถ้าตามพวกเราไป ก็จะเป็นภาระของพวกเรา”
ลู่เซิ่นวิเคราะห์และอธิบายให้ เข้าใจความรู้สึกของคุณปู่เช่อย่างละเอียดมาก
ฉินซีก็รู้สึกคลุมเครือว่าเป็นเพราะสิ่งนี้ เพราะคุณปู่เช่ดีกับเธอมาก ดังนั้นฉินซีจึงไม่อยากจากท่านไป รู้สึกผิดมาก
ถ้าคุณปู่เช่ร้ายกับพวกเขาบ้าง เธอก็คงไม่ต้องโทษตัวเองขนาดนั้น
ลู่เซิ่นเห็นเธอเม้มปากไว้ไม่พูดอะไร จึงพูดว่า “คุณไม่ต้องกังวล หลังจากที่พวกเราจากไป ฉันจะให้โจวเอ้อส่งคนมาที่ปกป้องคุณปู่เช่”
เขารู้ความกังวลของฉินซี ปลอบใจด้วยเสียงเบา
ทันทีที่คำกล่าวนี้ออกมา สีหน้าของฉินซีก็ดีขึ้นมากเลย
“อืม คุณต้องบอกโจวเอ้อว่า ให้ส่งคนที่เก่งที่สุดมาสองสามคน มิฉะนั้นถ้าเกิดเรื่องกับคุณปู่เช่ขึ้นมาจริงๆ ชาตินี้ฉันคงจะปล่อยวางไม่ได้”
ฉินซีจ้องมองลู่เซิ่น พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
เธอไม่ได้ล้อเล่น ทั้งหมดนี้มาจากใจเธอ
ลู่เซิ่นเข้าใจความคิดของเธอ เขาพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “ตกลง”
ภายใต้การปลอบใจของลู่เซิ่นฉินซีก็รู้สึกดีขึ้นมาก
ลู่เซิ่นเห็นเธออารมณ์ค่อยๆกลับมาเป็นปกติแล้ว ใบหน้าก็แดงขึ้น กล่าวว่า “พวกเราไปเก็บของกันก่อนเถอะ ถ้าอยู่ที่นี่นานแค่ไหน คุณปู่เช่กับพวกเราก็จะมีอันตรายมากเท่านั้น”
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ พวกเขาต้องวางแผนอนาคตอย่างมีเหตุผล
ฉินซีก็รู้ว่าชักช้าไม่ได้แล้ว เธอเดินตามหลังลู่เซิ่น กลับไปที่ห้อง
ในเวลาเดียวกัน
คุณปู่เช่นำสิ่งที่เขาซ่อนไว้ออกมา วางไว้บนเตียงของฉินซีกับลู่เซิ่นอย่างเป็นระเบียบ ยังมีพัสดุหนึ่งชิ้นอยู่ข้างๆ
ทันทีที่ฉินซีเข้าประตูมา ก็เห็นของกองอยู่บนเตียงมากมาย
เธอขมวดคิ้ว ทิ้งลู่เซิ่นไว้แล้ววิ่งไปที่ข้างเตียง
ลู่เซิ่นตามไป มีความคาดเดาที่คลุมเครือในใจ
ฉินซีแกะพัสดุหนึ่งกล่อง ด้านในเป็นเสื้อผ้าของพวกเขาที่สวมใส่ในช่วงนี้ ซักล้างอย่างสะอาด และพับเก็บอย่างเรียบร้อย
มองก็รู้ว่าคุณปู่เช่เป็นคนทำความสะอาดให้ ฉินซีตาแดงทันใด
เธอรู้ว่า คุณปู่เช่จะไม่โกรธเธอแน่นอน
ถ้าคุณปู่เช่โกรธจริงๆ จะแอบทำสิ่งเหล่านี้ให้เธอได้อย่างไร
สายตาของลู่เซิ่นมองไปที่พัสดุเล็กๆที่อยู่ข้างๆ เขาถามด้วยเสียงเบา “นี่คืออะไร?”
ฉินซีย้ายความสนใจ ขมวดคิ้ว “ไม่รู้”
“เปิดออกมาดูดีกว่า”
เธอพูดไปด้วย แล้วก็ยื่นมือไปแกะ
ทันทีที่เปิดพัสดุออก ทันใดนั้นฉินซีก็กลั้นไว้ไม่อยู่
น้ำตาใสๆไหลอาบแก้ม เธอมองดูขวดและกระป๋องที่อยู่ด้านใน ความรู้สึกต่างๆในใจผสมกันไปหมด
ในนั้นเต็มไปด้วยยาที่อัดเต็มขวดเต็มกระป๋อง
ในแต่ละขวด เขียนชื่อยาและวิธีการใช้ ทำเครื่องหมายไว้อย่างชัดเจน เพราะกลัวว่าฉินซีกับลู่เซิ่นไม่รู้วิธีการใช้
ใส่ใจขนาดนี้ ทำให้ฉินซีอึดอัดใจเล็กน้อย
ลู่เซิ่นก็รู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย หลังจากเห็นฉินซีน้ำตาไหล จึงกอดเธอไว้ “อย่าร้องไห้ ฉันรู้สึกไม่ดี”
เขาพูดด้วยเสียงแหบ ก้มลงช้าๆ จูบหน้าผากขาวๆของฉินซี
ฉินซีร้องไห้แทบหายใจไม่ทัน “อาเซิ่น คุณว่าฉันเลวไหม ฉันไม่ได้ทำอะไรเพื่อคุณปู่เช่เลย ยังทำให้เขาต้องคอยเป็นห่วงตลอด”
เธอรู้สึกว่าตัวเองติดค้างคุณปู่เช่มากเหลือเกิน ชาตินี้เธอคงจะชดใช้ไม่หมด
ความกดดันเช่นนี้ มากจนทำให้ฉินซีหายใจไม่ทัน
ลู่เซิ่นเข้าใจความรู้สึกของเธอ ดวงตาที่มองเธอยิ่งนุ่มนวลและอ่อนโยนขึ้น