Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 225
บทที่ 225 คุณมาได้อย่างไร
ทุกอย่างพร้อม ประตูห้องโดยสารค่อยๆปิด
หัวใจของเวินจิ้งค่อยๆจมลง ไหล่ถูกฉืออี้เหิงล็อคไว้ เธอจำเป็นต้องมองเขา
“ฉืออี้เหิง คุณปล่อยฉันลงไปตอนนี้ก็ยังทัน” เวินจิ้งเตือนเขา
“คุณคิดว่าเป็นไปได้เหรอ ตอนนี้ฉินเฟยยอมรับผิดแล้ว เธอจะต้องโยงมาถึงฉันแน่นอน ฉันไม่อยากติดคุก” ฉืออี้เหิงน้ำเสียงเหนื่อยและหมดหวัง
เขาพยายามมาตั้งหลายปี ไม่ได้เพื่อไปทรมานในคุก
ตอนนี้เขาไม่ต้องการอะไรมาก ขอแค่เวินจิ้งอยู่ข้างๆ ก็เพียงพอแล้ว
มองไปที่ใบหน้าอันบอบบางของเวินจิ้ง ดวงตาของเขาร้อนขึ้นเรื่อย ๆ
เวินจิ้งหลบสายตาของเขา ยังคงมองออกไปข้างนอก
ช่องว่างของประตูโดยสารเริ่มเล็กลง เธอยังคงมองออกด้านนอก รถสีดำที่คุ้นเคยผ่านเข้ามาในสายตา
แสงในดวงตาของเธอค่อย ๆ สว่างขึ้น มองไปที่รถคันนั้น เธอมั่นใจ คือมู่วี่สิง
แต่ในเวลานี้ เครื่องบินกำลังบินขึ้นอย่างช้าๆ
รถหยุดลง เกาเชียนเล็งไปที่เฮลิคอปเตอร์อย่างรวดเร็ว รายงานว่า “ประธานมู่ ฉืออี้เหิงกับคุณนายอยู่บนเครื่องบิน”
สายตาของชายคนนั้นหรี่ลง “เครื่องบินกำลังจะมา”
“ใช่ครับ เตรียมการโจมตี”
มู่วี่สิงลงจากรถ เครื่องบินบินขึ้นยังไม่สูงมาก เครื่องบินรบสี่เครื่องค่อยๆล้อมรอบ เฮลิคอปเตอร์ถูกล้อมไว้ แม้แต่พื้นที่ที่บินสูงขึ้นก็ถูกปิดกั้น
เวินจิ้งมองด้านล่างตลอด ร่างของมู่วี่สิงอยู่ในสายตาของเธอตลอด ใจของเธออึดอัดมาก
“คุณฉือ มีการโจมตี” นักบินหันไป สีหน้าแย่มาก
ฉืออี้เหิงมองออกไป ล้อมรอบไปด้วยเครื่องบินรบ เขาจับข้อมือของเวินจิ้งอย่างแน่น
“ฉันประเมินมู่วี่สิงต่ำเกินไป”
เวินจิ้งยิ้มอย่างเย็นชา “คุณหนีไม่รอดหรอก”
“ใครพูด”
พูดจบ แขนยาวของชายคนนั้นกอดคอของเวินจิ้งไว้ ประตูห้องโดยสารเปิดออกช้าๆ เวินจิ้งมองฉืออี้เหิงอย่างตื่นตกใจ
เขาคิดจะทำอะไร
“ตอนนี้เครื่องบินไม่สามารถบินขึ้นได้ พิจารณาว่าจะลงจอดหรือไม่ มิฉะนั้น รอให้พวกเขายิงกระสุน เกรงว่าเครื่องบินลำนี้จะรับไม่ไหว” นักบินเตือน
ฉืออี้เหิงหรี่ตาอย่างเย็นชา จับเวินจิ้งแล้วลากไปที่ประตูห้องโดยสาร เหนือพื้นดินไม่เกินห้าเมตร มู่วี่สิงสามารถมองเห็นเวินจิ้งกับฉืออี้เหิง
ฉืออี้เหิงกำลังจะขู่เวินจิ้ง
มู่วี่สิง ภรรยาของคุณอยู่ในมือฉัน ถ้าไม่สั่งให้เครื่องบินรบของคุณถอยไป ฉันจะผลักเธอลงไป” เสียงของฉืออี้เหิงส่งผ่านมาครบทุกคำพูดไม่มีตกหล่น
มู่วี่สิงเงยหน้า สบตากับเวินจิ้งที่มีแววตาตื่นตกใจ ค่อยๆกำมือแน่นขึ้น
เวินจิ้งกลัวความสูง ได้ยินที่ฉืออี้เหิงพูด ขาอ่อนแรงยืนไม่ไหว
แม้ว่าจะไม่ได้สูงมากนัก แต่ถ้าตกลงไป ด้านล่างเป็นพื้นเรียบ ก็อันตรายไม่น้อยเหมือนกัน
“ฉืออี้เหิง คุณช่างใจร้ายจริง” เวินจิ้งด่าว่า
“ฉันใจร้ายก็เพราะถูกคุณบังคับ พวกคุณไม่เคยให้ทางเดินกับฉันเลย”
“คุณทำผิดกฎหมาย สมควรได้รับการลงโทษ”
“ไม่ คุณต้องโทษฉินเฟย เรื่องทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับฉัน”
“ฉืออี้เหิง คุณอย่าทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีกเลย” เวินจิ้งกล่าวเสียงเบา
เธอรู้ว่าฉืออี้เหิงในตอนนี้เป็นเหมือนคนบ้า เขาเปลี่ยนเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน
แต่ว่า เขาไม่มีทางให้เลือกแล้ว
เธอมองไปที่ชายข้างๆ มือพยายามขัดขืน ถ้าโดดลงไปในระยะนี้ เพียงหวังแค่เพียงมู่วี่สิงจะรับเธอไว้ได้
“คุณคิดจะทำอะไร” รับรู้ความเคลื่อนไหวของเวินจิ้ง ฉืออี้เหิงบีบคอของเธออย่างรุนแรง
เวินจิ้งสำลักจนหน้าซีด เท้าลื่น ทั้งตัวย้ายไปด้านนอกประตูโดยสาร
ฉืออี้เหิงคว้าข้อมือของเธอทันที
เวินจิ้งมองด้านล่าง มู่วี่สิงอยู่ด้านล่างโดยตรงเธอ ทันใดนั้นเธอก็ยิ้ม ใช้แรงทั้งหมดผลักฉืออี้เหิงออก
มือของฉืออี้เหิงยังคงอยู่ในอากาศ ต้องการจะจับเวินจิ้งไว้ แต่จับได้แค่เสื้อผ้าของเธอเท่านั้น “ฉั่วะ” ดังขึ้น ในที่สุดเธอก็จากเขาไป
วินาทีต่อไป เครื่องบินรบก็ล้อมเขาไว้ ฉืออี้เหิงถูกจัดการตามระเบียบ
เวินจิ้งหลับตา ไม่รู้ว่าตัวเองจะตกไปในทิศทางไหน วินาทีนี้ในใจสงบขึ้นมาก ครึ่งเมตรสุดท้าย มู่วี่สิงวิ่งมาอย่างรวดเร็ว ทันใดที่กระพือเข้าหาเวินจิ้งล้มลงแล้วพลิกตัวกลับ เวินจิ้งอยู่บนตัวเขา ไม่มีอาการบาดเจ็บ
อกที่อ่อนไยนทำให้เวินจิ้งตะลึง ค่อยๆลืมตาขึ้น ใบหน้าอันหล่อเหลาของมู่วี่สิงผ่านเข้ามาในม่านตา
เลือดแพร่กระจาย เวินจิ้งหันไปมอง ข้อศอกของมู่วี่สิงกระแทกพื้น ทำให้เกิดบาดแผลเลือดออก โชคดี อาการไม่หนัก
“มู่วิ่งสิง……” เวินจิ้งน้ำตาไหลออกมาควบคุมไม่ได้ เต็มดวงตา
เธอกอดเขาไว้แน่น
มู่วี่สิงยกมือขึ้น เสียงแหบต่ำ “คุณนายมู่ อย่าร้องไห้ ฉันจะรู้สึกปวดใจ”
เวินจิ้งยิ้ม กอดคอของมู่วี่สิงไว้ โดยไม่คำนึงสถานการณ์ในตอนนี้ ก้มลงจูบที่ริมฝีปากบางๆของเขา
ไม่ไกลจากตรงนี้ ซูยีนอยากลงจากรถ แต่ลี่หนานเฉิงจับข้อมมือเธอไว้
“แหมๆ เพื่อนฉันดุร้ายเกินไป ถึงกับระดมกองทัพเลย เพื่อได้จูบนางสาวสวยๆ” ลี่หนานเฉิงถอนหายใจ
“คุณไม่เห็นเหรอเมื่อครู่เวินจิ้งมีอันตรายแค่ไหน ฉัยตกใจหมด…..” ซูยีนหน้าซีด แต่มู่วี่สิงก็ช่วยเวินจิ้งไว้ทัน เธอจึงรู้สึกสบายใจ
เปิดประตูแล้วลงจากรถ ซูยีนวิ่งเข้าไป เวินจิ้งก็พยุงมู่วี่สิงลุกขึ้นแล้ว เกาเชียนช่วยพามู่วี่สิงขึ้นรถ
ในอากาศ นักรบได้นำฉืออี้เหิงไปแล้ว จุดหมายคือสถานีตำรวจ
เวินจิ้งเห็นซูยีนกับลิ่หนานเฉิงเดินเข้ามา คิดว่ามาเพราะความเป็นห่วงเธอ
“เวินจิ้ง เธอไม่เป็นไรนะ”
“โชคดีมาก” เวินจิ้งยิ้ม เมื่อครู่เธอคิดถึงผลที่จะตามมามากมาย ผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดคือการถูกฉืออี้เหิงจับตัวไป แต่เธอก็จะพยายามคิดหาทางหลบหนี
แต่เธอไม่คาดคิดว่า มู่วี่สิงจะตามมาทัน
“เพื่อนฉันเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยคุณ” ลี่หนานเฉิงหรี่ตามอง คิดไม่ถึงว่ามู่วี่สิงจะแคร์เวินจิ้งขนาดนี้
ในความทรงจำ เคยเห็นความบ้าคลั่งเช่นนี้ของเขากับมู่ซือซือเท่านั้น
การบาดเจ็บของมู่วี่สิงไม่ร้ายแรงมาก เวินจิ้งพาเขาไปโรงพยาบาล ทำแผลและสังเกตอาการสักสองสามวันก็ได้แล้ว
ห้องผู้ป่วยถูกจัดไว้ในห้องสุดหรู เวินจิ้งยังรู้สึกกลัวๆ เมื่อนึกถึงความบ้าคลั่งของฉืออี้เหิง เธอไม่ค่อยสบายใจ
เกาเชียนเฝ้าอยู่ด้านนอก เวินจิ้งออกไปถามเขา “ฉืออี้เหิงตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง”
“คุณฉือถูกนำตัวไปที่สถานีตำรวจแล้ว ประธานมู่ส่งหลักฐานไปที่สถานนีตำรวจตั้งนานแล้ว เรื่องวิทยานิพนธ์ของคุณนาย ฉินเฟยกับฉืออี้เหิงเป็นผู้ต้องสงสัย”
เวินจิ้งขมวดคิ้ว “ฉันจะได้เจอฉินเฟยไหม”
“ฉันไปจัดการให้”
ซื้ออาหารเบา ๆ แล้วกลับไปที่ห้องผู้ป่วย มู่วี่สิงกำลังทำงานอยู่
สีหน้าเวินจิ้งไม่ค่อยพอใจ จึงปิดคอมพิวเตอร์ของเขา
“รักษาตัวสำคัญกว่า”
“บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล”
“ไม่ได้” เวินจิ้งปฏิเสธ นั่งข้างๆมู่วี่สิง มองผ้าพันแผลบนแขนของเขา ทุกครั้งที่ฉันคิดถึงเขาใช้ร่างกายของเขาปกป้องเธอ เวินจิ้งกัด
สำลักไม่อยู่
เขาทำเช่นนี้ได้อย่างไร…..
เธอหันมาถามเบาๆ “มู่วี่สิงคุณมาได้อย่างไร”