Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 323
ตอนที่ 323 เธอเท่านั้นที่จะเป็นคุณนายมู่
หลังจากรับประทานอาหารเย็นเป็นเพื่อนหลินเวย เวินจิ้งก็กลับไปยังห้องของตัวเอง ต้องอาศัยอยู่ที่นี่ ยังรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
เพราะต้องเจอกับคนคนหนึ่งที่เธอไม่อยากจะเจอ
เธอเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู เวินจิ้งจึงไปดูผ่านช่องตาแมวที่ประตูจึงเห็นว่าเป็นฉีเซิน
“มีอะไรหรือเปล่า” เวินจิ้งถามไปอย่างเย็นชา
“แม่บ้านทำของหวานไว้”
“ฉันไม่หิว”
อย่างนั้นก็ออกมานั่งคุยกันสักหน่อย” ฉีเซินขมวดคิ้ว
“ฉันจะนอนแล้ว คุณฉี” พูดจบก็ล็อคประตู
ฉีเซินที่อยู่ด้านนอกมองดูเวลา ตอนนี้ยังไม่ทันจะสี่ทุ่ม….
แต่เพราะเพิ่งจะค่ำเวินจิ้งจึงยังนอนไม่หลับ เธออ่านหนังสือ ในสมองก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงคำพูดของฉินเฟย
บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยดี เพียงช่วงเวลาไม่นานก็ขายสิทธิ์ในการขายตัวยาที่ทำกำไรดีที่สุดไป แบบนี้จะไม่ยิ่งทำให้ย่ำแย่ไปกว่าเดิมเหรอ
เธอกำลังเปิดดูข่าวบนอินเทอร์เน็ต และก็ได้เห็นข่าวเกี่ยวกับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ได้รับผลกระทบจากการที่อานเวยถูกจับกุม ชื่อเสียงของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป กำลังอยู่ในสภาวะล้มลุกคลุกคลาน วันนี้มีนักข่าวสัมภาษณ์มู่เฟิง ในคำสัมภาษณ์ไม่มีการปกป้องอานเวย แต่กลับยืนยันการกระทำผิดของอานเวย ทำให้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย
เวินจิ้งนั้นมีความรู้สึกที่ไม่ดีกับมู่เฟิง นอกจากนั้นมู่วี่สิงเองก็ไม่นับถือเขาเป็นพ่อ
เรื่องของตระกูลมู่นั้นซับซ้อนมาก จนเธอไม่สามารถจะเข้าใจได้…….
……….
ตระกูลมู่ ในตอนนี้
ในขณะที่มู่วี่สิงกำลังกลับมา มู่ซือซือกำลังกินข้าวเป็นเพื่อนแม่
“แม่ ตอนอยู่ในเรือนจำอาหารการกินคงจะไม่ดีเท่าไร” มู่ซือซือพูดไป นัยน์ตาของเธอเริ่มแดงก่ำ
อานเวยไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายอะไร “วี่สิงจัดการทุกอย่างไว้แล้ว แม่อยู่ในนั้นคงไม่ลำบากเท่าไร”
“แม่……” มู่ซือซือก้มหน้าร้องไห้
เมื่อคิดถึงอีกหนึ่งสัปดาห์หลังจากนี้ จะมีการเปิดพิจารณาคดีของฉือซินใหม่ มีโอกาสมากที่แม่ของเธอจะถูกตัดสินจำคุก
เธอไม่สามารถที่จะสงบนิ่งได้
“ร้องไห้ทำไม แม่ไม่ได้เสียใจเลย ฉันเพียงแต่นึกไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะถูกมู่เฟิงตรวจสอบเจอ” อานเวยลดใบหน้าของเธอลง
จริงๆเงื่อนงำของเรื่องนี้ถูกตัดสินไปแล้ว แต่มู่เฟิงก็ยังหาหลักฐานใหม่มาได้ แต่อำนาจของเขาที่หนานเฉิงยังมีไม่มากพอ
“คุณไม่ควรจะมาล้างแค้นเพื่อฉัน แม่ เรื่องนั้นฉันคงปล่อยไปไม่ได้ แต่ฉันก็ไม่อยากให้มันต้องจบแบบตอนนี้”
ผู้ถูกต้องโทษ ไม่ควรจะเป็นแม่ของเธอ!
“ตอนนี้ฉือซินก็ตายไปแล้ว ฉืออี้เหิงก็ยังอยู่ในคุก คนที่ทำร้ายเธอก็เหลือเพียงฉีเซินที่ยังมีอิสระอยู่ข้างนอก แม่ช่วยเธอได้ และก็ทำไปเยอะแล้ว ฉันจะไม่ยอมให้ลูกสาวของฉันต้องได้รับความไม่ยุติธรรมฟรีๆหรอก” อานเวยบ่น
ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องกับมู่ซือซือ ก็ไม่มีวันไหนเลยที่เธอจะไม่คิดแก้แค้น เธอมีเพียงลูกสาววัยสิบแปดปี ทำไมต้องมาแบกรับคำสบประมาทแบบนี้
ตั้งแต่นั้นมาเป็นเวลายาวนานหลายปี มู่ซือซือต้องถูกรักษาอาการทางจิตมาโดยตลอด และเธอก็เก็บตัวเรื่อยมา
แต่อย่างไรก็ตามเธอจะไม่ยอมปล่อยโอกาสที่จะจัดการกับฉีเซินและทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนั้นหลุดลอยไป!
“แต่แม่ หลังจากแม่ต้องไปอยู่ในคุก ฉันจะวางใจได้อย่างไร ฉันจะให้พี่ลองคิดหาวิธีดู” มู่ซือซือส่ายหน้า เธอจะต้องการให้แม่ไม่ถูกตัดสินจำคุก
“อย่างไรครั้งนี้มู่เฟิงก็คงจะเอาฉันเข้าคุกให้ได้ แล้วเขาก็จะได้แต่งงานกับเย่ชิ่น ซือซือ แม่ถูกตัดสินจำคุกแน่นอน แม่เตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่แค่นึกไม่ถึง ว่าเพื่อผู้หญิงคนนั้นแล้วมู่เฟิงจะยอมทำแบบนี้” ความเจ็บปวดแสดงออกมาผ่านดวงตา
จริงอยู่ว่าเคยเป็นคนรักกันมาก่อน แต่ตอนนี้มาถึงจุดที่เป็นปฏิปักษ์กันแล้ว
“เขาก็เป็นแค่ผู้ชายเลวๆคนหนึ่ง ตอนนี้เขาไม่มีสถานะอะไรในตระกูลมู่ คุณปู่เองก็ไม่อยากจะเจอเขา และก็คงไม่ให้เขาแต่งกับเย่ซิน ถ้าเขากล้าที่จะแต่งจริงๆ ฉันก็จะไปอาละวาดเอง!”
“เธออย่าก่อเรื่องอีกเลย อยู่กับพี่ชายเธอ มีพี่แกคอยดูแลฉันก็วางใจ เรื่องอื่นๆของตระกูลมู่ แกอย่าไปยุ่งเลย” อานเวยพูดอย่างหนักแน่น
ความขัดแย้งต่างๆของพี่น้องตระกูลมู่ เธอหวังแค่ให้มู่ซือซืออยู่ห่างเข้าไว้
“ฉันเชื่อฟังพี่ชายที่สุด ว่าแต่ทำไมเขายังไม่กลับอีก” มู่ซือซือเพิ่งนึกขึ้นได้ ว่าจริงๆพี่ชายจะไปรับแม่ แต่กลับเป็นแม่ที่กลับมาถึงก่อนด้วยตัวเอง
“ดูเหมือนว่าวี่สิงจะไปกับผู้หญิงคนหนึ่ง คนที่เป็นภรรยาเก่าเขานะ”
แม้ว่าอานเวยจะอยู่ต่างประเทศเป็นเวลาหลายปี แต่ก็รู้เรื่องของตระกูลมู่มาโดยตลอด
เธอรู้ทั้งเรื่องงานแต่งงานและเรื่องการหย่าร้างของมู่วี่สิง
“เวินจิ้งเหรอ” เมื่อพูดถึงผู้หญิงคนนี้ สายตาของมู่ซือซือก็แสดงความเกลียดชังออกมา
“พี่ชายก็เอาแต่หลงมัน ผู้หญิงคนนั้นเป็นพี่สาวของฉีเซิน!”
“เหรอ” เวินจิ้งขมวดคิ้ว
“อื้ม แม่ของเขาคือหลินเวย หลินเวยแต่งเข้าบ้านตระกูลฉีหลายปีแล้ว”
“ฉันคิดว่าวี่สิงคงแยกแยะได้นะ ตอนนี้ก็หย่ากันแล้วไม่ใช่เหรอ”
“แต่ฟังจากที่แม่พูด ฉันคิดว่าพี่คงจะยังไม่ลืมผู้หญิงคนนั้น” มู่ซือซือไม่พอใจ
“เธอก็เลิกโกรธได้แล้ว ฉันไม่ยากคิดอะไรมากอีก ฉีเซินต้องได้รับการตอบแทนที่สาสมกับเรื่องที่เขาทำ”
เธอรู้ว่าตอนนี้มู่วี่สิงเริ่มลงมือจัดการแล้ว
………
มู่วี่สิงเพิ่งจะกลับมาถึงตอนรุ่งเช้า มู่เหิงนั่งอยู่ที่ห้องรับแขก ดูแล้วเหมือนจะมารอเขา
“มู่วี่สิง แกรู้ไหมว่ากำลังทำอะไร” เสียงที่กำลังดุของมู่เหิงดังขึ้นมา
“ถ้าเป็นเรื่องงาน ผมไม่อยากจะเอามาพูดในบ้าน” มู่วี่สิงไม่อยากให้ความสนใจเขา
มู่เหิงหยุดเขาไว้ “แกกำลังทำให้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปไม่เหลืออะไร! บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แกเอายาที่ขายดีที่สุด ขายออกไปในราคาถูก นี่แกบ้าหรือเปล่า!”
“ผมบ้างั้นเหรอ” มู่วี่สิงหรี่ตาลงอย่างเฉยเมย “ถ้าคิดว่าผมบ้า คุณจะขวางได้ไหม ผมต่างหากที่มีอำนาจในการตัดสินใจในบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป”
ได้ยินแบบนั้น มู่เหิงถึงกับสำลัก แน่นอนว่าตอนนี้มู่วี่สิงเป็นประธานของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป
“อย่างนั้นฉันจะคอยดู ว่าครั้งนี้มันจะจบอย่างไร!”
มู่ซือซืออยู่ข้างหลังบันไดตลอด ได้มองไปยังพี่ชาย เมื่อเห็นว่าเขากำลังขึ้นมาแล้ว จึงรีบไปอยู่ข้างๆ “พี่ กำลังคิดอะไรอยู่ฉันไม่เข้าใจเลย”
ทุกคนล้วนดูออกว่าการขายยาที่ดีที่สุดออกไปนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป
มู่วี่สิงหยุดและตบไหล่ของมู่ซือซือเบาๆ “ซือซือ มองไปไกลๆหน่อย เข้าใจไหม”
มู่ซือซือคิดแล้วก็ไม่เข้าใจ ก็เลยไม่คิดต่อ
“สัปดาห์หน้า ศาลจะเปิดพิจารณาแล้ว ทนายความเตรียมพร้อมหรือยัง” เธอถาม
มู่วี่สิงพยักหน้า คิ้วค่อยๆขมวดขึ้นเรื่อยๆ
……….
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ในวันเปิดพิจารณาคดีฉือซิน เวินจิ้งเป็นหนึ่งในพยาน ที่จะต้องขึ้นศาล
รถยี่ห้อไมบัคสีดำมาจอดอยู่ชั้นล่างของหอพัก เวินจิ้งขมวดคิ้ว ไม่ได้ขึ้นไปบนรถ
เธอเดินไปเรื่อยๆ มู่วี่สิงค่อยๆขับรถขนาบข้างเธอไปช้าๆ เป็นที่สนใจของสายตาจำนวนมาก
ไม่คิดจะมองไปรอบๆ เวินจิ้งหายใจลึกๆ ตอนนี้เธอโกรธนิดหน่อยแล้วเปิดประตูขึ้นรถไป
“มู่วี่สิง คุณมาทำไม”
“มารับคุณ” มู่วี่สิงตอบสั้นๆกระชับ
เวินจิ้งเพิ่งจะนึกขึ้นได้ คดีของฉือซินเกี่ยวข้องกับตระกูลมู่ เขาต้องไปแน่นอน
“คุณไม่จำเป็นต้องอ้อมมาหรอก” เธอพูด
“สบายๆ”
เวินจิ้งขมวดคิ้ว บ้านใหญ่ของตระกูลมู่กับมหาวิทยาลัยหลินไห่ อยู่คนละทิศคนละทางกันเลย
เมื่อขึ้นไปบนรถ มู่วี่สิงชี้ไปที่ลิ้นชัก
“กินอาหารเช้าก่อน” เขาพูด
เวินจิ้งเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าด้านหน้าของเธอมีแซนด์วิชและนมอยู่หนึ่งชุด
เธอยังไม่ได้กินอาหารเช้าเลย เดิมทีคิดว่าจะไปซื้อที่โรงอาหาร
“ขอบคุณนะ” เธอก้มหน้าตอบไปเบาๆ ในใจตอนนี้เต็มไปด้วยความอบอุ่น