Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 308
บทที่ 308 เธอยังชอบมู่วี่สิง
หนานเฉิง บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป
มู่เหิงผลักประตูห้องทำงานของประธานออกอย่างโมโห “ทำหมถึงตัดโครงการของเราออก”
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว เงยหน้าขึ้น ตาเฉียบคม “ในที่ประชุมพูดไว้อย่างชัดเจน งบประมาณไม่เพียงพอ”
“เพราะงบประมาณไม่พอ หรือว่าคุณไม่อยากให้ผมรับช่วงต่อโครงการนี้อยู่แล้ว”
“คุณคิดว่ามีความจำเป็นไหม?”
“ถ้าหากงบประมาณไม่เพียงพอ ฉันสามารถระดมทุนจากต่างประเทศ”
“อำนาจนี้อยู่ในมือของคุณปู่ เว้นก็แต่ได้รับการอนุญาตจากเขา” อารมณ์ของมู่วี่สิงเย็นชา
“ผมจะทำให้คุณปู่เห็นด้วย!”
มู่วี่สิงหัวเราะอย่างเยือกเย็น
หลังจากมู่เหิงออกไป เกาเชียนก็เข้ามา
ช่วงนี้บอสให้เขาติดตามความเคลื่อนไหวของเวินจิ้ง แต่หลังจากที่เธอออกไปจากตระกูลหลิน ก็ไม่มีข่าวสารใดอีก
“คุณมู่ ตอนนี้หาตำแหน่งที่อยู่ของคุณเวินไม่พบ” เกาเชียนรายงาน
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว หยิบมือถือ กดโทรไปยังเบอร์ที่คุ้นเคย
“ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้…”
มู่วี่สิงจับมือถือไว้แน่น คิ้วขมวดแน่น
ในประเทศบีคนที่เธอจะติดต่อได้ อั้ยเถียน หลิงอี้ และยังมีฉีเซินที่ไปงานศพของหลินเจิ้ง
“ไปหาที่อยู่ของหลิงอี้และฉีเซิน”
เกาเชียนรับคำสั่ง ไม่นานก็มารายงาน “คุณมู่ ฉีเซินกลับมาหนานเฉิงตั้งแต่เมื่อวานแล้ว อยู่บ้านตระกูลฉีตลอด ส่วนหลิงอี้ ตอนนี้อยู่บ้านตระกูลหลิง ตอนนี้ยังไม่พบเบาะแสของคุณหญิง”
“จับตาดูหลิงอี้ จองไฟล์บินของประเทศบีให้ฉัน…”
…
รุ่งเช้า เวินจิ้งแทบจะไม่ได้หลับทั้งคืน ตื่นมาด้วยขอบตาที่ดำ
หลิงอี้ทำอาหารเช้าด้วยตัวเอง เวินจิ้งไม่ค่อยหิว แทบจะไม่กิน
“เดี๋ยวกิจกรรมกลางแจ้งต้องใช้ความแข็งแกร่งทางร่างกาย เธอไม่ทานอาหารเช้าเดี๋ยวเป็นลมไป ต้องการให้ฉันอุ้มเธอกลับมา?” หลิงอี้พูดเสียงเงียบ
เวินจิ้งขมวดคิ้ว “ฉันไม่ออกไป”
“หากเธออยากได้ซิมการ์ดคืนเร็ว ก็ออกไปเดินเล่นกับฉัน”
เวินจิ้งเม้มริมฝีปาก หยิบช้อนในถ้วย “หวังว่าคุณหลิงจะพูดคำไหนคำนั้น”
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ หลิงอี้พาเวินจิ้งมาถึงภูเขาเทียนเฉิง ที่นี่คือเทือกเขาที่สูงที่สุดในประเทศบี
เขาหวังว่าเธอจะออกมาเดินเล่น ผ่อนคลายจิตใจ
แต่ว่า เวินจิ้งหน้าบึ้งตึงตลอด
มีถนนสองสายบนภูเขาเทียนเฉิง เส้นหนึ่งคือนั่งกระเช้า อีกเส้นคือบันไดขั้น
“เดินบันไดได้ไหม?” หลิงอี้มองเวินจิ้ง
“นั่งกระเช้าดีกว่า” เวินจิ้งพยักหน้า
เธอแค่อยากรีบไปรีบกลับ
หากเดินขึ้นภูเขา คาดว่าน่าจะใช้เวลาครึ่งค่อนวัน
อีกอย่าง เธอไม่มีกระจิตกระใจพิชิตภูเขา
หลิงอี้ไม่ได้คัดค้าน ทั้งสองคนนั่งกระเช้า
ในที่สุดเวินจิ้งก็เงียบ มองเพียงพื้นดินตรงหน้าระยะทางยิ่งอยู่ยิ่งห่างจากเธอไป ความหวาดกลัวโจมตีเข้ามา
เธอกำหมัดแน่น สีหน้าขาวซีด
หลับตาลง หัวใจเธอเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งร่างกายก็สั่นเทาอย่างอดไม่ได้
“เมื่อกลัวความสูง ทำไมไม่บอกฉัน?” น้ำเสียงโกรธเล็กน้อยของหลิงอี้ดังมา อยากกอดเวินจิ้งไว้
แต่ยังไม่ได้แตะต้องเธอ ก็ลืมตาขึ้นมา มองเขานิ่งๆ “หลังจากวันนี้กลับไป ฉันจะได้ซืมการ์ดคืนไหม?”
เธอยังคงจำเรื่องนี้!
หลิงอี้โกรธเล็กน้อย ทำไมถึงต้องเป็นกับเวินจิ้ง เขาเก็บอารมณ์โดยไม่รู้ตัว
“ได้!”
เวินจิ้งยิ้ม “งั้นก็ดี”
เธอมองพื้น จับทั้งสองข้าง พยายามผ่อนคลาย
“มานั่งข้างๆฉัน” หลิงอี้พูดอย่างเป็นห่วง
เวินจิ้งส่ายหน้า “ฉันไม่เป็นไร”
เมื่อเห็นว่าหลิงอี้จะเข้ามา เวินจิ้งยกมือขึ้นขวางเขาไว้ “คุณอย่ามาแตะต้องฉัน”
“ฉันไม่แตะเธอ ฉันแค่เป็นห่วงเธอ” หลิงอี้ขมวดคิ้ว
จนถึงยอดเขา กระเช้าค่อยๆหยุดลง
เวินจิ้งถอนหายใจอย่างหนัก มองวิวธรรมชาติที่อยู่ข้างนอก จึงค่อยๆสงบลง
หลิงอี้พูดอย่างอารมณ์เสีย “ขอโทษ ฉันไม่รู้ว่าเธอกลัวความสูง ไม่งั้นคงไม่พาเธอมาแล้ว”
“ไม่เป็นไร” น้ำเสียงของเวินจิ้งเรียบเฉย
“ยังมีอีกระยะทาง จะไปอีกไหม?” หลิงอี้ชี้ไปทางเนินเขานั้น
“อืม”
ยืนอยู่บนยอดเขา มุมมองที่นี่กว้าง พอที่จะเห็นทั่วประเทศบี จิตใจของเวินจิ้งดีขึ้นไม่น้อย
ถ้าหาก หลิงอี้ไม่อยู่จะดีที่สุด
“หิวไหม?” หลิงอี้ถามอย่างเป็นห่วง
เวินจิ้งส่ายหน้า
นั่งกระเช้า ก็ไม่ได้ใช้พลังงานเยอะ แต่ว่า ในกระเป๋าของหลิงอี้กลับมีขนมกระต่ายซองใหญ่
เวินจิ้งอึ้ง เธอชอบกินขนมนี้มากที่สุด
หลิงอี้ช่วยเธอปอกกระดาษขนมแล้วยื่นให้เธอ
เวินจิ้งไม่ได้รับ
“ซื้อให้เธอ”
“ฉันไม่ชอบ”
“เพราะฉันเป็นคนซื้อให้ ดังนั้นเธอจึงไม่ชอบ?” หลิงอี้หรี่สายตา
“อืม ใช่” เวินจิ้งไม่ได้ปฏิเสธ
เพราะคนตรงหน้าคือคนที่เธอเกลียด ดังนั้นทุกการกระทำของเขา เธอเกลียดหมด
“เธอจะแบ่งความรู้สึกมาให้ฉันสักนิดก็ไม่ได้เหรอ?” จับหน้าเวินจิ้งหันมาอย่างแรง หลิงอี้หรี่สายตา
“ไม่ได้” สุดท้ายเวินจิ้งก็เย็นชา
“เธอยังชอบมู่วี่สิง?” น้ำเสียงของเขาเย็นชาขึ้นเล็กน้อย
เวินจิ้งเงยหน้าขึ้นมา เมื่อได้ยินมู่วี่สิงชื่อนี้ สีหน้าเปลี่ยนไป
ทุกครั้งที่ได้ยินและนึกถึงคนนี้ หัวใจมักเจ็บปวดอย่างควบคุมไม่ได้
หลิงอี้มองสีหน้าของเธอ แวบเดียวก็เข้าใจแล้ว
บรรยากาศระหว่างทั้งสองถึงขีดสุด
เดินลงจากเขาตลอดทาง เวินจิ้งเดินอยู่ข้างหน้า หลิงอี้เดินอยู่ข้างหลัง
ท้องฟ้า ค่อยๆมืดลง เมฆมืดลง
ทางลงเขามีอย่างน้อยสองชั่วโมง
เวินจิ้งเร่งฝีเท้า หลิงอี้ไล่ตามเธอตลอดทาง “ช้าหน่อย เดี๋ยวเราหาที่หลบฝนก่อน”
เวินจิ้งไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อ แค่อยากรีบกลับไป
เม็ดฝนตกลงมา ทั้งสองไม่ได้พกร่ม เดี๋ยวก็เปียกกันหมด
เวินจิ้งหนาวจนตัวสั่นอย่างอดไม่ได้
ข้างหน้ามีศาลา หลิงอี้อดไม่ได้ลากเธอเข้าไปหลบฝน
“หลิงอี้ ฉันอยากรีบลงจากเขา”
“เธออยากจะล้มป่วยก่อนที่จะลงจากเขาใช่ไหม?” หลิงอี้ดุ
ตอนนี้ทั้งสองเปียกปอนทั่วตัว หากตากฝนต่อคงเป็นหวัด
เวินจิ้งเม้มริมฝีปาก เว้นระยะห่างจากเขา
มองเวลา สี่โมงเย็นแล้ว
หากยังไม่ลงไป เดี๋ยวฟ้าก็มืดลงแล้ว ก็จะยิ่งลงเขาได้ยาก
ทันใดนั้น ก็มีเสื้อมาคลุมไหล่ เป็นหลิงอี้
เวินจิ้งขมวดคิ้ว หยิบเสื้อลงมา แต่กลับถูกหลิงอี้กดมือไว้ “ฉันไม่หนาว”
“ฉันก็ไม่หนาว”
แต่เมื่อสิ้นเสียง ทันใดนั้นเธอก็จาม
“หากเธอป่วย ก็จะต้องพักที่บ้านฉันอีกนาน”
เวินจิ้ง: …
ผู้ชายคนนี้ขู่เธอเกินไปหรือเปล่า
เธอโมโหแล้วหันไป
หลิงอี้ยกริมฝีปากขี้นเล็กน้อย มองท้องฟ้าออกไปข้างนอก คาดหวังให้ฝนตกนานกว่านี้ เวลาได้อยู่กับเวินจิ้งตามลำพังแบบนี้ ก็จะนานขึ้น
ไม่นาน ท้องฟ้าก็ปลอดโปร่ง
ฝนมาเร็ว ไปเร็ว
เวินจิ้งคืนเสื้อให้หลิงอี้ เดินออกจากศาลา
หลิงอี้ยังคงเดินอยู่ข้างหลัง ทันใดนั้น เท้าลื่น เวินจิ้งเกือบลื่นล้ม
หลิงอี้รีบพยุงเธอไว้ เวินจิ้งกระแทกอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างช่วยไม่ได้
กลิ่นอายที่ไม่คุ้นเคยทำให้เธอปฏิเสธอย่างรุนแรง และรีบผลักเขาออก
หลิงอี้ขมวดคิ้ว และพยุงเธอขึ้นมาก่อน
“ระวังหน่อย ให้ฉันจูงเธอไว้ ดีไหม?” หลิงอี้น้ำเสียงขอร้องเล็กน้อย
ถนนลื่น ลื่นล้มได้ง่าย
“ฉันจะระวัง” เวินจิ้งหลุดพ้นจากอ้อมแขนของเขา ใบหน้าเรียบเฉย