Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 268
บทที่ 268 ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่คุยเรื่องความรักตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
“แล้วคุณคิดว่าเขาชอบคุณอะไรล่ะ”
“แล้วประธานฉีล่ะ เมื่อก่อนคุณชอบฉันอะไรค่ะ” เวินจิ้งย้อนถาม
เธอรู้สึกได้ว่าฉีเซินไม่ได้ธรรมดาต่อเธอ
ฉีเซินไอออกมา ที่ชอบเวินจิ้ง อาจจะเป็นเพราะผีเข้าสิงละมั่ง
“ผมกับเขาไม่เหมือนกัน”
“สำหรับฉันแล้ว มู่วี่สิงเป็นที่พึ่งได้มากกว่าคุณอีก” เวินจิ้งไม่ได้สนใจเขาอีก
ตอนกลางคืน มู่วี่สิงมารับเธอ
ฉีเซินออกไปพอดี เห็นมู่วี่สิง ริมฝีปากบางก็ยิ้มอย่างเยาะเย้ย
“รักกันมากจริงๆ แต่ว่า ก็ใกล้หมดอายุแล้วแหละ”
“ฉีเซิน อย่าเสียแรงเปล่าๆ ล่ะ”
“ใครจะไปรู้ ฉันก็อยากรู้จังเลย ตกลงงานแต่งงานนี้จะเป็นไปอย่างราบรื่นไหม” เขาพูดแบบเหมือนมีความหมายแฝง
สีหน้าของมู่วี่สิงเคร่งเครียดและตื่นเต้นขึ้นมาเรื่อยๆ
เมื่อเวินจิ้งเข้าใกล้เขา สังเกตอารมณ์โกรธเคืองของเขาได้อย่างชัดเจน
“เป็นไรหรอ”
มู่วี่สิงส่ายหัว เก็บอารมณ์กลับมา “คุณหญิงมู่ รับปากกับผมนะ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็อย่าจากผมไปนะ หืม?”
เขามองเธออย่างจริงจัง ความรักใคร่ที่ทอประกายจากตาทำให้เวินจิ้งนึกว่าเป็นภาพหลอน
“ฉัน…แน่นอนว่าไม่” เวินจิ้งตอบกลับ
แค่มู่วี่สิงไม่จากเธอไป เธอก็จะไม่
ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ เวินจิ้งได้รับใบแจ้งสอบรอบที่สองอีกครั้งของมหาวิทยาลัยหลินไห่อย่างคาดคิดไม่ถึง
สัปดาห์นี้เธอติดต่อศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยหลินไห่ตลอด และยังส่งจดหมายแนะนำอีกด้วย ไม่คิดเลยว่าจะมีการตอบกลับจริงๆ
ไป๋สือ
สำหรับเวินจิ้งแล้วชื่อนี้คุ้นหูมาก แต่เท่าที่เธอรู้ ศาสตราจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังคนนี้ไม่รับนักศึกษาปริญญาโทเข้าอีกแล้ว
ทำไมถึง…
ส่วนเธอเองก็ไม่ได้ส่งจดหมายแนะนำให้เขาด้วย
แต่อีเมลเป็นของมหาวิทยาลัยหนานเฉิงก็จริง ไม่มีผิดพลาดแน่นอน
เวินจิ้งรีบบอกเรื่องนี้ให้มู่วี่สิงรู้ทันที
“ถ้ามีโอกาสแล้วก็เตรียมพร้อมให้ดี” น้ำเสียงของมู่วี่สิงเหมือนกับปกติ
เวินจิ้งบอกข้อสงสัยของตัวเองออกมา จู่ๆ ก็เอ่ยถามขึ้น “มู่วี่สิง คุณช่วยฉันแล้วใช่ไหม”
ไป๋สือรับนักศึกษาปริญญาโทเพิ่มแบบไม่เคยมีมาก่อน แม้ว่าเธอจะมีคะแนนสูงทั้งสอบรอบแรกและรอบที่สอง แต่พอเอามาเทียบกับมหาวิทยาลัยหลินไห่ที่เต็มไปด้วยคนเก่งแล้ว ก็ไม่ใช่ที่โดดเด่นที่สุด
“ไม่ว่าผมจะช่วยหรือไม่ได้ช่วยคุณ สุดท้ายคุณก็ต้องคว้าโอกาสไว้เอง” มู่วี่สิงพูดแบบไม่ความหมายชัดเจน
เวินจิ้งนิ่งงันสักพัก เข้าใจได้ทันทีเลย
ถึงมู่วี่สิงจะช่วยพูดให้แล้ว แต่เธอก็ต้องทำไห้ไป๋สือพอใจ จึงจะสามารถถูกรับเข้าได้
“ฉันจะพยายาม”
เข้าร่วมสอบรอบที่สองอีกครั้ง เวินจิ้งกลับตื่นเต้นกว่าเดิม
ไป๋สือเป็นถึงศาสตราจารย์ประสาทวิทยาที่โด่งดังทั้งในประเทศและนอกประเทศ เข้มงวดกับนักศึกษามาตลอด ส่วนบันไดที่เขารับนักศึกษาปริญญาโทก็ยิ่งกว่าข้อกำหนดของทางมหาวิทยาลัยไปตั้งหลายเท่า
แต่พอเห็นตัวจริงของเขา ไม่ได้เคร่งขรึมอย่างที่เวินจิ้งคิดในหัว กลับเป็นการพูดคุยที่สบายมาก
ในเรื่องที่สนทนากันด้วยมีแต่เรื่องที่เกี่ยวการปัญหาทางแพทย์โดยเฉพาะ พื้นฐานของเวินจิ้งดีมาตลอด ตอบได้อย่างสบายมาก
สุดท้ายไป๋สือทิ้งข้อสอบให้เธอหนึ่งข้อไว้ ให้เวินจิ้งส่งไปให้ในอีเมลของเขาอีกสามวันข้างหน้า
คำถามไม่ได้ยากมาก แต่ทดสอบความสามารถในการวิเคราะห์อันยืดหยุ่นของนักศึกษามาก
กลับมาถึงออฟฟิศ ไป๋สือโทรหามู่วี่สิง “พื้นฐานของเด็กคนนี้ดีมาก ฉันก็ชอบมากเหมือนกัน แต่ว่า ฉันไม่ได้สอนนักศึกษาด้วยตัวเองมาหลายปีแล้ว”
“ศาสตราจารย์ครับ ผมเข้าใจสถานการณ์ของท่าน ผมเคารพการตัดสินใจของท่านครับ”
“ให้ฉันคิดดูก่อนนะ สถานะของเด็กคนนั้นไม่ธรรมดา ฉันสามารถปกป้องเธอได้ แต่คนข้างบนไม่แน่” ไป๋สือลังเล
วางสายลง เกาเชียนรออยู่ตรงประตูตั้งนานแล้ว เข้ามารายงานว่า “ประธานมู่ครับ คุณลู่กับอานฉิงกลับไปประเทศBแล้ว”
มู่วี่สิงตอบกลับอย่างเฉยเมย “เฝ้าไว้ดีๆ อย่าให้เธอได้ก่อเรื่อง”
กลับมาถึงการ์เด้นมูเจียวาน เวินจิ้งนั่งอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ เขียนการบ้านที่ไป๋สือสั่งให้เธออยู่
มู่วี่สิงมองผู้หญิงที่นั่งตรงหน้าโต๊ะหนังสือ เม้มริมฝีปากบางขึ้นมา
“หืม วันนี้กลับเช้าขนาดนี้เลยหรอ” ได้ยินเสียงฝีเท้า เวินจิ้งหันหัวไปดู
“อืม งานกลับมาทำก็ได้” มู่วี่สิงก้มลงไปจูบที่แก้มของเวินจิ้ง
เวินจิ้งผลักหน้าอกของเขา แต่การโจมตีของมู่วี่สิงครอบงำมาตลอด มิอาจปฏิเสธได้
“ฉันต้องเขียนหนังสือ…” เวินจิ้งพูดอย่างไม่พอใจ
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ดูไปที่คอมพิวเตอร์ พูดอย่างเอ็นดูว่า “มีการไม่ให้ผมรบกวนด้วยหรอ”
“อืม เดี๋ยวฉันก็ทำเสร็จแล้ว”
“งั้นผมไปทำอาหาร คุณหญิงมู่สู้ๆ ต่อนะครับ”
หัวใจของเวินจิ้งรู้สึกอบอุ่นมาก มีมู่วี่สิงคอยสนับสนุน ก็คือแรงบันดาลใจที่ดีที่สุดสำหรับเธอ
ทั้งคืนนี้เวินจิ้งเขียนแล้วลบออก ลบออกแล้วขียน สงสัยต้องเก็บไว้คิดพรุ่งนี้ต่อแล้ว
กลับมาถึงห้องนอน เมื่อกี้หลินเวยส่งรายชื่อแขกที่ร่วมงานของบ้านตระกูลหลินให้เธอเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เธอจะจัดของบ้านตระกูลมู่แล้ว
คราวก่อนเกาเชียนเคยส่งให้เธอแล้ว แต่เธอยังต้องยืนยันกับมู่วี่สิงอีกครั้งอยู่
แต่คนที่อยู่ในรายชื่อนี้ก็น้อยเกินไปแล้ว มีแค่คุณปู่คนเดียวหรอ
ไหนบอกว่ายังมีน้องสาวที่จะมาอีก?
“มู่วี่สิง คนอื่นๆ ของบ้านตระกูลมู่ไม่มากันเลยหรอ” เวินจิ้งถามอย่างเสียใจเล็กน้อย
ตอนนี้ข้างๆ เธอมีคุณตา มีแม่ มีเขา แต่ข้างๆ มู่วี่สิง เหมือนมีแค่เธอคนเดียว
“อืม” มู่วี่สิงตอบกลับอย่างเฉยเมย
เวินจิ้งกอดเขาไว้ “แล้วพวกเขา จะไม่รู้เรื่องของคุณเลยใช่ไหม”
“คุณหญิงมู่ ใจของคนบ้านตระกูลมู่ซับซ้อนมาก ไม่ได้เหมือนกับโลกที่คุณรู้จักอย่างนั้นเลย”
หัวใจเธอสั่นเล็กน้อย ถึงจะซับซ้อน แต่เธอก็อยากรู้จัก
อยากรู้จักโลกในเมื่อก่อนของมู่วี่สิง ทั้งหมดในเมื่อก่อน
“คุณปู่จะมาเมื่อไหร่ เราไปรับท่านด้วยกัน”
“ต้นเดือนหน้า ท่านคิดถึงคุณที่สุดแล้ว” มู่วี่สิงบีบจมูกน้อยของเธอ
ช่วงนี้มูเฉิงมัวแต่ยุ่งเรื่องงานที่ต่างประเทศ คิดถึงเวินจิ้งมากเลย
ก็เลยพอรู้เรื่องงานแต่งของเวินจิ้ง ไม่ได้กลับมาตามเวลาที่นัดกันไว้ก่อน แต่กลับมาล่วงหน้าแล้ว
คนที่หลับมาด้วยกัน ยังมีคุณพ่อของมู่วี่สิง มู่เฟิง
ขณะนี้เวินจิ้งเพิ่งได้ส่งการบ้านให้ไป๋สือ พอได้รับสายของคุณปู่ เวินจิ้งก็รีบไปที่บ้านใหญ่ตระกูลมู่เลย
ส่วนมู่วี่สิงยังอยู่ที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปอยู่ จะกลับมาดึกๆ หน่อย
ห้องรับแขก ข้างๆ คุณปู่มีผู้ชายหล่อคนหนึ่งนั่งอยู่ หน้าตา ก็คล้ายๆ กับมู่วี่สิง
หรือจะเป็น…
เมื่อกำลังสงสัยอยู่ มู่เฟิงก็ได้แนะนำตัวเอง “วี่สิงเด็กคนนั้นนะ เรื่องแต่งงานเรื่องใหญ่ขนาดนี้ก็ไม่บอก”
ถึงแม้ความหมายในคำพูดของมู่เฟิงเป็นการห่วงใย แต่บนใบหน้ากลับไม่มีอารมณ์แบบนี้สักนิดเลย
“เวินจิ้งอ่ะ เขาคือลูกชายของฉัน มู่เฟิง”
สังเกตความสงสัยของเวินจิ้งออก มูเฉิงแนะนำให้
“สวัสดีค่ะ คุณลุง” เวินจิ้งทักทายอย่างมีมารยาท
มู่เฟิงกลับไม่ได้สนใจเธออีก “พ่อครับ ผมยังมีธุระอยู่ ยังไงหลานสะใภ้ของท่านก็มาแล้ว งั้นก็ให้เธออยู่เป็นเพื่อนท่านเลยละกัน”
พูดจบ ไม่นานมู่เฟิงก็ออกบ้านแล้ว
“เวินจิ้ง ช่วงนี้ไอ้วี่สิงนี่ได้แกล้งหนูไหม บอกปู่มาเลย” มูเฉิงถามอย่างห่วงใย
“คุณปู่คะ มู่วี่สิงไม่ได้แกล้งหนูค่ะ”
“จริง ฉันรู้สึกว่าเด็กคนนั้นเป็นผู้ชายที่ซื่อมาก กลัวว่าแกจะไม่สนใจความรู้สึกของหนู”
เวินจิ้งยิ้ม ไม่คิดว่าคุณปู่จะวัยรุ่นขนาดนี้
เท่าที่เธอเห็นแล้ว มู่วี่สิงไม่ได้ซื่อสักนิดเลย เป็นห่วงความรู้สึกของเธอมาก
“คุณปู่คะ ท่านคิดมากแล้ว”
“ความรักของเธอสองคนไม่มีปัญหาจริงๆ ใช่ไหม” มูเฉิงถาม
เวินจิ้งส่ายหัว
ระหว่างเธอกับมู่วี่สิง ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่คุยเรื่องความรักตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ให้เป็นอย่างตอนนี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว