Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 194
บทที่ 194 อยู่เคียงข้างฉัน
“ตอนนี้ เป็นเวลาสุดท้ายของเธอแล้ว” คนขับรถพูดอย่างเย็นชา
“จริงๆแล้วเธอเป็นใครกันแน่?”
“ฉันเป็นใครไม่สำคัญ ฉันก็แค่รับเงินมาแล้วทำงานตามหน้าที่” เมื่อพูดจบคนขับรถผลักประตูลง
จากรถ
ท้ายรถถูกเปิดออก เวินจิ้งนั้นถูกเขาลากลงจากรถอย่างแรง
“อย่ามาแตะต้องตัวฉัน” เวินจิ้งผลักเขาออกด้วยความโกรธ แต่แรงของผู้ชายเยอะมาก เวินจิ้งถูก
ลากจนหัวเข่าถลอกไปหมดแล้ว
ความเจ็บนี้ทำให้เธอลุกขึ้นยืนไม่ไหว ค่ำคืนที่โดดเดี่ยว ข้างหน้าคือหน้าผาที่อันตราย เธอถูก
ผลักไปบนหน้าผา
รอบด้านมืดมิดไปหมด เวินจิ้งถูกผลักอย่างแรงจนคุกเข่าลงไป เผชิญหน้ากับหน้าผาทั้งสูงทั้งลึก
ใบหน้าของเธอค่อยๆขาวซีด
คนที่อยู่เบื้องหลัง…อยากให้เธอตาย?
“ฉืออี้เหิงให้เธอมาฆ่าฉันหรอ?” เวินจิ้งเงยหน้าขึ้นมาทันที
นอกจากผู้ชายคนนั้น เธอก็ไม่รู้แล้วว่าจะมีใครแค้นเธอได้ขนาดนี้
สีหน้าคนขับรถยังคงเย็นชาเหมือนเดิม “เธอคิดว่าใช่ก็ใช่”
เวินจิ้งขมวดคิ้ว กัดปากอย่างแรง วินาทีนั้น เธอเจ็บปวดไปจนถึงก้นบึ้งของหัวใจ
ไม่…..เธอตายไม่ได้
มือของชายคนนี้วางอยู่บนด้านหลังเธอ เหมือนว่าจะผลักเวินจิ้งลงไป
มือของเธอจะคว้าหาอะไรจับไว้ แต่รอบๆมีแต่หญ้าและป่ารกร้าง ที่คว้าจับได้ก็เป็นเพียงแค่ดิน
เหนียว
ภายในใจของเวินจิ้งค่อยๆ จมลงไป ค่ำคืนที่มืดมิด ใต้หน้าผานี้มีอะไรบ้างก็ไม่รู้
ถ้าเธอตกลงไป ไม่ต้องสงสัยเลยมีแต่จุดจบอย่างเดียว
หลับตาสนิท เธอใช้แรงสุดกำลังกระโจนเข้าใส่ชายผู้นี้ เห็นได้ชัดว่าคนขับรถรับมือไม่ทัน ใน
ที่สุดก็ถูกเวินจิ้งทับไว้
แต่ในมือของเธอไม่มีอาวุธ แรงกำลังสองมือเทียบไม่ได้กับแรงของผู้ชาย
“เห้ย สาวน้อยคนนี้ดื้อรั้นจริงๆ คิดว่าตัวเองจะหนีได้ยังงั้นหรอ? ฝันไปเถอะ” ผู้ชายคนนี้พูดด้วย
ความโกรธ เขาล็อคแขนเวินจิ้งไว้จากด้านหลังแล้วผลักไปจนถึงข้างๆ หน้าผา
เท้าของเวินจิ้งเหยียบย่ำบนเศษหิน ครึ่งตัวของเขาเกือบจะตกหน้าผา เธอจับแขนของผู้ชายไว้
ก่อน อาศัยแรงกำลังของชายคนนี้ยึดตัวเธอไว้
“นาย นี่มันคือการฆ่าคนนะ…..มันผิดกฎหมาย!” เวินจิ้งตะโกนด้วยความโกรธ พยายามที่จะถอย
กลับไป
ผู้ชายตาแดงก่ำ ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ใครใช้ให้เธอไปขัดใจกับคนที่ไม่ควรขัดใจ!”
เวลานี้ มีเสียงเบรกรถที่แสบแก้วหู ในขณะเดียวกันแสงสว่างของไฟหน้ารถส่องเข้ามา เวินจิ้ง
หลับตาลงโดยไม่รู้ตัว กลับถูกผู้ชายผลักไปข้างหลังอีกครึ่งเมตร เท้าของเธอแทบจะไม่มีแรงแล้ว
ล้มนั่งลงไป ทำได้เพียงดึงขาผู้ชายไว้ถึงจะไม่ตกลงไป
มองเห็นว่ามีคนเข้ามา ผู้ชายหน้าบึ้งตึง ยิ่งใช้แรงผลักเวินจิ้งลงไป แต่พึ่งได้ลงมือ ไหล่เขาก็ถูก
คนล็อคเอาไว้ เวินจิ้งเงยหน้าขึ้นมา ทั้งที่แสงนั้นมืดสลัว แต่ใบหน้าที่หล่อเหลาของมู่วี่สิงเข้ามา
ใกล้มาก ในวินาทีนั้นเธอเกือบจะลืมทุกอย่าง
“จับมือฉันไว้” เห็นเวินจิ้งเหม่อลอย สีหน้ามู่วี่สิงแทบจะไม่ค่อยดีนัก
เวินจิ้ง ข้อมือเวินจิ้งถูกมู่วี่สิงจับไว้ เธอปล่อยมืออีกข้างหนึ่ง จับที่อุ้งมือของมู่วี่สิงทันที
ที่แท้ชายที่จับเธอมาถูกเกาเชียนกำราบแล้ว เวินจิ้งโล่งอก วินาทีที่มู่วี่สิงดึงเธอขึ้นมานั้น ร่างกาย
ไม่มีแรงเลย ไม่กล้าที่จะหันไปดูด้านหลัง ผู้ชายคนเมื่อกี้…..ถ้าไม่ใช่ว่าเธอจับเขาไว้สุดชีวิต เกรง
ว่า……
เมื่อลืมตาขึ้น มู่วี่สิงค่อยๆโอบเธอเข้ามาในอ้อมกอด กลิ่นอายที่คุ้นเคยวนเวียนรอบๆ หัวใจที่
เต้นผิดจังหวะของเวินจิ้งค่อยๆ สงบลง
“ทำไมคุณ….ถึงมาอยู่ที่นี่ได้” ตอนที่เวินจิ้งพูดนั้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสั่นเทา
เนื้อตัวเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ ร่างกายสั่นจนควบคุมไม่ได้
มู่วี่สิงจับหน้าที่ขาวซีดของเวินจิ้งขึ้นมา ก้มจูบลงระหว่างหัวคิ้ว เขากอดเธอแน่นขึ้น
เขากำลังตัวสั่น และกลัวเหมือนเดิม
ตอนลงรถเขามองไม่เห็นตัวของเวินจิ้ง ค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ เขาถึงมองเห็นเวินจิ้งกำลังต่อสู้ขัด
ขืนอยู่ที่หน้าผา วินาทีนั้น การเต้นของหัวใจเหมือนกับกลับมาเต้นใหม่ โชคดี ที่เธออยู่
“ทำไมฉันถึงให้คุณหญิงมู่อยู่คนเดียว” มู่วี่สิงพูดเสียงเบา
ก้นบึ้งหัวใจของเวินจิ้งค่อยๆ มีความอบอุ่นกระจายออกมา ฟังเสียงหัวใจของมู่วี่สิงเต้น เธอ
ค่อยๆหลับตาลง และปล่อยวาง……
ห่างไม่ไกลออกไป เกาเชียนกำราบคนขับรถคนนั้นไว้ได้แล้ว มู่วี่สิงอุ้มเวินจิ้งไปที่รถ แต่เขาลง
รถเดินไปหาผู้ชายคนนั้น
ผู้ชายคุกเข่า เกาเชียนมัดมือเขาไว้ จับที่คอเสื้อ ผู้ชายเลยต้องเงยหน้า
เห็นมู่วี่สิง สีหน้าเขาสงบมาก
“ใครสั่งนายมา?” มู่วี่สิงหรี่ตา พูดน้ำเสียงที่เยือกเย็น
ผู้ชายไม่ตอบสักคำ กัดลิ้นตัวเอง พอมู่วี่สิงเห็นท่าทีแปลกๆ ของเขา ถึงได้รู้ว่าผู้ชายกัดลิ้นฆ่าตัว
ตายแล้ว
“ประธานมู่……” เกาเชียนรีบจับลมหายใจของผู้ชาย ชักสีหน้าลง
มู่วี่สิงยืนขึ้น เกาเชียนย่นคิ้ว นัยน์ตาอยู่ไม่นิ่ง
สักพัก เขากำชับ “ให้ไปสืบมาว่าระยะนี้เขาติดต่อกับใครบ้าง สำหรับตัวเขา ส่งให้ตำรวจจัดการ
เลย”
ตลอดทางเวินจิ้งหลับไม่สนิท ในฝันปรากฏภาพที่หน้าผาซ้ำๆ ผู้ชายที่มีแผลบนหน้าผลักเธอลง
หน้าผาอย่างโหดร้าย
เอ่อ…
เวินจิ้งลืมตาทันที สภาพแวดล้อมรอบๆที่แปลกใหม่ทำให้เธอตัวสั่น
ที่นี่คือ….โรงแรม?
ข้างนอกท้องฟ้าสว่างนานแล้ว เวินจิ้งนั่งลง นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เธอไม่รู้ตัวว่าหลับไป
ตั้งแต่เมื่อไร
ผู้ชายที่มีแผลคนนั้นล่ะ?
เวลานี้ ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างนอก ตอนลืมตาขึ้นมา มู่วี่สิงก็เดินเข้ามาแล้ว
เวินจิ้งแทบจะรีบวิ่งไปกอดเขาทันที มู่วี่สิงลูบที่หัวของเธอ “ไม่เป็นไรนะ?”
เขาจับหน้าเธอขึ้น พยายามทำสีหน้าให้อ่อนโยน แต่ความเหนื่อยล้าในแววตาที่ไม่สามารถปิดบัง
ได้
เขาไม่ได้นอนทั้งคืน?
เวินจิ้งเขย่งเท้าขึ้นสบนัยน์ตาสีดำราวกับก้อนหินภูเขาไฟของมู่วี่สิง เธออยากร้องไห้แต่ร้องไม่
ออก
“มู่วี่สิง ขอบคุณมากนะ ที่ช่วยฉันไว้” พูดซ้ำๆ อย่างชัดถ้อยชัดคำ
เมื่อคืนถ้าไม่ใช่เขาเข้ามา เธอคาดไม่ถึงจริงๆว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง
“ห้ามพูดคำว่าขอบคุณ ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณที่อยู่ข้างกายผม” นัยน์ตาของมู่วี่สิงเต็มไปด้วย
ความอ่อนโยน เชยคางเธอขึ้น แล้วค่อยๆ จูบปากเธอ
เวินจิ้งเป็นฝ่ายโอบไหล่เขา ถึงจะอ่อนเพลียแค่ไหนก็ตาม แต่วินาทีนี้ไม่ใช่เพียงแค่นี้ พอเธอผลัก
มือ มู่วี่สิงก็อยู่ใต้ร่างกายของเธอ ปากเรียวบางของมู่วี่สิงยิ้มออก “อืม? คุณหญิงมู่รีบขนาดนี้เลย?”
เวินจิ้งแก้มแดง จูบมู่วี่สิงอีกครั้ง ครั้งนี้ ผู้ชายจากที่ถูกจูบหันกลับมาเป็นฝ่ายจูบเอง…..
…..
ตระกูลฉี
ฉีเซินไม่ได้นอนทั้งคืนเลย ผู้ช่วยตรวจสอบตำแหน่งของรถคันนั้นได้แล้ว แต่ตอนพบเห็น ในรถ
ก็ไม่มีคนอยุ่แล้ว
ตอนหลังพึ่งมารู้ว่า มู่วี่สิงพาเวินจิ้งไปแล้ว
ก้นบึ้งของหัวใจ รู้สึกอัดอั้น ต่อยเข้ากำแพงหนึ่งหมัด ฉีเซินหรี่ตาด้วยความเยือกเย็น
เมื่อเงยหน้าขึ้น ไม่รู้ว่าฉินเฟยมายืนอยู่ที่หน้าประตูตั้งแต่เมื่อไร มองเขาอย่างเย้ยหยัน
“ยังไงที่นี่ก็เป็นบ้านเก่าแก่ เมื่อคืนเธออยู่ที่ห้องสมุดทั้งคืน เดี๋ยวคุณนายฉีสงสัยความสัมพันธ์ของเรานะ” ฉินเฟยพูดแบบไม่พอใจ
ฉีเซินยิ้มอย่างไร้ความรู้สึก “แต่ไหนแต่ไรพวกเราไม่เคยมีความรู้สึกดีๆ ต่อกันอยู่แล้ว”
ฉินเฟยช็อก ปากผู้ชายคนนี้ร้ายกาจจริงๆ!