Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 282
บทที่ 282 อย่าหึงตามอำเภอใจ
แก้มทั้งสองของเวินจิ้งแดงก่ำ “ฉันไม่ย้ายออกไปแล้วจริงๆ แค่สามเดือน ไม่นานก็ผ่านไปแล้ว”
“คุณหญิงมู่ ผมแยกจากคุณไม่ได้จริงๆ วันเดียวก็ไม่ได้” มู่วี่สิงพูดอย่างแข็งกร้าว
“งั้นทำไงล่ะ……”
“ผมถึงตระกูลหลินแล้ว”
รถของมู่วี่สิขับถึงหน้าประตูตระกูลหลินแล้ว
เวินจิ้งรีบเดินออกมาตรงระเบียงทันที เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ที่หน้าประตูมีรถเก๋งสีดำจอดอยู่หนึ่งคัน
เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินออกจากห้อง หลิงอี้ก็เปิดประตูพอดี
เจอเวินจิ้ง เขายิ้ม “นอนไม่หลับหรอ?”
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ” เวินจิ้งหน้านิ่ง
“ถ้าหากนอนไม่หลับ ผมอยู่คุยเป็นเพื่อนได้นะ” หลิงอี้ไม่ได้ฟังที่เวินจิ้งพูดเลย
เวินจิ้งมองบน ไม่สนใจเขา
ลงไปห้องรับแขก มู่วี่สิงก็เดินเข้ามาแล้ว
พอเจอมู่วี่สิง รอยยิ้มบนใบหน้าของหลิงอี้ยิ่งยิ้มกว้างขึ้น
“นี่ไม่ใช่ประธานมู่?”
มู่วี่สิงไม่สนใจเขา สายตานั้นมองลงไปที่ตัวเวินจิ้ง
เขาจับมือเธอ และโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขน
“รอผมอยู่? ฮึ?”
“ฉันนอนไม่หลับ” เวินจิ้งบอกไปตามตรง
“ดูแล้ว คุณหญิงมู่ต้องการผมมาก”
เห็นมู่วี่สิงจะเดินขึ้นไป เวินจิ้งรีบดึงเขาไว้
ตอนนี้คุณตากับคุณแม่พักผ่อนแล้วแน่นอน พรุ่งนี้มู่วี่สิงถึงจะสามารถพบพวกเขาได้
“คุณจะค้างคืนหรอ?” เวินจิ้งรู้สึกกระวนกระวายนิดหน่อย
“หรือว่าคุณจะไปกับผม” มู่วี่สิงเหล่ตามอง
“คุณ……อยู่ค้างก่อนแล้วกัน”
เพียงแต่ พอหันตัวไป…… หลิงอี้ก็มาขวางทางทั้งสองคนไว้
“ที่นี่คือตระกูลหลิน ไม่ใช่ที่ๆประธานมู่ พูดว่าจะค้างก็ค้างได้นะ”
“คุณหลิงคุณมีสถานะอะไรมาพูดกับผม?” มู่วี่สิงมองด้วยสายตาที่อันตราย
หลิงอี้ขมวดคิ้ว สถานะของเขา……แม้ว่าความสัมพันธ์เขากับหลินเจิ้นถือว่าดีอยู่ แต่ก็เป็นแค่แขกของตระกูลหลินเท่านั้น
“ดูท่าคุณหลิงจะลืมแล้ว ผมคือสามีของเวินจิ้ง เป็นลูกเขยของตระกูลหลิน คุณแน่ใจนะว่าคุณจะขวางผม?” มู่วี่สิงพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง
แม้แต่เวินจิ้งก็รับรู้ถึงความโกรธที่เยือกเย็นของเขา ราวกับถูกแช่แข็งไปทั่วทั้งร่าง
“หลิงอี้ คุณก็ยุ่งมากเกินไปแล้วนะ” เวินจิ้งก็โกรธเหมือนกัน
หลิงอี้ยกริมฝีปากขึ้น หลีกทางให้อย่างรู้ตัว “ประธานมู่ผมพักอยู่ห้องตรงข้ามเวินจิ้ง อย่าส่งเสียงดังมากล่ะ ผมอยากจะนอนสบายๆ”
พูดจบ ก็เดินนำหน้าขึ้นไป
มู่วี่สิงชักสีหน้าอย่างเย็นชา “พักห้องตรงข้าม?”
เวินจิ้งก้มหน้า ไม่กล้าพูดอะไร
นี่ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนจัดการ……
ทั้งๆที่ห้องรับแขกของตระกูลหลินก็มีไม่น้อย
“ดูแล้วคุณหญิงมู่ จะมีเรื่องปิดบังผมไว้ไม่น้อยเลยนะ”
“มีที่ไหนกันคะ ฉันกับหลิงอี้ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรแม้แต่นิดเดียว เขาจะพักอยู่ที่ไหนก็ไม่ใช่เรื่องของฉัน” เวินจิ้งตอบด้วยน้ำเสียงเหวี่ยงๆ
เธอไม่ได้สนใจหลิงอี้จริงๆ ยิ่งไม่คิดเลยว่า เขาจะสามารถทำให้เธอกับมู่วี่สิงผิดใจกันได้ แต่ดูเหมือนมู่วี่สิงไม่ได้คิดแบบนี้
“คุณหญิงมู่ แต่ว่าผมสนใจ ผมไม่ชอบให้ผู้หญิงของผมถูกคนอื่นคิดถึง เข้าใกล้ แม้กระทั่งอยากได้ของๆคนอื่น”
พอเข้าห้อง มู่วี่สิงก็ดันเธอเข้ากำแพง บีบคางของเธอ พร้อมกับน้ำเสียงที่เยือกเย็นเข้าไปถึงกระดูก
สีหน้าที่บึ้งตึงของเขาทำให้เวินจิ้งใจสั่น
เวินจิ้งเงียบไม่พูดไม่จา ความคิดของหลิงอี้ เธอรับรู้ถึงมันได้
ช่วงที่เหม่อลอย ริมฝีปากเชอร์รีก็ถูกแนบแน่นอย่างอึดอัด
จูบที่ร้อนแรงของมู่วี่สิงทำให้เวินจิ้งหนีไม่พ้น เธอทำได้เพียงถูกบังคับให้ยอม
ผู้ชายที่หล่อเหลาตรงหน้าเธอบังคับเธอจนไม่มีหนทางหนี
“อ่า……”
เวินจิ้งเจ็บจนต้องร้องเสียงที่นุ่มนวลออกมา ชิมโดนรสชาติของเลือดแล้ว
“คุณเป็นหมาหรอ!” เวินจิ้งตอบด้วยความโมโห
นึกไม่ถึงว่ามู่วี่สิงจะกัดเธอ!
“ขอโทษ ก็ผมโกรธมาก” สายตาของมู่วี่สิงเต็มไปด้วยความโกรธกระจายไปทั่ว เขาพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง
“ฉันรู้สถานะของตัวเองตลอด แต่เป็นเพราะหลิงอี้สนิทกับคุณตา ช่วงนี้ก็มีงานไม่น้อยเลย ถึงให้เขาพักอยู่ที่นี่ก่อน” เวินจิ้งอธิบาย
“อืม” มู่วี่สิงตอบกลับด้วยเสียงเย็นชา และเดินเข้าไปห้องอาบน้ำ
เวินจิ้งนึกว่าเขาจะทำอะไร แต่เขาไม่ได้ทำ
ทั้งๆที่เมื่อกี้ เธอรับรู้ถึงความรู้สึกที่เขาอยากได้อย่างรุนแรง
แต่เขาก็ยังปล่อยเธอไป
วันต่อมา ตอนที่เวินจิ้งตื่นขึ้น ผู้ชายที่อยู่ข้างกายเธอไม่อยู่แล้ว
มองดูเวลา คิดไม่ถึงว่าจะสายแล้ว
ตอนลงไปชั้นล่าง หลินเวยก็พึ่งตื่นพอดี
“แม่”
“ทำไมสีหน้าแย่ขนาดนี้ เมื่อคืนหลับไม่สบายหรอ?” หลินเวยถามอย่างเป็นห่วงเป็นใย
เวินจิ้งส่ายศีรษะ รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอเย็นชามาก “มู่วี่สิงมาแล้วค่ะ ช่วงเวลานี้เขาอยู่เป็นเพื่อนหนูที่นี่”
“อืม หายากที่ตอนนี้ตระกูลหลินจะครึกครื้นได้ขนาดนี้ คุณตาของเธอต้องดีใจแน่”
ลงไปที่ห้องรับแขก หลิงอี้กับมู่วี่สิงนั่งแยกกันบนโต๊ะอาหารสองฝั่ง อีกทั้งข้างหน้าของเขาทั้งสองคน วางด้วยอาหารเช้าคนละหนึ่งชุด
พอเห็นเวินจิ้ง หลิงอี้รีบเปิดปากพูดก่อน “คุณน้าหลิน เวินจิ้ง มานั่งสิครับ ผมทำอาหารเช้าไว้แล้ว”
สายตาเวินจิ้งมองไปที่ตัวมู่วี่สิง ไปนั่งข้างๆเขาอย่างอัตโนมัติ
หลิงอี้สายตานิ่งสงบ
“คุณหญิงมู่ ผัดไข่ที่คุณชอบที่สุด” มู่วี่สิงเอาจานที่อยู่ตรงหน้าไปวางไว้ตรงหน้าเธอ
“วี่สิง มาเมื่อคืนใช่มั้ยเอ่ย?” หลินเวยก็นั่งลง ถามอย่างสนิทสนม
“ครับ พอดีถึงก่อนฟ้าสาง เมื่อคืนเลยไม่ได้ทักทายคุณเลย” มู่วี่สิงตอบอย่างอ่อนโยน
“ไม่เป็นไรจ่ะ คิดไว้ว่าจะพักอยู่ที่นี่นานแค่ไหนล่ะ?”
เวินจิ้งก็มองไปที่มู่วี่สิง คำถามนี้ เธอเองก็ยังไม่เคยถาม
เดิมทีมู่วี่สิงอยู่ที่ เมืองหนานเฉิงก็ยุ่งมากแล้ว ตอนนี้เขามาที่นี่ เธอคิดว่าไม่น่าจะพักอยู่นาน แต่คำตอบของเขาทำให้เธอคาดไม่ถึง
“ดูการจัดเตรียมของคุณหญิงมู่ครับ”
เวินจิ้งตาค้าง “ฉันอยู่ที่นี่สามเดือน ถ้าหากคุณก็ด้วย งั้นธุระที่ เมืองหนานเฉิงจะทำยังไงล่ะ?”
“พอดีว่าสาขาย่อยของประเทศBที่นี่มีปัญหานิดหน่อย ผมเลยมาจัดการ เมืองหนานเฉิงทางนั้นมีคนอื่นคอยดูอยู่ครับ”
“ดูเหมือนประธานมู่กับเวินจิ้งจะรักกันจริงๆ” หลิงอี้ยกริมฝีปากขึ้นอย่างเย็นชา
“อ่ะหะ”
“วี่สิงเอ๋ย เธออยู่ที่นี่ต้องการอะไร บอกฉันได้ตามสบายเลยนะ ฉันกลัวว่าเธอจะยังไม่ชิน” หลินเวยพูด
“คุณหญิงหลินรบกวนคุณแล้วครับ”
หลิงอี้ออกไปตั้งแต่เช้า หลินเวยก็มีธุระ ในห้องอาหารเหลือแค่เวินจิ้งกับมู่วี่สิงสองคน
“วันนี้คุณมีธุระมั้ย?” เวินจิ้งถามเขา
“อีกสักพักจะไปประชุม ไปกับผม ฮึ?”
เวินจิ้งกำลังจะพูด แต่อยู่ๆ มีเสียงที่มีพลังดังขึ้นมาจากไม่ไกล หลินเจิ้นรูปร่างแก่เฒ่าเดินเข้ามา
“อีกเดี๋ยวหลานสาวมีเรื่องที่ต้องคุยกับฉัน วี่สิง เธอไปทำธุระเถอะ”
มู่วี่สิงสายตาไม่พอใจสักครู่
“งั้นคืนนี้ฉันจะรอคุณกลับมานะ” เวินจิ้งค่อยๆดึงมือที่เขาจับออก
ในห้องนอน เวินจิ้งมองดูคุณหมอที่มาตรวจร่างกายให้หลินเจิ้น กินยาเสร็จ เธอประคองคุณตาเอนลง
“คุณตาคะ มีเรื่องอะไรจะคุยกับหนูหรอคะ?”
“ช่วยตาดูข้อตกลงนี้หน่อยสิ” พูดจบ พ่อบ้านก็ส่งเอกสารให้หนึ่งฉบับ
เวินจิ้งรับมาอย่างสงสัย มันเกี่ยวกับยาสำหรับรักษาความผิดปกติของเส้นประสาท ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนที่สามของการทดลองทางคลินิก
มาดูตอนนี้ เกิดปัญหาบางอย่าง ทดลองแล้วมีผู้ป่วยเกิดอาการแพ้ยา ดังนั้นจำเป็นต้องทำวิจัยเพิ่มอีกขั้นหนึ่ง
“คุณตา……นี่คือ?”
“เธอก็เห็นแล้วพักนี้มีผู้ป่วยเกิดการแพ้ยา และยาชนิดนี้อีกสามเดือนก็จะวางตลาดแล้ว แต่ว่าตอนนี้การทดลองยังมีปัญหาอยู่ ฉันอยากให้เธอไปช่วยตาจัดการเรื่องนี้หน่อย”
เวินจิ้งขมวดคิ้ว เธอไม่คุ้นเคยเกี่ยวกับยาชนิดนี้เลย อยู่ๆเข้าไปยุ่งตอนนี้ เกรงว่าไม่ค่อยดีนะ……