Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 312
บทที่ 312 อดีตภรรยาของฉันเรื่องเยอะ
“เมื่อกี้อั้ยเถียนบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าเราจะคืนดีกัน?” มู่วี่สิงเลิกคิ้ว
“ใครจะคืนดีกับคุณ ฉันไม่เห็นด้วย”
“เธอกำลังโกรธฉัน ที่ฉันตอบรับหย่ากับเธอ” มู่วี่สิงหรี่สายตา
“ฉันไม่กล้า” เวินจิ้งโกรธ
อารมณ์ของเธอ เข้ามาในสายตาของมู่วี่สิง
จับคางไว้ทันที เวินจิ้งต้องเผชิญหน้ากับสายตาที่ลึกซึ้งของมู่วี่สิง “อดีตภรรยาของฉันเรื่องเยอะ มีอะไรไม่กล้า?”
“นั่นเพราะคุณดื้อรั้นและไม่มีเหตุผล”
มู่วี่สิงหัวเราะเบาๆ “อืม ฉันดื้อและไม่มีเหตุผล แต่ว่า เป็นแค่กับเธอเท่านั้น”
สองชั่วโมงต่อมา เครื่องบินลงจอดที่สนามบิน
เวินจิ้งลงจากเครื่องก่อน ออกมาจากสนามบิน เธอวางแผนที่จะต่อรถกลับไปเอง
มู่วี่สิงเดินมา รู้ว่าเธอต้องปฏิเสธ จับข้อมือเธอไว้แล้วพาเธอขึ้นรถ
เวินจิ้งโกรธ แต่คนบางคนกลับนิ่งมาก
“หลังจากส่งเธอกลับไปแล้ว ฉันจะไม่รบกวนเธอ” มู่วี่สิงพูดเงียบๆ
เวินจิ้งขมวดคิ้ว มองใบหน้าที่มุ่ยของมู่วี่สิง ความเสียใจค่อยๆปรากฏ
“งั้นก็ได้โปรดคุณมู่ไม่ต้องจัดคนมาตรวจสอบตำแหน่งที่อยู่ของฉันอีก” เวินจิ้งรีบจัดการกับอารมณ์ตัวเองอย่างรวดเร็ว
ตั้งแต่มู่วี่สิงปรากฏที่เขาเทียนเฉิง เธอเพิ่งรู้ว่าตัวเองไม่เคยอยู่พ้นสายตาของมู่วี่สิงเลย
ไม่ว่าเขาจะจัดคนมาติดตาม หรือจัดคนมาปกป้องเธอ
เธอล้วนไม่ชอบความรู้สึกที่ถูกจับตามอง
เมื่อได้ยินที่พูด สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชาลง และพูดอย่างประชด “ไม่อยากให้ฉันรู้ว่าเธอกำลังออกเดตกับหลิงอี้?”
เวินจิ้งรีบโต้ แต่คำพูดก็ถูกเธอกลืนลงไปอย่างรวดเร็ว
“คุณรู้ก็ดี”
บรรยากาศภายในรถเยือกเย็นลง เวินจิ้งสัมผัสได้ถึงความโกรธของมู่วี่สิงอย่างชัดเจน
ไม่มีใครพูดอะไรอีก
เมื่อส่งเวินจิ้งกลับถึงถนนอันหนิง รถของมู่วี่สิงก็ขับออกไปไกลจากสายตาของเวินจิ้งอย่างรวดเร็ว
เธอยืนที่ระเบียง สายตามองลงไปชั้นล่างนานๆที
ก็ไม่รู้กำลังยึดติดอยู่กับอะไร
แต่ก็คาดหวัง ว่ามู่วี่สิงยังไม่ไปไหน
…
ประเทศบี ตระกูลหลิน
หลังจากหลินเจิ้งจากไปแล้ว บ้านตระกูลหลินเงียบเหงาไม่น้อย
ตอนที่หลินเวยกลับมา ฉีเซินกำลังนั่งอยู่ห้องรับแขกรอเธอ
“ยังไม่กลับไปหนานเฉิง?” เธอขมวดคิ้ว
“แม่ ผมอยู่ที่นี่นานหน่อยได้ไหม พอดีที่จะได้อยู่เป็นเพื่อนแม่” น้ำเสียงของฉีเซินอ่อนโยน
แต่หลินเวยสัมผัสได้ถึงความเยือกเย็น
“ฉันยุ่งเกี่ยวกับบริษัทหลินซื่อ แกรีบกลับไป ช่วงนี้บริษัทฉีไม่ได้ว่าง”
“บริษัทฉีซื่อจะเทียบกับบริษัทหลินซื่อได้ยังไง มรดกของหลินเจิ้ง กับสิบบริษัทหลิงซื่อยังเทียบเคียงไม่ได้ แม่ ทำไมมรดกก็แบ่งมาให้ผมบ้างสักนิด?” สีหน้าของฉีเซินค่อยๆเยือกเย็น
“แกอยากถามอะไร?” หลินเวยหยุดฝีเท้า
“คุณไม่ใช่แม่ผม” น้ำเสียงของฉีเซินมั่นใจมาก
สีหน้าของหลินเวยไม่ตื่นตระหนกเลยสักนิด เธอรู้ ว่าฉีเซินรู้ความจริง แต่เป็นเรื่องที่ไม่ช้าก็เร็วที่ต้องรู้อยู่ดี
ตอนนี้เธอแค่อยากมอบความรักความเป็นแม้ให้เวินจิ้ง สำหรับฉีเซิน เธอไม่สามารถสนิทกับเขาได้
“แกรู้หมดแล้ว”
ฉีเซินหัวเราะ “แน่นอน การกระทำของคุณชัดเจนดี คุณปู่ไม่ยอมเจอหน้าผม ผมจะไม่รู้เหรอ?”
“ลูก ขอโทษ” หลินเวยลดสายตาลง
สำหรับฉีเซิน เธอมีความผิด
ดังนั้นเธอได้ปูเส้นทางอนาคตให้เขาเรียบร้อยแล้ว ดูแลบริษัทฉีซื่อ ไม่มายุ่งเกี่ยวกับบริษัทหลินซื่อ
“แม่ ปีนั้นคุณเพื่อที่จะมีอำนาจจึงเก็บผมมาเลี้ยง ผมถึงมีตำแหน่งเช่นทุกวันนี้ คุณไม่ต้องขอโทษผม”
หลินเวยมองฉีเซิน ในสายตาของเธอ เธอเห็นความเกลียดชังอย่างชัดเจน
ความทะเยอทะยานของเขาเธอรู้ดี ไม่เพียงแค่บริษัทฉีซื่อ ยังไม่พอ
แต่ตระกูลหลิน ไม่ใช่บ้านของเขา
“แต่ผมอยากรู้ ทำไมคุณถึงให้ผมหยุดจีบเวินจิ้ง?” ฉีเซินถามเสียงเย็น
ทั้งทั้ง ที่ผมไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด
“แกยังอยู่ในนามลูกชายของฉัน สถานะนี้ ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง”
“ดังนั้น ผมก็ต้องถูกคุณควบคุม?” ฉีเซินตาแดงก่ำ ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธ
บนทางเดินชีวิตของเขา เขาปฏิบัติตามข้อตกลงของหลินเวยมาตลอด
เขาไม่เคยมีอำนาจตัดสินใจด้วยตัวเองเลย
ดังนั้นเมื่อรู้ตัวตนของตัวเองแล้ว เขามีความสุขมาก
ที่คิดว่าตัวเองสามารถกำจัดมันออกไปได้
หลินเวยใบหน้าซีดขาว เธอฟังออกความหมายที่ฉีเซินพูด
สุดท้ายลูกชายที่เติบโตข้างๆเธอ แม้ว่าจะไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่ก็รัก
“ฉันคิดว่สิ่งที่ฉันทำมาทั้งหมด ก็เพื่อให้แกได้ดี”
“ผมไม่ต้องการ” ฉีเซินโต้
“ตำแหน่งทั้งหมดที่แกมี ล้วนเป็นแม่อย่างฉันที่ให้แก ฉีเซิน เว้นก็แต่แกจะไม่ใช่ประธานของบริษัทฉีซื่อ!”
ฉีเซินเงียบ อำนาจและตำแหน่งเป็นสิ่งที่เขาฟักใฝ่มาโดยตลอด
เขารู้มาโดยตลอด เพียงแค่เขามีความต้องการมาก ถึงจะสามารถได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
ถ้าหากทุกอย่างไม่มีแล้ว…
เขาทำไม่ได้จริงๆ
“แม่ คุณลงมือหนักแบบนี้มาโดยตลอด” น้ำเสียงของฉีเซินเบาบาง
หลินเวยไม่ปฏิเสธ
…
พริบตาเดียวก็ถึงวันเปิดเรียน
วันแรก เวินจิ้งไปรายงานตัวที่วิทยาลัย
วันแรกก็ต้องจ่ายค่าเทอมแล้ว
แต่เวินจิ้งถูกรายงานมาว่าได้ชำระค่าเทอมแล้ว
หยุดไปชั่วขณะ เธอถามอย่างสงสัย “แต่ฉันยังไม่เคยจ่ายค่าเทอม”
อาจารย์ผู้ดูแลตรวจสอบ “เป็นแม่ของเธอที่มาชำระให้เมื่อวาน”
เวินจิ้งขมวดคิ้ว ตอนนี้ยังติดต่อเจี่ยนอีไม่ได้ น่าจะไม่ใช่เธอ
งั้นก็เป็น…หลินเวย
เธอรีบโทรไปหาเธอ
หลินเวยรู้ว่าเวินจิ้งจะถามถึงเรื่องค่าเทอม จึงเอ่ยปากก่อน “ฉันเป็นแม่ของเธอ ค่าเทอมขอฝเธอฉันต้องรับผิดชอบ”
เวินจิ้งเงียบ เธอไม่สามารถยอมรับความสัมพันธ์แม่บูกของเธอกับหลินเวยได้
“ฉันจะคืนเงินให้คุณ”
“เสี่ยวจิ้ง เธอยังโกรธฉันอยู่เหรอ?”
“ไม่ใช่ แต่ฉันหวังว่าคุณไม่ควรมาแทรกแซงชีวิตของฉัน”
“ฉันอนุญาตให้เธอมาศึกษาที่มหาวิทยาลัยหลินไห่ ไม่ว่าจะสืบทอดบริษัทหลินซื่อหรือไม่ ฉันก็เคารพการตัดสินใจของเธอ”
นี่เป็นการประนีประนอมที่ใหญ่ที่สุดของหลินเวย
ช่วงบ่าย เวินจิ้งเข้าไปที่ห้องอาจารย์ อาจารย์สอนระดับบัณฑิตของเธอไป๋สือปีนี้ได้คัดเลือกบัณฑิตวิทยาลัยหนึ่งคน เรื่องนี้แพร่กระจายไปทั่วมหาวิทยาลัยหลินไห่อย่างรวดเร็ว
วันแรกที่เปิดเทอม ข่าวของเวินจิ้งก็ถูกหยิบออกมา คะแนนสอบข้อเขียนได้ที่สาม สอบภาคหลักได้ที่หนึ่ง เห็นได้ชัดว่าทำให้ทุกคนต่างพากันอิจฉา และรูปร่างหน้าตาของเวินจิ้งที่สวยงามและละเอียดอ่อนมาก ภาพถ่ายบนอินเทอร์เน็ตอยู่ในชุดสีขาว บริสุทธิ์สะกดใจคน ไม่นานก็มีแฟนคลับไม่น้อย
ปกติเธอจะเข้าเวยป๋อน้อยมาก ทันใดนั้นก็มีแฟนคลับมากมายขนาดนี้ ค่อนข้างอึดอัด
แต่ว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่เธอกังวล
ตามการจัดการของมหาวิทยาลัย บัณฑิตต้องพักในมหาลัย เวินจิ้งไม่คิดว่าหลิงเหยาจำเป็นเพื่อนร่วมห้องกับเธอ
ทั้งสองเคยเจอหน้ากันหนึ่งครั้ง หลิงเหยาเห็นว่าเป็นเวินจิ้ง ก็แปลกใจเหมือนกัน
“เธอคือ…เวินจิ้ง?” หลิงเหยามองดูเธอ
เธอไม่รู้จริงๆว่าผู้หญิงคนนี้นมีเสน่ห์แค่ไหนที่ทำฝห้พี่ชายของเธอหลงใหล
ในแง่ของรูปลักษณ์ รอบตัวของหลิงอี้สวยและเซ็กซี่กว่าเวินจิ้ง
“สวัสดี”
“ฉันเป็นนักศึกษาศัลยกรรมหน้าอก เธอล่ะ?” หลิงเหยาถาม
“ฉันเรียนด้านประสาทวิทยา”
“ประสาทวิทยา? เธอเป็นนักศึกษาคนเดียวที่ไป๋สือรับเข้ามา?” หลิงเหยาอุทาน