Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 176
บทที่ 176 ทำไมคุณถึงชอบเธอ
กลับมาถึงในออฟฟิศ ฉืออี้เหิงขึ้นมารายงานเรื่องราวต่างๆของสัปดาห์นี้ให้ฉีเซินทราบ
“เซ็นต์สัญญากับบริษัทการผลิตยาเทียนอีแล้วหรือ?” ฉีเซินถาม
ฉืออี้เหิงพยักหน้า “เหม่ยทง ยาตัวใหม่ชุดนี้มีโอกาสไม่เลวเลย อนาคตจะต้องสร้างเงินที่น่าพอใจให้กับบริษัทโป๋ทงกรุ๊ปเป็นแน่ครับ”
“นั่นเป็นผลิตภัณฑ์ที่วิจัยพัฒนาของบริษัทการผลิตยาเทียนอี เป็นเพราะว่าเวินจิ้งมาเจรจา คุณก็เลยตกลงเซ็นต์ใช่ไหม?” น้ำเสียงของฉีเซินดูเย็นชา
สีหน้าของฉืออี้เหิงเจื่อนลง “ไม่เกี่ยวกับเวินจิ้งครับ”
“จริงหรือ? ถ้าผมไม่เห็นด้วยหล่ะ?” ฉีเซินลูบที่คางไปมา สายตาที่ยิ้มอย่างมีเลห์
“ท่านคือประธานใหญ่ ก็ต้องฟังท่านเป็นหลัก” ฉืออี้เหิงก้มหน้าลงต่ำ
ฉีเซินเตะเก้าอีกออกเดินเข้ามาใกล้ ยืนที่หน้าฉืออี้เหิง มองดูสีหน้าอันไม่แสดงอารมณ์ใดๆของเขา พูดอย่างเล่นลิ้น “ก็อย่าให้สาวงามมาปั่นหัวเอาแล้วกัน ในเมื่อคุณเซ็นต์แล้วก็เซ็นต์ไป แต่หากว่าเกิดเรื่องขึ้น คุณต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบ”
……
พอถึงกลางวันเขาสองคนก็หาร้านหม้อไฟทานอาหารกัน อั้ยเถียนอดไม่ไหวต้องถามออกมา “ฉีเซินชอบเธอใช่ไหม?”
เขาแม้จะอยู่ด้านข้าง แต่ก็ดูออกชัดเจนว่าฉีเซินมองดูเวินจิ้ง แบบต่างกับคนอื่น
เวินจิ้ง
เวินจิ้งสำลักออกมา “เขามีคู่หมั้นแล้ว”
“ฉินเฟยแต่งงานกับเขาก็เพื่อช่วยบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ให้ฉันเดาฉีเซินก็ไม่น่าชอบคนแบบนั้นหรอก” อั้ยเถียนวิเคราะห์
“ถึงแม้ว่าเขาจะชอบฉัน แต่ฉันก็แต่งงานแล้ว” เวินจิ้งตอบอย่างเรียบๆ
เธอเองก็รู้สึกได้ว่าฉีเซินรู้สึกต่อเธอเช่นนั้น แต่เธอก็แสดงการปฏิเสธออกไป
“มันก็ใช่อยู่ แต่ว่าจิ้งจิ้ง ดวงความรักของเธอในปีนี้มันช่างพุ่งแรงจริงๆ ดูสิ คุณหมอมู่กับฉีเซินก็ล้วนแต่ชอบเธอ แต่เมื่อสามปีก่อน ก็ไม่มีคนมาจีบเธอเลยสักคน แถมการนัดดูตัวยังล้มเหลวอีก”
เวินจิ้งแสยะมุมปาก……ฉีเซินน่ะนับว่าเป็น ดอกท้อเน่าๆสิไม่ว่า?
แต่กลับมู่วี่สิง นั้นเป็นสิ่งนอกเหนือความคาดหมายที่ใหญ่ที่สุดในชีวิต25ปีของเธอ
“มู่วี่สิงไม่ได้ชอบฉัน ดังนั้นจึงไม่นับว่าเป็นดวงความรัก” เมื่อนึกถึงบางสิ่ง สีหน้าของเวินจิ้งก็สลดลง
ถึงแม้ว่าพวกเขาตอนนี้จะใช้ชีวิตราวกับสามีภรรยาทั่วไป แต่จริงแล้วนั้นกลับไม่เหมือนกัน
“พูดถึงเธอ เธอกับคุณเสี้ยงเริ่มมีความสัมพันธ์กันแล้วหล่ะสิ?” เวินจิ้งถามอย่างห่วงใย
ก่อนหน้านี้เสี้ยงหงเคยพาอั้ยเถียนออกงานเลี้ยง ครั้งนี้ผู้หญิงข้างกายเสี้ยงหงนั้นไม่ใช่ดารานางแบบคนไหน แต่เริ่มปฏิบัติกับอั้ยเถียนไม่เหมือนก่อนแล้ว
“นับว่าเพิ่งเริ่มต้นมั้ง แต่ว่า ฉันก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องในอนาคตหรอก ก็รู้แต่ว่าอยู่กับปัจจุบันก็พอ” อั้ยเถียนตอบอย่างเสียงแผ่ว
เธอตอนนี้สามารถทำเพื่อความรักได้ทั้งหมด เธอหวังว่าเสี้ยงหงจะตอบรับเธอเช่นเดียวกัน
แต่ว่า หลังจากที่ใกล้ชิดกับเขา ดูเหมือนว่าจะเป็นเวลาที่รู้สึกแย่ซะมากกว่า
……
บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป
สองสามวันนี้ลู่หวั่นกำลังส่งต่องาน แต่ก่อนเขาต้องเข้าร่วมงานวิจัยและพัฒนาตัวยา แต่เนื่องจากว่าเธอต้องจากเมืองBไปแล้ว ก็จะไม่สามารถเข้าร่วมได้อีก
เธอเคาะประตู แล้วเดินเข้าไปในห้องประธานใหญ่
“ประธานมู่ นี้เป็นรายงานยาตัวใหม่ที่แต่ก่อนเคยมีการวิจัยค่ะ ขอให้ท่านส่งข้อมูลต่อให้กับคนที่จะมารับตำแหน่งหน้าที่แทนฉันคนต่อไปก็พอค่ะ” หลินเวยส่งเอกสารให้เขา
มู่วี่สิงพยักหน้า หลังพิงพนักเก้าอี้ มองลู่หวั่นด้วยสายตาอันห่างเหิน
“พรุ่งนี้ฉันก็ต้องไปประเทศBแล้ว เกรงว่าต่อไปคงจะไม่มีโอกาสได้กลับมาอีกแล้วหล่ะ” น้ำเสียงลู่หวั่นเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง
“อานฉิงเป็นคู่ครองที่นับว่าไม่เลว อำนาจทางครอบครัวก็มีเพียงพอที่จะปกป้องคุณได้ตลอดชีวิต ลู่เจ๋อ ก็จะไม่กล้าลงมือกับคุณได้อีก” มู่วี่สิงตอบอย่างเสียงเรียบ
“ก็จริงอยู่ ดังนั้นฉันควรจะขอบคุณคุณใช่ไหม?” ลู่หวั่นยกริมฝีปากกล่าวขึ้นอย่างประชด
เธอรู้สึกเสียใจอย่างมาก มู่วี่สิงจะทำถึงขั้นนี้จริงๆ
“คุณคือน้องสาวผม ไม่จำเป็นต้องพูดขอบคุณหรอก เรื่องนี้คุณปู่รู้ก็จะต้องรู้สึกดีใจมาก ก่อนจะจากไปหากมีเวลาก็กลับไปหาคุณปู่หน่อยนะ เขาคิดถึงคุณอยู่ตลอด”
ลู่หวั่นเม้มปาก พยักหน้า “งั้นก็บ่ายนี้แล้วกัน พวกเรากลับไปด้วยกัน?”
มู่วี่สิงดูตารางเวลาสักพัก ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร
พวกเขาเดินออกจากบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปพร้อมกัน ลู่หวั่นก็ถือโอกาสเก็บของทั้งหมดของเธอกลับ
ลู่หวั่นกลับมาที่บ้านใหญ่ ครั้งที่แล้วก็เมื่อห้าปีก่อน ตอนนั้นเธอยังไม่ได้ไปเรียนหนังสือที่ต่างประเทศ ความสัมพันธ์กับมู่วี่สิงก็ยังไม่ห่างเหินเช่นนี้
มู่เฉิงกำลังฝึกอักษรอยู่ในห้องหนังสือ เมื่อรู้ว่าลู่หวั่นจะกลับมา ก็รู้สึกดีใจไม่น้อย
“คุณปู่” เธอเดินเข้าไปในห้องหนังสือ ลู่หวั่นดูอักษรของมู่เฉิง ก็ได้แต่ชื่นชมว่า “ตัวหนังสือของคุณปู่ยิ่งนับวันก็ยิ่งมีพลังนัก”
“เจ้าเด็กคนนี้ก็ได้แต่ยอปู่ ปู่เองก็แก่แล้ว เขียนตัวอักษรก็ไม่ดีเหมือนก่อน” มู่เฉิงวางพู่กันลง หยิบไม้เท้าเดินมานั่งลงที่โซฟา
ลู่หวั่นอมยิ้ม “คุณปู่คมในฝักไม่มีทางแก่อยู่แล้ว ถ้าเช่นนั้นกระดาษอักษรนี้คุณปู่ก็มอบให้หลานนะ หลานเองก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้กลับมาเยี่ยมคุณปู่ได้อีก”
“ถ้าหลานชอบ ปู่ก็ไม่หวงอะไร แต่หลานจะต้องไปแต่งงาน ปู่เองก็ใจไม่อยากจาก” มู่เฉิงลูบที่เครา สายตามองไปที่ลู่วี่สิงที่ยืนอยู่ด้านข้าง
การแต่งงานของลู่หวั่นถูกหยิบยกขึ้นมาอย่างกะทันหัน แม้ตัวเขาที่เป็นคุณปู่เองก็ยังถูกปิดตาไว้
“คุณปู่ หากมีเวลาหวั่นหวั่นจะต้องกลับมาเยี่ยมคุณปู่แน่ค่ะ แต่ไม่รู้ว่าวี่สิงจะอนุญาตหรือเปล่า” ลู่หวั่นมองดูมู่วี่สิง น้ำเสียงน้อยใจ
“เธออยากกลับมาก็กลับมาสิ” ประเทศBก็ไม่ไกล นั่งเครื่องบินแค่ไม่กี่ชั่วโมง” มู่วี่สิงตอบด้วยเสียงเรียบ
“ฉันก็กลัวว่าหลังจากที่ฉันแต่งงานแล้ว คุณก็จะไม่อยากเห็นหน้าฉันอีก”
“จะเป็นไปได้อย่างไร! พวกเธอสองคนเติบโตมาด้วยกัน หลานคือคนที่หลานชายตระกูลฉันจะคิดถึงที่สุดอยู่แล้ว ปู่เองก็ตรวจสอบแล้วนะ อานฉิงผู้ชายคนนั้นเขาก็ไม่เลว เบื้องหลังและครอบครัวล้วนแต่คู่ควรกับหลาน การแต่งงานครั้งนี้ปู่เองก็เห็นด้วย” มู่เฉิงตอบอย่างสบายใจ
ลู่หวั่นลดสายตาลง รอยยิ้มเจื่อนจาง “คุณปู่ วี่สิง ขอบคุณพวกคุณที่ดูแลฉันมาตลอดสิบกว่า ปีนี้ หวั่นหวั่นขอขอบคุณอย่างยิ่ง”
พูดไป เบ้าตาของเธอก็เริ่มแดงขึ้น
“อย่าร้องไห้ ถ้าร้องไห้ปู่เองก็จะตกใจ หลาน เจ้าเข้าไปปลอบใจหวั่นหวั่นเขาหน่อยเถอะนะ”
มู่เฉิงยืนขึ้น มองไปที่มู่วี่สิงเตือนเขา “พรุ่งนี้ไปส่งหวั่นหวั่น แทนปู่หน่อยนะ”
“รู้แล้วครับ คุณปู่”
ภายในห้องหนังสือเหลือกันแค่สองคน ลู่หวั่นสะอึกสะอื้น สายตามองที่มู่วี่สิงอย่างเย็นชา
“วี่สิง หลายปีมานี้ คุณมองฉันเป็นแค่น้องสาวมาตลอดจริงไหม?” น้ำเสียงของลู่หวั่นปิดความผิดหวังไว้ไม่มิด
มู่วี่สิงนั่งลงที่ตรงข้ามกับเธอ ยกขาไขว้หากัน สีหน้าอันหยิ่งทะนงและเย็นชา
หลายปีมานี้ ลักษณะของผู้ชายคนนี้ยิ่งนับวันก็เหมือนกับคุณปู่เมื่อสมัยก่อน ดูสูงค่า ไม่มีใครเทียบเคียงได้
ในสายตาของลู่หวั่นที่ชื่นชมเขา เธอชอบเขามาตั้งหลายปี แต่เขากลับเป็นคนส่งเธอให้ไปอยู่ข้างกายชายอื่นด้วยตัวเขาเอง
หลายปีมานี้กับความพยายามของเธอ ก็เพียงเพราะอยากจะยืนอยู่ข้างกายเขา
เพื่อมู่วี่สิง เธอตั้งใจเรียนจนไม่หลับไม่นอน เพื่อจะสอบเข้าให้ได้โรงเรียนเดียวกับเขา สาขาวิชาเดียวกับเขา จะได้คู่ควรเทียบเคียงเขา
แต่เขาหล่ะ กลับไปแต่งงานกับผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง จะให้เธอยอมรับได้อย่างไร!
“อืม คุณเป็นเพียงน้องสาวผม” สีหน้าของมู่วี่สิงเรียบเฉย
“ถ้าอย่างนั้น…….ทำไมถึงต้องเป็นเธอ?” ลู่หวั่นถามอย่างสั่นเทา “ฉันมีอะไรที่เทียบกับเวินจิ้งไม่ได้ ทำไมคุณถึงชอบเธอ และยังแต่งงานกับเธอ……”
หลังถามจบ น้ำตาของลู่หวั่นก็พรั่งพรูออกมา
เธอยอมเสียการควบคุมก็แต่ตอนอยู่ต่อหน้ามู่วี่สิง