Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 24
บทที่ 24 ชินตั้งนานแล้ว
ช่วงพลบค่ำเวินจิ้งเห็นว่ายังมีรายชื่อผู้ป่วยอีกครึ่งหนึ่งที่ยังไม่ได้ลงบันทึก ลองประมาณคร่าวๆแล้วถ้าจะทำให้เสร็จทั้งหมดก็คงดึกมาก แล้วก็ไม่รู้ว่ากี่โมงกว่ามู่วี่สิงจะผ่าตัดเคสเสร็จ เดิมคิดจะกลับบ้านด้วยตัวเอง แต่เวินจิ้งเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ ดังนั้นไม่นานก็กลับทำงานต่อจนได้
กระทั่งเที่ยงคืนมู่วี่สิงถึงได้ออกมาจากห้องผ่าตัด เย่ถิงผู้กุมอำนาจตระกูลเย่เดินเข้ามา “คุณหมอมู่ ลูกสาวผม…”
“การผ่าตัดผ่านไปได้อย่างราบรื่นครับ” มู่วี่สิงรับคำง่ายๆ
เย่ถิงกักเก็บสีหน้าตื่นเต้นไว้ไม่อยู่ เขาพ่นลมหายใจ “คุณหมอมู่ ขอบคุณคุณมากจริงๆครับ”
สีหน้าของมู่วี่สิงราบเรียบดังเดิม พอออกมาก็คิดถึงแต่เวินจิ้ง เขารีบกลับไปที่ห้องทำงาน
พอเดินไปถึงหน้าประตูก็กำชับพยาบาลที่ตามมาด้านหลัง “พวกคุณไปดูแลเย่กวนกวน ถ้ามีเรื่องอะไรให้รีบแจ้งให้ผมทราบ”
ในห้องทำงาน เวินจิ้งสวมแว่นตาไร้กรอบ ผมยาวสลวยดุจผืนน้ำถูกรวบไว้เป็นมวย สายตาแพ่งไปที่คอมพิวเตอร์อย่างตั้งใจ
มู่วี่สิงชะงักเท้าลง คิ้วตาเย็นชาอ่อนโยนลงหลายส่วน
เวินจิ้งไม่ได้ยินเสียง กระทั่งมือของมู่วี่สิงคว่าเข้าที่ตัวของเธอเธอถึงได้มีปฏิกิริยา
“ผ่าตัดเสร็จแล้วเหรอคะ?” เวินจิ้งถามเขา
“อืม” มู่วี่สิงหลุบตาลง สีคล้ำใต้ตาเห็นได้ชัดเจน ดูออกได้ไม่ยากว่าเขาล้ามาก
เวินจิ้งมองเขาอย่างตกใจ ตั้งแต่บ่ายจนถึงตอนนี้ เคสผ่าตัดก็กินเวลาไปสิบชั่วโมงเต็มๆ
ก่อนหน้านี้เขาก็ทำแบบนี้บ่อย ๆงั้นหรือ?
ปกติเวลาเธอทำงานเริ่มเก้าโมงเช้าเลิกห้าโมงเย็นเป็นกิจวัตร ส่วนเรื่องการทำงานล่วงเวลานั้นเธอคัดค้านหัวชนฝา
แต่งานของมู่วี่สิงไม่เกี่ยวกับเรื่องทำงานล่วงเวลาหรือไม่ เวลาที่คนไข้ต้องการเขา เขาก็ต้องทำงานตลอดเวลา
“พวกเรากลับกันเถอะ” เวินจิ้งจัดการเอกสารเรียบร้อยแล้ว ก้มดูเวลา ถ้ากลับก็คงดึกมากเหมือนกัน
“วันนี้ผมต้องนอนที่นี่ ผมจะให้คนขับรถไปส่งคุณที่บ้าน เย็นพรุ่งนี้ผมค่อยไปรับคุณ” มู่วี่สิงพูด
เวินจิ้งถึงค่อยรู้ว่าที่แท้ในห้องทำงานก็มีห้องนอนอยู่ข้างในห้องหนึ่ง อุปกรณ์ใช้ชีวิตครบครัน คิดไปมามู่วี่สิงก็คงใช้ชีวิตอยู่ที่นี่หลายคืนเช่นกัน
“คุณอยู่คนเดียวได้แน่นะคะ?” เวินจิ้งถามเขา
ประโยคนี้เป็นคำถามใต้จิตสำนึกล้วน ๆ
เดิมที่อยากถามเขาเรื่องเงินเดือนถูกทิ้งไว้ด้านหลังตั้งนานแล้ว
ตอนนี้สติของมู่วี่สิงค่อนข้างย่ำแย่พอควร เขาอยู่ในห้องผ่าตัดย่อมไม่ได้กินอาหาร กระทั่งมาถึงตอนนี้เธอก็เป็นห่วงร่างกายเขาจริงๆ
แต่ว่ามู่วี่สิงชินตั้งนานแล้ว มุมปากเขากระตุกขึ้น “คุณนายมู่เป็นห่วงผมงั้นเหรอ?”
เวินจิ้งรู้สึกเขิน สะบัดหน้าลงแรงๆ
“คุณพักสักหน่อยเถอะ ฉันจะไปซื้อของกินมาให้”
จบคำเวินจิ้งก็วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว มู่วี่สิงมองเงาร่างเล็กบาง ตาดำค่อยๆลึกล้ำขึ้น
คนขับรถรอเวินจิ้งอยู่ด้านนอก พอเห็นเธอออกมาก็เปิดประตูรถออกให้เธออย่างนอบน้อม
เวินจิ้งสั่นหน้า บอกอย่างสุภาพ “รอฉันอีกเดี๋ยวนะคะ”
เวินจิ้งที่รีบร้อนออกไปซื้อโจ๊กรสอ่อน พอกลับมาถึงห้องทำงานกลับพบว่าในห้องปราศจากเงาคน มู่วี่สิงไม่อยู่
และในเวลานี้เอง ในอีกฝั่งของระเบียงทางเดินฝั่งห้องผู้ป่วย มู่วี่สิงกำลังทำการรักษาฉุกเฉินให้เย่กวนกวน
การผ่าตัดเพิ่งสิ้นสุดได้ไม่เดินครึ่งชั่วโมง เย่กวนกวนก็เกิดอาการหัวใจหยุดเต้น ตอนนี้กำลังช่วยให้พ้นจากเส้นอันตราย
ใบหน้าหล่อเหลาของมู่วี่สิงเคร่งเครียด หลังจากผ่านการช่วยชีวิตไปสองครั้ง อาการของเย่กวนกวนก็กลับมาสู่สภาวะปกติลงในที่สุด
ทุกคนถอนหายใจโล่งอก
อำนาจของตระกูเย่แห่งเมืองหนานสูงเทียมฟ้า หากเย่กวนกวนที่เป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลเย่เกิดอะไรขึ้นมาล่ะก็ เกรงว่าหมอและพยาบาลทุกคนที่ส่วนเกี่ยวข้องก็คงจะลำบากไม่น้อย
มู่วี่สิงรับเคสคนไข้นี้มาก็เท่ากับบนบ่าได้แบกรับภาระอันหนักอึ้ง
“คุณหมอมู่ คุณดูแลอยู่ที่นี่เถอะ ผมกลัวว่ากวนกวนตะผ่านคืนนี้ไปไม่ได้…” เห็นมู่วี่สิงทำท่าจะจากไป เย่ถิงก็เข้ามาขวาง